จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 932 ฉันแต่งกับเขา
นายท่านกู่โกรธจนสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้เขาเสียใจเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้ ทำไมตระกูลกู่ถึงเลี้ยงคนเนรคุณคนอย่างนี้
ขนาดใกล้ตาย ยังคิดจะดึงตระกูลกู่ให้ซวยไปด้วย
หลินซื่อเฉิงมองฉินเห้าเทียนด้วยใบหน้าเย็นชา “ที่แท้ พวกนี้เป็นฝีมือของนาย!”
“เพราะลูกชายนายวางยา เลยโดนจัดการ นายเลยอยากให้ตระกูลหลินไม่มีทางที่จะฟื้นตลอดไป”
“นายสมควรตาย!”
ตั้งแต่หลินซื่อเฉิงฝึกฝนมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความคิดอยากฆ่า
ฉินเห้าเทียนกลับไม่กลัว หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าบ้านหลิน ถึงทั้งหมดนี้เป็นฝีมือฉัน แล้วยังไง”
“ฉันเป็นพ่อค้าธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ใช่คนในโลกบู๊ของนาย นายฆ่าฉันไม่ได้ ไม่งั้นจะละเมิดสัญญากับโลกบู๊”
หลินซื่อเฉิงรู้สัญญาโลกบู๊กับโลกมนุษย์แล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงว่าฉินเห้าเทียนจะรู้เรื่องพวกนี้
สำหรับสัญญานี้ หลินซื่อเฉิงไม่อยากทำลายมัน
ดังนั้นตอนนี้หลินซื่อเฉิงลำบากใจเล็กน้อย เขาไม่กล้าประมาทฆ่าฉินเห้าเทียน
ขณะหลินซื่อเฉิงกำลังลังเล พลังทิพย์พลังหนึ่ง ทะลุเข้าไปกลางหน้าผากฉินเห้าเทียนอย่างเงียบๆ
ฉินเห้าเทียนที่กำลังหัวเราะ รอยยิ้มบนใบหน้าชะงักไป และก้มหน้าลง
จนตาย สีหน้าของเขายังฉายแววไม่อยากเชื่อ
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เจ้าบ้านลู๋ตกใจจนร้องอุทานออกมา และเป็นลมล้มลงไป
เจ้าบ้านเสิ่นก็หน้าซีดเผือด ขาทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด
ในมือคนพวกนี้ บางทีอาจเปื้อนไปด้วยชีวิตของคนมากมาย แต่การฆ่าคนต่อหน้าต่อตาแบบนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ถึงเป็นคนใหญ่คนโต ในสายตาคนธรรมดาอย่างพวกเขา ในใจก็หวาดผวาเป็นอย่างมาก
สีหน้านายท่านกู่ ฉายแววหวาดผวา หลินหยุนฆ่าอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ทำให้เขาอดกังวลถึงจุดจบของตัวเอง และตระกูลกู่ไม่ได้
นายท่านกู่ก็เป็นผู้มากประสบการณ์ รีบโค้งตัวทำความเคารพหลินซื่อเฉิง “น้องหลิน ก่อนหน้านี้ผมโดนสุนัขอย่างฉินเห้าเทียนหลอก จึงสร้างความลำบากใจให้ตระกูลหลิน หวังว่าน้องหลินจะเห็นแก่น้ำใจของทั้งสองตระกูล ที่เคยมีต่อกัน ไว้ชีวิตตระกูลกู่ด้วย”
หลินซื่อเฉิงมองนายท่านกู่ที่ทำความเคารพตัวเอง แต่ก่อนนายท่านกู่คนนี้ ไม่เคยมองตัวเองอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ตอนนี้ มาทำความเคารพตัวเองแบบนี้
หลินซื่อเฉิงอดหดหู่ใจไม่ได้
แต่เจ้าสำนักหยุนอยากฆ่าเขา เพื่อช่วงชิงวิชาฝึกฝนของเขา
กู่เจิ้งเหลยก็อยากฆ่าเขา ความแค้นนี้ หลินซื่อเฉิงยังไม่ลืม
“เจ้าบ้านกู่ ความสัมพันธ์ของเรา มันขาดไปตั้งแต่ตอนที่ตระกูลกู่มายกเลิกงานแต่ง ทำให้ลูกหลานตระกูลหลินอับอายแล้ว”
พูดจบ หลินซื่อเฉิงมองหลินโล่เฉินด้านหลัง
แต่ปฏิกิริยาของหลินโล่เฉินครั้งนี้ กลับนิ่งสงบ ไม่ได้สะเทือนใจอย่างที่หลินซื่อเฉิงจินตนาการไว้
นี่ทำให้หลินซื่อเฉิงรู้สึกยินดี
นี่หมายความว่า หลินโล่เฉินเดินออกจากเงามืด จากการยกเลิกงานแต่งของตระกูลกู่แล้ว
นายท่านกู่รีบพูดว่า “น้องหลิน ผมรู้ว่าเรื่องยกเลิกงานแต่ง ทำให้คุณไม่พอใจมาตลอด”
“ผมก็เข้าใจ เรื่องนั้นทำให้ตระกูลหลินลำบากใจมาก แต่เรื่องนั้นเป็นเพราะความคิดของยู่หลัน หลังผมรู้เรื่องนี้ ก็เคยอบรมเธอไปแล้ว ให้เธอไปขอโทษตระกูลหลิน”
“แต่ยัยเด็กนี่ดื้อดึงมาก ถึงจะบังคับแทบตาย ผมเลยไม่ถามอีก”
“เรื่องยกเลิกการแต่งงาน ไม่ใช่ความคิดของผมจริงๆ”
สาวงามที่ยืนเงียบๆ ข้างเจ้าบ้านกู่มาตลอด เดินออกมาช้าๆ
เธองดงามมาก ดูยโสมาก แต่ไม่ใช่การยโสแบบไร้สมอง แววตาที่เธอมองหลินหยุน เต็มไปด้วยความเคารพและเลื่อมใส
ความยโสของเธอ เป็นเพราะเธอเลือกทำกับคน
แววตาของเธอ ไม่ได้มองหลินซื่อเฉิง และไม่ได้มองหลินหยุน แต่มองหลินโล่เฉิน
“ใช่ ยกเลิกการแต่งงาน เป็นการตัดสินใจของฉันเอง เพราะฉันคิดว่าผู้ชายที่จะเป็นของกู่ยู่หลัน ต้องเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง”
“หลินโล่เฉิน นายเป็นผู้แข็งแกร่งหรือเปล่า”
นายท่านกู่ตกใจ รีบตำหนิว่า “ยู่หลัน อย่าไร้มารยาท!”
หลินซื่อเฉิงไม่พูดอะไร หลินหยุนก็หลับตาเงียบ
สายตาของทุกคน อยู่ที่หลินโล่เฉิน
ตอนนี้สีหน้าของหลินโล่เฉินนิ่งสงบมาก ไม่เหมือนกับสีหน้าตื่นตระหนก ตอนพูดถึงตระกูลกู่เมื่อก่อน
ครั้งนี้หลินโล่เฉิน นิ่งสงบจริงๆ เป็นความนิ่งที่ออกมาจากจิตใจ
เขามองกู่ยู่หลัน มองผู้หญิงคนนี้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ผู้หญิงที่ทำให้เขาตกนรก และเกือบเป็นผู้หญิงที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขา
“ผมไม่ใช่”
“แต่ตอนนี้ใช่แล้ว”
หลินโล่เฉินตอบอย่างนิ่งเฉย
นายท่านกู่รีบพูดว่า “สองสามปีมานี้ ผมเคยได้ยินความสำเร็จของโล่เฉิน คู่ควรกับยู่หลัน เพียงพอแล้ว”
“น้องหลิน วันนี้ยากมากที่สองตระกูลจะรวมตัวกัน รื้อฟื้นสัญญาแต่งงานของเด็กสองคนนี้ ทำความปรารถนาของนายท่านทั้งสองที่จากไปให้เป็นจริง คุณว่าเป็นไง”
หลินซื่อเฉิงขมวดคิ้ว นายท่านกู่ยกเรื่องแต่งงานมาพูด ในเวลาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นการเอาตัวรอด
แต่นี่เป็นความปรารถนา ของผู้อาวุโสทั้งสองตระกูลในตอนนั้นจริงๆ
หลินซื่อเฉิงก็ไม่อาจปฏิเสธ
หลินซื่อเฉิงมองหลินหยุน หลินหยุนยืนอยู่อีกด้าน หลับตาลงเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สนใจเรื่องนี้
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “สายน้ำไม่หวนคืน เรื่องนี้ ดูความคิดของเด็กทั้งสองคนแล้วกัน! เพราะตอนนี้ไม่ใช่ยุคที่นายท่านทั้งสองยังอยู่ คนหนุ่มสาวล้วนให้ความสำคัญกับความรักอย่างอิสระแล้ว!”
หลินซื่อเฉิงมองหลินโล่เฉิน แล้วพูดว่า “ถ้าทั้งสองคนคิดอะไรกัน สัญญาแต่งงานก็ไปต่อได้”
นายท่านกู่ยิ้มแล้วพูดว่า “น้องหลินคิดรอบคอบมาก งั้นก็เคารพความคิดของเด็กทั้งสองแล้วกัน!”
“ยู่หลัน ตอนนี้แกยังไม่พอใจกับการแต่งงานไหม”
กู่ยู่หลันส่ายหน้า “ถึงแม้ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน แต่เขายังไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งในใจฉัน”
“ถ้าจะแต่ง งั้นฉันจะแต่งกับเขา!” กู่ยู่หลันชี้ไปที่หลินหยุน
หลินหยุนลืมตา มองเธอนิ่ง จากนั้นก็หลับตาลงอีกครั้ง
กู่ยู่หลันเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ยอดเยี่ยมมากด้วย เป็นตัวของตัวเอง
อีกทั้งสไตล์การทำอะไรของเธอ มองออกเลยว่า เป็นผู้หญิงที่กล้ารักและกล้าเกลียด
แต่ทว่า นี่เป็นเพียงผู้หญิงที่ต้องการเอาชนะมาก
อยากเป็นผู้ชายของเธอ คงมีเพียงแค่เซียนอย่างหลินหยุนเท่านั้น
นี่เป็นผู้หญิงที่ยอมโดดเดี่ยวอย่างโอหัง และไม่ยอมรับใครง่ายๆ
มีเพียงผู้หญิงยอดเยี่ยมแบบนี้ ที่ทำให้คนมีความสามารถของตระกูลหลิน อย่างหลินโล่เฉิน เจ็บปวดเป็นที่สุด
นายท่านกู่มีสีหน้ากระอักกระอ่วน เขารีบตำหนิว่า “ยัยเด็กนี่ แกพูดอะไรไร้สาระ!”
“คนอย่างคุณหลิน คนธรรมดาอย่างแกจะเอื้อมถึงเหรอ!”
หลินซื่อเฉิงก็มองหลินโล่เฉินอย่างกระอักกระอ่วน เพราะคู่หมั้นของตัวเอง พูดว่าจะแต่งกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้า ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น ก็ยากที่จะรับได้เช่นกัน
แต่ครั้งนี้หลินโล่เฉิน กลับมีท่าทีนิ่งสงบ
“ขอบคุณที่ปู่เป็นห่วงผม แต่ตอนนี้ผมก้าวออกมาแล้ว”
“คุณหนูกู่ อันที่จริงผมควรขอบคุณคุณ!”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ขอบคุณครับ!”
หลินโล่เฉินเดินไปข้างหน้ากู่ยู่หลัน และโค้งให้อย่างเป็นกันเอง
ดูออกว่าเขาปล่อยวางแล้วจริงๆ
อีกทั้งหลินโล่เฉิน ยังได้เป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถอย่างยิ่ง ในตระกูลหลินรุ่นนี้ คงหนีไม่พ้นความสะเทือนใจจากการยกเลิกการแต่งงานกับกู่ยู่หลัน
ดังนั้นกู่ยู่หลัน ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ก็ไม่เลวเหมือนกัน