จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 965 เจ้าพระคุณ
ผู้รับผิดชอบและลูกศิษย์ของสำนักต่างๆ ร่วมมือกันและปล่อยหมัดโจมตีไปที่ประตูบานแสงพร้อมกัน
ตูมๆๆๆ……
เสียงตูมดังขึ้นไม่หยุด
หลังจากนั้น ก็ตามมาด้วยเสียงตกใจและเสียงด่าทันที
เพราะพลังที่ทุกคนโจมตีออกไป กลับโดนค่ายกลกีดขวางสะท้อนกลับมาทันที
มีคนที่ไม่ได้ระวังตัว โดนพลังที่สะท้อนกลับมาโจมตีและได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
นักบู๊ทั้งหลายตะโกนด่าทันที พวกเขาหวาดกลัวและโกรธด้วย
คนของวังเทพหิมะต่างหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
คนพวกนี้หาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ
สีหน้าของหลอหยวนป้าแย่มากๆและด่าออกมาทันที:”นี่มันเป็นค่ายกลกีดขวางอะไรกันแน่ มันสามารถสะท้อนพลังโจมตีได้!”
ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะมีแต่ความโกรธ แต่จิตใจของเขาตกตะลึงมากๆ เพราะค่ายกลกีดขวางอันนี้แข็งแกร่งมากๆ แข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้
ในความรู้ของนักบู๊นั้น ค่ายกลกีดขวางถูกสร้างจากพลังอันแข็งแกร่ง ถ้าพลังที่โจมตีแข็งแกร่งกว่าพลังของค่ายกลกีดขวาง ก็จะสามารถทำลายค่ายกลกีดขวางได้เลย
อย่างไรก็ตาม เขาคาดคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าค่ายกลกีดขวางของโบราณสถานอันนี้ มันพิเศษกว่าค่ายกลกีดขวางที่พวกเขารู้จัก เพราะมันสามารถสะท้อนการโจมตีได้!
มันกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทันทีเลย
ผู้รับผิดชอบของสำนักต่างๆก็มีสีหน้าที่แย่มากๆเหมือนกัน
เพราะค่ายกลกีดขวางประเภทนี้ พวกเขาไม่รู้จักและไม่เคยได้ยินมาก่อน
คาร์นอตวิลเลียมถอนหายใจเบาๆ:”สิ่งของที่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งไว้ให้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถมองเห็นได้!”
“อย่างไรก็ตาม ตามบันทึกที่ฉันเคยอ่าน ก็ไม่ได้บอกว่าสถานที่แห่งนี้มีค่ายกลกีดขวางด้วย!”
“พวกเขาเข้าไปไม่ได้ พวกเราก็เข้าไปไม่ได้เลยเหรอ?”
หลินหยุนไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่เขากลับมองไปที่ประตูแสงบานนั้นและครุ่นคิดทันที
พลังที่ถูกปล่อยออกมาจากประตูแสง ก็คือพลังของวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งที่เขาสัมผัสได้ ขณะที่เขามาหาคาร์นอตวิลเลียมเมื่อครั้งที่แล้ว
“นี่คือวิชาที่เย่เยว่ฝึกฝนอยู่!”
และวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งนั้น มีคนที่ฝึกสำเร็จในโลกนับพันนับหมื่นในจักรวาลเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
เพราะวิชาประเภทนี้ไม่ใช่วิชาแห่งการต่อสู้ มีเพียงคนอย่างเย่เยว่ที่ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีเท่านั้น ถึงได้ชอบฝึกฝนวิชาประเภทนี้
สามารถพูดได้ว่าการที่วิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งปรากฏที่นี่ มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเย่เยว่เคยปรากฏตัวบนโลกใบนี้
“ไปเถอะ พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”
จู่ๆหลินหยุนก็พูดคำนี้ออกมาและเดินไปที่ชายฝั่งทะเลสาบทันที
คาร์นอตวิลเลียมอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ตอบสนองได้ รีบเดินตามไปทันที:”คุณหมายความว่าไง? คุณสามารถทำลายค่ายกลกีดขวางได้เหรอ?”
หลินหยุนไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่เขาสองมือไขว้หลังและบินตรงไปที่ประตูบานแสงนั้นทันที
คาร์นอตวิลเลียมตามอยู่ด้านหลังหลินหยุนด้วยความรู้สึกงงมากๆ
“สองคนนั้นกำลังจะทำอะไร!”
“พวกเขาบ้าไปแล้วเหรอ? พวกเขาไม่รู้ว่าด้านหน้ามีค่ายกลกีดขวางเหรอ!”
นักบู๊เหล่านั้นสนทนากันทันที
มีบางคนยิ้มด้วยความดีใจและดูถูกเหยียบหยาม
“พวกเราทั้งหมดลงมือโจมตีพร้อมกัน ยังไม่สามารถทำลายค่ายกลกีดขวางได้ สองคนนี้กลับคิดจะทำลายค่ายกลกีดขวางให้ได้ พวกเขาฝันไปหรือเปล่า น่าตลกสิ้นดี!”
ลูกศิษย์ของวังเทพหิมะก็พูดอย่างเย็นชา:”นางหิมะ ยังมีอีกสองคนไม่ยอมตัดใจ!”
นางหิมะมองไปที่หลินหยุนและคาร์นอตวิลเลียม เธอไม่พูดอะไร แต่เธอกลับขมวดคิ้วทันที
ยิ่งเข้าใกล้ประตูแสง หลินหยุนก็ยิ่งสัมผัสได้มากขึ้น
พลังของวิชามหากรุณาสร้างสรรพสิ่งยิ่งอยู่ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ในขณะที่เขาเข้าใกล้ประตูแสงประมาณห้าเมตร จู่ๆหลินหยุนก็หยุดอยู่กลางอากาศ
ถ้าเดินหน้าอีกนิดเดียว ก็คือค่ายกลกีดขวางแล้ว
คาร์นอตวิลเลียมที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้นมาทันที:”คุณสามารถทำลายค่ายกลกีดขวางอันนี้ได้เหรอ?”
“ลองดูก่อน!”หลินหยุนพูดเบาๆ หลังจากพูดจบเขาก็ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปทันที และค่อยๆดันออกไปทางข้างหน้าทันที
ในอากาศมีคลื่นที่มองเห็นด้วยตาเปล่าค่อยๆปรากฏทันที
ประตูแสงได้ปล่อยแสงอบอุ่นออกมา หลังจากนั้นหลินหยุนก็เดินผ่านเข้าไปในค่ายกลกีดขวางได้โดยที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง
“เข้ามาเร็วๆ!”หลินหยุนหันหลังและมองไปที่คาร์นอตวิลเลียม
“อ๊าก อ่อ!”คาร์นอตวิลเลียมยังคงตกตะลึงอยู่ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของหลินหยุน เขาก็เดินเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
เขาก็เหมือนกับหลินหยุนเลย เขาสามารถเดินเข้าไปในค่ายกลกีดขวางได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวางอะไรเลย และเขาก็เดินมาอยู่ข้างๆหลินหยุน
“พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ”หลินหยุนพูดเบาๆ เมื่อพูดจบเขาก็หันหลังและเดินเข้าไปในประตูแสงทันที
คาร์นอตวิลเลียมรีบตามเข้าไปทันทีเพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกัน
เมื่อเห็นทั้งสองคนหายเข้าไปในประตูแสงแล้ว ทุกคนที่ยืนอยู่บนชายฝั่งต่างก็เงียบและไม่พูดอะไร
เพราะทุกคนอึ้งไปเลย และมองเห็นเหตุการณ์นี้อย่างเหลือเชื่อ
“เขาเข้าไปในค่ายกลกีดขวางแล้ว!”
“มันเป็นไปได้ยังไง!”
“พวกเรามีคนตั้งมากมายยังทำไม่ได้เลย เขาทำได้ยังไง!”
นักบู๊ทุกคนตกตะลึงมากๆ
คนของห้าสำนักใหญ่ทั้งโกรธทั้งแค้น
ลูกศิษย์ของวังเทพหิมะอุทานด้วยความตกใจและพูด:”นางหิมะ พวกเขาสองคนเข้าไปในค่ายกลกีดขวางแล้ว!”
ตอนนี้นางหิมะตกตะลึงมากๆไม่น้อยกว่าพวกเธอ
ลูกศิษย์หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆนางหิมะพูดอย่างเคร่งขรึม:”เธอรีบกลับไปบอกเรื่องนี้กับประมุข บอกว่าเจ้าพระคุณปรากฏตัวแล้ว!”
ลูกศิษย์หญิงคนนั้นอึ้งไปชั่วครู่ แต่เธอเป็นคนฉลาดและรู้ว่าอะไรควรถาม อะไรไม่ควรถาม
“รับทราบ!”
ลูกศิษย์หญิงคนนั้นรีบไปรายงานประมุขทันที
หลอหยวนป้าที่ได้สติคืนมารีบพูดทันที:”ยังรออะไรอยู่ พวกเราเข้าไปในค่ายกลกีดขวางแล้ว ถ้าพวกเราไม่ตามเข้าไปตอนนี้ แล้วจะเข้าไปตอนไหน!”
ทันใดนั้น ทุกคนพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง และพุ่งไปทางประตูแสงทันที
ตูมๆๆๆๆ……
ผลลัพธ์เหมือนเดิม ทุกคนชนเข้ากับค่ายกลกีดขวาง และคนส่วนใหญ่ก็ตกลงไปในน้ำ กลายเป็นลูกหมาตกน้ำ
“ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้!”
มีนักบู๊ตะโกนด้วยความสิ้นหวัง
“ทำไมพวกเขาสองคนถึงเข้าไปได้ แต่พวกเราเข้าไปไม่ได้!”
สีหน้าของหลอหยวนป้าดูแย่มากๆ เขาขมวดคิ้วและครุ่นคิด
“พวกคุณได้สังเกตไหม? สองคนนั้น มีอยู่คนหนึ่งไม่ใช่ชาวจีน”จู่ๆหลอหยวนป้าก็พูดกับผู้รับผิดชอบของสำนักต่างๆทันที
ดวงตาของผู้อาวุโสของสำนักต้าหลินเปล่งประกายทันที:”ใช่แล้ว มีอยู่คนหนึ่ง เป็นชาวตะวันตก!”
“หรือว่าค่ายกลกีดขวางอันนี้ไม่กีดขวางชาวตะวันตก?”
ผู้อาวุโสของสำนักอู๋จี๋พูด:”พวกคุณไม่ได้สังเกตเหรอ คนที่เข้าไปคนแรกคือชาวตะวันออก!”
“ถ้าพูดอย่างนี้ก็แสดงว่าเด็กคนนั้นมีวิธีเปิดค่ายกลกีดขวางได้!”
“น่าเสียดาย ตอนนี้เด็กคนนั้นได้เข้าไปในโบราณสถานแล้ว พวกเราไม่สามารถถามเขาได้”
หลอหยวนป้าพูดอย่างเย็นชา:”เรื่องนี้ไม่ยาก ในเมื่อเขาเข้าไปในค่ายกลกีดขวางแล้ว เขาก็ต้องออกมาจากค่ายกลกีดขวางอยู่แล้ว!”
“พวกเราก็นั่งรอเขาอยู่ตรงนี้ รอจนเขาออกมาก็ได้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งของที่พวกเขาได้จากด้านใน ก็จะกลายเป็นของพวกเรา!”ดวงตาของหลอหยวนป้าฉายแววโหดเหี้ยมอำมหิตออกมาทันที
ผู้อาวุโสของสำนักอู๋จี๋พูด:”ใช่แล้ว พวกเรารอเด็กหนุ่มคนนั้นออกมา!”
นางหิมะมองดูประตูแสงบานนั้นอย่างเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าจิตใจตอนนี้ของเธอนั้นตกตะลึงมากๆแค่ไหน
“คิดไม่ถึงจริงๆ ตำนานของเทพหิมะที่ทิ้งไว้จะเป็นเรื่องจริง!”
“เด็กหนุ่มคนนั้น สามารถเข้าไปในค่ายกลกีดขวางได้!”
หลังจากที่หลินหยุนกับคาร์นอตวิลเลียมเข้ามาในประตูแสงแล้ว ด้านในกลับเป็นอีกทิวทัศน์หนึ่ง
ด้านหลังประตูแสงคือแผ่นดินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ
มีวังแห่งหนึ่งอยู่กลางหิมะ เป็นวังแห่งนี้เกาะสลักจากน้ำแข็ง มันใสสะอาดมากๆและสวยมากๆด้วย
ด้านหน้าวังคือลานกว้างๆ ในลานกว้างนี้มีรูปปั้นอันหนึ่งยืนอยู่
รูปปั้นนั้นคุกเข่าข้างเดียว และกำลังทำความเคารพวังอยู่
บริเวณรอบๆของรูปปั้น ยังมีรูปปั้นคนที่ทำจากน้ำแข็งสิบสองอัน พวกเขายืนตัวตรง ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีชีวิต แต่พวกเขาก็ดูน่าเกรงขามมากๆ
“ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?”คาร์นอตวิลเลียมอุทานออกมา:”บันทึกของเทพธิดาแห่งชีวิตที่ทิ้งไว้ ไม่ได้อธิบายสถานที่แห่งนี้เลย”
หลินหยุนมองไปที่รูปปั้นและครุ่นคิด:”บางทีสถานที่แห่งนี้อาจจะไม่ใช่เทพธิดาแห่งชีวิตทิ้งไว้ให้ก็ได้”
รูปปั้นอันนั้น สามารถมองออกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดโบราณ แต่ใบหน้าของรูปปั้นนั้นน่าเกลียดมากๆ มีแค่รูจมูกและรูปปั้นก็สวมหนังสัตว์อยู่ ผิวพรรณที่อยู่ด้านนอกก็ยังมีขนยาวๆจำนวนมาก
รูปปั้นนี้แกะสลักได้เหมือนคนที่มีชีวิตมากๆ