จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 867 หลินหยุนออกจากการบำเพ็ญ
ฉินโส่วเองก็ฟังอย่างเข้าใจแล้ว: “ที่นายพูดหมายความว่า ตระกูลหวางต้องการที่จะจัดการกับ
บริษัท ตงหวาง กรุ๊ป ดังนั้นจึงลงมือจัดการกับเพื่อนของหลินหยุน! ”
เหยียนเสวเหวินยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า: “ถูกต้อง พวกนายตระกูลฉินก็เป็นเพียงแค่มดตัวหนึ่ง
ที่ถูกบีบจนตาย ในขณะที่ตระกูลหวางลงมือจัดการกับบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปและหลินหยุนก็
เท่านั้น! ”
“ดังนั้น ตอนนี้พวกนายก็ไม่ต้องดิ้นรนหาทางออกแล้ว ยอมจำนนที่จะมอบกิจการของตระกูลฉิน
มาให้เสียดี ๆ ซึ่งคำนึงถึงการเป็นเพื่อนนักเรียนของพวกเรา พ่อของฉันจะให้เงินก้อนหนึ่งสำหรับ
พวกนาย โดยรับรองว่าจะมีกินมีใช้ไปตลอดการดำรงชีวิตในช่วงเวลาที่เหลืออยู่! ”
เหยียนเสวเหวินสีหน้าท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่อง
ฉินโส่วโมโหอย่างหนัก: “ฝันไปเถอะ! ”
“เหยียนเสวเหวิน พวกนายทำแบบนี้ ไม่กลัวว่าหลินหยุนจะมาคิดบัญชีแค้นกับพวกนายเหรอ? ”
“หรือว่าพวกนายตระกูลเหยียนได้หลงลืมคำเตือนที่หลินหยุนได้พูดไว้กับพวกนายในครั้งก่อนนั้น แล้ว! ”
เหยียนเสวเหวิยยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยามและพูดขึ้นว่า: “กลัว กลัวแน่นอน! ปรมาจารย์หลิน
เก่งกาจมากขนาดนั้น พวกเราตระกูลเหยียนเกรงกลัวเขาอย่างแน่นอน! ”
“แต่ว่า ตระกูลหวางไม่กลัวเขา คุณชายหวางได้พูดเอาไว้แล้วว่า เพียงแค่หลินหยุนกล้าที่จะใช้
กำลัง รับรองว่าเขาจะตายอย่างน่าอเนจอนาถแน่นอน! ”
“ดังนั้น พวกนายก็ไม่ต้องหวังว่าหลินหยุนจะมาช่วยเหลือพวกนายแล้ว! ใช่แล้ว ที่จริงไม่เพียงแต่
พวกนายตระกูลฉินเท่านั้น ยังมีตระกูลอีแห่งเจียงหนานด้วย เพียงแค่เป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์
ใกล้ชิดสนิทสนมกับหลินหยุน ต่างก็เป็นเป้าหมายที่ตระกูลหวางต้องการทำลายทั้งหมด! ”
ฉินโส่วสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก: “ตระกูลหวางนี้มันบ้าไปแล้ว! ”
“เหยียนเสวเหวิน นายเองก็อย่าได้กระหยิ่มยิ้มย่องไป ตระกูลหวางก็เพียงแค่หลอกใช้นาย! ถ้าหากหลินหยุนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้ว เขาจะไม่ปล่อยนายไปอย่างเด็ดขาด! ”
“ฉันขอเตือนนายว่าอย่าได้หลงผิดไป เพื่อเป็นตัวตายตัวแทนให้กับตระกูลหวาง รีบวางมือลง
ตั้งแต่เนิ่น ๆ พวกเราก็จะทำเป็นว่าไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น! ”
เหยียนเสวเหวินหัวเราะฮ่าฮ่าอย่างเหยียดหยาม: “ฉินโส่ว สมองของนายผิดปกติไปแล้วงั้นเหรอ? ไม่ง่ายเลยที่กว่าพวกเราจะมีโอกาสทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างกลับมา แล้วทำไมถึงจะไม่คว้าโอกาส
ครั้งนี้เอาไว้ล่ะ! ”
“มีตระกูลหวางเป็นคนคอยสนับสนุน ต่อให้หลินหยุนมาแล้วจะสามารถทำอะไรได้ หรือว่าเขากล้า
ที่จะลงมือกับตระกูลหวางอย่างนั้นเหรอ! ”
พูดจบ เหยียนเสวเหวินก็ยื่นมือออกมาโอบไปที่เอวอันบอบบางของจางเหมิง ยั่วยุจนจางเหมิง
ถึงกับกลอกตาขาวใส่
เถียนชุ่ยชุ่ยก็ทำเป็นแกล้งพูดขึ้นว่า: “ฉินโส่ว คำนึงถึงว่าทุกคนเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ฉันเองก็จะ
พูดเตือนนายสักคำว่า ครั้งนี้หลินหยุนได้ล่วงเกินตระกูลหวาง คงจะต้องได้รับความยากลำบาก
อย่างแน่นอน พวกนายควรที่จะรับฟังข้อเสนอเตรียมการของเสวเหวินเถอะ แบบนี้ยังจะสามารถ
มีชีวิตรอดอยู่ต่อไปได้อีก”
“ถ้าหากพวกนายยังจะดื้อดึงอยู่เหมือนเคย สุดท้ายยั่วยุให้ตระกูลหวางเกิดความโมโห พวกนาย
ทั้งตระกูลฉิน ต่างก็คงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างยากลำบากเป็นแน่! ”
ฉินโส่วจ้องมองไปที่เธอ และส่งเสียงฮึขึ้นอย่างเย็นชา: “เถียนชุ่ยชุ่ย ผู้หญิงอย่างคุณนี้ ยังคู่ควรที่จะ
พูดคุยกับฉันด้วยเหรอ! ”
“ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะคุณตาบอด ทอดทิ้งหลินหยุนไป คุณในตอนนี้ ก็คงจะมีชีวิตอย่าง
สุขสบายไปตั้งนานแล้ว! ”
คำพูดนี้ ได้ทิ่มแทงบาดแผลที่เจ็บปวดทรมานที่สุดในใจของเถียนชุ่ยชุ่ยเข้าอย่างจัง
ตอนนี้หลี่หงถูได้เลิกรากับเธอไปแล้ว พูดได้ว่าตอนนี้เถียนชุ่ยชุ่ยกำลังแสวงหาโอกาสครั้งใหม่
กี่วันกี่คืนที่ผ่านไป เพียงแค่เถียนชุ่ยชุ่ยนึกถึงว่าหลินหยุนก็คือปรมาจารย์หลิน ก็รู้สึกเสียใจผิดหวัง
อย่างที่สุด อยากที่จะให้วันและเวลาสามารถย้อนกลับคืนมาได้
ถ้าหากสวรรค์สามารถทำให้เธอย้อนเวลากลับคืนได้อีกครั้ง ในตอนนั้นเธอคงจะไม่มีทางทอดทิ้งหลินหยุนไปอย่างเด็ดขาด
เถียนชุ่ยชุ่ยโมโหขึ้นในทันที: “ฉินโส่ว ฉันก็แค่คำนึงถึงสถานะความเป็นเพื่อนนักเรียนของพวกเรา จึงได้กล่าวตักเตือนนาย คิดไม่ถึงว่านายจะแย้งกัดฉันอีก ช่างไม่สำนึกในความหวังดีของฉันเลย
จริง ๆ”
“ช่างเถอะ พวกนายตระกูลฉินอยากจะตายก็ตาย อยากจะรอดก็รอด ซึ่งมันไม่มีความเกี่ยวข้อง
อะไรกับฉันเลยแม้แต่น้อย! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวิน มองไปที่พ่อของฉินโส่ว และพูดว่า: “พี่ฉิน เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันเอง
ก็จะไม่พูดพร่ำเพรื่ออะไรกับคุณอีก ตอนนี้ทั่วทั้งจีน เกรงว่านอกจากฉันแล้ว คงจะไม่มีผู้ใดกล้าที่จะ
รับกิจการภายใต้ตระกูลฉินต่ออีก ดังนั้น คุณจึงมีเพียงแค่ทางออกเดียวเท่านั้น! ”
“มอบกิจการทั้งหมดของตระกูลฉินให้กับฉัน ฉันจะให้ราคาตอบแทนอย่างน่าพึงพอใจ รับรองว่าจะ
สามารถใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ได้อย่างสุขสบายไร้กังวล”
“มิเช่นนั้น ถ้าหากยั่วยุให้ตระกูลหวางเกิดความโมโหแล้ว คุณคงสามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องพบ
กับความยากลำบากขนาดไหน! ”
พ่อของฉินโส่วสีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตระกูลหวางที่ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลกว้างขวางขนาดนั้น ตระกูลฉินของเขาไม่สามารถที่จะล่วงเกินได้อย่างเด็ดขาด
แต่ว่า หลินหยุนเคยได้ช่วยเหลือตระกูลฉินหลายต่อหลายครั้ง วันนี้หลินหยุนประสบกับปัญหา แล้วถ้าหากตระกูลฉินยังจะขายทอดกิจการให้กับตระกูลเหยียนอีก คงจะเท่ากับเป็นการหักหลัง
หลินหยุน
เรื่องแบบนี้ พ่อของฉินโส่วไม่อยากที่จะกระทำ
ไม่ทันรอให้คุณพ่อตอบ ฉินโส่วก็อดไม่ได้จึงตะโกนเสียงดังขึ้น: “พวกนายตระกูลเหยียนตัดใจ
จากเรื่องนี้เสียเถอะ ต่อให้ตระกูลหวางคิดที่จะทำร้ายหลินหยุน ฉันคิดว่าหลินหยุนอาจจะไม่
พ่ายแพ้ก็เป็นได้! ”
“ฉันเชื่อมั่นในตัวของหลินหยุน เขาสามารถที่จะช่วยเหลือให้พวกเรารอดพ้นจากวิกฤตนี้ไปได้
อย่างแน่นอน! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินส่ายศีรษะและถอนหายใจ: “ยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับผิดอยู่อีก! ”
“แบบนี้แล้วกันพี่ฉิน ฉันจะให้เวลาพวกคุณคิดพิจารณาหนึ่งวัน หลังจากหนึ่งวันไปแล้วฉันจะ
กลับมาหาอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้น พวกคุณค่อยให้คำตอบที่ชัดเจนกับฉัน”
พูดจบ พ่อของเหยียนเสวเหวิน ก็พาทุกคนออกจากที่นี่ไป
หลังจากที่ทุกคนของตระกูลเหยียนเดินจากไปแล้ว ฉินโส่วก็รีบมองไปยังพ่อของเขาทันที และถาม
ขึ้นว่า: “คุณพ่อ จะทำอย่างไรกันดี? ”
พ่อของฉินโส่วพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ตอนนี้นายรีบโทรศัพท์ไปหาปรมาจารย์หลิน สอบถาม
สถานการณ์ทางนั้นของเขา ถ้าหากเป็นไปได้ ก็ขอความช่วยเหลือจากเขา! ”
ฉินโส่วพยักหน้า: “ก็คงต้องทำแบบนี้เท่านั้นแล้ว! ”
ฉินโส่วรีบล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรไปหาหลินหยุนทันที
“ปิดเครื่อง! ”
พ่อของฉินโส่วสีหน้าหนักอึ้ง ถอนหายใจและพูดว่า: “หรือว่าสวรรค์จะลงโทษตระกูลฉินของฉัน
แล้วใช่ไหม? ”
ฉินโส่วถามขึ้นว่า: “หรือว่านอกจากหลินหยุนแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นใดที่จะสามารถแก้ไขวิกฤตครั้งนี้
ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
พ่อของฉินโส่วพูดว่า: “ครั้งนี้ตระกูลหวางเป็นผู้ลงมือเอง แม้แต่ตระกูลอีแห่งเจียงหนานก็ยังเป็น
เป้าหมายที่ตระกูลหวางต้องการทำลาย ส่วนพวกเราตระกูลฉินจะสามารถต้านทานตระกูลหวาง
ได้อย่างไรกันล่ะ! ”
“นอกจากหลินหยุนแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยเหลือพวกเราได้! ”
ฉินโส่วกัดฟัน: “คุณพ่อ ท่านอย่าได้ร้อนใจไป ฉันจะโทรหาหลินหยุนอีกครั้ง จนกว่าจะโทรติด! ”
พ่อของฉินโส่วพูดอย่างหนักแน่นว่า: “อย่าได้รบกวนปรมาจารย์หลินเกินไป”
“อืม! ” ฉินโส่วตอบรับ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นดั่งเช่นตระกูลฉินและตระกูลอี ยังมีอีกหลายคนที่กำลังประสบอยู่ด้วยเช่นกัน
เจี่ยงสงผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งหลินโจว ควีนจินแห่งหลิงหนาน อ้าวฉางคงผู้มีอิทธิพลอำนาจ
แห่งกว่างเป่ย เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างหนัน เป็นต้น ต่างก็ได้รับการโจมตีจาก
ตระกูลหวางทั้งหมด
ในจำนวนนี้ อ้าวฉางคงผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างเป่ยได้ทรยศหักหลัง
ในขณะที่ตระกูลหวางบุกเข้าโจมตีบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปอย่างเต็มกำลัง ก็ยังคงมีกำลังเสริมคอย
ที่จะโจมตีคนที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับหลินหยุนด้วย
แสดงให้เห็นว่า ตระกูลหวางในฐานะที่เป็นถึงผู้นำของวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้น มีความสามารถ
ที่ยิ่งใหญ่มากมายขนาดไหน!
แต่ว่า การที่ตระกูลหวางได้กระจายกำลังนั้น แน่นอนว่าบางฝ่ายก็มีกำลังที่ไม่แข็งแกร่งมากพอ
เจี่ยงสงกับควีนจิน ได้ปฏิเสธต่อตระกูลหวางอย่างซึ่ง ๆ หน้า ซึ่งตระกูลหวางเองก็ไม่สามารถ
ที่จะทำอะไรพวกเขาได้
มีเพียงแค่อ้าวฉางคงเท่านั้นที่ถูกปลุกระดมให้ทรยศ ส่วนเสิ่นเหยียนก็ได้ปฏิเสธตระกูลหวาง ซึ่งตระกูลหวางก็จัดการอะไรเขาไม่ได้เช่นกัน
เพราะว่า ผู้มีอิทธิพลอำนาจในพื้นที่ลักษณะนี้ ต่อให้เป็นตระกูลหวาง ก็ไม่สามารถที่จะจัดการได้
ในระยะเวลาอันสั้น
ตระกูลหวางจึงได้อาศัยข้อมูลข่าวสาร และได้ใช้ศัตรูของหลินหยุนก่อนหน้านี้เป็นคนไปจัดการ
อย่างเช่นเว่ยเทียนหมิง จางจื่อเห้าและอีกหลายคน ก็ถูกหวางเซิ่งเฉียนชักชวนออกมา เพื่อจัดการ
กับคนที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับหลินหยุน
มีความช่วยเหลือจากตระกูลหวาง พวกคนเหล่านั้นที่เคยยอมศิโรราบต่อหลินหยุน ก็เริ่มที่จะเกิด
ความกระเหี้ยนกระหือรือ เหมือนกับว่าพอมองเห็นความหวังขึ้นมาบ้าง
ทั่วทั้งประเทศจีน จึงอลหม่านวุ่นวายกันไปหมด
การโอบล้อมกำจัดหลินหยุนครั้งใหญ่ ได้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นแล้ว
ตอนนี้ พวกผู้มีอิทธิพลที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับหลินหยุน ส่วนใหญ่ต่างก็ถูกตระกูลหวางเข้าดูแล
อย่างเป็นพิเศษ
นอกจากผู้มีอิทธิพลอำนาจอย่างตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันที่ตระกูลหวางไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ รวมถึงสำนักบู๊แท้แห่งซีเป่ย ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสำนักชางเยว่ซึ่งตระกูลหวางไม่ทราบถึง
อิทธิพลความสามารถ
โดยพวกผู้มีอิทธิพลอำนาจที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลินหยุนที่เหลือนั้น ต่างก็ถูกตระกูลหวาง
ให้การดูแลอย่างเป็นพิเศษแล้ว
ตอนนี้ ผู้ที่เคยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลินหยุน แต่ละคนต่างก็กำลังตกอยู่ในอันตราย
เพราะว่าตระกูลหวาง ช่างมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ยิ่งนัก!
เวลาเพียงครู่เดียว ตระกูลอีขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ตระกูลฉินขอความช่วยเหลืออย่าง
เร่งด่วน บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปก็ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน……
ผู้มีอิทธิพลอำนาจทางฝ่ายของหลินหยุน ได้ถูกตระกูลหวางบีบบังคับจนสิ้นสุดหนทาง โดยขาด เพียงแค่การลงมือสังหารแล้ว
ทะเลสาบเยว่หยา ตึกว่างเยว่
ซูจื่อเหลียงอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์ เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ
ตั้งแต่ที่บรรลุขั้นสูงสุด กลายเป็นปรมาจารย์บู๊เป็นต้นมา ซูจื่อเหลียงยังไม่เคยที่จะกระวนกระวาย
ร้อนใจอย่างเช่นวันนี้มาก่อนเลย
“ท่านอาจารย์ ท่านจะออกจากการเก็บตัวบำเพ็ญฝึกฝนเมื่อไหร่กัน? ถ้าหากช้าเกินไป บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปก็คงจะไม่รอดแล้ว!