จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 962 ห้าสำนักใหญ่ของโลกบู๊โบราณ
หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมพยายามเดินผ่านฝูงชน พวกเขาเห็นวัยรุ่นใส่เสื้อสีฟ้าคนหนึ่งอยู่ท่ามกลางชายชราหลายคน เขามองผู้หญิงใส่กระโปรงสีขาวหลายๆคนที่มีผ้าแพรปิดหน้าด้วยท่าทางเย่อหยิ่งและพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าสำนักน้อยหลอพูดถูกแล้ว วังเทพหิมะมีอำนาจอะไรมายึดสถานที่แห่งนี้ไว้คนเดียว!”
ผู้หญิงใส่กระโปรงสีขาวพูดอย่างเย็นชา:”เพราะวังเทพหิมะของพวกเราหาสถานที่นี้เจอเห็นคนแรก!”
“ดังนั้นพวกคุณต้องจากไป!”
หลอหยวนป้าที่เป็นเจ้าสำนักน้อยของสำนักชิงชางหัวเราะอย่างเย็นชา สีหน้าที่ซีดขาวของเขาเผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา:”พวกเธอค้นพบสถานที่แห่งนี้ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นของพวกเธอเหรอ”
“ถ้างั้นฉันพบเห็นพวกเธอ พวกเธอก็เป็นของฉันใช่ไหม? ฮ่าๆๆๆ……”
หลอหยวนป้าหัวเราะออกมาด้วยเจ้าเล่ห์ ผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่เข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อออกมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็หัวเราะตาม สายตาที่พวกเขามองผู้หญิงใส่กระโปรงขาวก็ร้อนแรงมากขึ้น
มีวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆหลินหยุนถอนหายใจ:”วังเทพหิมะเป็นสำนักที่มีแต่ผู้หญิงล้วน และผู้หญิงทุกคนก็สวยมากๆ แต่พวกเธอนั้นเย็นชามากๆเหมือนกัน”
วัยรุ่นอีกคนที่อยู่ข้างๆก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์:”พวกเธอเย็นชาหรือเปล่า ต้องลองนอนกับพวกเธอสักคนสองคนก็จะรู้เอง ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้าพวกเธอตกมาอยู่ในมือของฉัน ฉันจะทำให้พวกเธอร้อนแรงเอง”
วัยรุ่นคนนั้นมองไปที่เขา:”คุณฝันไปเถอะ คุณอยากจะโดนแม่มดเฒ่าของวังเทพหิมะตามฆ่าเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำว่าแม่มดเฒ่าทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของวัยรุ่นคนนั้นนิ่งไปเลย และร่างกายของเขาก็สั่นเพราะความหวาดกลัว
“ประมุขวังเทพหิมะ เป็นผู้หญิงที่บ้าคลั่งมากๆ สมัยก่อนมีผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักชิงชางไปแตะเนื้อต้องตัวลูกศิษย์ผู้หญิงคนหนึ่งของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ และโดนเธอหาข้ออ้างและฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น”
“แม้แต่เจ้าสำนักชิงชางมาขอร้องด้วยตัวเอง แต่ผู้หญิงบ้าคลั่งคนนั้นก็ไม่รับปาก เพราะเรื่องนี้เกือบจะทำให้สองสำนักต้องเปิดศึกสู้รบกัน ถ้าสี่ค่ายใหญ่ไม่ออกมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ โลกบู๊โบราณน่าจะเกิดสงครามและความวุ่นวายแล้ว
หลินหยุนครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ดูเหมือนว่าประมุขวังเทพหิมะคนนี้จะหวงลูกศิษย์มากๆ ถ้าเธอรู้ว่าตัวเองแอบฆ่าลูกศิษย์ของเธอไปหลายคน เธอคงจะตามฆ่าฉันอย่างแน่นอน
ลูกศิษย์ของวังเทพหิมะที่โดนหลอหยวนป้าพูดลวนลาม เธอดึงกระบี่ที่อยู่ในมือออกมาทันที เธอชี้ไปที่หลอหยวนป้าและพูด:”ถ้ายังกล้าพูดจาลวนลามอีก ฉันจะฆ่าคุณ:”
คนอื่นๆที่อยู่ข้างๆหลอหยวนป้า ก็ดึงกระบี่ออกมาเหมือนกัน พวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลย
“หึ ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าสี่ค่ายใหญ่ พวกเราคงฆ่าล้างวังเทพหิมะของพวกเธอไปนานแล้ว”
“คนของวังเทพหิมะชอบพูดว่าตัวเองสวยงามและบริสุทธิ์ไม่ใช่เหรอ? หลังจากฆ่าล้างวังเทพหิมะของพวกเธอแล้ว ฉันจะให้พวกเธอได้ลิ้มลอง’ยาลวงรัก’ที่ฉันทำขึ้นมา”
“หลังจากนั้นก็ยกพวกเธอทั้งหมดให้ลูกน้องของสำนักชิงชาง ดูสิว่าพวกเธอยังสามารถรักษาความบริสุทธิ์ไว้ได้ไหม?”
ลูกน้องของสำนักชิงชางเหล่านั้นก็หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ทันที:”ขอบคุณเจ้าสำนักน้อยมากๆ!”
“พวกคุณอยากตายใช่ไหม!”
ลูกศิษย์หญิงของวังเทพหิมะทั้งหมดโกรธมากๆ ถึงแม้พวกเขาจะใช้ผ้าแพรปิดหน้าตัวเองอยู่ แต่ก็สามารถคาดเดาได้ สีหน้าตอนนี้ของพวกเธอคงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
ถึงแม้หลินหยุนจะไม่รู้ว่ายาลวงรักคืออะไร แต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ มันไม่ใช่ของดีอย่างแน่นอน
ดูเหมือนว่าเจ้าสำนักน้อยของสำนักชิงชางคนนี้ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน
เมื่อมองจากเหตุการณ์นี้ ก็ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าสำนักต่างๆในโลกบู๊โบราณก็ไม่ได้ปรองดองกัน พวกเขามีปัญหาและขัดแย้งกัน ถ้าไม่ใช่เพราะสี่ค่ายใหญ่คอยไกล่เกลี่ย พวกเขาคงต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นลูกศิษย์หญิงทั้งหมดของวังเทพหิมะดึงกระบี่ออกมา คนของสำนักชิงชางก็ไม่ยอมอ่อนข้อ พวกเขาก็ดึงอาวุธออกมาเหมือนกัน
แต่สามสำนักที่เหลือ พวกเขาไม่ได้พูดอะไร และดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความดีใจ
พวกเขากำลังรอให้สำนักชิงชางกับวังเทพหิมะเปิดศึกต่อสู้กัน หลังจากนั้น พวกเขาก็จะกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
จู่ๆก็มีเสียงพูดดังขึ้น ลมหอมโชยมา มีผู้หญิงเสื้อขาวคนหนึ่งพุ่งมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของลูกศิษย์หญิงของวังเทพหิมะทันที
ผู้หญิงคนนี้ใส่เสื้อสีขาว และแต่งตัวเหมือนกับลูกศิษย์ของวังเทพหิมะ แต่เสื้อที่หน้าอกของเธอมีลายปักกระบี่เล็กๆอยู่
“นางหิมะ เธอคือนางหิมะ!”
“นางหิมะมาแล้ว ดูเหมือนว่าวังเทพหิมะจะให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้มากๆ!”
ในฝูงชนมีเสียงถอนหายใจและพูดคุยดังขึ้นทันที
ลูกศิษย์หญิงทั้งหมดของวังเทพหิมะต่างโค้งคำนับทันที:”คารวะนางหิมะ!”
“ไม่ต้องแสดงความเคารพแบบนี้ก็ได้!”นางหิมะพูดกับลูกศิษย์เหล่านั้น จากนั้นเธอก็มองไปที่เจ้าสำนักน้อยของสำนักชิงชางด้วยสายตาเย็นชา
“หลอหยวนป้า คุณโดนฉันสั่งสอนเมื่อครั้งที่แล้ว คุณลืมไปแล้วเหรอ?”
คนของสำนักชิงชางรู้สึกตื่นเต้นและกังวลทันที
หลอหยวนป้าที่เป็นเจ้าสำนักน้อยของสำนักชิงชางถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างเงียบๆ เขาแน่ใจแล้วว่าตัวเองห่างจากนางหิมะระยะหนึ่งและอยู่ในระยะที่ปลอดภัย เขาถึงพูดอย่างกล้าหาญ:”นางหิมะ ฉันรู้ว่าตัวเองสู้คุณไม่ได้ ฉันยอมแพ้”
แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่อาณาเขตของวังเทพหิมะ พวกคุณวังเทพหิมะมีสิทธิ์อะไรไล่คนอื่นจากไป!”
“คุณลองถามทุกคนดูสิ พวกเขาจะยอมจากไปไหม?”
เห็นได้ชัดว่าคนของสำนักชิงชางหวาดกลัวนางหิมะมากๆ เขาถึงได้ดึงสามสำนักอื่นเข้ามาด้วย เพื่อกดดันวังเทพหิมะ
ผู้รับผิดชอบของสำนักอื่นๆถึงแม้จะโกรธสำนักชิงชางที่ดึงพวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่พวกเขาโกรธวังเทพหิมะที่ต้องการสถานที่แห่งนี้เพียงคนเดียวมากกว่า
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักอู๋จี๋พูดอย่างเคร่งขรึม:”เจ้าสำนักน้อยหลอพูดถูกแล้ว สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่อาณาเขตของวังเทพหิมะ สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นของพวกคุณเพียงคนเดียว”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของเขาหยุนซูก็พูดอย่างเย็นชา:”นางหิมะถึงแม้จะแข็งแกร่งมากๆ แต่เธอจะสู้พวกเราสี่สำนักร่วมมือกันได้เหรอ? อยากจะได้สถานที่แห่งนี้เพียงคนเดียว ฉันขอเตือนให้คุณคิดให้ดีๆก่อน!”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักต้าหลินพูดด้วยน้ำเสียงปกติ:”นางหิมะ ในเมื่อทุกคนก็มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว ทุกคนมีสิทธิ์อยู่ที่นี่และค้นหามัน ถ้าสถานที่แห่งนี้มีโบราณสถานจริงๆ ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าไป พวกคุณจะเอาโบราณสถานเป็นของตัวเองคนเดียวไม่ได้”
ผู้รับผิดชอบของทุกสำนักเปิดปากพูดแล้ว ทำให้ลูกศิษย์ของสำนักเหล่านั้นรีบตะโกนออกมาทันที:”ใช่แล้ว วังเทพหิมะมีสิทธิ์อะไรเอาโบราณสถานเป็นของตัวเองคนเดียว!”
“ทุกคนมีสิทธิ์เข้าไปโบราณสถาน!”
คาร์นอตวิลเลียมพูดอย่างเย็นชา:”ดูเหมือนคนเหล่านี้มาสถานที่แห่งนี้เพราะต้องการของล้ำค่าที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งเอาไว้!”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร ตรงนี้เป็นโบราณสถานไม่ผิดแน่นอน
แต่ไม่รู้จริงๆว่าเทพจันทราทิ้งอะไรเอาไว้ที่นี่?
ถ้าสามารถหาเบาะแสได้ และสามารถยืนยันว่าเทพจันทราคือเย่เยว่ มันก็สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน เย่เยว่ได้กลับมาเกิดใหม่ที่โลกมนุษย์จริงๆ
นางหิมะมองเห็นทุกคนที่พูดอย่างบ้าคลั่งและดีใจ เธอมองพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและหุบปากทันที
ถึงแม้เธอจะมีผ้าแพรปิดหน้า แต่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงสีหน้าที่เย็นชาที่อยู่ในผ้าแพรปิดหน้า
“ถ้าฉันบอกพวกคุณว่าสถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับเทพหิมะละ?”
“พวกคุณยังอยากจะเข้าไปหรือเปล่า?”
น้ำเสียงของนางหิมะเย็นชามากๆ และทุกคนก็ได้ยินน้ำเสียงอันเย็นชาของเธอ
เทพหิมะ!
ทุกคนตกตะลึงมากๆ!
หลินหยุนพึ่งได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก
ตรงนี้คือภูเขาเทพจันทรา แล้วมันจะเกี่ยวข้องกับเทพหิมะได้ยังไง?
บางทีมันอาจจะเป็นข้ออ้างที่วังเทพหิมะต้องการเอาสถานที่แห่งนี้เป็นของตัวเองเพียงคนเดียวก็ได้
หลอหยวนป้าพูดอย่างเย็นชา:”นางหิมะ คุณบอกว่าสถานที่แห่งนี้เกี่ยวข้องกับเทพหิมะ คุณมีหลักฐานอะไรมายืนยัน?”
“ถ้าคุณสามารถเอาหลักฐานออกมายืนยันได้ พวกเราก็จะไม่แย่งโบราณสถานของเทพหิมะกับวังเทพหิมะอยู่แล้ว”
นางหิมะพูดอย่างเย็นชา:”ฉันไม่มีหลักฐานมายืนยัน แต่ฉันสัมผัสได้ ตรงนี้มีพลังที่เทพหิมะเหลือเอาไว้”
“ฮ่าๆๆๆ……”
หลอหยวนป้าหัวเราะเสียงดังออกมา:”ถึงแม้วังเทพหิมะอยากได้โบราณสถานแห่งนี้เป็นของตัวเองเพียงคนเดียว พวกคุณก็ไม่ควรหาข้ออ้างแบบนี้มาหลอกพวกเรา!”
“ฉันก็สัมผัสได้เหมือนกันว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังที่เหล่าจู่ของสำนักชิงชางเหลือเอาไว้? ใครสามารถยืนยันได้? ใครสามารถยืนยันได้!”
ผู้อาวุโสของสำนักต้าหลินคนนั้นก็พูดทันที:”นางหิมะ เรื่องของพลังนั้น มันเป็นเรื่องที่พูดยาก ถ้าคุณเอาหลักฐานมายืนยันไม่ได้ งั้นก็ฟังข้อเสนอของฉันแล้วกัน”
“พวกเราทุกคนช่วยกันหาทางเข้าโบราณสถาน หลังจากที่เข้าไปโบราณสถานแล้ว พวกเราก็ใช้ความสามารถของตัวเอง ใครหาสิ่งของได้ ของสิ่งนั้นก็เป็นของเขา”
“ทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอของฉันไหม?”