จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 945 เป็นคู่หมั้นตัวจริง
คาร์นอตวิลเลียมรีบเดินไปข้างหน้า ถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ใครเป็นคนจับคุณมาที่นี่กันแน่?”
“บอกผมมา ผมจะไปฆ่าไอ้เลวบัดซบที่สมควรตายคนนั้น!”
อีหลิงไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ร้องไห้ไม่หยุด ไหล่ทั้งสองข้างก็สั่นสะท้านไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนว่าตกใจกลัวมาก
ดวงตาของคาร์นอตวิลเลียมก็แดงก่ำไปหมด “คนพวกนั้นรังแกคุณหรือเปล่า? คุณได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ฉันจะต้องฆ่าพวกเขาให้ได้ ฉันจะต้องฆ่าคนทั้งหมดที่นี่ให้หมดเลย!”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่หลินหยุนมอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้ฉันมา” อีหลิงก็หยิบเอาป้ายหยกตรงหน้าอกที่หลินหยุนเคยให้เธอออกมา
ตอนที่เธอจัดงานวันเกิดนั้น หลินหยุนมอบของขวัญวันเกิดให้เธอ ป้ายหยกชิ้นนี้ เคยต้านท้านการโจมตีจากปรมาจารย์มาแล้ว
เมื่อได้ยินว่าอีหลิงมีป้ายหยกคุ้มกายอยู่ คาร์นอตวิลเลียมก็ใจเย็นลงบ้างเล็กน้อย
“ขอชื่นชมเทพแห่งสว่างที่สมควรตาย หลินหยุน คุณได้ทำเรื่องที่ถูกต้องอย่างแท้จริงแล้ว!”
หลินหยุนพยายามระงับไฟแค้นในใจไว้ แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “รีบออกจากที่นี่ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
“อยู่ในนี้ จะทำให้อีหลิงรู้สึกไม่สบายใจ”
คาร์นอตวิลเลียมรีบพยักหน้า “ใช่ รีบออกจากที่นี่ไปก่อน”
“เดินไหวไหมครับ? ถ้าไม่ไหวให้ผมแบกคุณไปเถอะ!” คาร์นอตวิลเลียมมองดูอีหลิงด้วยสีหน้าจริงใจ
อีหลิงหน้าแดง พูดเสียงเบาว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแต่ตกใจเท่านั้นเอง ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว”
คาร์นอตวิลเลียมพูดว่า “ไม่ได้ ให้ผมแบกคุณไปดีกว่า!”
พอพูดจบ ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงแบกอีหลิงขึ้นหลัง แล้วก้าวเดินออกไป
ใบหน้าที่สะสวยของอีหลิง ก็รู้สึกแดงเรื่อ พูดอย่างเขินอายว่า “ปล่อยฉันลงเถอะ ฉันเดินเองได้!”
“ไม่ได้ รอให้ออกจากที่นี่ไปก่อน ผมค่อยปล่อยคุณลงมา” คราวนี้คาร์นอตวิลเลียมแข็งขืนมาก
หลินหยุนพูอย่างเรียบๆว่า “ให้เขาแบกคุณเถอะ เมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องกับคุณ เขาก็เป็นห่วงมากจริงๆ”
อีกทั้งความเร็วของพวกเราก็ไวมาก คุณเดินตามไม่ทันหรอก”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดเตือนเช่นนั้น อีหลิงก็ไม่ปฏิเสธอีก
มองดูเงาร่างของคาร์นอตวิลเลียมแล้ว สายตาของอีหลิงก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลอ่อนโยนขึ้น
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่า ชาวตะวันตกที่หน้าตาทะเล้นนิสัยทะลึ่งตึงตังคนนี้ ความจริงแล้วก็เป็นคนที่แสนดีทีเดียว
โดยเฉพาะที่ว่า คาร์นอตวิลเลียมในฐานะที่เป็นเชื้อพระวงศ์ของเผ่าโลหิต ไม่ว่าจะมองจากสายตาของชาวตะวันตกหรือชาวตะวันออกก็ตาม เขาก็ยังเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ได้มาตรฐานคนหนึ่ง
คาร์นอตวิลเลียมแบกร่างของอีหลิงออกจากคฤหาสน์ ภายในลานบ้านนั้น ชายหนุ่มพวกนั้นก็หายสาบสูญไปแล้ว
เมื่อมาถึงประตูทางเข้านั้น หลินหยุนพบว่า แม้แต่คนเฝ้าเวรยามก็ยังจากไปแล้ว
คิดว่าคนพวกนี้น่าจะไปส่งข่าวให้กับคนของตระกูลหงแล้ว
“ฮื่อ นับว่าพวกเขาหนีไปได้เร็ว!” คาร์นอตวิลเลียมพูดด้วยความรู้สึกเสียดาย เดิมทีเขาคิดอยากจะฆ่าคนเพื่อระบายความโกรธ ตอนนี้ถึงกับไม่เห็นใครเลยแม้แต่คนเดียว
“วางใจเถอะ พวกเขาหนีไม่รอดหรอก” หลินหยุนสีหน้าไร้ความรู้สึกมองไปยังประตูใหญ่ที่เขียนชื่อสวนแดงสองตัวนั้น แววตาส่องประกายจิตสังหารที่เยือกเย็นออกมา
ที่นี่คือเจียงหนาน หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมก็ส่งอีหลิงกลับไปยังตระกูลอี
ส่วนอีหยุ่นเมื่อรู้ว่าหลินหยุนจู่ๆก็มาหา จึงรีบนำคนตระกูลอีออกมาต้อนรับ
“อีหยุ่นขอคารวะปรมาจารย์หลินครับ!” อีหยุ่นโค้งคำนับหลินหยุนอย่างนอบน้อม
หลังจากนั้น สายตาของอีหยุ่นก็มองไปยังอีหลิงที่ยืนอยู่ข้างๆหลินหยุน
“ลูกหลิงก็กลับมาด้วย” อีหยุ่นพูดด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่า เขายังไม่รู้เรื่องที่อีหลิงถูกคน จับตัวไป
หลินหยุนพูดว่า “พ่อบ้านอีครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณหน่อย”
เมื่อเห็นสีหน้าหลินหยุนที่เคร่งขรึม อีหยุ่นก็รีบพูดอย่างจริงจัง “เชิญตามผมมาครับ!”
อีหยุ่นกก็ให้ผู้คนตระกูลอีถอยออกไปก่อน หลังจากนั้นก็พาหลินหยุนทั้งสามคนมาถึงห้องของตัวเอง
“ปรมาจารย์หลินเชิญนั่งครับ ลูกหลิง รินน้ำชาให้กับปรมาจารย์หลินสิ!” อีหยุ่นก็มองไปยังอีหลิง
หลินหยุนพูดว่า “ไม่ต้องหรอกครับ”
“อีหลิง ใครเป็นคนลักพาตัวคุณไปกันแน่ บอกกับพวกเราได้เลย!”
อีหลุ่นหน้าเปลี่ยนสี แล้วหันไปมองอีหลิงอย่างตกใจ ราวกับมีเรื่องอยากจะสักถาม
เมื่อเห็นอีหลิงพยักหน้า อีหยุ่นสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที พลังความองอาจของผู้กล้าก็ปรากฏออกมา
“ใครกล้าลักพาตัวอีหลิงลูกสาวของฉัน!”
อีหลิงมองไปยังหลินหยุน ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้จักกับคนนั้น แต่ว่าเขากลับพูดอย่างมั่นใจว่าฉันเป็นคู่หมั้นของเขา!”
“เขาขังฉันไว้อยู่ในห้อง เดิมทีคิดจะรังแกฉัน แต่ว่าโชคดีที่มีป้ายหยกคุ้มกายที่พี่หลินหยุนมอบให้ เขาทำอะไรฉันไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไปหาคนมาทำลายยันต์คุ้มภัยในป้ายหยกนั้น”
“โชคดีที่พวกคุณมาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นแล้ว ฉันคงได้แต่เลือกที่จะตายอย่างเดียว”
พอพูดจบ อีหลิงดูเหมือนยังมีความหวาดผวาอยู่ สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด
หลินหยุนเข้าใจดีว่า อีหลิงคงไม่ใช่พูดเกินความเป็นจริง ด้วยนิสัยที่แข็งกร้าวของเธอแล้วถ้าหากถูกคนรังแกจริงๆละก็ เธอจะต้องยอมตายเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างแน่นอน
นี่ทำให้จิตสังหารในใจของหลินหยุนเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ถ้าหากว่าเขามาถึงช้าไปกว่านี้ ถ้าหากเขาหาตัวคาร์นอตวิลเลียมไม่ทันตามเวลา ถ้าหากคนนั้นสามารถไปหาคนมาทำลายยันต์คุ้มภัยในป้ายหยกได้ก่อนที่เขาและคาร์นอตวิลเลียมมาถึงล่ะ
เช่นนั้นแล้ว อีหลิงจะต้องถูกเขาข่มเหงอย่างแน่นอน ต่อให้พวกเขาสามารถหาอีหลิงพบแล้วก็จริง ก็คงได้แต่เห็นศพที่เย็นแข็งทื่อเท่านั้นเอง
เมื่อชาติที่แล้ว โชคชะตาของอีหลิงก็น่าอนาถมากจนทำให้หลินหยุนเจ็บใจไม่น้อยแล้ว
ในชาตินี้ หลินหยุนเคยสาบานกับตัวเองว่า จะต้องไม่ทำให้อีหลิงได้รับความทุกข์ทรมานใจอีกอย่างเด็ดขาด
แต่ว่า ตอนนี้ถึงกับมีคนกล้ามาลักพาตัวอีหลิงไป แล้วยังคิดจะทำมิดีมิร้ายกับอีหลิงอีก
หากคนนี้ไม่ตาย ในใจของหลินหยุนจะไม่มีวันสงบลงได้
คาร์นอตวิลเลียมก็แหกปากด่าทอว่า “โอ๊ย ฉันทนไม่ไหวอีกแล้ว หลินหยุน พวกเรากลับไปตอนนี้เลย ไปฆ่าไอ้คนชั่วเลวบัดซบพวกนั้น!”
“กล้ามารังแกนางฟ้าในดวงใจของฉัน ฉันจะฆ่าพวกเขาให้หมดเลย!”
ตอนนี้ สีหน้าของอีหยุ่นย ก็เปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมาทันที
“ลูกหลิง ลูกบอกว่าคนนั้นแทนตัวเองว่าเป็นคู่หมั้นของลูกเหรอ? เขาอายุเท่าไหร่? มีชื่อว่าอะไรล่ะ?”
สายตาหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมมองไปยังอีหยุ่นก พวกเขารู้สึกว่า อีหยุ่นดูเหมือนนึกอะไรบางอย่างออกมาได้แล้ว
อีหลิงพูดว่า “อายุน่าจะโตกว่าลูกหลายปี ราวยี่สิบต้นๆ สำเนียงที่พูดก็แปลกๆ ลูกได้ยินเขาพูดภาษาอังกฤษเวลาคุยโทรศัพท์”
“อ๋อใช่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งกลับมาจากอเมริกา!”
หลินหยุนพูดขึ้นทันทีว่า “สถานที่นั้นเรียกว่า สวนแดง!”
อีหยุ่นปีหน้าเปลี่ยนสี “ใช่เขาจริงๆด้วย!”
“เขากลับมาได้ยังไง!”
อีหลิงถามด้วยความสงสัยว่า “พ่อคะ หรือว่าพ่อรู้จักคนนี้ด้วยเหรอ?”
อีหยุ่นก็พยักหน้า มองดูอีหลิงแล้วพูดด้วยความรู้สึกผิดว่า “เป็นเพราะพ่อสะเพร่าเอง พ่อคิดว่าเจ้าเด็กตระกูลหงคนนั้นจะไม่กลับมาอีกแล้ว จึงได้ลืมเรื่องนี้ไปหมดเลย”
“ใครจะไปคิดว่า เขาถึงกับกลับมาแล้ว ยังแอบลักพาตัวลูกไปอีก!”
“พ่อคะ เขาเป็นใครกันแน่?” อีหลิงถาม
อีหยุ่นกพูดว่า “เขาเป็นคู่หมั้นของลูกจริงๆ หงเหวินหาว คุณชายตระกูลหง!”
“อะไรนะ!” คาร์นอตวิลเลียมถึงกับอึ้งไปเลย
วุ่นวายมาตั้งครึ่งค่อนวัน ที่แท้กลับเป็นคู่หมั้นของอีหลิงจริงๆ
อีหลิงถามด้วยความไม่เข้าใจว่า “พ่อคะ นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่คะ?”
อีหยุ่นพูดว่า “อย่ารีบร้อน ลูกฟังพ่อพูดก่อน”
“การหมั้นหมายครั้งนี้ ความจริงแล้ว เป็นเพราะคุณปู่ของลูกและนายท่านตระกูลหงเคยตกลงกันไว้ก่อนแล้ว”
“ตอนนั้น คุณปู่ของลูกและนายท่านตระกูลหงต่างก็ได้รอดพ้นจากความตายมาด้วยกัน หลังจากนั้นก็ได้ร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูจนมีชีวิตรอดกลับมาได้ จึงกลายเป็นเพื่อนสนิทที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมา”
“ทั้งสองคนจึงคิดอยากจะเกี่ยวดองกันเป็นญาติสนิทกัน เพื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
“แต่ว่า ตอนนั้นพ่อก็ได้แต่งงานมีเมียไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเลือกคนรุ่นหลานออกมาคู่หนึ่ง เพื่อจะได้สมดังใจปรารถนาของนายท่านทั้งสอง”
“ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงกันว่า ถ้าพ่อมีลูก ก็จะต้องให้ลูกแต่งงานเกี่ยวดองเป็นญาติกับตระกูลหง”
“แต่ว่าพ่อก็มัวแต่ยุ่งเรื่องธุรกิจครอบครัว ก็ยังไม่มีลูกสักที เจ้าเด็กตระกูลหงคนนั้นก็ไปอเมริกาแล้ว ดังนั้นเรื่องหมั้นหมายนี้ก็ถือว่ายกเลิกไปเลย”