จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 915 บุกถึงบ้าน
ตระกูลหลินที่อูซู
บริเวณลานกว้างหลังคฤหาสน์ตระกูลหลิน หลินซื่อเฉิงที่เพิ่งฝึกฝนเสร็จนั้น ก็มีระดับขั้นการ
บำเพ็ญที่ก้าวหน้าขึ้นไปอีก
เฮ่อ!
หลินซื่อเฉิงกระโดดลอยตัวขึ้น แล้วก็ใช้ฝ่ามือฟันฉับลงไปบนโต๊ะหินตัวนั้นที่อยู่ในลานคฤหาสน์
ปัง!
โต๊ะหินที่แข็งแกร่งทนทานนั้นถูกพลังหมัดของหลินซื่อเฉิงทำลายลงเป็นผุยผง
หลินหยุนมองดู และยิ้มเล็กน้อย โดยที่ไม่พูดอะไร
หลินซื่อเฉิงส่ายศีรษะและพูดขึ้นอย่างเสียใจว่า: “เสี่ยวหยุน โต๊ะหินนี้ไม่ทนทานต่อพลังฝึกฝนเลย ฉันเพิ่งจะใช้พลังไปเพียงแค่ห้าส่วนเท่านั้น ก็แตกหักเป็นผุยผงแล้ว”
“ตัวฉันมีแต่พลังการบำเพ็ญฝึกฝน แต่ยังไม่มีสถานที่ให้ทดสอบเลย”
“หรือว่า นายมาลองทดสอบกับฉันหน่อย? ”
หลินซื่อเฉิงมองไปที่หลินหยุน ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น
หลินหยุนยิ้มและพูดว่า: “คุณปู่ ระดับการบำเพ็ญของท่านหากคิดที่จะให้ฉันประลองทดสอบ
กับท่านนั้น ยังคงห่างไกลกันลิบลับ”
“แต่ว่า ฉันจะพาท่านไปหาสถานที่ทดสอบ”
หลินซื่อเฉิงทราบดีว่าตนเองยังคงห่างไกลกับหลินหยุนอยู่มาก แต่นอกจากหลินหยุนแล้ว เขาหาคนที่จะมาประลองทดสอบกับเขาไม่ได้จริง ๆ
ได้ยินหลินหยุนพูดว่ามีสถานที่สำหรับทำการทดสอบ หลินซื่อเฉิงก็พลันดีอกดีใจขึ้น: “ที่ไหนเหรอ? ไปกันเดี๋ยวนี้เลย! ”
ตอนนี้ หลินซื่อเฉิงร่างกายเต็มไปด้วยพลังการบำเพ็ญฝึกฝน แต่ยังไม่มีที่จะระบายปลดปล่อย
หลินหยุนเข้าใจจุดนี้เป็นอย่างดี ถ้าหากการบำเพ็ญฝึกฝนของหลินซื่อเฉิงไม่ได้ปลดปล่อยใช้งาน
อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จะส่งผลกระทบต่อการก้าวหน้าของเขาในอนาคต
ดังนั้น หลินหยุนจำต้องหาสถานที่ เพื่อให้พลังอันรุนแรงในร่างกายของหลินซื่อเฉิง ได้สามารถ
ปลดปล่อยออกมา
ที่จริงแล้ว สถานที่ที่หลินหยุนพูดถึงนั้น ก็คือพวกสำนักขนาดเล็กของโลกบู๊โบราณที่เกิดขึ้น
มากมายในช่วงนี้
พลังความสามารถของพวกสำนักเหล่านี้ แม้ว่าจะแข็งแกร่งกว่าสำนักโลกบู๊ แต่ เจ้าสำนักของ
สำนักเหล่านี้ มีระดับพลังความสามารถขั้นปรมาจารย์เท่านั้นเอง
พอดีเลยที่จะให้หลินซื่อเฉิงลองทดสอบฝีมือดูบ้าง
ครั้นแล้ว พวกสำนักขนาดเล็กของโลกบู๊โบราณเหล่านั้น ก็ประสบกับความหายนะ
หลินหยุนได้พาหลินซื่อเฉิงทดสอบพลังฝีมือไปทั่ว โดยเจ้าสำนักเหล่านั้น ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ
หลินซื่อเฉิงเลย
หลินซื่อเฉิงตะโกนเสียงดังอย่างสุขสบายใจ โดยติดตามหลินหยุนไปสู้รบรังแกกับพวกสำนัก
ขนาดเล็กของโลกบู๊โบราณเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง
และในขณะเดียวกัน ภายในตระกูลหลินที่อูซู กลับต้อนรับการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
ฉินเห้าเทียนได้พาฉินเจียเฉียงที่พันแผลทั่วทั้งใบหน้า และเจ้าบ้านลู๋กับเจ้าบ้านเสิ่น รวมถึง
ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีหน้ามีตาทั้งหมดในอูซู มายังตระกูลหลิน
ห้องโถงที่กว้างขวางของตระกูลหลิน มีผู้คนอัดแน่นเต็มไปหมด
หลินซื่อเฉิงไม่อยู่ พี่คนโตของผู้อาวุโสตระกูลหลินทั้งห้า เป็นตัวแทนของหลินซื่อเฉิง ต้อนรับ
พวกแขกที่มาเยือน
ผู้คนที่มากันในครั้งนี้ คุณท่านหยันแห่งบริษัท ชิงหยัน กรุ๊ปมีสถานะที่สูงศักดิ์ที่สุด อิทธิพลอำนาจ
ของตระกูลหยันเทียบเท่าได้กับตระกูลหลิน
ลูกชายคนโตตระกูลหลินไม่กล้าที่จะเพิกเฉยไม่สนใจ
“คุณท่านหยันและทุกท่านได้มาเยือนตระกูลหลินของฉันอย่างกะทันหัน ถือว่าเป็นเกียรติต่อ
ตระกูลหลินของเราเป็นอย่างมาก! ”
“ทุกท่าน เชิญนั่งลงก่อน! ”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินต้อนรับทักทายแขกทุกคนด้วยความสุภาพ
คุณท่านหยันยกมือแสดงความเคารพต่อลูกชายคนโตตระกูลหลิน: “คุณหลิน ไม่ทราบว่าเจ้าบ้าน
ตระกูลหลินอยู่หรือไม่? ”
“เจ้าบ้านออกไปข้างนอก ถ้าหากทุกท่านมีธุระอะไร ก็สามารถพูดกับฉันได้” ลูกชายคนโต
ตระกูลหลินพูดขึ้น
คุณท่านหยันพยักหน้า: “ตกลง”
จากนั้น ก็หาที่นั่งนั่งลง
พวกผู้ยิ่งใหญ่แต่ละพื้นที่ในอูซู ต่างก็หาที่นั่งนั่งลง เช่นเดียวกับคุณท่านหยัน
สุดท้าย เหลือเพียงแค่ฉินเห้าเทียนกับเจ้าบ้านลู๋และเจ้าบ้านเสิ่นทั้งสามตระกูล ที่ยังคงยืนอยู่กับที่
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองไปยังฉินเจียเฉียงที่พันผ้าพันแผลทั้งศีรษะ ก็คาดเดาในใจขึ้นได้ถึง
วัตถุประสงค์ที่มาตระกูลหลินของพวกคนเหล่านี้
แต่ เขาคิดไม่ถึงว่า ฉินเห้าเทียนจะมีเกียรติมีหน้าตาที่ใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งสามารถเชิญผู้ยิ่งใหญ่ใน
สังคมระดับสูงเกือบทั้งอูซูให้มายังที่นี่ได้
“ดูเหมือนว่า สามเสือตระกูลกู่นี้ ช่างสมกับคำร่ำลือจริง ๆ! ” ลูกชายคนโตตระกูลหลินแอบ
ถอนหายใจ
แม้ว่าจะทราบถึงวัตถุประสงค์ของฉินเห้าเทียนที่มาในวันนี้แล้ว แต่ว่า พิธีการต้อนรับ ก็สมควร
ทำตามขั้นตอนอย่างเหมาะสม
ลูกชายคนโตตระกูลหลินยกมือแสดงความเคารพต่อฉินเห้าเทียน: “เจ้าบ้านฉิน เชิญนั่ง! ”
ฉินเห้าเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง: “ไม่ต้องยุ่งยากหรอก”
“ในเมื่อเจ้าบ้านตระกูลหลินไม่อยู่ อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ต้องรบกวนให้คุณหลินเป็นคนจัดการแล้ว”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินหนักอกหนักใจ เพราะฉินเห้าเทียนแสดงท่าทางที่ดุดัน!
ดูเหมือนว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ คงยากที่จะจบลงด้วยดีแล้ว
“ไม่ทราบว่าเจ้าบ้านฉินหมายถึงเรื่องอะไร? ” ลูกชายคนโตตระกูลหลินถามขึ้นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
ฉินเห้าเทียนชี้ไปที่ฉินเจียเฉียง และพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า: “เจียเฉียงลูกชายของฉันทำผิดอะไร ถึงได้ถูกคนของตระกูลหลินทำร้ายจนบาดเจ็บขนาดนี้? ”
“วันนี้ พวกนายตระกูลหลิน จะต้องชี้แจงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับพวกเรา! ”
คุณท่านหยันและพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซูเหล่านั้น ต่างก็ใช้สายตาที่ผิดแปลก มองมายังตระกูลหลิน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ว่า สามารถมองเห็นบาดแผลของ
ฉินเจียเฉียงได้อย่างชัดเจน
วัยรุ่นต่อให้กระทำผิดพลาดไปบ้าง ลงโทษเพียงเล็กน้อยก็พอสมควรแล้ว ทำไมถึงต้องลงมือหนัก
ถึงขนาดนี้ด้วย?
ตระกูลหลิน แทบจะกลายเป็นที่ดุด่าว่ากล่าวของคนจำนวนมากในเวลาเพียงชั่วครู่
ลูกชายคนโตตระกูลหลินโมโหขึ้นบ้างเล็กน้อย ตระกูลฉินนี้หน้าด้านเป็นอย่างยิ่ง ที่กล้าจะฟ้องร้อง
ขึ้นก่อนทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นฝ่ายผิด
แต่ว่า ในเมื่อตระกูลฉินได้ฉีกหน้ากันขนาดนี้ ลูกชายคนโตตระกูลหลินก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน โดยได้พูด
ขึ้นด้วยสีหน้าที่หนักอึ้ง
“เจ้าบ้านฉิน คุณคิดที่จะให้ตระกูลหลินของเราเป็นคนชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอดีเลยว่า ตระกูลหลินของเราก็ต้องการที่จะฟังคำชี้แจงของคุณด้วยเช่นกัน! ”
“วันนี้ ฉันจะถามขึ้นต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของอูซูทั้งหลายว่า ลูกชายของคุณทำไมถึงได้กระทำเรื่อง
ที่ชั่วช้า กับลูกหลานตระกูลหลินของพวกเราด้วย!”
“ทำการวางยาให้กับหญิงสาว พวกคุณตระกูลฉินควรที่จะชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับตระกูลหลิน
ของพวกเราด้วย! ”
เวลานี้ คุณท่านหยันรวมถึงพวกผู้ยิ่งใหญ่ของอูซูทั้งหลาย ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เดิมทีพวกเขาคิดว่าคนของตระกูลหลินลงมือหนักเกินไป
แต่ว่า ตอนนี้ได้ยินคำว่าวางยา ไม่เพียงแค่จะลงมือทำร้ายตระกูลฉินจนบาดเจ็บสาหัส ต่อให้ลงมือ
สังหารก็ยังถือว่าสมควร
วิธีการที่ชั่วช้าแบบนี้ พวกคนที่นั่งกันอยู่ที่นี่ ต่างก็รู้สึกละอายกับพฤติกรรมดังกล่าวนี้อย่างมาก
สายตาของทุกคน ที่มองไปยังพ่อลูกตระกูลฉิน เต็มไปด้วยความเหยียดหยามอย่างที่สุด
แต่ว่า ฉินเห้าเทียนกลับมีสีหน้าท่าทางที่สงบ เหมือนกับว่ามองไม่เห็นสายตาของคุณท่านหยัน
และคนอื่น ๆ
“คุณหลิน คุณพูดว่าลูกชายของฉันวางยากับลูกหลานตระกูลหลินของพวกคุณ ไม่ทราบว่ามี
หลักฐานหรือไม่? ”
“ถ้าหากคุณสามารถหาหลักฐานพบ อย่างนั้นฉันก็จะคุกเข่าขอโทษตระกูลหลินต่อหน้าทุกคน! ”
“ส่วนเรื่องที่ลูกชายฉันถูกทำร้าย ก็ถือว่าเขาสมควรที่จะได้รับมัน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณ
ตระกูลหลิน”
“แต่ ถ้าหากคุณไม่มีหลักฐาน อย่างนั้นก็เป็นการพูดกลบเกลื่อนทำให้เกิดความสับสน แล้วก็พูด
ใส่ร้ายตระกูลฉินของเรา! ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ตระกูลหลินของคุณ คงจะต้องอธิบายชี้แจงให้กับเราอย่างชัดเจน! ”
คำพูดนี้ของฉินเห้าเทียน พูดได้อย่างดูดี สมเหตุสมผล
คุณท่านหยันและพวกผู้ยิ่งใหญ่ของอูซูนั้น มองไปที่ฉินเห้าเทียน ด้วยสายตาที่ผ่อนคลายลง
อย่างมาก
บางที ตระกูลหลินอาจจะใส่ร้ายตระกูลฉินก็ได้ คิดต้องการที่จะฉวยโอกาสบิดเบือนความผิด
คุณท่านหยันมองไปที่ลูกชายคนโตตระกูลหลิน และพูดว่า: “คุณหลิน ฉันคิดว่าที่เจ้าบ้านฉินพูดนั้น
ก็มีเหตุผล! ”
“ทุกเรื่องต้องนำหลักฐานออกมายืนยัน มิเช่นนั้น ก็คือการใส่ร้าย”
“นอกจากนี้ เจ้าบ้านฉินก็พูดอีกว่า เพียงตระกูลหลินแสดงหลักฐานออกมา เขาก็จะคุกเข่าขอโทษ
ตระกูลหลินต่อหน้าทุกคน”
“เรื่องนี้ ฉันเองและพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซู ต่างก็สามารถเป็นพยานให้ได้! ”
“แต่ว่า พวกนายตระกูลหลินจะต้องแสดงหลักฐานออกมา ถ้าหากไม่มีหลักฐาน งั้นก็แสดงว่า
ตระกูลหลินกำลังใส่ร้ายตระกูลฉิน แบบนี้ตระกูลหลินก็คงจะต้องพูดชี้แจงให้กับตระกูลฉินแล้ว”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย แอบครุ่นคิดอยู่ในใจ
“จากที่ฉันรู้จักและเข้าใจในตัวของฉินเห้าเทียน เขาไม่ใช่คนที่ตรงไปตรงมาแบบนี้”
“อีกทั้ง เขาทราบดีว่าลูกชายของตนวางยาให้กับโร่สุ่ย แล้วยังกล้าพูดแบบนี้อีก นี่ไม่ใช่เป็นการยก
ก้อนหินขึ้นแล้วทุ่มลงใส่เท้าของตนเองเหรอ? ”
“ตกลงเขาคิดจะทำอะไรกันแน่? ”
“แต่ ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไร เพียงแค่เรียกโร่สุ่ยมาแล้วพูดคุยยืนยันกับลูกชายของเขาซึ่ง ๆ หน้า เรื่องราวความจริงก็คงจะได้รับการเปิดเผยขึ้นแล้ว! ”
“เวลานั้น มีคุณท่านหยันและพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซูเป็นพยาน จึงไม่ต้องกลัวว่าฉินเห้าเทียน
จะกลับคำพูด! ”
เมื่อครุ่นคิดเสร็จสิ้น ลูกชายคนโตตระกูลหลินก็ได้พูดขึ้นว่า: “ตกลง คุณต้องการหลักฐาน ตอนนี้
ฉันก็จะเรียกหญิงสาวที่เกือบจะถูกลูกชายของคุณวางยาคนนั้นมา เพื่อให้เธอยืนยันกับลูกชาย
ของคุณอย่างซึ่ง ๆ หน้า! ”