จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 916 ดำและขาว
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองไปยังหลินตงถิงที่อยู่อีกด้าน แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ตงถิง นายไปเรียกโร่สุ่ยมา!”
หลินตงถิงพยักหน้า “ครับ!”
จู่ๆ ฉินเห้าเทียนรั้งเขาไว้ “เดี๋ยวก่อน!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองฉินเห้าเทียน เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไม เจ้าบ้านฉินกลัวหรือไง จะกลับคำหรือไง”
ฉินเห้าเทียนหัวเราะหึหึ “กลัวงั้นเหรอ ฉันจะกลัวอะไร! ลูกชายฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นสักหน่อย!”
“ฉันแค่อยากบอกว่า ถ้าเผชิญหน้ากัน ตระกูลหลินเอาหลักฐานมาไม่ได้ จะทำยังไง”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินยิ้มเย็นชา “ถ้าตระกูลหลินเอาหลักฐานมาไม่ได้ ผมจะคุกเข่าขอโทษคุณ ต่อหน้าผู้มีชื่อเสียงคนใหญ่คนโตทั้งหลายของอูซุ!”
ฉินเห้าเทียนพูดเสียงดัง “ได้ คุณพูดเองนะคุณหลิน!”
จากนั้นฉินเห้าเทียนหันไปมองพวกคุณท่านหยัน “คุณท่านหยัน และเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ พวกคุณได้ยินสิ่งที่คุณหลินพูดแล้ว หวังว่าพวกคุณจะเป็นพยาน!”
คุณท่านหยันพูดอย่างเคร่งขรึม “เจ้าบ้านฉินวางใจเถอะ คุณหลินก็วางใจเถอะ ถ้าพวกคุณทั้งสองฝ่าย มีใครแพ้ แล้วไม่ทำตามคำสัญญา ผมและเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุที่อยู่ด้านหลัง ผมจะให้คนนั้นเป็นตัวอย่างของคนที่ไม่สามารถยอมรับได้!”
“อีกทั้งจะเอาสิ่งที่เห็นทั้งหมดในวันนี้ ป่าวประกาศไปทั่วทั้งจีน!”
ฉินเห้าเทียนชอบใจ “ได้ คำพูดของคุณท่านหยัน ผมเชื่อได้อยู่แล้ว!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินก็พูดว่า “คำพูดของคุณท่านหยัน ผมก็เชื่อเหมือนกัน”
ฉินเห้าเทียนมองลูกชายคนโตตระกูลหลิน แล้วพูดว่า “งั้นก็เชิญคุณหลินเอาหลักฐานออกมาสิ!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองหลินตงถิง “ไปเรียกโร่สุ่ยมา!”
“ครับ!” หลินตงถิงรีบเดินออกไป
ลูกชายคนโตตระกูลหลินหันไปมองฉินเห้าเทียน และคนอื่น จากนั้นแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “เจ้าบ้านฉิน ถ้าคุณกลับคำตอนนี้ ยังทันนะ!”
“อีกเดี๋ยวจะไม่มีโอกาสแล้ว!”
ฉินเห้าเทียนแสยะยิ้มเย็นชา “คุณหลินร้อนตัวเหรอ ไม่งั้นจะพูดกล่อมให้เรายอมแพ้ทำไม”
“หึ!” ลูกชายคนโตตระกูลหลินหันหลังไป และไม่สนใจ
ไม่นาน หลินโร่สุ่ยในชุดเดรสสีขาว งดงามราวกับเจ้าหญิงเอลฟ์ เดินตามหลินตงถิงมาถึงห้องโถงใหญ่
“ปู่ใหญ่!” หลินโร่สุ่ยทำความเคารพลูกชายคนโตตระกูลหลิน
“อืม!” ลูกชายคนโตตระกูลหลินพยักหน้าเบาๆ จากนั้นพูดอย่างเคร่งขรึม “โร่สุ่ย เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ให้ทุกท่านในที่นี้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ!”
“ให้พวกเขายอมแพ้!”
ระหว่างทางที่มา หลินตงถิงเล่าเหตุการณ์ที่ตระกูลหลินต้องเผชิญตอนนี้ ให้หลินโร่สุ่ยฟังแล้ว ตอนนี้หลินโร่สุ่ยรู้ว่าหน้าตาของตระกูลหลิน ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว
สายตาของหลินโร่สุ่ย มองจากพวกฉินเห้าเทียน ไปยังฉินเจียเฉียงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล
ทันใดนั้น ใบหน้าขาวของหลินโร่สุ่ย ฉายแววโมโห “ปู่ใหญ่ เป็นเขาค่ะ ฉินเจียเฉียงใส่ยาลงในเหล้า!”
“หลังโดนพี่หลินหยุนจับได้ เขาก็ยังไม่ยอมรับ สุดท้ายพี่หลินหยุนเจอซองยาในกระเป๋ากางเกงของเขา ต่อหน้านักเรียนทุกคน”
“เขาคิดจะทำร้ายพี่หลินหยุน และข่มขู่พี่หลินหยุน จากนั้นพี่หลินหยุนก็ต่อยเขา!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าบ้านฉิน ได้ยินหรือยัง”
จู่ๆ คุณท่านหยัน รวมถึงพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซุ ต่างมองฉินเห้าเทียนด้วยแววตาสงสัย
ราวกับทุกคนกำลังซักถามฉินเห้าเทียน
สถานการณ์ดีต่อตระกูลหลิน
ภายใต้แววตาซักถามของทุกคน ฉินเห้าเทียนกลับมีสีหน้าราบเรียบ
“คุณหลิน พวกนี้เป็นคำพูดของฝั่งตระกูลหลินเพียงฝ่ายเดียว น่าเชื่อถือไม่พอ!”
พูดจบ ฉินเห้าเทียนมองหลินโร่สุ่ย เขายักไหล่แล้วถามว่า “สาวน้อย เธอบอกว่าลูกชายฉันวางยาเธอ มีหลักฐานหรือเปล่า”
“มีใครเห็นหรือเปล่า”
หลินโร่สุ่ยเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย และไม่กลัวฉินเห้าเทียน “ตอนนั้นเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นทุกคน”
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันโทรหาพวกเขาตอนนี้ก็ได้ ให้พวกเขาเป็นพยาน!”
ฉินเห้าเทียนยิ้มบางๆ “โทรสิ โทรตอนนี้เลย!”
หลินโร่สุ่ยขมวดคิ้ว คนในตระกูลหลินก็แอบขมวดคิ้ว จู่ๆ ลูกชายคนโตตระกูลหลิน รู้สึกไม่ดีขึ้นในใจ
เห็นได้ชัดว่าฉินเห้าเทียนไม่หวาดกลัวเลย!
ตระกูลฉินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
หลินโร่สุ่ยขนหัวลุก เพราะสายตาของฉินเห้าเทียน ความอวดดีผุดขึ้นในใจ เธอพูดอย่างโมโห “โทรก็โทร!”
พูดจบ เธอรีบหยิบมือถือ และโทรหาเพื่อนนักเรียน
“ฮัลโหล หลี่ถิงใช่ไหม ฉันหลินโร่สุ่ยเอง วันนั้นที่เราไปงานปาร์ตี้วันเกิดของฉู่หมิงเฟิย ฉินเจียเฉียงวางยาในเหล้าฉัน เธอเห็นไม่ใช่เหรอ”
หลินโร่สุ่ยจงใจเปิดลำโพงมือถือ ทุกคนจะได้ยินคำตอบของหลี่ถิง ได้อย่างชัดเจน
ห้องโถงใหญ่ตระกูลหลิน ทุกคนกดลมหายใจเบาๆ เพื่อรอคำตอบของหลี่ถิง
ถ้าหลี่ถิงตอบว่าใช่ หรือเห็น งั้นตระกูลฉินก็แพ้
ทุกคนในตระกูลหลิน แอบกำหมัดเบาๆ หัวใจเต้นตึกตักจนแทบจะหลุดออกมา
ขนาดหลินตงถิงกับลูกชายคนโตตระกูลหลิน ก็แอบกังวลเหมือนกัน
เดิมทีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้พวกเขากลับกังวล ขนาดพวกเขาเองก็อธิบายไม่ถูก ว่ากำลังกังวลอะไร
หลี่ถิงเงียบเสียงไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ดังขึ้นมา ดูกังวล และตื่นตระหนก
“โร่สุ่ย ตอนนี้เสียงทางฝั่งฉันดังวุ่นวายมาก ไม่ได้ยินว่าเธอพูดอะไร ฉันมีธุระ ขอไม่คุยกับเธอก่อนนะ!”
จากนั้น ก็มีเสียงตัดสายดังออกมาจากมือถือโร่สุ่ย
วางสายแล้วเหรอ
นี่เรียกว่าเป็นหลักฐานไหม
ไม่ใช่แน่นอน
เพราะหลี่ถิงไม่ตอบอะไรสักอย่าง
คนในตระกูลหลินขมวดคิ้วแน่น ลูกชายคนโตตระกูลหลินยิ่งใจไม่ดีเข้าไปอีก
หลินโร่สุ่ยโมโหฟึดฟัด “หลี่ถิง ฉันอุตส่าห์เห็นเธอเป็นเพื่อนสนิท คิดไม่ถึงว่าจะตัดสายใส่ฉัน!”
ตรงกับคำพูดที่ว่าเพื่อนผู้ชายช่วยกัน ส่วนเพื่อนผู้หญิงหักหลังกัน!
ฉินเห้าเทียนหัวเราะด้วยสีหน้าได้ใจ “เป็นไง ไหนหลักฐานล่ะ”
หลินโร่สุ่ยถลึงตาใส่เขา แล้วพูดอย่างเย็นชา “ไม่ต้องรีบ ฉันจะโทรหาเพื่อนคนอื่น!”
พูดจบ หลินโร่สุ่ยโทรไปหาเพื่อนนักเรียนอีกคน
“ฮัลโหล หวงเหล่ยใช่ไหม”
จู่ๆ มีเสียงผู้ชายดังออกมาจากปลายสาย “ใช่ ฉันเอง เธอคือโร่สุ่ยเหรอ”
หลินโร่สุ่ยขมวดคิ้วเบาๆ รู้สึกโมโหในใจ ไอ้หมอนี่ยังชวนเธอไปดูหนัง ตอนปาร์ตี้วันเกิดของฉู่หมิงเฟิย
ตอนนี้ยังมาถามว่าเธอเป็นใคร
อย่าบอกนะว่า ขนาดเบอร์มือถือของเธอ เขายังไม่บันทึกเอาไว้
ถึงตอนนี้หลินโร่สุ่ยจะโกรธ แต่ก็ไม่สามารถระเบิดออกมาได้ เพราะหวังว่าหวงเหล่ยจะเป็นพยานให้เธอ
“หวงเหล่ย ฉันมีเรื่องจะถามนายเรื่องนึง นายต้องตอบฉันอย่างจริงจัง!” หลินโร่สุ่ยพูดอย่างจริงจัง สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
หวงเหล่ยพูดว่า “อืม เธอถามมาสิ!”
หลินโร่สุ่ยพูดว่า “เรื่องฉินเจียเฉียงวางยาในเหล้าฉัน ในงานปาร์ตี้วันเกิดของฉู่หมิงเฟิย นายยังจำได้ไหม”
จู่ๆ หวงเหล่ยพูดอย่างตกใจ “วางยา วางยาอะไร ทำไมฉันจำไม่ได้ว่ามีเรื่องนี้!”
“นาย……” หลินโร่สุ่ยอึ้งอยู่ที่เดิม เธอไม่เข้าใจ ทำไมหวงเหล่ยถึงโกหก
แต่เมื่อเห็นแววตาได้ใจของฉินเจียเฉียง ที่โผล่ออกมา แถมยังมีใบหน้าราบเรียบของฉินเห้าเทียนพ่อของเขา หลินโร่สุ่ยเข้าใจทันที พวกเพื่อนของเธอ คงโดนตระกูลฉินซื้อไปนานแล้ว
มิน่าล่ะ ฉินเห้าเทียนถึงไม่กลัวขนาดนี้ กล้าเผชิญหน้ากับเธอ ที่แท้ ตระกูลฉินเตรียมมาหมดแล้ว
กลัวว่าการมาตระกูลหลินในวันนี้ ก็เป็นแผนที่ตระกูลฉินเตรียมไว้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ฉินเห้าเทียนหัวเราะร่า “คุณหลิน แล้วก็คุณท่านหยัน รวมถึงผู้มีชื่อเสียงของอูซุทุกท่าน ทุกคนคงได้ยินแล้ว ตอนนี้คงเชื่อได้แล้วว่าลูกชายผมโดนใส่ร้าย!”