จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 855 ท่วงท่าของกระบี่เล่มนั้น
“คงต้องดูอารมณ์ของเขาแล้วล่ะ!” คนที่อยู่ด้านข้างตอบกลับด้วยเสียงสั่นเทาเช่นกัน
หลินหยุนเดินผ่านพวกเขา แต่ไม่มองพวกเขาเลยสักนิด
ความสนใจของหลินหยุน อยู่ที่งูหลามยักษ์เท่านั้น
นี่เป็นปีศาจตัวหนึ่งที่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกับหลินหยุน อีกทั้ง อาจจะเปิดจิตทิพย์แล้วด้วย จึงจะมองข้ามพลังของมันไม่ได้
แต่ว่า ก่อนที่จะจัดการกับงูหลามยักษ์ตัวนี้ หลินหยุนตัดสินใจที่จะให้ทุกคนแยกย้ายกันไปก่อน
เพราะ เขารู้สึกว่าที่นี่มีอะไรที่แปลกประหลาดอยู่
นักบู๊ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลินหยุน
“เขาจะจัดการงูหลามยักษ์แล้วเหรอ?”
“เมื่อครู่นี้ คนถึงสองกลุ่มก็ไม่สามารถฆ่างูหลามยักษ์ได้ เขาจะจัดการไหวหรือเปล่า?”
ขณะที่ทุกคนคิดว่าหลินหยุนจะลงมือจัดการกับงูหลามยักษ์นั้น จู่ ๆ หลินหยุนก็ได้หันมา แล้วกวาดสายตามองทุกคนอย่างเรียบเฉย
“ทุกคนยังไม่ไปจากที่นี่อีกเหรอ อยากตายอยู่ที่นี่หรือไง?”
นักบู๊ทุกคนต่างใจสั่นขึ้นมาทันที เมื่อครู่นี้ชิ่งกั๋วถัยและตี๋ซานถิง สองคนนั่นคิดจะให้พวกเขาไปเป็นตัวตายตัวแทน
ถ้าหากไม่ใช่เพราะตี๋ซานถิงชอบหานหลิงเอ๋อเข้า พวกเขาคงถูกงูหลามยักษ์จับกินเป็นอาหารหมดแล้ว
ตอนนี้วิกฤติได้คลี่คลายลง เลยทำให้คนเหล่านี้ลืมอันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ แล้วเริ่มรอดูฉากสนุก
แต่เมื่อถูกหลินหยุนเอ่ยเตือน นักบู๊บางคนจึงเริ่มแยกย้ายไปทันที
ยังไงซะ ก็หมดหวังกับยาวิเศษตรงหน้าแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไป อาจจะตายเปล่าก็ได้
แต่นักบู๊บางคนรู้สึกไม่ยอม ยังคงไม่ยอมกลับไป
เหมือนชิ่งกั๋วถัย เว่ยซิวหมิงและคนอื่น ๆ ต่างยืนอยู่ไกล ๆ รอดูสถานการณ์โดยไม่มีทีท่าว่าจะกลับไป
หานหลิงเอ๋อ จางเทียนเยว่และคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้จากไปไหน เพราะเว่ยซิวหมิงก็ยังอยู่ที่นี่
หลินหยุนก็ไม่ได้ขับไล่ ปล่อยให้พวกเขายืนดูอยู่อย่างนั้นได้ตามใจ จากนั้นได้เดินเข้าไปหางูหลามยักษ์นั่นทีละก้าว ทีละก้าว
ดวงตาทั้งสองข้างของงูหลามยักษ์จ้องเขม็งไปที่หลินหยุน ราวกับรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้อันตรายมาก จึงได้ส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ ใส่หลินหยุน
หลินหยุนมองไปที่เขา ด้วยสีหน้านิ่งเฉย : “ดูจากวรยุทธ์ของแก อย่างน้อยคงสามร้อยปีแล้ว แต่น่าเสียดายที่หญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงมังกรคบเพลิงไม่สามารถทำให้แกกลายเป็นสายเลือดมังกรได้”
“ฉะนั้น แกเก็บมันไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร!”
จิตทิพย์ของงูหลาม ยังไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่หลินหยุนพูดได้ แต่มันสามารถรับรู้ได้ว่า หลินหยุนต้องการแย่งสมบัติล้ำค่าของมัน
งูหลามยักษ์อ้าปากส่งเสียงข่มขู่หลินหยุน
“ดื้อดึงยิ่งนัก!”
หลินหยุนสีหน้านิ่งเฉย แล้วยื่นมือออกมา จากนั้นดาบเฮ่าเทียนที่มีสีแดงเปล่งประกาย ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือของเขา
“นั่นคือ……” ชิ่งกั๋วถัยและเว่ยซิวหมิงรวมถึงคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึงกันอีกครั้ง
“สุดยอดอาวุธวิเศษเหรอ?”
ระดับของดาบเฮ่าเทียน เหนือชั้นกว่าสุดยอดอาวุธมาก หลินหยุนสงสัยว่า อาจะเป็นอาวุธวิเศษระดับเครื่องรางชั้นยอดเลยทีเดียว
แต่คนในโลกบู๊เหล่านี้ ไม่เคยได้ยินเรื่องเครื่องรางชั้นยอดมาก่อน จากที่พวกเขารู้จัก อาวุธที่ทรงพลังที่สุด ก็คือสุดยอดอาวุธวิเศษในตำนาน
จากตำนานของโลกบู๊ สุดยอดอาวุธวิเศษเป็นอาวุธที่เซียนใช้กัน
จางเทียนเยว่ เฉินซีเยว่และคนอื่น ๆ ต่างประหลาดใจและอิจฉา
“เป็นสุดยอดอาวุธวิเศษ บนตัวเขา ยังมีสมบัติล้ำค่าอีกเท่าไหร่เนี่ย!”
ถ้าไม่ใช่เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเก่งกาจจนไม่อาจต่อกรได้ จางเทียนเยว่มีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาเพื่อแย่งสมบัติมาครอง
ดาบเฮ่าเทียนอยู่ในมือแล้ว หลินหยุนได้เริ่มโจมตีงูหลามยักษ์
“ไป!”
พลังทิพย์ถูกส่งไปยังดาบเฮ่าเทียน ทันใดนั้นดาบเฮ่าเทียนก็ได้เปล่งแสงเรืองรอง พุ่งออกไปพร้อมแสงสีแดง เข้าไปเฉือนที่หัวใจของงูหลามยักษ์
งูหลามยักษ์รู้ถึงความทรงพลัง จึงใช้หางฟาดเข้ามา
ตึง!
ดาบเฮ่าเทียนถูกฟาดจนกระเด็นออกมา แต่งูหลามยักษ์ก็ร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด เห็นชัดว่าได้รับบาดเจ็บเพราะดาบเฮ่าเทียน
“ทรงพลังมาก!”
ด้านหลัง บรรดานักบู๊ที่ยังเหลืออยู่ ต่างมีสีหน้าตกตะลึง
หลินหยุนใช้เพียงดาบเดียว กลับมีพลานุภาพถึงเพียงนี้ เมื่อครู่นี้ทั้งชิ่งกั๋วถัยและตี๋ซานถิงต่างใช้คนทั้งหมดที่มีโจมตีงูหลามยักษ์ แต่กลับไม่ได้ผลเลย
แต่ว่า ดาบเฮ่าเทียนไม่ใช่อาวุธธรรมดา แต่เป็นกระบี่เมนหลักของเซียนกระบี่ วันนี้หลินหยุนได้ใช้วิชากระบี่อิทธิฤทธิ์ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับตอนใช้กระบี่เมนหลักของเซียนกระบี่
จุดแข็งที่สุดของกระบี่เมนหลักก็คือ สามารถบังคับบัญชาได้จริง ๆ
หลินหยุนเพียงแค่คิด ดาบเฮ่าเทียนก็หมุนกลางอากาศหันกลับไปทันที แล้วเปล่งแสงสีแดงออกมา จากนั้นพุ่งกลับไปที่งูหลามยักษ์อีกครั้ง
“ดาบเล่มนี้สามารถโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง!”
“ทรงพลังเกินไปแล้วมั้ง!”
ชิ่งกั๋วถัยและคนอื่น ๆ ตกตะลึงกันอีกครั้ง
ล้มวิธีการต่อสู้ที่ผ่านมาหลายปีของทุกคนไปเลย
งูหลามส่งเสียงคำรามด้วยความโมโหใส่หลินหยุน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช้หางฟาดอีกแล้ว แต่กลับอ้าปากกว้างพุ่งเข้าหาดาบเฮ่าเทียน แล้วกลืนดาบเฮ่าเทียนลงไปในท้องทันที
“อ๊ะ……ไอ้เดรัจฉานนี่กินอาวุธวิเศษของหลินเข้าไปแล้ว!”
หานหลิงเอ๋อตกใจจนหน้าถอดสี มองไปที่หลินหยุนด้วยความเป็นห่วง
ชิ่งกั๋วถัยและคนอื่น ๆ มีสีหน้าตกตะลึงอีกครั้ง รู้สึกทึ่งในวิธีต่อสู้กับงูหลามยักษ์
ส่วนจางเทียนเยว่กลับแอบดีใจ : “เหอะ หลินหยุน อาวุธวิเศษของแกถูกกินไปแล้ว ดูสิว่าแกจะมีปัญญาทำอะไรได้อีก!”
หลินหยุนสีหน้านิ่งเฉย ดูเหมือนไม่เสียดายอาวุธวิเศษของตัวเองเลยสักนิด
งูหลามยักษ์ตัวนั้นส่งเสียงคำรามข่มขู่หลินหยุนสองครั้ง ยั่วยุหลินหยุนอย่างเต็มที่
หลินหยุนยังคงสีหน้านิ่งเฉย ยืนมองงูหลามยักษ์ตัวนั้นอยู่ที่เดิม
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น จู่ ๆ งูหลามยักษ์ตัวนั้นก็ได้คลุ้มคลั่งขึ้นมา ร่างใหญ่ยักษ์ของมันร่วงลงมาจากยอดเขาหัวโล้น กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น
เหตุการณ์นี้ ทำให้ทุกคนตกใจจนต้องรีบถอยหนีไปหลายเมตร
ทันใดนั้น งูหลามยักษ์ก็ได้อ้าปากกว้าง แล้วคายดาบเฮ่าเทียนที่มีแสงสีแดงเรืองรองของหลินหยุนออกมา
หลินหยุนเอ่ยอย่างราบเรียบ : “สัตว์เดรัจฉานอย่างแก คิดว่าตัวเองหนังด้านเนื้อหนา อยากกลืนดาบของฉันเข้าไป คิดเพ้อเจ้อจริง ๆ!”
“อย่าว่าแต่กระบี่เมนหลักของเซียนกระบี่เลย ต่อให้เป็นอาวุธธรรมดา แกก็ไม่สามารถย่อยมันได้หรอก!”
งูหลามยักษ์ตัวนั้นคายดาบเฮ่าเทียนออกมา แล้วสงบนิ่งลง ร่างของมันเลื้อยขึ้นไปอยู่บนยอดเขาหัวโล้นอีกครั้ง
แต่ว่า งูหลามยักษ์ตัวนั้นกลับงับหญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงมังกรคบเพลิงเข้าไป เหมือนต้องการทำลายยาวิเศษนี่ทิ้ง
“หาเรื่องตาย!”
หลินหยุนจะยอมให้มันทำสำเร็จได้ยังไง?
เขาจึงลงมืออย่างฉับพลัน ส่งดาบไปฟันงูหลามยักษ์ทันที
ดูเหมือนงูหลามยักษ์จะเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว จึงได้ใช้ฟางฟาดดาบเฮ่าเทียน จากนั้นเปลี่ยนทิศทางการเลื้อยกะทันหัน เพื่อจะมาคาบหลินหยุนไป
“ไอ้เดรัจฉานตัวนี้มันกำลังทำให้ตัวเองเป็นต่ออยู่!”
ทุกคนต่างมองออก ว่าที่งูหลามยักษ์กินยาวิเศษเข้าไปเป็นเรื่องหลอกลวง ที่จริงมันคิดจะล่อให้หลินหยุนโจมตีต่างหาก
“สมกับที่เป็นปีศาจที่เปิดจิตทิพย์แล้ว!”
“ฉันก็ว่า แกกลืนยาวิเศษเข้าไปตอนนี้ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย ที่แท้ก็คิดจะล่อให้ฉันติดกับ”
หลินหยุนรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองถูกหลอก แต่กลับยังมีสีหน้านิ่งเฉย
รอให้งูหลามยักษ์กระโจนเข้ามา แล้วค่อยกระโดดขึ้นไป เพื่อหลบการจู่โจมของงูหลามยักษ์
“อันตรายจัง!”
ใจที่เป็นกังวลของหานหลิงเอ๋อ จึงได้คลายกังวลลง
ตอนที่งูหลามยักษ์หันกลับไป มองไปที่หลินหยุน จู่ ๆ ได้พบว่า ร่างของหลินหยุนหายไปแล้ว
“เทพเซียนมาเพื่อหยุดสวรรค์……”
น้ำเสียงที่เย็นชาและนิ่งเฉย ได้ดังก้องขึ้นระหว่างแผ่นฟ้าและผืนดินอย่างกะทันหัน
ร่างคนที่เหมือนยักษร่างหนึ่งได้ปรากฏกายขึ้นระหว่างกลางของแผ่นฟ้าและผืนดิน ผมยาวปลิวสยาย ในมือถือดาบยักษ์ที่ส่องแสงสีแดงเล่มหนึ่ง
เก้ากระบี่ต้าเต๋า ทะลุสวรรค์!
คนยักษ์ได้ฟันดาบไปที่งูหลามยักษ์โดยไม่ให้สุ้มให้เสียง
แสงออโรราส่องสว่างมาจากฟากฟ้า เหมือนข้ามชั้นบรรยากาศแต่ละชั้นลงมา เพื่อแยกแผ่นฟ้ากับผืนดินออกจากกัน
โห่ว!
งูหลามยักษ์รู้สึกได้ถึงอันตราย ร้องคำรามอย่างเกรี้ยวกราดไปทางท้องฟ้า แล้วรีบเลื้อยไปยังยอดเขาที่อยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็วทันที
มันรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของดาบเล่มนี้ของหลินหยุน จึงต้องการจะหนี แต่น่าเสียดาย ที่แสงของดาบเล่มนั้นส่องแสงครอบคลุมไปทั่วท้องฟ้า จึงไม่มีทางให้มันได้หลบหนีได้เลย
แสงที่น่าตกใจของดาบเล่มนั้น ฟันไปยังตำแหน่งหัวใจของงูหลามยักษ์ทันที เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่ามันให้ตาย
และลำแสงของดาบเล่มนั้นรวดเร็วจนแทบไม่สามารถจับร่องรอยได้ มันจึงหลบหนีได้ไม่ทัน
ฉึบ!
ช่วงเวลาวิกฤตินี้ งูหลามยักษ์ตัวนั้นได้ใช้หางฟาดไปยังลำแสงจากดาบนั่น
พรึ่บ!
หางที่แข็งแรงไร้ที่เปรียบของงูหลามยักษ์ ถูกฟันขาดออกเป็นท่อน ๆ
แต่ก็ทำให้งูหลามยักษ์ได้พอมีเวลา
มีเวลาให้มันหลบหนีดาบเล่มนี้ได้