จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 961 สำรวจเขาเทพจันทรา
อีหยุ่นมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า:”ถึงแม้หงซิงกั๋วเสียชีวิตไปแล้ว แต่ตระกูลหงก็ยังคงมีอำนาจอยู่ และตระกูลหงก็ยังมีตระกูลอื่นๆที่เป็นลูกน้องของพวกเขา ซึ่งคนพวกนี้ก็ยังคงอยู่”
“พวกเราต้องระแวดระวังคนพวกนี้ด้วย”
หลินหยุนพูดเบาๆว่า:”เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล ในเมื่อหงซิงกั๋วได้เสียชีวิตแล้ว คนพวกนี้ก็คงไม่ยอมรับใช้ตระกูลหงอีก”
“ตอนนี้พวกเขาคงจะกำลังตีตนออกห่างจากตระกูลหง คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยต่อพวกเรา”
หลินหยุนมั่นใจในตัวเองมากๆ เขาอยู่บนยอดเขาจื่อจิง ฆ่าหงซิงกั๋วต่อหน้าสี่ตระกูลใหญ่และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพ และยังทำให้ตระกูลจ้าวต้องอับอายขายขี้หน้าด้วย
เรื่องที่เขาทำสามารถทำให้ลูกน้องที่รับใช้ตระกูลหงเกิดความหวาดกลัว
ถ้าเรื่องแค่นี้พวกเขายังมองไม่ออก ถ้างั้นพวกเขาก็ไม่คู่ควรเป็นลูกน้องของตระกูลหงแล้ว
เพราะตระกูลหงเป็นตระกูลใหญ่ๆของชาวจีน พวกเขาไม่เลือกคนโง่มาเป็นลูกน้องของตัวเองอยู่แล้ว
อีหยุ่นพยักหน้า:”ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะไม่มาแก้แค้นให้ตระกูลหง แต่มันก็ต้องมีคนบางส่วนที่จงรักภักดีต่อตระกูลหง”
หลินหยุนพูด:”คุณพูดมาก็มีเหตุผลเหมือนกัน เรื่องเหล่านี้คุณไปจัดการละกัน!”
“ได้!”อีหยุ่นโค้งคำนับทันที
หลินหยุนมองไปที่อีหลิง:”ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณต้องระมัดระวังตัวด้วย ถ้าเจอปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ ให้รายงานฉันทันที อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
อีหลิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและกะพริบตาอันสวยงามของตัวเองทันที:”อืม ฉันจำไว้แล้ว พี่หลินหยุนวางใจได้!”
หลินหยุนหันหลังและมองไปที่คาร์นอตวิลเลียมแล้วพูด:”ไปเถอะ พวกเราไปเขาเทพจันทรากันเถอะ”
คาร์นอตวิลเลียมส่ายหัวและพูด:”ฉันไม่อยากไป ฉันจะอยู่ข้างๆอีหลิง”
หลินหยุนมองไปที่เขาและถามด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์:”คุณแน่ใจเหรอ? คำชี้แนะของเทพธิดาแห่งชีวิต คุณไม่อยากไปดูเหรอ?”
คาร์นอตวิลเลียมขมวดคิ้วทันที สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลังเลและลำบากใจ
เขามาที่ประเทศจีน เหตุผลแรกเพราะเขาต้องการหลีกเลี่ยงการโดนไล่ตามฆ่าจากดยุกแดร็กคิวล่า ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือต้องการมาหาสิ่งของที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งเอาไว้
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ อีหลิงเกือบจะได้รับอันตราย ทำให้คาร์นอตวิลเลียมเป็นห่วงอีหลิงมากๆ
ดูเหมือนเธอจะอ่านความคิดในใจของคาร์นอตวิลเลียมออก อีหลิงหัวเราะและพูดด้วยความเห็นอกเห็นใจ:”คุณวางใจและไปได้เลย หลังจากนี้ฉันจะอยู่แต่ในโรงเรียน ไม่เกิดปัญหาอะไรกับฉันอย่างแน่นอน!”
คาร์นอตวิลเลียมมองอีหลิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นก็มองที่หลินหยุน เขาอยากไปมากๆ แต่เขาเป็นห่วงและไม่อยากปล่อยให้อีหลิงอยู่คนเดียว
อีหลิงรู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ ในตอนแรกเธอรู้สึกว่าคาร์นอตวิลเลียมเป็นคนเหลาะแหละ ชอบพูดอะไรโอเวอร์ และนิสัยต่างจากชาวจีนมากๆ
อย่างไรก็ตาม หลังจากรู้จักกันนานขึ้น เธอถึงเข้าใจว่าคาร์นอตวิลเลียมไม่ใช่คนที่เหลาะแหละ แต่มันเป็นเพียงวิธีการพูดแบบชาวตะวันตก
และอีหลิงก็มองออกอย่างชัดเจน คาร์นอตวิลเลียมเป็นห่วงเธอมากๆจากใจจริง
โดยเฉพาะครั้งนี้ คาร์นอตวิลเลียมต้องการหาเธอให้เจอ เขายอมสูญเสียอายุขัยของตัวเอง เรื่องนี้ทำให้เธอซาบซึ้งมากๆ
“เรื่องของหงเหวินหาว เป็นปัญหาที่คนรุ่นก่อนทำเอาไว้ เรื่องแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นในอนาคตอีกแน่นอน”
“ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าคำชี้แนะของเทพธิดาแห่งชีวิตคืออะไร แต่ฉันรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญต่อคุณมากๆ คุณวางใจและไปได้เลย!”
อีหลิงพูดทั้งหมดด้วยความจริงจัง เธอไม่อยากให้คาร์นอตวิลเลียมเสียใจภายหลังเพราะเธอ
คาร์นอตวิลเลียมตัดสินใจทันที:”โอเค ถ้างั้นเธอต้องระมัดระวังตัวให้มากๆ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ต้องบอกพวกเราทันที ถึงแม้ต้องใช้อายุขัยของฉันจนหมด ฉันก็จะต้องหาเธอให้เจอจนให้ได้”
“อืม ฉันเชื่อคุณ”อีหลิงพยักหน้าแรงๆ เธอมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเกิดขึ้นในจิตใจ
จู่ๆคาร์นอตวิลเลียมก็คุกเข่าข้างเดียว และดึงมือของอีหลิงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบจูบที่หลังมือของเธอทันที
“ฉันคาร์นอตวิลเลียมแดร็กคิวล่า ขอสาบานต่อบรรพบุรุษโลหิตด้วยฐานะอัศวิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณหนูอีหลิงจะเป็นองค์หญิงที่ฉันคอยปกป้อง ไม่ว่าความมืดมิดจะดับสูญ ความสว่างจะหายสาบสูญไป แต่คำสาบานของฉันจะยังคงอยู่ตลอดไป!”
อีหลิงไม่ทันได้ตั้งตัว เธอหน้าแดงทันทีและรีบดึงมือของตัวเองกลับมาทันที:”คุณ ทำไมคุณต้องสาบานด้วย?”
หลินหยุนพูด:”นี่ไม่ใช่คำสาบานธรรมดาทั่วไป เมื่อเผ่าโลหิตใช้บรรพบุรุษโลหิตมาสาบาน มันเป็นคำสาบานที่หนักแน่นมากๆ พวกเขาจะรักษาคำสัญญาและทำตามจนกว่าพวกเขาจะเสียชีวิต”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินหยุน ทำให้อีหลิงยิ่งกังวลมากขึ้น
และหัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้น
อีหลิงไม่รู้จะใช้คำพูดไหนมาอธิบายความรู้สึกในตอนนี้ของตัวเอง และเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงกับคำสารภาพรักของคาร์นอตวิลเลียม
“คุณรีบๆไปได้แล้ว!”
อีหลิงรีบพูดออกมา เธอหันหลังและวิ่งหนีไปทันที
อีหยุ่นเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาขมวดคิ้วทันที แต่หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ
ทุกคนต่างมีความทุกข์และความสุขของตัวเอง เรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถควบคุมได้
เมื่อเห็นอีหลิงวิ่งหนี คาร์นอตวิลเลียมรู้สึกงงมากๆและมองไปที่หลินหยุนทันที:”ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?”
หลินหยุนยิ้มเบาๆ:”คุณไม่ได้พูดอะไรผิดเลย”
“พวกเราไปกันได้หรือยัง?”
คาร์นอตวิลเลียมชี้ไปยังทิศทางที่อีหลิงวิ่งหนีไป:”ฉันรู้สึกว่าองค์หญิงของฉันกำลังโกรธใช่ไหม?”
หลินหยุนพูด:”คุณวางใจ เธอไม่ได้โกรธอย่างแน่นอน”
ชาวจีนและชาวตะวันตกมีการแสดงความรักที่แตกต่างกัน เรื่องนี้เขาไม่รู้จะอธิบายกับคาร์นอตวิลเลียมยังไง คงต้องให้เขาไปสัมผัสด้วยตัวเอง
เมื่อได้ยินคำตอบจากหลินหยุน ทำให้คาร์นอตวิลเลียมโล่งอกทันที:”อ้อ ได้เลย พวกเราไปกันเถอะ!”
เขาเทพจันทรา ใกล้ๆกับแม่น้ำโล่ ณ ทางเหนือของเว่ยเหอ
พวกเขาเสียเวลาไปหลายวัน ในที่สุดหลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมก็มาถึงเขาเทพจันทราอีกครั้ง ครั้งนี้มีนักบู๊จำนวนมากอยู่ที่นี่ และนักบู๊ครั้งนี้ก็มากกว่าครั้งที่แล้ว
หลินหยุนพบว่านักบู๊เหล่านี้ มีนักบู๊จำนวนมากมาจากโลกบู๊โบราณ
เนื่องจากนักบู๊ของโลกบู๊โบราณ ฝึกวิชาที่แข็งแกร่งกว่านักบู๊ทั่วไป ดังนั้นแค่มองจากพลังก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน
คาร์นอตวิลเลียมมองนักบู๊เหล่านั้นและพูดเบาๆ:”ดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะพบแล้วว่าสถานที่นี้ไม่ธรรมดา พวกเรารีบขึ้นภูเขากันเถอะ”
หลินหยุนพูด:”ไม่ต้องกังวล”
ถ้าตรงนี้มีคำชี้แนะที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งเอาไว้ มันจะหาเจอง่ายๆได้ยังไง
ครั้งที่แล้ว ตอนที่หลินหยุนจะจากไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังของวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งของนางฟ้าเย่เยว่ นั้นเป็นวิชาการบำเพ็ญเซียนชั้นสูง
ถ้าเย่เยว่สร้างค่ายกลไว้ตรงนี้ ถ้าอาศัยแค่พลังของนักบู๊ที่อยู่บนโลก ไม่สามารถเปิดมันได้อย่างแน่นอน
หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมค่อยๆเดินตามนักบู๊เหล่านั้นขึ้นภูเขาไป
ครั้งนี้ ระหว่างทางขึ้นภูเขาไม่เจอด่านอะไรเลย เห็นได้อย่างชัดเจน ด่านเหล่านั้นถูกถอนออกไปแล้ว
หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียมขึ้นไปถึงยอดเขาได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อถึงยอดเขา หลินหยุนพบว่าบนยอดเขามีคนเยอะมากๆ
ด้านบนยอดเขา มีทะเลสาบวงกลม ในเวลานี้ พื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ใกล้ๆทะเลสาบ มีนักบู๊รวมตัวกันร้อยกว่าคน
ถึงแม้คนเหล่านี้จะรวมตัวกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆก็จะพบว่าพวกเขาได้แบ่งเป็นห้ากลุ่มแล้ว
“คนเยอะจัง!”คาร์นอตวิลเลียมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ
“ไปเถอะ พวกเราไปดูกันเถอะ”หลินหยุนพูดเบาๆและเดินไปที่คนรวมตัวกัน
เมื่อเดินเข้าไปใกล้แล้ว หลินหยุนพบว่าคนเหล่านี้เป็นคนของโลกบู๊โบราณทั้งหมด
ในจำนวนนี้ ยังมีคนของสำนักอู๋จี๋ที่เขาเคยเจอที่ถ้ำของเซียนป้ายเยว่
“ที่นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำให้คนของห้าสำนักใหญ่จากโลกบู๊โบราณมารวมตัวกันที่นี่!”มีชายชราคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยความสงสัย
ถึงแม้น้ำเสียงของชายชราจะไม่ได้ดังมาก แต่หลินหยุนกลับได้ยินอย่างชัดเจน
ตอนนี้หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมยืนอยู่ด้านหลังฝูงชน ทำให้พวกเขาไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านใน แต่จากน้ำเสียงที่ได้ยิน ดูเหมือนด้านในกำลังทะเลาะกันอยู่
ได้ยินเสียงวัยรุ่นคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา:”หึ คนของวังเทพหิมะใช้อำนาจบาตรใหญ่มากเกินไปแล้ว!”
“ตรงนี้ไม่ใช่อาณาเขตของวังเทพหิมะ ทำไมพวกเราสำนักชิงชางถึงเข้ามาไม่ได้!”