จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 870 บุคคลผู้ยิ่งใหญ่รวมตัวกันโดยพร้อมเพรียง
ครั้งนี้ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการของชางฉองกรุ๊ป มีจำนวนไม่น้อยทีเดียว อีกทั้งต่างก็เป็นบุคคล ผู้ยิ่งใหญ่
ที่จอดรถด้านหน้าประตูของอาคาร มีรถยนต์หรูหราจอดอยู่เต็มไปหมด ซึ่งราคาก็ไม่ต่ำกว่าห้าล้าน
คนของตระกูลไป๋และคนของตระกูลเหยียน รวมถึงอ้าวฉางคงผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างเป่ยอีกทั้งผู้มีอิทธิพลอำนาจที่ถูกตระกูลหวางปลุกระดม ต่างก็ได้รับบัตรเชิญ และมาเข้าร่วมพิธีเปิด
กิจการของชางฉองกรุ๊ป
คนขับรถได้มาส่งไป๋จ่านถังที่ด้านหน้าประตูของอาคารที่ชางฉองกรุ๊ปได้เลือกเอาไว้ หลังจากที่ลงจากรถ ไป๋จ่านถังก็ยืนอยู่ด้านหน้าประตูกระจก มองสังเกตสถานที่ที่ชางฉองกรุ๊ป
เลือกใช้จัดงานพิธีเปิดกิจการแห่งนี้
“อืม ถือว่าไม่เลว โอ่อ่าหรูหรามีระดับเลยทีเดียว! ”
“แต่ว่า ก็ยังคงทำเป็นลับ ๆ ล่อ ๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังมีประวัติ
ความเป็นมาอย่างไร! ”
“คาดว่า คงจะเป็นบริษัทที่มีชื่อแต่ไร้ความสามารถ! จงใจที่จะสร้างสถานการณ์หลอกลวง เพื่อระดมเงินทุน! ”
ไป๋จ่านถังยิ้มเยาะด้วยความเหยียดหยาม
ลูกน้องที่อยู่ด้านหลัง ได้รีบพูดประจบสอพลอขึ้น: “เจ้าบ้านฉลาดล้ำเลิศ ฉันก็คิดว่านี่เป็นเพียง
บริษัทที่มีชื่อแต่ไร้ความสามารถ”
“ไปกันเถอะ เข้าไปดูด้านในกัน! ” ไป๋จ่านถังเดินตรงเข้าไปในประตูใหญ่อย่างองอาจผ่าเผย
ไป๋จ่านถังเข้าไปด้านในไม่นาน พ่อลูกตระกูลเหยียนก็มาถึงแล้ว
“นี่ก็คือสถานที่ที่ชางฉองกรุ๊ปเลือกเอาไว้! ไม่เลวเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าเจ้านายของชางฉองกรุ๊ป คนนี้ น่าจะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่! ” เหยียนเสวเหวินมองไปยังอาคารที่โอ่อ่ารโหฐานหลังนี้ แล้วก็ พยักหน้าชื่นชม
พ่อของเหยียนเสวเหวินมองดูอาคารหลังนี้แล้ว ก็พูดขึ้นว่า: “อาคารหลังนี้ คือสิ่งก่อสร้างที่เป็น
สัญลักษณ์ของที่นี่เลย ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ได้ถูกบุคคลลึกลับผู้หนึ่งซื้อไปครอบครองแล้ว! ”
“ชางฉองกรุ๊ปสามารถใช้สถานที่แห่งนี้เพื่อจัดพิธีเปิดกิจการ นั่นแสดงว่าชางฉองกรุ๊ปกับบุคคล
ผู้ลึกลับที่ซื้ออาคารหลังนี้ไป มีความสัมพันธ์กัน”
“ถึงขนาดที่ว่า ไม่แน่ผู้ซื้อที่ลึกลับนั้น ก็คือชางฉองกรุ๊ป! ”
“ถ้าหากฉันคาดเดาได้อย่างถูกต้อง ชางฉองกรุ๊ปนี้ เกรงว่าจะไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ”
“เสวเหวิน ครั้งนี้ถือว่าพวกเรามาได้ถูกต้องแล้ว! ”
เหยียนเสวเหวินพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยจะเห็นด้วยว่า: “คุณพ่อ ฉันเองกลับไม่คิดแบบนี้ ท่านลองดู
นะว่า ผู้ที่มาร่วมงานในตอนนี้ มีใครที่พวกเรารู้จักบ้าง? ”
“แต่ว่า รถยนต์หรูหราที่จอดอยู่ในที่จอดรถมีไม่น้อยเลยทีเดียว และยังจะดีกว่ารถแข่งที่ฉันเพิ่งจะ
ซื้อมาเมื่อไม่กี่วันก่อนอีก! ”
“ไม่รู้จริง ๆ ว่า พวกคนที่มานี้เป็นใครกัน นึกไม่ถึงว่าฉันจะไม่รู้จักเลยแม้แต่คนเดียว! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินก็เกิดความสงสัยขึ้นบ้าง: “ที่จริงแล้วฉันเองก็สับสนงุนงงเช่นกัน พวกคน
เหล่านี้ที่มาร่วมงาน นึกไม่ถึงว่าฉันจะไม่รู้จักเลยแม้แต่คนเดียว”
“แม้แต่คุณพ่อเองก็ยังไม่รู้จัก แสดงว่าพวกคนเหล่านี้คงจะเป็นตระกูลที่ไม่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ชางฉองกรุ๊ปจึงเชิญพวกคนเหล่านี้มาร่วมงานพิธีเปิดกิจการ ฮึฮึ ก็แค่นี้เอง! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินพูดขึ้นว่า: “จะมาสรุปในตอนนี้ยังคงเร็วเกินไป ไปกันเถอะ ในเมื่อมาถึงแล้ว ก็เข้าไปดูด้านในกันก่อน! ”
“ตกลง! ”
ทั้งสองคนเดินตรงไปยังประตูใหญ่
ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่รู้ว่า ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการของชางฉองกรุ๊ปนั้น ไม่ใช่จะเป็นบุคคล
ธรรมดาเหมือนกับที่พวกเขาจินตนาการกันไว้ว่า เป็นแค่เพียงพวกผู้มีชื่อเสียงและพวกเศรษฐีที่อยู่
ในบริเวณใกล้กับจงโจว
โดยผู้ที่มาเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการของชางฉองกรุ๊ปในครั้งนี้ ต่างก็เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากแต่ละ
พื้นที่ของจีน
พูดกันตามตรงว่า ไม่มีคนไหนที่จะต่ำต้อยไปกว่าพวกเขาตระกูลเหยียนเลย ถ้าหากจะคำนวณกัน
ตามจริงแล้ว ในจำนวนบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มาร่วมงานเหล่านี้ ตระกูลเหยียนนับว่าต่ำต้อยที่สุด
ไป๋จ่านถังกับพ่อลูกตระกูลเหยียนได้เดินเข้ามาในห้องโถง ก็รู้สึกได้ทันทีถึงความงดงามอลังการณ์ โอ่อ่ารโหฐาน ด้วยรูปแบบการตกแต่งภายใต้ความหมายอันลึกซึ้ง
ภายในห้องโถงมีผู้คนมาถึงกันแล้วจำนวนไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ ไม่มีคนที่ไป๋จ่านถังกับพ่อลูก
ตระกูลเหยียนรู้จักและคุ้นเคยเลยสักคน
ไป๋จ่ายถังรู้สึกอึดอัดใจ: “วันนี้มีคนมาตั้งมากมาย แต่ไม่นึกว่าฉันจะไม่รู้จักใครเลย”
“หรือว่าตัวฉันเองที่เป็นกบในกะลาใช่ไหม? ”
อีกฝั่งหนึ่ง พ่อลูกตระกูลเหยียนเองก็กำลังมองไปบริเวณโดยรอบ โดยเหยียนเสวเหวินได้กระซิบพูด
กับพ่อของตนเองว่า: “คุณพ่อ ฉันมองดูโดยรอบแล้ว พบว่าคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครที่ฉันรู้จักเลย”
“แต่ว่า คนที่อยู่ที่นี่กลับให้ความรู้สึกว่าต่างก็ไม่ธรรมดา คงน่าจะเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ในสังคม
ชั้นสูง”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ชางฉองกรุ๊ปไปหาคนพวกนี้มาจากที่ไหนกัน หรือว่าคนพวกนี้เป็น
นักแสดงมืออาชีพที่พวกเขาเชิญมา? ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินหัวเราะเหอะเหอะ: “นายช่างคิดเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว พวกเขาจะไปเชิญ
นักแสดงมืออาชีพมาทำไม? หรือว่าจะเชิญมาเพื่อทำให้พวกเราสองพ่อลูกเกิดความสับสน? ”
“ถ้าหากฉันทายไม่ผิด คนพวกนี้คงจะไม่ใช่ผู้มีชื่อเสียงและเศรษฐีของจงโจว แต่เป็นคนจากต่าง
มณฑล! ”
“ต่างมณฑล? คุณพ่อ ท่านช่างยกย่องชางฉองกรุ๊ปเกินไปแล้วหรือเปล่า? แม้แต่ผู้มีชื่อเสียงใน
จงโจวพวกเขายังไม่สามารถเชิญมาได้ แล้วจะไปเชิญบุคคลผู้ยิ่งใหญ่จากต่างมณฑลมาได้
อย่างไรกัน! ” เหยียนเสวเหวินแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ
หรือว่า เหยียนเสวเหวินประเมินมาตรฐานของชางฉองกรุ๊ปต่ำเกินไปมาโดยตลอด
พ่อของเหยียนเสวเหวินไม่ได้อธิบายให้กับเหยียนเสวเหวิน แม้เขาจะสงสัยว่าพวกผู้ยิ่งใหญ่
เหล่านี้ล้วนมาจากต่างมณฑล แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานแน่ชัด เพราะว่าเขาไม่รู้จักพวกคนเหล่านี้เลย
แม้แต่คนเดียว
แต่ว่า ความคิดของไป๋จ่านถังในเวลานี้ แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับพ่อลูกตระกูลเหยียน
เพราะว่า ไป๋จ่านถังมีสถานะเป็นเจ้าบ้านตระกูลไป๋แห่งเจียงหนาน โดยตระกูลไป๋แห่งเจียงหนาน
เป็นตระกูลใหญ่อันดับที่สองในเจียงหนาน รองมาจากตระกูลอีแห่งเจียงหนาน
สถานะทางสังคมของไป๋จ่านถัง มีระดับขั้นที่สูงกว่าพ่อลูกตระกูลเหยียนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น คนที่ไป๋จ่านถังรู้จัก ต่างก็เป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในแต่ละมณฑล ซึ่งคนที่มาร่วมงานในครั้งนี้
ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่จากแต่ละมณฑล แน่นอนว่าพ่อลูกตระกูลเหยียนไม่มีทางรู้จัก
แต่ว่า ไป๋จ่านถังรู้จัก
“นั่นคือจางหยูโจงแห่งซีหลิ่ง อ้าวฉางคงแห่งกว่างเป่ย เสิ่นหลินแห่งฮัวเฉิง……”
“คนเหล่านี้ต่างก็เป็นถึงผู้มีอิทธิพลอำนาจในแต่ละเขตพื้นที่ ทำไมถึงได้มาเข้าร่วมพิธีเปิดกิจการ
ของชางฉองกรุ๊ปด้วย! ”
“เจ้านายเบื้องหลังของชางฉองกรุ๊ปตกลงคือใครกันแน่? คิดไม่ถึงว่าจะมีอิทธิพลมากถึงขนาดนี้ สามารถที่จะเชิญบุคคลผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากให้มาเข้าร่วมงานได้! ”
“ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงไม่เห็นไอ้แก่อีหยุ่นนั่นล่ะ! ”
ไป๋จ่านถังเดินขึ้นไปด้านหน้า มาอยู่ด้านข้างชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วนท้วมคนหนึ่ง โดยยิ้มและกล่าวทักทาย: “พี่เสิ่นหลิน คุณก็มาด้วย! ”
ใบหน้าที่อ้วนท้วมของเสิ่นหลิน ได้แสดงรอยยิ้มที่เป็นกันเอง: “โอ้ว นี่พี่ไป๋ไม่ใช่หรอกเหรอ? คิดไม่ถึงว่าจะพบเจอคุณที่นี่ได้ ครั้งก่อนเราแยกจากกันที่เจียงหวาย โดยในครั้งนี้พี่ไป๋กลับดูดีมีสง่า
มากขึ้นกว่าเดิมอีก! ”
ไป๋จ่านถังยิ้มและพูดว่า: “พี่เสิ่นพูดล้อเล่นไปได้ ฉันจะบำรุงดูแลสุขภาพได้ดีอย่างคุณที่ไหนกันล่ะ! ดูคนที่อยู่ด้านหลังของคุณสิ คาดว่าคงจะเป็นหญิงสาวที่เพิ่งจะเข้าศึกษามหาวิทยาลัย! ”
คำพูดสุดท้ายนั้น ไป๋จ่านถังได้กระซิบพูดข้างหูของเสิ่นเหยียน พูดจบแล้วก็ยังจะยิ้มอย่างมีเลศนัย ซึ่งความหมายเหล่านี้พวกผู้ชายต่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี
เสิ่นหลินหัวเราะแหะแหะ แล้วมองไปยังหญิงสาวที่ผมยาวสลวย รูปร่างสูงบอบบางคนนั้น แล้วก็เดินเข้ามาด้านข้างหูของไป๋จ่านถัง ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า: “หญิงสาวที่เพิ่งจะเข้าศึกษา
มหาวิทยาลัย ช่างหอมหวานถูกปากเป็นอย่างมาก! ”
ไป๋จ่านถังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า: “พี่เสิ่นล้อเล่นได้เก่งจริง ๆ นับถือนับถือ! ”
เสิ่นหลินเก็บรอยยิ้ม และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ใช่แล้วพี่ไป๋ คุณรู้ไหมว่าเจ้านายเบื้องหลังของ ชางฉองกรุ๊ปนี้คือใคร? ”
“นี่มันอะไรกัน? คิดไม่ถึงว่าวันนี้ฉันจะได้พบเจอกับคนรู้จักจำนวนมาก ซึ่งนั่นเป็นถึงบุคคล
ผู้ยิ่งใหญ่ในแต่ละเขตพื้นที่ และนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาเข้าร่วมงานพิธีเปิดกิจการของ
ชางฉองกรุ๊ปด้วย! ”
ไป๋จ่านถังทำท่าผายมือสองข้าง และพูดว่า: “นี่ก็คือเรื่องที่ฉันต้องการจะถามพี่เสิ่นอยู่เหมือนกัน! ”
“เดิมทีฉันคิดว่า ชางฉองกรุ๊ปเป็นบริษัทต้มตุ๋นหลอกลวง จึงลองมาดูสักหน่อย ซึ่งคิดไม่ถึงว่าเมื่อ
มาเห็นแล้ว กลับตกตะลึงเป็นอย่างมาก! ”
“โอ้โห พวกผู้มีอิทธิพลอำนาจมารวมตัวกันมากขนาดนี้ ต่างก็มาเข้าร่วมฉลองเพื่อเป็นเกียรติให้กับ
ชางฉองกรุ๊ปกันทั้งนั้นใช่ไหม? ”
เสิ่นหลินพูดว่า: “ฉันไม่ได้มาร่วมฉลองสักหน่อย ฉันก็เหมือนกับนาย ที่มาร่วมงานเพราะความ
แปลกประหลาดใจ”
“และถือโอกาสมาพบเจอกับคุณชายหวางด้วย! ”
ไป๋จ่านถังดวงตาเป็นประกาย: “พี่เสิ่นก็มาพึ่งพิงกับทางคุณชายหวางด้วยแล้วใช่ไหม? ”
“พี่เสิ่นขอพูดตามตรงนะว่า ฉันเองก็มาเพื่อที่จะพบเจอกับคุณชายหวางเช่นกัน! ”
เสิ่นหลินพูดขึ้นอย่างตกใจว่า: “ถ้าอย่างนั้น ต่อไปพวกเราก็จะทำงานภายใต้คุณชายหวาง
ด้วยกันแล้วล่ะสิ? ”
“ฮ่าฮ่า พี่ไป๋ ต่อไปจะต้องช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน! ”
ไป๋จ่านถังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์: “แน่นอนแน่นอน! ”
“ใช่แล้ว ในเมื่อพวกเราต่างก็มาเพื่อร่วมในบรรยากาศที่สนุกสนานคึกคัก อย่างนั้นแล้วพวกเขาก็คง
จะมาร่วมเพื่อความคึกคักเหมือนกันด้วยหรือเปล่า? ”
เสิ่นหลินพูดขึ้นว่า: “หากต้องการที่จะรู้เรื่องนี้ ง่ายนิดเดียว หาใครสักคนเพื่อถามก็ได้คำตอบแล้ว