จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 979 สามผู้ยิ่งใหญ่
ตางอู่มองดูฉูเหอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้ คุณยังจะสงสัยอีกไหมว่า ที่ปรมาจารย์หลินเอาชนะเทพสงครามภายในหนึ่งกระบวนท่าได้ เป็นเรื่องไม่จริง?”
“ฮื่อ!” ฉูเหอทำตาถลนใส่ตางอู่ “พละกำลังของคุณก็เหนือกว่าฉันตั้งนานแล้ว แต่ว่าทุกครั้งที่สู้กันฉันก็เป็นฝ่ายชนะมาตลอด เรื่องนี้คุณจะอธิบายให้ฉันเข้าใจไหมล่ะ”
ตางอู่ยิ้มอย่างเคอะเขิน “อันนี้คือ ลูกผู้ชายไม่สู้กับสตรีไง! ฉันอ่อนข้อให้คุณก็สมควรแล้ว”
ฉูเหอมองดูหลินหยุนที่หลับตาฝึกฝนต่อไปราวกับไม่มีใครอยู่รอบตัวเลย แล้วพูดด้วยสายตาสับสนว่า “เดิมทียังคิดว่าคราวนี้จะต้องตายอยู่ที่นี่เสียแล้ว คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับช่วยพวกเราเอาไว้”
หลังจากนั้น สายตาของฉูเหอก็มองไปยังพวกคนกาฬโลกเหล่านั้น
“คนพวกนี้ สงสัยว่าจะต้องกลัวแล้ว!”
ตางอู่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะไม่กลัวได้ยังไงล่ะ? คารินาที่เป็นผู้นำของแม่ม่ายดำก็ยังถูกปรมาจารย์หลินตบด้วยฝ่ามือจนตายค่าที่เลย พละกำลังของคารินาจัดว่าอยู่ในสามอันดับแรกในบรรดาพวกคนเหล่านั้น”
“อีกอย่าง คนพวกนี้ก็ไม่ใช่พวกเดียวกันทั้งหมด พวกเขาต่างก็คิดอยากจะฮุบน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้เพียงคนเดียวทั้งนั้น”
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเรายึดที่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้ก่อนละก็ จึงทำให้พวกเขาต้องรวมตัวกันมาต่อสู้กับพวกเรา พวกเขาก็คงตบตีกันจนหัวร้างข้างแตกไปนานแล้ว”
ฉูเหอพูดว่า “ที่คุณวิเคราะห์มาถูกต้องแล้ว ถือโอกาสตอนนี้พวกเขาไม่กล้าบุกเข้ามา คุณก็รีบฝึกฝนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บไปก่อน”
“ได้” ตางอู่ก็รีบนั่งลง แล้วเริ่มฝึกฝนบำเพ็ญเพียร
ฉูเหอก็ยืนอยู่ตรงหน้าตางอู่ด้วยสีหน้าระวังภัย แล้วกวาดสายตาไปยังยอดฝีมือกาฬโลกอย่างเย็นชา
พวกยอดฝีมือกาฬโลกทั้งหลายต่างก็มองหน้ากันและกัน
ชายศีรษะล้านหน้าตาอัปลักษณ์คนหนึ่งพูดขึ้นว่า “เกียโร คุณไปก่อนสิ!”
เกียโรที่แต่งกายแบบคาวบอยตะวันตก พูดเยาะเย้ยว่า “แล้วคุณทำไมไม่ไปก่อนล่ะ? คารินาก็ถูกเขาตบด้วยฝ่ามือตายไปแล้ว ฉันไปก็เท่ากับรนหาที่ตายสิ! ฝีมือฉันยังสู้คารินา
ไม่ได้เลย”
“อะโซ หรือไม่คุณไปก่อนล่ะ? คุณน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเราแล้วนะ! ฉันรู้สึกว่าคุณสามารถเอาชนะเจ้าเด็กนั้นได้อย่างแน่นอนเลย!”
อะโซในชุดนักรบสีดำทั้งตัวมือถือกระบี่ด้ามยาว มองดูชายหัวล้านคนนั้นแวบเดียว “ถ้าคุณกำลังยุแยงอยู่ฉันละก็ ฉันจะจัดการคุณก่อนเลย!”
ชายศีรษะล้านก็ยิ้มอย่างเคอะเขิน แล้วเดินจากไปอย่างไม่พอใจ
พวกยอดฝีมือในค่ายของกาฬโลกนั้น ไม่มีใครกล้าที่จะบุกขึ้นไปสักคนเลย
ถึงแม้น้ำศักดิ์สิทธิ์จะล้ำค่ามากก็จริง แต่ว่าก็ยังต้องมีชีวิตรอดก่อนแล้วถึงจะมีโอกาสใช้ได้
“หรือไม่พวกเราก็บุกขึ้นไปพร้อมกันเลย ต่อให้เจ้าเด็กนี้ร้ายกาจขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะต้านทานคนมากมายอย่างพวกเราได้หรอก!”
“ยังไงก็ไม่ควรจะเสียเวลารออยู่ตรงนี้เลยนะ!”
“ถูกต้อง พวกเราบุกเข้าไปพร้อมกันเลย ไปฆ่าเจ้าเด็กนั้น!”
แต่ว่า ก็มีคนรีบเสนอความเห็นทันทีว่า “หลังจากฆ่าเจ้าเด็กนั้นแล้ว จะแบ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์กันยังไงล่ะ?”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนต้องคิดหนักขึ้นมาทันที
ถูกต้อง ตอนนี้เป็นเพราะว่าข้าศึกบุกมาตรงหน้าแล้ว คนพวกนี้จึงสามารถสามัคคีกันเป็นการชั่วคราวได้ แต่ว่าหลังจากฆ่าหลินหยุนแล้ว จะแบ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างไร?
ใครๆก็อยากจะฮุบน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้เพียงคนเดียวทั้งนั้น แต่ว่าในจำนวนคนเหล่านี้ มียอดฝีมือบางคนมาเพียงลำพังคนเดียว ส่วนบางคนก็มีพรรคพวกตามมาด้วย
อย่างเช่น แม้แต่คารินาที่ถูกหลินหยุนฆ่าตายแล้วนั้น ยอดฝีมือขององค์กรแม่ม่ายดำที่เธอพามาด้วยยังมีอีกสองคน
ส่วนองค์กรศักดิ์สิทธิ์ของอะโซนั้น ก็ยังมียอดฝีมืออีกหลายคนทีเดียว
ตราบใดที่ได้สังหารหลินหยุนไปแล้ว พลังอำนาจของอะโซก็แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนพวกนี้แล้ว
อะโซจะฆ่าพวกเขาเพื่อจะได้ฮุบน้ำศักดิ์สิทธิ์ไว้เพียงคนเดียวหรือไม่?
คำตอบของคำถามนี้ เกรงว่าใช่อย่างแน่นอน
เพราะว่าก็เปลี่ยนเป็นพวกเขาที่มีพลังอำนาจอยู่ในมือแล้ว พวกเขาก็ไม่ยอมให้คนอื่นมาแบ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปเช่นกัน
ดูเหมือนว่าสายตาของคนจำนวนเกินครึ่ง ต่างก็มองไปยังอะโซ
ถ้าอะโซไม่แสดงจุดยืนละก็ เกรงว่ากลุ่มพันธมิตรนี้คงไม่มีทางที่จะจัดตั้งขึ้นได้สำเร็จ
อะโซพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ถ้าสามารถฆ่าเจ้าเด็กคนนั้นได้ละก็ น้ำศักดิ์สิทธิ์ก็แบ่งตามยอดจำนวนคนไป ฉันขอสาบานต่อเทพสว่าง”
“ดี!”
“งั้นพวกเราก็ร่วมมือกันไปฆ่าเจ้าเด็กนั้นก่อนเลย!”
เทพสว่างเป็นที่นับถือศรัทธาขององค์กรศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่ออะโซกล้าที่จะสาบานต่อเทพสว่างแล้ว ก็จะไม่มีวันผิดสัญญา”
หลังจากที่ได้รับการรับรองจากอะโซแล้ว พวกกลุ่มคนในกาฬโลกทั้งหลายคราวนี้ก็ร่วมมือร่วมใจกันได้แล้ว เริ่มค่อยๆเดินเข้าใกล้หลินหยุนไปอย่างช้าๆ
ฉูเหอขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกำหมัดไว้แน่น
เสียงลมหายใจของคาร์นอตวิลเลียมก็เปลี่ยนเป็นแรงมากขึ้นหลายเท่าแล้ว
หลินหยุนก็ลืมตาขึ้นมา มองดูพวกกลุ่มคนทั้งหลาย
คนพวกนั้นกำลังเดินเข้าใกล้เส้นที่หลินหยุนขีดไว้ เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
ภายในร่างของฉูเหอก็เริ่มมีชี่แท้ไหลเวียนขึ้น พร้อมที่จะลงมือได้ตลอดเวลา
คาร์นอตวิลเลียมกล้ามเนื้อเกร็งไปหมดทั้งตัวเช่นกัน มองดูหลินหยุนด้วยความกังวล “ยอดฝีมือกาฬโลกมากมายขนาดนี้จะลงมือพร้อมกันแล้ว หลินหยุนจะสามารถต้านทานได้หรือเปล่า?”
แต่ว่า คนพวกนั้นกลับหยุดอยู่ตรงด้านหน้ารอยเส้นที่หลินหยุนขีดไว้ ไม่กล้าเดินเข้าไปอีก
อย่างน้อยเหตุการณ์ที่น่าอนาถของเคทและคารินาเมื่อครู่นี้ก็ยังอยู่ตรงหน้า รอยเลือดบนศพก็ยังไม่แห้งเลย
ทุกคนต่างก็มองหน้ากันไปมา ใครก็ไม่อยากจะเป็นคนแรกที่ข้ามเส้นแบ่งเขตความเป็นความตายเส้นนี้ไป
เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว อะโซาขมวดคิ้ว “เราจะข้ามเส้นนี้ไปพร้อมกัน ฉันจะนับหนึ่งสองสาม!”
“ได้!”
ตอนนี้ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นแล้ว
“หนึ่ง สอง สาม!”
พอสิ้นเสียงของอะโซแล้ว กลับมีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ก้าวเท้าออกไป เหยียบข้ามเส้นนั้นไป
หลังจากนั้น ก็มีลำแสงสีแดงแวบผ่าน ทั้งสามคนนั้นก็เสียชีวิตลงทันที
กลุ่มคนพวกนั้นยังเห็นไม่ชัดเลยว่า หลินหยุนใช้วิธีอะไรในการสังหารพวกเขาด้วยซ้ำไป
“เทพสว่างผู้ยิ่งใหญ่ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“ฉันไม่เอาแล้ว! น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ก็เหลือให้พวกคุณแล้วกัน!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งรีบถอยหนีออกไป ตกใจกลัวจนหัวหดไปหมด
คนที่เหลือก็ค่อยๆเดินถอยหลังออกไปเช่นกัน
แต่ว่า คนพวกนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ หลังจากถอยไปยังปากทางเข้าหุบเขาแล้ว ก็หยุดลง
“ทำยังไงดีล่ะ? เจ้าเด็กนี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!” เกียโรตะโกนพูดด้วยสีหน้าแตกตื่นตกใจ
“ฮื่อ เมื่อกี้ตกลงกันไว้ว่า นับหนึ่งสองสามแล้วทุกคนจะบุกเข้าไปพร้อมกัน ฉันไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กคนนี้คนเดียวสามารถสู้พวกเราคนมากมายเช่นนี้ได้!”
“โรวัน ดูเหมือนว่าเมื่อกี้คุณก็ไม่ได้ก้าวข้ามเส้นนั้นใช่ไหม?” เกียโรถามด้วยสีหน้าเยอะเย้ย
โรวันหน้าแดงก่ำ “โชคดีที่ฉันไม่ได้ข้ามเส้นนั้นไป ไม่งั้นตอนนี้ฉันก็เหมือนพวกเขาไปเข้าเฝ้าเทพสว่างด้วยกันแล้ว!”
“งั้นต่อไปจะทำยังไงดี? ไม่มีใครที่สู้เจ้าเด็กนั้นได้เลย พวกเราก็ได้แต่ยกน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปให้กับคนชาวจีนเลยเหรอไง?”
“ถ้าไม่ให้แล้วจะทำยังไงได้ล่ะ? คุณสามารถเอาชนะเจ้าเด็กนั่นได้เหรอ?”
ในขณะที่ทุกคนต่างหวาดผวาแต่ก็ไม่ยอมแพ้อยู่นั้น ก็มีเสียงดังแว่วขึ้นมาจากข้างหลังว่า “ไอ้พวกเศษสวะทั้งหลาย หลักไปให้หมด!”
ทุกคนต่างก็หันหลังไปมองดู มีชายผิวขาวผมสีแดงในชุดแดงทั้งตัวข้างหลังมีผ้าคลุมสีแดงคนหนึ่ง เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง
เมื่อเห็นคนนี้แล้ว ทันใดนั้นอะโซก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความแตกตื่นว่า “หมาป่าเพลิง!”
หลังจากนั้นอะโซก็แสดงความดีใจออกมา “ดีจังเลย! สุดยอดฝีมือลำดับสามของประกาศมืดมาแล้ว คราวนี้เจ้าเด็กนั่นต้องตายแน่นอนเลย!”
“ขอคารวะท่านหมาป่าเพลิง!”
ยอดฝีมือของกาฬโลกที่เหลือ ต่างก็ทยอยทำความเคารพต่อหมาป่าเพลิง
คาร์นอตวิลเลียมตะโกนร้องด้วยเสียงตกใจว่า “หมาป่าเพลิง เขามาแล้วจริงๆด้วย!”
คาร์นอตวิลเลียมมองไปยังหลินหยุน “นี่เป็นถึงสุดยอดฝีมือลำดับสามในประกาศมืดทั้งหมดเลยนะ คุณต้องระวังล่ะ!”
หลินหยุนสีหน้าไร้ความรู้สึก มิหนำซ้ำยังไม่ลืมตาขึ้นมามองอีกด้วย ยังคงถนอมเวลาในการฟื้นฟูพลังฝึกฝนเช่นเดิม
หมาป่าเพลิงกวาดสายตาไปยังผู้คนอย่างเย่อหยิ่ง หลังจากนั้นก็มองไปยังพวกหลินหยุน พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “พวกแก ทำให้กาฬโลกต้องอับอายขายหน้าจริงๆ แม้แต่ลูกลิงผิวเหลืองไม่กี่คนก็ยังจัดการกันไม่ได้เลย!”
ผู้คนทั้งหลายต่างก็มีสีหน้าเคอะเขิน
เกียโรอธิบายว่า “ท่านหมาป่าเพลิงครับ พละกำลังของเจ้าเด็กนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ เคทและคารินาต่างก็ถูกเขาฆ่าตายด้วยกระบวนท่าเดียวเท่านั้น!”
“เมื่อกี้ยังมีอีกสามคนนั้น ต่างก็เป็นยอดฝีมือในประกาศมืดทั้งนั้น แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันตอบโต้เลยก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว”
“มิหนำซ้ำ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าเขาใช้วิธีอะไรที่สามารถฆ่าทั้งสามคนนี้ภายในเวลาเดียวกันอีกด้วย!”
สายตาที่หมาป่าเพลิงมองดูหลินหยุนนั้น ก็แสดงอาการเซอร์ไพรส์ออกมา
“เจ้าเด็กน้อยชาวจีนคนเดียว เป็นไปได้ยังไงที่จะมีพละกำลังขนาดนี้ได้? หรือว่าเขาก็คือประมุขสำนักหลงถังที่ลี้ลับคนนั้น?”
“แต่ว่าต่อให้เขาเป็นประมุขสำนักหลงถัง คราวนี้เขาก็ต้องตายอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน”
“เพราะว่านอกจากฉันแล้ว ยังมีอีกสองคนก็มาด้วย”
มองไปตามสายตาของหมาป่าเพลิง ประตูทางเข้าหุบเขาก็ปรากฏมีชายที่คลุมร่างด้วยเสื้อชุดสีดำทั้งตัวคนหนึ่ง และยังมีชายผิวขาวผมสีบลอนด์ทองหน้าตาดุร้ายคนหนึ่งอีกด้วย
เกียโรตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า “โอ้สวรรค์!”
“เพ้าดำ เทพ……เทพฟ้าร้อง!”
“ยอดฝีมืออันดับหนึ่งและสองของประกาศมืดก็มาด้วย!”
“สุดยอดฝีมือสามอันดับแรกของประกาศมืดทั้งหมด ก็มาพร้อมกันหมดแล้ว!”