จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 891 ทุกคนตกตะลึงมากๆ
ผู้ตัดสินคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่ได้ตื่นเต้นมากๆเหมือนกับชายชราแซ่กู่ แต่พวกเขาก็ประหลาดใจมากๆกับสิ่งที่หลินหยุนแสดงออกมา
“โลกกลั่นยาของพวกเรา คงจะมีอัจฉริยะด้านการกลั่นยาคนหนึ่งปรากฏตัวแล้ว!”
“แต่ไม่รู้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้ จะเป็นลูกศิษย์ของสำนักไหนหรือเปล่า ถ้าเขายังไม่มีสำนัก ฉันจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิ และสอนวิชาการกลั่นยาของฉันทั้งหมดให้เขา!”
“พวกคุณทุกคน ห้ามแย่งลูกศิษย์คนนี้กับฉันเด็ดขาด!”
“โดยเฉพาะคุณ เจ้าสำนักป่ายหลี่”
ป่ายหลี่เถ่หัวเราะออกมาและพูด:”คุณพูดแบบนี้ไม่ถูกนะ ในเมื่อเขาเป็นอัจฉริยะด้านการกลั่นยา ก็ต้องให้อาจารย์ที่เก่งที่สุดคอยสอนเขา”
“พวกคุณคิดว่าฉันพูดถูกไหม?”
ผู้ตัดสินคนอื่นๆก็ยิ้มออกมา แต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย
พวกเขาดูออกอย่างชัดเจน ป่ายหลี่เถ่ไม่ยอมให้อัจฉริยะคนนี้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่นอย่างแน่นอน
ในเมื่อพวกเขาแย่งกับป่ายหลี่เถ่ไม่ไหว ดังนั้นพวกเขาก็เลยไม่อยากแย่งลูกศิษย์คนนี้กับป่ายหลี่เถ่ เพราะพวกเขาก็ไม่อยากผิดใจกับป่ายหลี่เถ่ด้วย
ผู้ตัดสินแซ่กู่เปล่งเสียงไม่พอใจออกมา:”เจ้าสำนักป่ายหลี่ ฉันยอมรับว่าตัวเองสู้คุณไม่ได้เรื่องการกลั่นยา แต่เรื่องสอนลูกศิษย์ ฉันไม่ด้อยไปกว่าคุณอย่างแน่นอน!”
“และอีกอย่าง การเลือกอาจารย์ก็เป็นสิทธิ์ของเขา คุณห้ามใช้วิธีสกปรกไปบีบบังคับเขา!”
“ถ้าคุณกล้าทำ ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบอย่างง่ายๆแน่นอน!”ผู้ตัดสินแซ่กู่ตั้งใจจะแย่งลูกศิษย์กับป่ายหลี่เถ่
เขาไม่มีทางเลือก เพราะเขาให้ความสำคัญกับหลินหยุนมากๆ
ถ้าหลินหยุนยอมเป็นลูกศิษย์ของเขา ในอนาคตสำนักของเขาก็จะสามารถขึ้นมาแทนที่สำนักยาตัน กลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา
ป่ายหลี่เถ่ไม่ได้รู้สึกโกรธ เขาหัวเราะและพูดว่า:”คุณวางใจได้ ฉันไม่ใช้วิธีสกปรกมาบีบบังคับเขาอย่างแน่นอน แต่ฉันก็ขอพูดไว้ก่อน ถ้าเขาอยากจะเลือกใครเป็นอาจารย์ ก็เป็นสิทธิ์ของเขา”
“ถ้าหากว่าคุณเป็นเขา คุณคิดว่าตัวเองจะเลือกใครเป็นอาจารย์ละ?”
สีหน้าของผู้ตัดสินแซ่กู่เคร่งขรึมทันที:”เรื่องนั้นมันก็ไม่แน่”
จากนั้น พวกเขาก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก
คำพูดของผู้ตัดสินหลายๆคนได้แพร่กระจายออกไปและทำให้ทุกคนที่อยู่ด้านล่างรับรู้เรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ทำให้ทุกคนในสนามแข่งตกตะลึงขึ้นมาทันที
“อะไรนะ ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม! เด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้ยอมแพ้ แต่เขากลับตอบถูกทุกข้อเลย!”
“มันเป็นไปได้ยังไง!”สีหน้าของคนคนนั้นดูตกใจมากๆ
อีกคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”ทุกอย่างมันเป็นไปได้อยู่แล้ว! แล้วถ้าเขาอยู่ขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมดละ?”
“ถ้าอยู่ขั้นนั้นก็คงเป็นไปได้ แต่ขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมด……เขาจะอยู่ขั้นนั้นได้ยังไง เขายังอายุน้อยมากๆ!”
“ความจริงมันสำคัญกว่าคำพูด เพราะคำตอบทั้งหมดอยู่ที่ผู้ตัดสินแล้ว สมุนไพรทั้งหมด15ชนิด เขาตอบถูกทั้งหมด ถ้ายังไม่ถึงขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมด ฉันก็คิดไม่ออกว่าทำไมเขาถึงสามารถแยกแยะสมุนไพรทั้ง15ชนิดด้วยการมองเพียงครั้งเดียว”
“โอ้พระเจ้า ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด เขาก็ถึงขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมดจริงๆใช่ไหม!”
“เขาเป็นคนที่เก่งกาจมากๆ!”
“เขาเป็นอัจฉริยะ เป็นสุดยอดอัจฉริยะจริงๆ!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างต่างมองไปที่หลินหยุน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอิจฉา
ถ้าด่านแรกสามารถแสดงให้เห็นถึงความรอบรู้ของหลินหยุน แต่มันไม่สามารถแสดงทักษะด้านการกลั่นยาของเขา แต่ด่านที่สองนี้สามารถแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน หลินหยุนมีความอัจฉริยะและความขยันด้านการกลั่นยาแค่ไหน
เขาสามารถฝึกฝนถึงขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมด ถ้าไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนักมาหลายๆปี มันไม่สามารถฝึกถึงขั้นนั้นได้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้นักกลั่นยาที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้ดี
สีหน้าของป่ายหลี่หลงเซิ่งอึ้งด้วยความตกตะลึง เขามองเห็นสีหน้าที่ดูตื่นเต้นของผู้ตัดสินและผู้คนที่อยู่ด้านล่าง
เขาตะโกนออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา:”มันเป็นไปได้ยังไง!”
“เด็กหนุ่มคนนั้นสามารถแยกแยะสมุนไพรทั้งหมด15ชนิดได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียวได้ยังไง!”
“ด้วยอายุของเขาในตอนนี้ จะฝึกถึงขั้นรอบรู้เรื่องยาทั้งหมดได้ยังไง!”
“เรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!”
ซูม่านม่านมีสีหน้าที่เคร่งขรึมมากๆ เรื่องที่เธอกังวลมากที่สุด มันได้เกิดขึ้นแล้ว
“คุณชายป่ายหลี่ ฉันรู้สึกว่าพวกเราควรรายงานเรื่องนี้ให้เจ้าสำนักรับทราบ!”
“เพราะพวกเขาเป็นคนของหุบเขาเทพยา พวกเราต้องคอยระแวดระวังพวกเขา!”
“และฉันก็รู้สึกว่า การมาของพวกเขาในครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อแข่งขันงานประลองกลั่นยาเฉยๆ พวกเขาต้องมีจุดประสงค์อื่นอย่างแน่นอน!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะออกมาและพูด:”คุณพูดเรื่องไร้สาระจริงๆ คนของหุบเขาเทพยามาแข่งขันงานประลองกลั่นยา จุดประสงค์ของพวกเขามีอย่างเดียวนั้นก็คือเอาบันทึกเตากลั่นยากลับคืนไง?”
“แต่ด้วยความสามารถของชายชราคนนั้น มันยังห่างไกลกันมากๆ ถ้าเขาอยากจะได้บันทึกเตากลั่นยา เขาต้องมีเอาชนะสำนักยาตันของพวกเราให้ได้”
ซูม่านม่านไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงถอนหายใจอย่างเงียบๆ:”ป่ายหลี่เถ่เป็นคนที่ฉลาดมากๆ ทำไมเขาถึงมีลูกชายที่โง่ขนาดนี้!”
แต่เพื่อทำให้ตัวเองมีฐานะที่สูงขึ้น ซูม่านม่านจำเป็นต้องพูดประจบคนโง่ๆอย่างป่ายหลี่หลงเซิ่ง และต้องยิ้มด้วยดีใจให้เขาได้เห็นทุกวัน
ทำให้ซูม่านม่านต้องฝืนใจและใช้ชีวิตอย่างลำบาก แต่นี่คือความผิดของเธอ เพราะเส้นทางนี้เธอเป็นคนเลือกเอง โทษใครก็ไม่ได้
เธอเกลียดความโง่เขลาและไร้ประโยชน์ของป่ายหลี่หลงเซิ่งมากๆ แต่ซูม่านม่านก็จำเป็นต้องเตือนเขาอีกครั้ง
“ถึงแม้อาจารย์อาของฉันจะมีพลังที่ไม่ธรรมดา แต่เมื่อเทียบกับเจ้าสำนักแล้ว มันก็ยังคงห่างไกลกันมากๆ ฉันไม่ได้กังวลเขา แต่ฉันกังวลชายหนุ่มที่มาพร้อมกับอาจารย์อาต่างหาก”
ซูม่านม่านเป็นห่วงสำนักยาตันมากๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดสำนักยาตันที่หลอกใช้เธอ แต่สิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดคือหุบเขาเทพยามีอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง
ถึงแม้เธอจะอยู่สำนักยาตันและใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีชีวิตอยู่
แต่ถ้าหุบเขาเทพยากลับมามีอำนาจมากขึ้น และเอาชนะสำนักยาตันได้ เธอก็จะไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไป
ป่ายหลี่หลงเซิ่งหัวเราะออกมาและพูด:”ผู้หญิงชอบคิดมากจริงๆ เด็กหนุ่มคนนั้นแค่ผ่านการทดสอบสองด่านเท่านั้น เขายังไม่ผ่านด่านที่สามเลย? แต่เธอกลับกลัวเขา!”
“ไม่แปลกใจเลยที่หุบเขาเทพยาของพวกคุณพ่ายแพ้ให้กับสำนักยาตันของพวกเรา พวกคุณมันขี้ขลาดมากๆ!”
“มีเรื่องหนึ่งที่คุณต้องรู้ก่อน หลังจากผ่านสามด่านแล้ว ถึงจะมีสิทธิ์มาท้าประลองสำนักยาตันของพวกเรา”
“มันก็แค่มีสิทธิ์มาท้าประลองพวกเราเท่านั้น คนที่ได้สิทธิ์นี้มีตั้งมากมาย แต่หลายปีที่ผ่านมา สำนักยาตันของพวกเราก็ยังคงเป็นสำนักอันดับหนึ่งของโลกกลั่นยา ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลใจ ถึงแม้เขาจะผ่านทั้งสามด่านได้ แต่เขาก็เอาชนะสำนักยาตันของพวกเราไม่ได้อย่างแน่นอน!”
ป่ายหลี่หลงเซิ่งพูดด้วยสีหน้าอวดดี ทำให้ซูม่านม่านพูดอะไรไม่ออก
เจียงย่านหรงในตอนนี้ก็ตกตะลึงกับความสามารถของหลินหยุน
“ไอ้สารเลวคนนี้ เขาตอบถูกทุกข้อเลย!”
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่ารอบรู้เรื่องยาทั้งหมดคืออะไร แต่ก็รู้สึกว่ามันต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!”
“ดูเหมือนเขากำลังเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้!”
“ก่อนหน้านี้ ฉันประเมินเขาต่ำไปจริงๆ!”
“ถ้ารู้ว่าเขามีความสามารถขนาดนี้ตั้งแต่แรก ฉันจะออกหน้าช่วยเขาอีกทำไม ทำให้ตัวเองผิดใจกับคนของสำนักยาตัน กลับไปฉันก็คงโดนคุณพ่อกักตัวอีกครั้งอย่างแน่นอน!”
เจียงย่านหรงเม้มปากเล็กน้อยด้วยความโกรธ ด้วยท่าทางที่ดูเซ็กซี่ของเธอ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นท่าทางที่ดูน่ารักทันที
ผ่านไปสักพัก การแข่งขันด่านที่สองก็เสร็จสิ้น
ครั้งนี้ มีคนตกรอบไปครึ่งหนึ่ง
ตอนนี้ มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันเหลือแค่ห้าสิบกว่าคนเท่านั้น
ป่ายหลี่เถ่มองหลินหยุนที่ขอบสนามแข่งและเขาก็ยิ้มให้หลินหยุน ดูเหมือนเขากำลังแสดงเจตนาดีต่อหลินหยุน
หลินหยุนมองเห็นเจตนาดีของเขา แต่ไม่ได้สนใจ เพราะหลินหยุนรู้ว่าป่ายหลี่เถ่ต้องการอะไร
อย่างไรก็ตาม ถ้าผ่านไปสักพักแล้วป่ายหลี่เถ่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของหลินหยุน เขาคงไม่แสดงรอยยิ้มแบบนี้ให้หลินหยุนอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าผู้ตัดสินแซ่กู่คนนั้น ก็ยิ้มด้วยเจตนาดีและพยักหน้าให้หลินหยุนตลอด
แต่หลินหยุนก็ไม่ได้สนใจเขาเหมือนกัน
ไม่มีผลประโยชน์ก็คงไม่แสดงเจตนาดี คนพวกนี้พยายามแสดงเจตนาดีต่อฉัน พวกเขาต้องหวังอะไรจากฉันอย่างแน่นอน
ผ่านไปไม่นาน ป่ายหลี่เถ่ก็ประกาศอีกครั้ง
“การแข่งขันด่านที่สองเสร็จสิ้น ขอแสดงความยินดีกับนักกลั่นยาที่ผ่านการแข่งขัน พวกคุณเป็นอัจฉริยะของโลกกลั่นยาในอนาคต พวกเราหวังว่าพวกคุณจะพยายามต่อไป ถ้าผ่านด่านที่สามได้ พวกคุณก็จะได้รับสิทธิ์มาท้าประลองสำนักยาตัน!”
“ถ้าอยากมีชื่อเสียงโด่งดัง ก็พยายามผ่านด่านที่สามให้ได้!”
ป่ายหลี่เถ่ตะโกนออกมา คำพูดของเขาปลุกใจมากๆ
นักกลั่นยาวัยรุ่นบางคน ถูกคำพูดของเขาปลุกใจทันที และตะโกนออกมา:”ท้าประลองสำนักยาตัน ท้าประลองสำนักยาตัน!”
เมื่อมีคนตะโกน ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ตะโกนด้วยเช่นกัน ดูเหมือนสำนักยาตันจะกลายเป็นสำนักใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้
โม่จือมิ่งถอนหายใจ:”วิธีการของป่ายหลี่เถ่นั้นฉลาดมากๆ คำพูดทุกคำของเขา การกระทำทุกอย่างของเขา ล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์ทั้งหมด จุดประสงค์ของเขาเพื่อแสดงฐานะอันสูงศักดิ์ของสำนักยาตัน ทำให้สำนักยาตันกลายเป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่ และทำให้นักกลั่นยาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จดจำเรื่องนี้เอาไว้ในใจ”