จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่ 981 ร่างภูตไฟ
ฟู่ๆ!
เปลวไฟนั้นมีความยาวสิบกว่าเมตร ใหญ่เหมือนถังน้ำ มันเหมือนกับดาวตกที่ตกลงมาจากฟากฟ้าในยามค่ำคืน
ทั่วทั้งหุบเขาสว่างไสวไปหมด ใบหน้าของทุกคนสีแดงจากการส่องสว่างจากเปลวไฟ อุณหภูมิของเปลวไฟนั้น แม้แต่ยอดฝีมือของกาฬโลกที่อยู่ในหุบเขาก็สัมผัสได้
“ท่านเทพแห่งสว่างที่เคารพที่เคารพ นี่ยังเป็นพลังของมนุษย์อีกเหรอ!”
“แข็งแกร่งมากๆ ไอ้หนุ่มคนนี้แข็งแกร่งมากๆ แม้แต่เทพสงครามหรือประมุขสำนักหลงถังก็คงมีพลังแข็งแกร่งสูสีกับเขา!”
ตางอู่พูดด้วยความเคารพ:”ปรมาจารย์หลิน ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของลำดับเทพ!”
ฉูเหอที่มีอคติกับหลินหยุนมาโดยตลอด ตอนนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“นี่มันแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว!”
สีหน้าของหมาป่าเพลิงเคร่งขรึมมากๆและพูดด้วยความโกรธ:”เขาใช้มังกรไฟสังหารของฉันกลับมาโจมตีฉัน มันไม่มีเหตุผลเลย!”
“กล้ามาแข่งควบคุมเปลวไฟกับฉัน คุณยังไม่คู่ควรพอ!”
หมาป่าเพลิงตะโกนด้วยความโกรธ ทั่วร่างกายของเขามีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับว่าเขาเป็นเทพแห่งเพลิง
เมื่อเผชิญหน้ากับหอกเพลิงไฟที่หลินหยุนโยนออกมา แต่หมาป่าเพลิงไม่หลบการโจมตีครั้งนี้ แต่เขากลับกางมือออก ราวกับว่าจะโอบกอดท้องฟ้า
“เขาจะทำอะไรเหรอ!”
“เขาเตรียมตัวที่จะให้หอกเพลิงไฟแทงทะลุหน้าอกของตัวเองเหรอ?”
สีหน้าของฉูเหอและตางอู่เต็มไปด้วยความสงสัย
ยอดฝีมือทั้งหมดของกาฬโลกกลั้นหายใจทันที และมองหมาป่าเพลิงด้วยความหวาดกลัว
“ท่านเทพแห่งสว่างที่เคารพที่เคารพ ท่านหมาป่าเพลิงกำลังจะทำอะไรกันแน่?”
“หึ เรื่องนี้คุณก็ไม่รู้แน่นอน! ท่านหมาป่าเพลิงเคยฝึกฝนในภูเขาไฟเจ็ดวันเจ็ดคืน เปลวไฟแค่นี้ สำหรับท่านหมาป่าเพลิงแล้ว มันไม่สามารถทำอะไรท่านหมาป่าเพลิงได้อยู่แล้ว!”
หอกเพลิงไฟพุ่งทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืน และแทงเข้าไปกลางอกของหมาป่าเพลิงอย่างแม่นยำ
แต่หอกเพลิงไฟสัมผัสโดนร่างกายของหมาป่าเพลิงแล้ว จากนั้นหอกเพลิงไฟก็ค่อยๆละลายหายไป แต่โดนหมาป่าเพลิงดูดซับพลังทั้งหมด
“ฮ่าๆๆ มันเป็นรสชาติที่สุดยอดมากๆ!”
ร่างกายของหมาป่าเพลิงยังคงมีเปลวไฟลุกโชนอยู่ เขาเงยหน้าและหัวเราะออกมา
“ไอ้หนุ่ม ยังมีอีกไหม?”
สีหน้าของหลินหยุนนั้นปกติ แต่เขาไม่พูดอะไรเลย และมองดูเขาด้วยสายตาที่จริงจัง
ฉูเหอขมวดคิ้วและพูด:”มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง! ไอ้หมอนั่นดูดซับเปลวไฟได้ หรือว่าการโจมตีด้วยเปลวไฟทั้งหมด ไม่ส่งผลกระทบต่อเขาเลยเหรอ?”
สีหน้าของตางอู่เคร่งขรึมมากๆ:”มันน่าจะเป็นอย่างนั้น!”
“ฉันได้ยินมาว่าหมาป่าเพลิงคนนี้สามารถควบคุมธาตุไฟได้เป็นอย่างดี”
ฉูเหอรู้สึกสิ้นหวังอยู่ในใจเล็กน้อย:”แล้วจะต่อสู้กับเขายังไงละ?”
ตางอู่พูด:”สามารถใช้วิชาธาตุน้ำโจมตีและเอาชนะเขา!”
เทพฟ้าร้องเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก:”หมาป่าเพลิงมีร่างกายของธาตุไฟบริสุทธิ์ การโจมตีด้วยเปลวไฟของโลกใบนี้ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้ว”
“มันเหมือนกับคบเพลิง เมื่อโยนมันเข้าไปในเตาไฟ มันไม่เพียงทำลายเตาไฟไม่ได้ แต่มันยังกลายเป็นเชื้อเพลิงให้กับเตาไฟอีกด้วย”
เกียโรมองไปที่ชายวัยกลางคนที่มีผิวดำและเป็นชาวตะวันตก เขายิ้มและพูดว่า:”มารเพลิง คุณก็เป็นยอดฝีมือด้านธาตุไฟ คุณคิดว่าถ้าเอาตัวเองไปเทียบกับท่านหมาป่าเพลิง คุณคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งขนาดไหน?”
มารเพลิงถอนหายใจและพูด:”ความแข็งแกร่งของฉันเทียบกับท่านหมาป่าเพลิงไม่ได้เลย”
“การโจมตีครั้งนี้ของท่านหมาป่าเพลิง ฉันยังรับไม่ไหวเลย”
หมาป่าเพลิงมองดูหลินหยุนด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง และชูนิ้วกลางให้กับหลินหยุนด้วยความอวดดี:”ไอ้หนุ่ม คุณอ่อนแอมากๆ!”
หลินหยุนเผยรอยยิ้มประหลาดๆออกมา:”ใช่เหรอ?”
“คุณรู้สึกว่าเปลวไฟของฉันมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมมากๆใช่ไหม?”
“งั้นคุณก็ลองดูดซับเปลวไฟให้ได้ก่อน”
“คุณหมายความว่ายังไง?”รอยยิ้มบนใบหน้าของหมาป่าเพลิงหยุดนิ่งทันที
เปลวไฟที่อยู่ทั่วร่างกายของเขาหายไปหมด และเขาก็กลับมาเป็นคนปกติ
แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาก็มีเปลวไปลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง และเขาไม่สามารถควบคุมเปลวไฟครั้งนี้ได้
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มันคือเปลวไฟอะไรกันแน่?”
หลินหยุนพูดเบาๆ:”ไม่ต้องรีบร้อน ฉันได้เพิ่มไตรเพลิงเล็กน้อยเข้าไปในเปลวไฟเมื่อสักครู่เท่านั้น”
ไตรเพลิง?
มันคืออะไร
หมาป่าเพลิงไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่เปลวไฟบนร่างกายของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งลุกโชน และเปลวไฟกำลังแผดเผาพลังทั้งหมดของเขา
“อ๊าก!หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!”
หมาป่าเพลิงตะโกนด้วยความรีบร้อน และพยายามดับไฟที่ลุกโชนอยู่บนร่างกาย
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านหมาป่าเพลิงเป็นอะไรกันแน่?”
สีหน้าของยอดฝีมือทั้งหมดจากกาฬโลกที่อยู่ข้างๆเต็มไปด้วยความสงสัย
“ดูเหมือนเปลวไฟบนร่างกายของท่านหมาป่าเพลิง ไม่ใช่เปลวไฟที่ท่านหมาป่าเพลิงควบคุมได้”มารเพลิงเป็นยอดฝีมือด้านธาตุไฟ เขาเป็นคนแรกที่มองเห็นความผิดปกติบนร่างกายของหมาป่าเพลิง
“มันเป็นไปได้ยังไง? ไอ้หนุ่มคนนั้นทำอะไรกับท่านหมาป่าเพลิงกันแน่?”
เทพฟ้าร้องที่อยู่ข้างๆก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน:”แปลกมากๆ หมาป่าเพลิงมีร่างกายธาตุไฟบริสุทธิ์ ยังมีเปลวไฟที่เขาไม่สามารถควบคุมได้อีกเหรอ?”
เพ้าดำพูดด้วยเสียงแหบแห้ง:”ฉันสัมผัสได้แล้ว เปลวไฟที่ลุกโชนบนร่างกายของหมาป่าเพลิง มีพลังที่ทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในนั้นด้วย”
“เปลวไฟอันนี้ ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา หมาป่าเพลิงสามารถควบคุมเปลวไฟธรรมดาได้ แต่สำหรับเปลวไฟที่อยู่ในระดับสูงกว่า เขาก็ควบคุมไม่ได้”
เทพฟ้าร้องพูดด้วยความสงสัย:”ไม่ใช่เปลวไฟธรรมดา แล้วมันคือเปลวไฟอะไรกันแน่? หรือว่าเป็นเปลวไฟที่มาจากสวรรค์?”
เพ้าดำพูด:”น่าจะเป็นเปลวไฟจากนรก มันสามารถแผดเผาทุกอย่าง ถ้าสัมผัสโดนเปลวไฟ ก็จะถูกเปลวไฟเผาจนไม่เหลือซาก”
“เป็นไปไม่ได้ เปลวไฟจากนรก มันมีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น”เทพฟ้าร้องไม่อยากจะเชื่อ
“และเขาเป็นชาวจีน ถึงแม้จะมีเปลวไฟจากนรก แต่เปลวไฟก็ไม่ควรถูกเขาควบคุม”
เพ้าดำก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่สัญชาตญาณของเขาบอกว่า มันคือเปลวไฟจากนรกจริงๆ
ทั้งสองคนไม่รู้ ตามตำนานของชาวตะวันตก เปลวไฟนรกที่สามารถแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างได้ อันที่จริงมันคือไตรเพลิงของนักบำเพ็ญเซียน
หมาป่าเพลิงรู้สึกถึงความเจ็บปวด ยังดีที่หลินหยุนใส่ไตรเพลิงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิฉะนั้น ตอนนี้หมาป่าเพลิงก็คงโดนเผาจนกลายเป็นจุณไปนานแล้ว
แต่ถ้าปล่อยให้ไตรเพลิงเพียงเล็กน้อยนั้นทำลายร่างกายของเขาต่อไป ใช้เวลาไม่นานหมาป่าเพลิงก็คงจะโดนเผาจนกลายเป็นจุณเหมือนกัน
“อ๊าก!”
จู่ๆหมาป่าเพลิงเงยหน้าและตะโกนออกมา:”ไอ้หนุ่ม คนทำให้ฉันโกรธมากๆแล้ว!”
“ฉันจะขอสู้ตายกับคุณ!”
ฟู๊!
เปลวไฟบนตัวของหมาป่าเพลิงก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เปลวไฟพุ่งสูงสองเมตรกว่าๆ ไตรเพลิงที่แผดเผาร่างกายของเขาอยู่ ตอนนี้โดนเขาดูดซับไปหมดแล้ว
หลินหยุนประหลาดใจเล็กน้อย:”เป็นร่างภูตไฟนี่เอง!”
“คิดไม่ถึงจริงๆ บนโลกมนุษย์ที่มีพลังทิพท์เล็กน้อยขนาดนี้ แต่กลับมีร่างภูตไฟได้!”
ร่างภูตไฟเป็นหนึ่งในร่างภูตสวรรค์ประทาน คนที่มีร่างกายประเภทนี้จะเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมเปลวไฟ
ถ้าคนมีร่างภูตไฟจะฝึกฝนได้เร็วกว่าคนทั่วไปสิบเท่า
แต่ร่างภูตไฟกับร่างเต๋าไม่สิ้นสูญหุนหยวนของหลินหยุนนั้น มันเทียบกันไม่ได้จริงๆ
แต่ร่างภูตไฟนั้นแข็งแกร่งกว่าร่างภูตป่าที่หลินหยุนฝึกสำเร็จเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะคนหนึ่งเกิดมาพร้อมกับร่างภูตสวรรค์ประทาน ส่วนอีกคนนั้นฝึกฝนจนสำเร็จในภายหลัง
“น่าเสียดายจริงๆ ถึงแม้เขาจะมีร่างภูตไฟ แต่เขากลับไม่รู้จักวิธีฝึกฝน มันก็เปล่าประโยชน์เท่านั้น”
“ไอ้หนุ่ม ไปตายซะ!”เมื่อเขาดูดซับไตรเพลิงของหลินหยุนแล้ว ทำให้เปลวไฟที่อยู่บนร่างกายของหมาป่าเพลิงลุกโชนมากขึ้น มันเหมือนกับเตาไฟที่ได้เชื้อเพลิงอย่างดี และไฟก็ลุกโชนอย่างหนัก
“รับหมัดโจมตีของฉัน!”
หมาป่าเพลิงปลดปล่อยความเร็วทั้งหมดออกมา เขาเหมือนกับมนุษย์ไฟลูกหนึ่ง และวิ่งบนหิมะด้วยความเร็วสูง
เมื่อเข้าใกล้หลินหยุนในระยะห้าเมตรแล้ว หมาป่าเพลิงก็กระโดดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และต่อยหมัดที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟไปที่หลินหยุนทันที
“ท่าห้ามสิ่งวายชนม์!”
มีน้ำเสียงปกติหนึ่งดังขึ้น และทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินอย่างชัดเจน
หลินหยุนยื่นมือข้างหนึ่งไปที่หมาป่าเพลิง เปลวไฟในมือของเขาดูเหมือนจะถูกกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถโจมตีได้
“ค้อนดาวร่วง!”