จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 933 ความอันตรายของตระกูลหลิน
หลินซื่อเฉิงมองหลินโล่เฉิน เขาเตรียมที่จะบ่มเพาะให้หลินโล่เฉิน เป็นเจ้าบ้านคนต่อไปของตระกูลหลิน
จากสายตาอันหลักแหลมของเขา มองออกอยู่แล้ว ตอนนี้ความใจกว้างและเมินฉยของหลินโล่เฉิน ไม่ได้แสร้งทำออกมา
ความนิ่งและใจเย็นนี้ มาจากข้างในจิตใจ
หมายความว่า หลินโล่เฉินได้เดินออกจากเงามืด ที่กู่ยู่หลันยกเลิกการแต่งงาน ในปีนั้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
หลินซื่อเฉิงปลาบปลื้มใจ “ดี ดี เดินออกมาได้ก็ดีแล้ว!”
ตอนนี้กู่ยู่หลัน ใจกระตุกวูบ ใบหน้าอันงดงาม ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
เธอมองหลินโล่เฉิน ที่ยิ้มให้กับเธอ ในใจกู่ยู่หลันรู้สึกเสียใจขึ้นมา
หลินโล่เฉินที่เป็นแบบนี้ ถึงจะคู่ควรให้เรียกว่าคนมีความสามารถ
ถึงแม้เขาจะยังไม่ใช่ผู้แข็งแกร่ง แต่ก็ใกล้ถึงเส้นทางของผู้แข็งแกร่งแล้ว
แต่ทว่าสายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ กู่ยู่หลันไม่สามารถให้สัญญาแต่งงานนี้ ดำเนินต่อไปได้ อีกทั้งถึงเธออยากให้มีต่อไป กลัวว่าหลินโล่เฉินจะไม่ยอมรับ
“ยินดีด้วย!”
กู่ยู่หลันย่อตัวลงเล็กน้อย เพื่อทำความเคารพแบบผู้หญิง
ความเคารพนี้กำหนดไว้แล้ว ปล่อยวาง ไร้ซึ่งทิฐิต่อกัน
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทั้งสองเป็นแค่คนแปลกหน้า
นายท่านกู่ถอนหายใจ รู้สึกเสียใจไม่สิ้นสุด
มีคนอย่างหลินหยุนอยู่ในตระกูลหลิน ต่อไปต้องก้าวหน้าอย่างฉุดไม่อยู่
ส่วนตระกูลกู่ของเขา สูญเสียเกราะป้องกันอย่างกู่เจิ้งเหลยและสำนักหยุน ต่อไปต้องตกระกำลำบากแน่นอน
ถ้าแต่งงานกับตระกูลหลินได้ ต้องมีผลดีต่อตระกูลกู่แน่นอน
อีกทั้งหลังแต่งงาน ตระกูลหลินจะไม่สร้างความลำบากใจให้ตระกูลกู่อีก
แต่ตอนนี้เพราะความดื้อดึงของกู่ยู่หลัน ทั้งหมดจึงล้มเหลว
ไม่รู้ว่าหลินหยุน จะยอมปล่อยเขาหรือเปล่า
หลินซื่อเฉิงมองหลินหยุน แล้วถามว่า “เสี่ยวหยุน นายยังมีอะไรจะพูดหรือเปล่า”
หลินหยุนส่ายหน้า
ฉินเห้าเทียนโดนเขาฆ่าตายแล้ว กู่เจิ้งเหลยก็ตายแล้วเหมือนกัน
สำหรับนายท่านกู่ ไม่ได้ทำผิดถึงตาย
อีกทั้งเชื่อว่าต่อไป ตระกูลกู่จะไม่กล้าหาเรื่องตระกูลหลินอีก
หลินซื่อเฉิงพยักหน้า แล้วพูดว่า “งั้นเรากลับกันเถอะ!”
“ได้” หลินหยุนพยักหน้า
เมื่อเห็นคนตระกูลหลินกำลังจะไป
นายท่านกู่กลับร้อนใจ หลินซื่อเฉิงรีบไปแบบนี้ ต้องการทำลายตระกูลกู่ทั้งตระกูลหรือเปล่า
“ช้าก่อนน้องหลิน!”
หลินซื่อเฉิงชะงักฝีเท้าลง หันมามองนายท่านกู่ “เจ้าบ้านกู่ยังมีอะไรเหรอ”
นายท่านกู่สีหน้าร้อนใจ “เรื่องเมื่อก่อน เพราะฉินเห้าเทียนหลอกลวง จึงทำให้ผมตัดสินใจผิดพลาด ล่วงเกินตระกูลหลิน”
“ตอนนี้ ผมยอมตายเพื่อขอโทษ หวังว่าน้องหลินจะยอมปล่อยตระกูลกู่!”
หลินซื่อเฉิงยิ้มบางๆ “เจ้าบ้านกู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว เราไม่เคยคิดเอาชีวิตใคร ฉินเห้าเทียนตายไปแล้ว ความบาดหมางระหว่างเราสิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้เราจะกลับตระกูลหลิน”
นายท่านกู่ยังไม่ค่อยอยากเชื่อ “คุณปล่อยตระกูลกู่จริงๆ เหรอ”
“เมื่อกี้เหล่าจู่ตระกูลกู่ กำลังจะเอาชีวิตคุณ!”
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “กู่เจิ้งเหลยตายไปแล้ว เจ้าบ้านกู่วางใจเถอะ ตระกูลหลินของผม ไม่เอาอำนาจมารังแกคน”
นายท่านกู่จึงเชื่อ รีบโค้งคำนับหลินซื่อเฉิง แล้วพูดว่า “น้องหลินใจกว้าง ทำให้ผมรู้สึกละอาย!”
“น้องหลินวางใจได้เลย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าลูกหลานตระกูลกู่ เจอคนตระกูลหลิน จะยอมถอยให้แน่นอน”
หลินซื่อเฉิงพูดว่า “เจ้าบ้านกู่พูดเกินไปแล้ว”
“ลาก่อน!”
นายท่านกู่โค้งคำนับ แล้วพูดว่า “ส่งเจ้าบ้านหลิน!”
พวกหลินซื่อเฉิง กลับจากเมืองหยุนเฉิง แต่ทว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ตระกูลหลินแห่งอูซุ เพิ่งต้อนรับแขกไม่ได้รับเชิญ
ผู้อาวุโสผิวดำ รูปร่างเตี้ย พากลุ่มคนเสื้อแดง ถีบประตูตระกูลหลินจนเปิดออก
ยามที่มีหน้าที่เฝ้าประตู โดนวัยรุ่นเสื้อแดงคนหนึ่ง ถีบจนกระเด็นไปไกล ไม่รู้เป็นหรือตาย
ความเคลื่อนไหวด้านนอก ทำให้คนตระกูลหลิน ที่อยู่ในลานด้านในตกใจ
หลินซื่อเฉิงไม่อยู่ หลินตงถิงรับหน้าที่ดูแลเรื่องภายในตระกูลหลิน
ไม่รอให้หลินตงถิงพาคนออกมา กลุ่มคนแต่งตัวประหลาด ยืนอยู่ในห้องโถงตระกูลหลิน
คนที่นำมาคือผู้อาวุโสผิวดำ รูปร่างเตี้ย กวาดตามองคนในตระกูลหลิน ด้วยใบหน้าเย็นชา
ใบหน้าของเขา ดูไม่สบอารมณ์ “หึ ในนี้ไม่มีนักบู๊แม้แต่คนเดียว จะฆ่าเจ้าเจ็ดได้ยังไง!”
มีชายชราด้านหลัง พูดเสียงเบา “เจ้าบ้าน ข่าวที่เราสืบได้ คนที่ฆ่าผู้อาวุโสเจ็ด คือเจ้าบ้านตระกูลหลิน”
คนตระกูลหลินมองแขกไม่ได้รับเชิญกลุ่มนี้ ความกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้า
เพราะการแต่งตัวของกลุ่มคนพวกนี้ ดูไม่เหมือนคนธรรมดา
น่าจะเป็นนักบู๊อีกแล้ว
ถึงคนพวกนี้บุกเข้ามาตระกูลหลิน แถมยังทำร้ายยามบาดเจ็บ หลินตงถิงไม่กล้าโมโห เพราะตอนนี้เจ้าบ้านกับหลินหยุนไม่อยู่
หลินตงถิงทำได้เพียงถามอย่างเกรงใจ “ทุกท่าน มาตระกูลหลินมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
ผู้อาวุโสผิวดำถามอย่างเย็นชา “ไหนเจ้าบ้านของพวกนายล่ะ”
“เจ้าบ้านไปเมืองหยุนเฉิง ตอนนี้ไม่อยู่ตระกูลหลิน” หลินตงถิงตอบ
“เหมาะเจาะจริงๆ ฉันมา แต่เขาไปงั้นเหรอ” ผู้อาวุโสผิวดำถามอย่างมีเลศนัย
“หรือจงใจหลบฉัน”
หลินตงถิงพูดว่า “ท่านพูดตลกแล้ว เรากับท่านไม่รู้จักกัน ทำไมต้องหลบท่านด้วยล่ะ”
ผู้อาวุโสผิวดำส่งเสียงหึอย่างเย็นชา “เขาฆ่าผู้อาวุโสเจ็ด จะไม่รู้จักฉันได้ยังไง!”
หลินตงถิงรีบอธิบายแก้ตัว “นายท่าน มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลในโลกมนุษย์ จะฆ่าผู้อาวุโสของพวกคุณได้ยังไง!”
เจ้าบ้านเซินส่งเสียงเย็นชา “นายไม่ต้องเล่นลิ้น ฉันให้เวลานายสิบนาที ให้เจ้าบ้านของพวกนายออกมา ไม่งั้น ฉันจะทำลายตระกูลหลินของพวกนายก่อน”
หลินตงถิงตกใจมาก ลูกหลานตระกูลหลินที่เหลือ หน้าเปลี่ยนสีทันที
ลูกหลานตระกูลหลินบางส่วน ที่ขี้ขลาด รีบพากันออกจากห้องโถง อย่างเงียบๆ
“บังอาจ!”
เสียงตำหนิดังขึ้น เจ้าสามในท่านผู้ใหญ่ตระกูลหลินทั้งห้า ได้ยินคำพูดของเจ้าบ้านเซินพอดี
“นี่คือจีน ถึงพวกคุณเป็นคนของโลกบู๊ ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจีน!”
“นักบู๊แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป แต่ไม่ถึงขั้นไม่มีขื่อมีแป!”
หลินตงถิงอธิบายว่า “นายท่าน ผมไม่ได้รังแกคุณจริงๆ เจ้าบ้านเราโดนตระกูลกู่เชิญไปเมืองหยุนเฉิง อย่าว่าแต่สิบนาทีเลย ถึงหนึ่งชั่วโมง ผมก็ไม่อาจตามเจ้าบ้านมาให้คุณได้”
“เอาแบบนี้ดีกว่า ผมโทรหาเจ้าบ้าน ให้เขารีบกลับมา พวกคุณไปพักผ่อนด้านโน้นก่อน เป็นไงครับ”
ในแววตาดุร้ายของเจ้าบ้านเซิน มีประกายน่าสะพรึงกลัวออกมา จ้องเจ้าสามตระกูลหลิน แล้วพูดว่า “กฎหมายของจีน มีเอาไว้บังคับพวกมดอย่างพวกนายเท่านั้น ทำอะไรฉันไม่ได้!”
“หลังผ่านไปสิบนาที ถ้าไม่เห็นเจ้าบ้านของพวกนาย ตระกูลหลินของพวกนาย อย่าหวังว่าจะรอดสักคน!”
พูดจบ เจ้าบ้านเซินกวักมือ กลุ่มลูกศิษย์ที่ใส่เสื้อแดง รีบเฝ้าประตูเอาไว้ เหมือนจะทำลายตระกูลหลินให้สิ้นซาก
คนในตระกูลหลินตกใจมาก รีบไปรวมตัวข้างหลินตงถิง ปรึกษากันเบาๆ
“รีบโทรหาเจ้าบ้านสิ คนพวกนี้ไม่เห็นกฎของโลกมนุษย์อยู่ในสายตา พวกเขาบอกว่าจะฆ่าคน ก็กล้าฆ่าจริงๆ”
“ ปู่สามคะ ทำยังไงดี เจ้าบ้านกับหลินหยุนไม่อยู่ ตระกูลหลินไม่มีใครต้านทานพวกเขาได้!”
หลินตงถิงสีหน้าจริงจัง “ผมจะโทรหาเจ้าบ้าน”
แต่หลังจากหลินตงถิงโทรหาหลินซื่อเฉิง เขาดูไม่ค่อยดีเท่าไร
“เป็นไปได้ยังไง! ไม่อยู่ในเขตบริการ!”
ท่านหลินสามหน้าเคร่งขรึม “ผมลองดู”
พูดจบ เขากดโทรหาเบอร์หลินซื่อเฉิง โทรไม่ติดจริงๆ
จากนั้น เขาก็โทรหาหลินโล่เฉินอีก แต่ก็ยังโทรไม่ติด
หลินตงถิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ดูเหมือนพวกเขาอยู่ที่ไหนสักที่ ในเมืองหยุนเฉิง โดนบล็อกสัญญาณไว้”