จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 865 เกิดวิกฤตกับตระกูลอี
ป๋ายจ่านถังหน้าแดงด้วยความอับอายทันที เพราะมันเป็นอย่างที่อีหยุ่นพูด ถึงแม้ผู้นำตระกูลอีจะยกตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนานให้ตระกูลป๋าย แต่ตระกูลป๋ายก็ใช่ว่าจะนั่งตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคง
ป๋ายรุ่ยเหวินพูดอย่างเคร่งขรึม:”คุณพ่อ ถึงแม้พวกเราจะไม่ได้เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน แต่พวกเราก็ไม่ควรให้ตระกูลอียังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนานอีกต่อไป!”
“ปรมาจารย์หลินทำลายพลังบู๊และทำให้ฉันกลายเป็นคนธรรมดา ในเมื่อตระกูลอีไปเข้ากับหลินหยุน และยอมเป็นลูกน้องของปรมาจารย์หลิน ถ้าอยากจะแก้แค้นปรมาจารย์หลิน ก็ต้องกำจัดลูกน้องของเขาทั้งหมด”
เมื่อพูดจบ ป๋ายรุ่ยเหวินก็มองสาวสวยน่ารักอย่างอีหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆอีหยุ่นด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง และในสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนาที่จะได้เธอมาครอบครอง
แต่น่าเสียดาย เพราะเขารู้ดีอยู่แก่ใจ คนที่อีหลิงชอบคือหลินหยุน นอกจากเขาจะใช้วิธีสกปรก มิฉะนั้นชั่วชีวิตนี้เขาก็คงไม่ได้ครอบครองอีหลิงอย่างแน่นอน
สีหน้าของป๋ายจ่านถังดูสงบนิ่งมากๆ และมองไปที่ลูกชายตัวเองหลายครั้ง แต่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในที่สุด ป๋ายจ่านถังก็ถอนหายใจและมองไปที่อีหยุ่นแล้วพูด:”พี่อี ถ้าคุณยอมยกอีหลิงให้แต่งงานกับรุ่ยเหวิน พวกเราตระกูลป๋ายก็จะฟังคำสั่งของตระกูลอีทุกอย่าง!”
“คุณคิดว่าไง?”
“อ้า!”อีหลิงตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลป๋ายจะต้องการตัวเธอ
ป๋ายรุ่ยเหวินก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะกลับมา เขามองดูพ่อตัวเองด้วยความตกใจ แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ
อีหยุ่นพูดอย่างเย็นชา:”พี่ป๋าย เรื่องแต่งงานของอีหลิง ให้เธอเป็นคนเลือกเอง ฉันไม่อยากบังคับเธอ ถ้าคุณอยากให้เธอแต่งงานกับลูกชายคุณ ถ้างั้นคุณก็ลองถามเธอเอาเองว่าเธอยินยอมไหม!”
ป๋ายจ่านถังรู้ว่าคำพูดของอีหยุ่นเป็นแค่ข้ออ้าง แต่เขาก็มองไปที่อีหลิงและถาม:”คุณหนูอีหลิง เธอกับรุ่ยเหวินเหมาะสมกันมากๆ ทั้งฐานะและรูปร่างหน้าตา ถ้าเธอยอมรับปากเรื่องนี้ อนาคตพวกเราสองตระกูลก็จะเป็นญาติกัน ถ้าตระกูลป๋ายกับตระกูลอีร่วมมือกัน ทั่วเจียงหนานไม่มีใครกล้าต่อกรกับพวกเราอย่างแน่นอน!”
อีหลิงส่ายหัวและพูดปฏิเสธอย่างเด็ดขาด:”ไม่ได้ ฉันไม่ได้ชอบเขาเลย!”
สีหน้าของป๋ายจ่านถังเย็นชาขึ้นมาทันที มองหน้าอีหลิงและพูดข่มขู่:”คุณหนูอีหลิง เธอต้องคิดให้ดีๆ ถ้าเธอไม่รับปากเรื่องนี้ วันนี้ตระกูลอีจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน!”
ขณะพูด ป๋ายจ่านถังก็มองไปยังคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังตัวเอง
จู่ๆอีหยุ่นก็ด่าออกมาทันที:”ป๋ายจ่านถัง คุณมันยิ่งแก่ก็ยิ่งหน้าด้าน กล้าข่มขู่ลูกสาวของฉันเหรอ!”
ป๋ายจ่านถังหน้าแดงขึ้นมาทันที:”ฉันแค่ต้องการอธิบายความจริงให้เธอรู้ ฉันไม่ได้ข่มขู่เธอเลย?”
อีหยุ่นพูดด้วยความเย็นชา”เมื่อสักครู่คำตอบของอีหลิง คุณก็ได้ยินแล้ว เธอไม่อยากแต่งงานกับลูกชายของคุณ ถ้าคุณอยากจะทำอะไร ก็พูดมาตามตรงได้เลย!”
“คนอย่างฉันอีหยุ่น จะรับมือทุกอย่างเอง!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำตอบอันแข็งกร้าวของอีหยุ่น ป๋ายจ่านถังและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังรับรู้ได้ถึงความบ้าบิ่นของเขา ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะถอยหลังหนึ่งก้าว
ป๋ายจ่านถังและคนอื่นๆตกใจมากๆ:”ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นผู้นำตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน ด้วยรังสีที่เปล่งออกมาจากตัวเขา ก็ทำให้ทุกคนตกใจหวาดกลัว!”
ถ้ามีเขาเพียงคนเดียว เขาก็คงไม่กล้าต่อกรกับตระกูลอีอย่างแน่นอน
แต่ด้านหลังของพวกเขามีคนคอยสนับสนุน และคนๆนี้คือคนที่ตระกูลอีไม่กล้าล่วงเกินหรือผิดใจอย่างแน่นอน
ถ้ามีคนๆนั้นคอยสนับสนุนพวกเขาอยู่เบื้องหลัง ป๋ายจ่านถังและคนอื่นๆก็มีความกล้ามากขึ้น
“หึ อีหยุ่น คุณไม่ต้องมาวางอำนาจบาตรใหญ่แบบนี้ ตั้งแต่ตอนที่ตระกูลอีเลือกที่จะเข้าข้างปรมาจารย์หลิน วันนี้ก็คือจุดจบของพวกคุณ”
“ฉันเตือนให้คุณยอมถอยออกจากเจียงหนานแต่โดยดี อาจจะทำให้ตระกูลอียังคงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอยู่”
“มิฉะนั้น ตระกูลอีของพวกคุณอาจจะกลายเป็นนักโทษก็ได้”
อีหยุ่นหัวเราะอย่างดูถูก:”คนอย่างพวกคุณเหรอ ที่จะมาสั่นคลอนฐานะและความมั่งคั่งของตระกูลอีเหรอ?”
ป๋ายจ่านถังหัวเราะเสียงดังออกมาและพูด:”ถ้ามีเพียงแค่พวกเรา พวกเราก็คงไม่กล้าต่อกรกับตระกูลอีอย่างแน่นอน แต่ตระกูลอีของพวกคุณได้ล่วงเกินผิดใจกับผู้มีอำนาจ ดังนั้นตระกูลอีก็จะมีจุดจบที่ไม่ดีอย่างแน่นอน”
อีหยุ่นหัวเราะอย่างเย็นชา:”ฉันคิดไว้แล้ว คนอย่างพวกคุณไม่กล้ามาต่อกรกับตระกูลอีของพวกเราอยู่แล้ว เพราะมีคนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังนี่เอง ถึงทำให้พวกคุณกล้าขนาดนี้!”
“ลองพูดมาสิ คนที่อยู่เบื้องหลังพวกคุณเป็นใครกันแน่?”
“ถ้าฉันทายไม่ผิด คนที่อยู่เบื้องหลังพวกคุณคงเป็นตระกูลหวางที่เป็นผู้นำสี่ตระกูลผู้มั่งคั่งใช่ไหม!”
การต่อสู้ทางธุรกิจระหว่างหวางเซิ่งเฉียนกับบริษัทตงหวางกรุ๊ป ด้วยฐานะของตระกูลอี พวกเขารู้เรื่องนี้อย่างชัดเจน
และตระกูลอีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปรมาจารย์หลิน ตระกูลหวางก็คงรู้เรื่องนี้ดี ดังนั้นการที่ป๋ายจ่านถังและคนอื่นๆมาหาเรื่องตระกูลอี อีหยุ่นไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร
สีหน้าของป๋ายจ่านถังเปลี่ยนไปทันที:”คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ!”
“ใช่ คนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเราคือตระกูลหวาง!”
“ตระกูลอีของพวกคุณ อยากจะต่อสู้กับตระกูลหวางเหรอ!”
อีหยุ่นถอนหายใจ:”ตระกูลหวางมีอำนาจมากๆ ตระกูลอีเล็กๆอย่างพวกเราไม่สามารถต่อกรกับตระกูลหวางที่เป็นผู้นำสี่ตระกูลผู้มั่งคั่งได้อย่างแน่นอน?”
“แต่ถ้าอยากจะเอาชนะตระกูลอีของพวกเรา ด้วยความสามารถของพวกคุณมันยังไม่พอ!”
ป๋ายจ่านถังหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด:”ก่อนที่พวกเราจะมา คุณชายใหญ่รู้ว่าพวกคุณไม่ยอมแพ้อย่างง่ายๆ ดังนั้น เขาก็เลยเตรียมการไว้ก่อนแล้ว!”
“อีหยุ่น ตอนนี้คุณลองโทรศัพท์ถามบริษัทของคุณดู อ้อ บางทีคุณไม่ต้องโทรศัพท์ก็ได้ พวกเขาคงจะโทรศัพท์หาคุณในไม่ช้า!ฮ่าๆๆ……”
ป๋ายจ่านถังหัวเราะอย่างเย็นชาทันที
เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ หลังจากป๋ายจ่านถังพูดจบแล้ว โทรศัพท์ของอีหยุ่นก็ดังขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่แสดงบนหน้าจอ สีหน้าของอีหยุ่นก็เปลี่ยนไปทันที
หลังจากรับสายแล้ว สีหน้าของอีหยุ่นก็ขาวซีดทันที ดูเหมือนเขาแก่ไปหลายปี
อีหลิงกังวลมากๆและพยุงเขาไว้ และถามด้วยความห่วงใย:”คุณพ่อ คุณเป็นอะไรไหม?”
อีหยุ่นยื่นมือออกมาและพูดอย่างเคร่งขรึม:”ฉันไม่เป็นไร!”
ป๋ายจ่านถังพูดด้วยความเย็นชาและภาคภูมิใจ:”พี่อี คุณได้ข่าวแล้วใช่ไหม? บริษัทในเครือของตระกูลอี เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลหวาง มันช่างอ่อนแอมากๆ!”
“บริษัทตงหวางกรุ๊ปสามารถยืนหยัดได้หนึ่งเดือนครึ่ง มันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย!”
“ถ้าตอนนี้คุณยอมถอยจากไป และขายธุรกิจทั้งหมดของตระกูลอีให้พวกเรา คุณยังสามารถเก็บเงินทองบางส่วนเอาไว้ได้ ทำให้คุณและคนของตระกูลอีสุขสบายไปตลอดชีวิต!”
“มิฉะนั้น คุณก็คงทำได้แค่พาคนของตระกูลอีไปขอทานได้เท่านั้น!”
อีหลิงพูดด้วยความโกรธ:”ลุงป๋าย ตอนที่ตระกูลป๋ายตกอับ พวกเราไม่ได้ทำร้ายพวกคุณเลย และพวกเรายังช่วยเหลือตระกูลของคุณไว้มาก นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนพวกเราเหรอ?”
ป๋ายจ่านถังหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด:”ช่วยเหลือเหรอ? คุณหนูอีหลิง นั้นเป็นเพราะตระกูลอีเห็นความสำคัญของชื่อเสียงและฐานะของตระกูลป๋ายในเจียงหนานเท่านั้น และพวกคุณก็แค่อยากให้ตระกูลป๋ายเป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลอีเท่านั้น”
“เธอคิดว่าอีหยุ่นเป็นคนที่ใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ ยอมมาช่วยพวกเราฟรีๆเหรอ?”
อีหยุ่นพูดด้วยความโกรธ:”ฉันช่วยพวกคุณ แต่พวกคุณคิดว่าฉันมีเจตนาที่ไม่ดี อยากให้พวกคุณมาเป็นสุนัขรับใช้ ถ้างั้นตอนนี้ตระกูลหวางช่วยเหลือพวกคุณอยู่เบื้องหลัง พวกเขาคิดว่าพวกเขามองตระกูลป๋ายเป็นอะไรเหรอ?”
“แม้แต่สุนัขรับใช้ก็เทียบไม่ได้มั้ง!”
“ฮ่าๆๆๆ……”
คนของตระกูลอีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ป๋ายจ่านถังหน้าแดงด้วยความอาย มันเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ในสายตาของตระกูลหวาง พวกเขายังสู้สุนัขรับใช้ไม่ได้เลย
แต่ตระกูลหวางสามารถทำให้ตระกูลป๋ายของเขาแทนที่ฐานะของตระกูลอี ถึงแม้เขาจะเป็นแค่สุนัขรับใช้ ป๋ายจ่านถังก็ยินยอม!
“อีหยุ่น คุณไม่ต้องมาพูดดูถูกเหยียดหยามฉัน มันไม่มีประโยชน์หรอก คุณลองคิดดูให้ดีๆละกัน ถ้าธุรกิจทั้งหมดของตระกูลอีไม่ยอมขายให้ฉัน คนอื่นๆก็คงไม่กล้าซื้อธุรกิจของตระกูลอีอย่างแน่นอน!”
“ตอนนี้คุณลองคิดดูให้ดีๆละกัน ถ้าผ่านวันนี้ไปแล้ว ถึงแม้คุณจะมาขอร้องฉัน ฉันก็อาจจะไม่ซื้อก็ได้!”
อีหยุ่นพูดด้วยความโกรธ:”คุณฝันไปเถอะ ถึงแม้ธุรกิจของฉันจะไม่มีค่าแม้แต่บาทเดียว ฉันก็จะไม่ยอมให้ธุรกิจของตระกูลอีตกไปอยู่ในมือของคนอย่างคุณอย่างแน่นอน!”
“พาคนของคุณทั้งหมด ไสหัวออกไปได้แล้ว!”
“ป๋ายจ่านถัง คุณจงจำเอาไว้ ในเมื่อคนพวกนี้กล้าทรยศตระกูลอีเพราะผลประโยชน์ ถ้าในอนาคตมีผลประโยชน์ที่มากกว่า พวกเขาก็จะทรยศตระกูลป๋ายเหมือนกัน!”
สีหน้าของป๋ายจ่านถังนั้นดูปกติ แต่สายตาของเขามองไปยังคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลัง
ถึงแม้เขารู้ว่าคำพูดของอีหยุ่นทำให้พวกเขาเกิดความระแวงกัน แต่เขาก็ต้องเชื่อคำพูดนี้เหมือนกัน
อย่าพูดถึงคนที่อยู่ด้านหลังเขาเลย แม้แต่ตัวเขาเอง ขอแค่มีคนให้ผลประโยชน์ที่มากพอ เขาก็พร้อมที่จะหักหลังตระกูลหวางทันที