จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 88 เขาไม่ใช่หมอเทพ
บทที่ 88 เขาไม่ใช่หมอเทพ
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ หลินหยุนไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน
“ผู้อำนวยการโจว ท่านบอกเวลากำหนดการที่ชัดเจนให้กับฉัน” หลินหยุนกล่าว
เมื่อโจวชิงเหอได้ยินดังนั้น ดีใจในทันทีแล้วพูดว่า“สิบโมงเช้าพวกเขาก็มาถึงกันแล้ว คุณอยู่ที่ไหน ตอนนี้ฉันจะไปรับคุณมา เพื่อพบกับคนของพวกเรากันก่อน! ”
หลินหยุนคิดเล็กน้อย พูดว่า“ไม่ต้องหรอก ท่านบอกตำแหน่งที่อยู่มา ฉันจะเรียกรถบริการไปเอง”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นคุณก็มาที่มหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว! ” โจวชิงเหอกล่าว
ตอนนี้คือช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน มหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวไม่มีผู้คนสักเท่าไหร่ ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่จัดการเสวนา ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
ภายในมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวมีภูมิทัศน์ที่สวยงามร่มรื่น บนต้นไม้บนถนนที่มีต้นไม้ปกคลุมเขียวชอุ่มสองข้างทาง แขวนป้ายต้อนรับ“ยินดีต้อนรับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมแพทย์ฉินโจวเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน! ”
โจวชิงเหอรอรับหลินหยุนอยู่ที่ประตูมหาวิทยาลัย
“หมอเทพหลิน ครั้งนี้คนจากสมาคมแพทย์ฉินโจวมาเยือนหลินโจว แม้ว่าพวกเราจะได้เปรียบจากการที่เป็นเจ้าบ้านผู้จัดงาน แต่ว่าฉินโจวนั้นเป็นถิ่นกำเนิดของหมอเซียน ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่างสำหรับผู้ที่ศึกษาวิชาการแพทย์ ซึ่งวิชาการแพทย์ของพวกเขานั้นมีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของชนชาวจีนทั่วไปทั้งหมด”
“ดังนั้น โอกาสที่พวกเราจะพ่ายแพ้มีสูงมาก ฉันก็หมดหนทาง จึงต้องเชิญคุณมาเป็นหลักสำคัญให้กับพวกเราในครั้งนี้! ”
หลินหยุนพูดว่า“ไม่มีปัญหา ฉันก็เป็นคนหลินโจว ตามหลักความเป็นจริงฉันก็สมควรที่จะช่วยเหลือวงการแพทย์ของหลินโจวอีกแรงหนึ่งด้วยเช่นกัน”
โจวชิงเหอได้ฟังแล้วรู้สึกโล่งใจ ยิ้มแล้วพูดว่า“ฉันจะพาคุณไปยังสถานที่จัดเสวนา ศาสตราจารย์โม่แห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์และท่านอื่น ๆ ก็มาถึงกันแล้ว”
“ตกลง” หลินหยุนตอบ
หลินหยุนเดินตามโจวชิงเหอมายังฝ่ายทีมตัวแทนที่ทางมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวได้คัดเลือกเอาไว้ สถานที่จัดการเสวนาคือห้องประชุมประจำมหาวิทยาลัยการแพทย์ ข้างในมีคนนั่งอยู่กันเต็มจำนวนหลายสิบคน
แต่ว่าส่วนใหญ่เป็นคนวัยรุ่น น่าจะได้ยินได้ฟังข่าวคราว ซึ่งคงเป็นกลุ่มนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่มาเพื่อดูกิจกรรมและสร้างบรรยากาศ
ตรงกลางของกลุ่มคนเหล่านี้ มีผู้อาวุโสในชุดลำลองสีเทาท่านหนึ่ง คงน่าจะเป็นหัวหน้าทีมของคนเหล่านี้
“ท่านโม่ ฉันกลับมาแล้ว! ” โจวชิงเหอกล่าว
นักศึกษาบริเวณรอบ ๆ ได้เปิดทาง เพื่อให้โจวชิงเหอได้เดินเข้าไป
ผู้อาวุโสมองไปที่โจวชิงเหอ สีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห พูดอย่างจริงจังว่า“ผู้อำนวยการโจวกลับมาได้ถูกเวลาพอดี คนจากสมาคมแพทย์ฉินโจวใกล้จะมาถึงกันแล้ว เดิมทีกำหนดการเอาไว้ว่าจะเริ่มทำการแข่งขันพรุ่งนี้ แต่คนของฉินโจวบอกว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะไปที่ชิ่งโจว ดังนั้น พวกเราจะต้องรีบกำหนดตัวแทนที่จะเข้าทำการแข่งขันแล้ว”
โจวชิงเหอพูดด้วยความตกตะลึงว่า“ทำไมเร็วขนาดนี้! คนของสมาคมแพทย์ฉินโจวมีความมั่นใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว ซูชิงเหยียนพูดว่า“ผู้อำนวยการโจว ไม่ใช่คนของสมาคมการแพทย์ฉินโจวมีความมั่นใจ แต่ที่จริงคือพวกเขาไม่ได้เห็นวงการแพทย์หลินโจวของพวกเราอยู่ในสายตาต่างหาก! ”
“ไม่เพียงแค่หลินโจวของพวกเรา ต่อให้ทั้งมณฑลหลิงหนาน ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยที่จะอยู่ในสายตาของพวกคนของสมาคมแพทย์ฉินโจวเลย?”
“ฉันได้ยินมาว่า พวกเขาขู่ขวัญเอาไว้ วันนี้จะปราบเมืองหลินโจว พรุ่งนี้จะปราบเมืองชิ่งโจว และภายในสิบแปดวัน จะปราบให้ทั่วทั้งสิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน! ”
“พวกคนของสมาคมแพทย์ฉินโจวนี้จะหลงระเริงไปกันใหญ่แล้ว! ”
“ใช่น่ะสิ หลงระเริงมากเกินไปแล้ว! พวกนักศึกษาที่อยู่บริเวณรอบข้างได้ฟังดังนี้แล้วต่างพากันเดือดดาล สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความโกรธ”
“คนของสมาคมแพทย์ฉินโจวก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วไม่ใช่เหรอ? แต่ว่าพวกเขาก็มีต้นทุนที่จะหลงระเริงกันจริง ๆ การเสวนาในอดีตที่ผ่านมา สิบแปดเมืองในมณฑลหลิงหนาน เคยมีใครเอาชนะฉินโจวได้บ้าง? ” มีนักศึกษาที่หน้าม่อยคอตกได้กล่าวขึ้น
“โธ่ ก็ใช่น่ะสิ คนของสมาคมแพทย์ฉินโจวมีฝีมือที่เก่งกาจกันจริง ๆ ใครให้พวกเขาเป็นถิ่นกำเนิดหมอเซียนกันล่ะ? ” มีนักศึกษาบางคนเริ่มทอดถอนหายใจอีก
จากนั้น สีหน้าอารมณ์โกรธบนใบหน้าของนักศึกษาเหล่านั้นก็เริ่มสูญหายไป กลับกลายเป็นท่าทางที่หงอยเหงาเศร้าซึมมาทดแทน
ฉินโจวเป็นดินแดนของผู้มีวิชาการแพทย์ชั้นเซียน คนของสมาคมแพทย์ฉินโจวจึงมีต้นทุนที่สามารถหลงระเริงได้จริง ๆ!
หลินหยุนมีความเหยียดหยามพวกนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจวบ้างเล็กน้อย การแข่งขันยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาก็แพ้ในด้านขวัญกำลังใจแล้ว การแข่งขันแบบนี้ จะเอาชนะได้อย่างไรกัน!
“ถิ่นกำเนิดหมอเซียนแล้วอย่างไร? ครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้ชนะ ยังไม่แน่นอน! ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงของผู้หญิงที่โอหังและเย็นชาดังผ่านเข้ามา ทุกคนต่างพากันหันศีรษะไปมอง
หญิงสาวน้อยที่มีท่าทางโดดเด่นเป็นสง่า ผมยาวเป็นลอนพาดไว้บนบ่าข้างหนึ่ง สวมใส่ชุดเดรสกระโปรงยาวสีแดงคนหนึ่ง ได้เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่หยิ่งผยอง รองเท้าส้นสูงสีแดงที่สวมใส่เดินย่ำบนพื้นหินอ่อนกระทบเกิดเสียงดังก๊อก ๆ
“นั่นคือ อัจฉริยะแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์หลินโจว จงเฟยหยู่! ”
“ถ้าหากจงเฟยหยู่เข้าร่วม ถ้าอย่างนั้นอาจจะไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสชนะ”
จงเฟยหยู่เดินเข้ามา แสดงความเคารพต่อท่านโม่“สวัสดีค่ะศาสตราจารย์โม่! ”
“สวัสดีค่ะอธิการบดีซู! ”
จงเฟยหยู่เป็นสาวสวยประจำมหาวิทยาลัยแพทย์หลินโจว และยังเป็นอัจฉริยะของมหาวิทยาลัยแพทย์หลินโจวด้วย ได้รับการเคารพรักชื่นชมจากทุกคน ดั่งธิดาจากสวรรค์อย่างแท้จริง
โม่หัวถิงศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยแพทย์หลินโจว และซูชิงเหยียนอธิการบดีมหาวิทยาลัย มองไปที่จงเฟยหยู่ด้วยรอยยิ้ม
“เสี่ยวหยู่มาแล้ว รีบเข้ามานั่ง! ” ศาสตราจารย์โม่กล่าวอย่างสนิทสนม
ซูชิงเหยียนรีบไปยกเก้าอี้ด้วยตนเองเพื่อให้กับจงเฟยหยู่ แล้วพูดว่า“เสี่ยวหยู่นั่งลงสิ! ”
“ขอบคุณศาสตราจารย์โม่และอธิการบดีซูมาก” จงเฟยหยู่ก็ไม่เกรงใจ นั่งลงเลย ใบหน้าที่งดงามยกเงยขึ้นเล็กน้อย เหมือนกับว่าไม่ได้มีใครอยู่ในสายตา
มีนักศึกษาวิพากษ์วิจารณ์กันเบา ๆ ว่า“จงเฟยหยู่มาแล้ว แล้วเสิ่นจงซูล่ะ? เขาไม่ใช่ตามจีบจงเฟยหยู่อยู่เหรอ? คงจะมาแล้วอย่างแน่นอน! ”
“ถ้าหากเสิ่นจงซูก็มาด้วย ถ้าอย่างนั้นครั้งนี้ที่พวกเราจะต้องรับมือกับคนของสมาคมแพทย์ฉินโจว โอกาสที่จะเอาชนะก็มีสูงขึ้น”
“เสิ่นจงซู คืออัจฉริยะที่มีความเก่งกาจมากกว่าจงเฟยหยู่เสียอีก เรียกขานกันว่าเป็นนักศึกษาปีศาจผู้เก่งกาจที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแพทย์หลินโจวเป็นต้นมา แต่ว่าเขากำลังใกล้จะจบการศึกษาแล้ว ยังจะมาร่วมการเสวนาระดับเมืองในครั้งนี้เหรอ? ”
ได้ยินเพื่อนนักศึกษาวิพากษ์วิจารณ์กัน ศาสตราจารย์โม่พูดด้วยรอยยิ้มอันลึกลับว่า“ฉันจะบอกข่าวดีให้แก่ทุกคนว่า เมื่อวานเสิ่นจงซูได้โทรศัพท์มาหาฉัน รายชื่อของผู้เข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ ได้เก็บเตรียมไว้ให้เขาหนึ่งรายชื่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! ”
“ดีจังเลย หากเสิ่นจงซูมาเข้าร่วมด้วย บวกกับจงเฟยหยู่ ทีมนักศึกษาของเราในครั้งนี้ก็จะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก! ” นักศึกษากล่าวออกมาด้วยตื่นเต้นดีใจ
“แล้วจะมีประโยชน์อะไร? แม้ว่าทีมนักศึกษาจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ว่าทีมอาจารย์ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ก็ต้องพ่ายแพ้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ”
คำพูดนี้ ทำให้โม่หัวถิงกับซูชิงเหยียนและรวมถึงโจวชิงเหอผู้ซึ่งเป็นทีมแพทย์ที่มีชื่อเสียง ต่างพากันหน้าแดงก่ำ
ใช่สิ การเสวนาครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการแข่งขันระดับนักศึกษาอย่างเดียว โดยการแข่งขันระดับอาจารย์มีความสำคัญมากกว่า ต่อให้การแข่งขันระดับนักศึกษาจะได้รับชัยชนะ แต่หากการแข่งขันระดับอาจารย์พ่ายแพ้ ก็จะถือว่าพ่ายแพ้เช่นเดียวกัน
เพราะว่ามีเพียงการแข่งขันระดับอาจารย์เท่านั้น จึงจะสามารถแสดงออกให้เห็นถึงระดับความสามารถทางการแพทย์ของทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน
การแข่งขันระดับนักศึกษา เป็นเพียงแค่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาในอนาคต
แต่ว่า โม่หัวถิง ซูชิงเหยียน รวมทั้งโจวชิงเหอ ทั้งสามท่านนี้ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดในหลินโจวแล้ว แต่ว่า พวกเขากลับไม่มีใครสักคนที่จะรับประกันได้ว่าตนเองจะสามารถเอาชนะได้
แม้แต่โม่หัวถิงเองก็คิดอยู่ภายในใจว่า แค่พ่ายแพ้แบบไม่ถึงกับน่าอายก็เพียงพอแล้ว
พวกเขาต่างก็อยู่ในสภาวะที่ขวัญกำลังใจตกต่ำ
โจวชิงเหอไม่ต้องการเห็นขวัญกำลังใจที่เมื่อครู่ยังเข้มแข็งอยู่นั้น ตกต่ำย่ำแย่ลงไปอีก จึงรีบพาหลินหยุนมายังด้านหน้าของทุกคน แล้วพูดว่า“ทุกคนอย่าเพิ่งสูญเสียกำลังใจไป ครั้งนี้ฉันได้เชิญหมอเทพแห่งหลินโจวท่านหนึ่งมาเข้าร่วมด้วย ซึ่งการแข่งขันระดับอาจารย์ ชนะหรือแพ้ยังไม่อาจทราบได้? ”
“หมอเทพแห่งหลินโจว! ใครกัน? ” ทุกคนพากันอยากรู้อยากเห็น
สายตาของทุกคน ต่างก็จับจ้องมายังหลินหยุนในทันที แม้แต่จงเฟยหยู่เองก็ไม่ยกเว้น
แต่ว่า เมื่อพวกเขาเห็นหลินหยุนแล้วพบว่ามีอายุที่พอประมาณกับพวกเขา หรืออาจจะมีอายุน้อยกว่าพวกเขาด้วยซ้ำ สายตาของนักศึกษาเหล่านี้ ต่างก็แสดงออกถึงความสงสัย
“เขาคือหมอเทพแห่งหลินโจว? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีผู้ที่เก่งกาจขนาดนี้? ” มีนักศึกษาถามขึ้นด้วยความสงสัย
เวลานี้ ชายผู้มีทรงผมสกินเฮดสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าได้ยืนขึ้น พูดอย่างเย้ยหยันว่า“คุณไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่างแน่นอน เพราะว่าที่จริงเขาไม่ใช่หมอเทพอะไรสักหน่อย แต่เป็นสามีของคุณเซี่ยคนสวยประจำมหาวิทยาลัยของเรา ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องไม่มีความสามารถเอาแต่เกาะภรรยากิน! ”