จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ - บทที่418 ตระกูลมู่วิกฤติ
ในเวลานี้เอง จู่ๆข้างนอกก็มีบอดี้การ์ดรีบเดินเข้ามา ทำความเคารพแล้วพูดว่า “ประธานมู่ ประธานหยางมาอวยพรปีใหม่กับท่าน!”
“โอ้? ประธานหยาง?เวลาแบบนี้เขาน่าจะอยู่ฉลองปีใหม่กับครอบครัวของตัวเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงมาอวยพรปีใหม่กับฉันล่ะ?” ใบหน้าของมู่ชิงซานเผยความสงสัยออกมา
โดยทั่วไปแล้ว ในประเทศจีน จะไม่ไปเยี่ยมญาติในวันแรกของปี ไปเยี่ยมเพื่อนก็ยังพอได้
แต่ว่า ประธานหยางคนนี้เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป ไม่เคยมาอวยพรปีใหม่กับมู่ชิงซานมาก่อน ยกเว้นปีนี้
“ให้เขาเข้ามาเถอะ!” มู่ชิงซานพูดด้วยเสียงจริงจัง ยังไงซะก็เป็นวันแรกของปี เขาเองก็ไม่อย่าไล่แขกกลับไป รอดูสักหน่อยว่าเขามีเป้าหมายอะไรกันแน่
คนอ้วนคนหนึ่ง ชายวัยกลางคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเนื้อหนัง ก้าวเดินเข้ามาข้างใน ข้างหลังยังมีชายหนุ่มรูปร่างกำยำตามมาอีกสองคน แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นบอดี้การ์ด
“ฮ่าๆ พี่มู่ สวัสดีปีใหม่!” ประธานหยางกล่าวทักทายเสียงดัง
ลือกันว่าประธานหยางคนนี้ เมื่อก่อนเป็นหัวหน้าแก๊งนักเลง เพราะว่าตอนที่ยังเยาว์วัย มีคนใหญ่คนโตมาชี้แนะ ทำให้หาเงินจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มาได้ประมาณหนึ่ง จนสุดท้ายก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดพอดี จึงเปลี่ยนเป็นนักลงทุนแทน
พอดีกับตอนที่บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปกำลังจัดหาแหล่งเงินทุน อันธพาลหยางคนนี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จนกลายมาเป็นประธานหยางของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป
หลายปีมานี้ บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปภายใต้การบริหารของมู่ชิงซาน ธุรกิจก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ประธานหยางเองก็ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ถึงแม้เขาจะไม่ได้เกิดในฐานะของผู้ดี และไม่ได้เข้าใจกระบวนการทำงานของบริษัท แต่ยังดีที่เขามีสายตาที่ดี รู้ว่าไม่ควรทำอะไรวู่วามกับเรื่องที่ไม่รู้
มู่ชิงซานลุกขึ้นมา ประสานมือยิ้มแล้วพูดว่า “น้องหยาง วันแรกของปีไม่อยู่กับภรรยาของคุณ มาหาฉันถึงที่นี่ทำไมกัน?”
ประธานหยางหัวเราะออกมา “ภรรยาเอาไว้อยู่ด้วยกันตอนกลางคืนก็พอแล้ว ตอนกลางวันต้องมาเยี่ยมพี่อยู่แล้ว!”
มู่ชิงซานยิ้มเบาๆ กับคำพูดลามกที่ประธานหยางพูดอยู่ตลอดเวลา “น้องหยาง เป็นคนร่าเริงจริงๆ ใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ช่างน่าอิจฉาจริง!”
“มานั่งสิ!”
“ได้!” ประธานหยางนั่งลงไปอย่างมีมารยาท
ในเวลานี้เอง บอดี้การ์ดคนเมื่อกี้ก็วิ่งเข้ามาอีกรอบ แล้วรายงานว่า “ประธานมู่ ผู้อำนวยการเฉินและผู้อำนวยการหลิวมาอวยพรปีใหม่กับท่าน!”
แววตาของประธานหยางที่นั่งอยู่เปล่งประกายขึ้นมา มุมปากได้เผยรอยยิ้มที่มีเลศนัยออกมา
มู่ชิงซานกวาดสายตามองประธานหยาง ไม่เห็นความผิดปรกติใดๆ เกิดความสงสัยขึ้นในใจ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหล่าประธานที่ปรกติหาตัวจับได้ยาก วันนี้กินยาผิดมารึไง?”
“ไป เชิญพวกเขาเข้ามาเถอะ!”
“ครับ!” บอดี้การ์ดตอบแล้วเดินออกไป
แป๊บเดียว ผู้ชายหลายคนได้พาลูกน้องของตัวเอง เดินเข้ามาข้างใน
“พี่มู่ สวัสดีปีใหม่!”
พวกเขายังไม่ทันเดินเข้ามาถึงห้องโถง ก็เริ่มอวยพรปีใหม่กับมู่ชิงซานแล้ว
มู่ชิงซานลุกขึ้นมา แล้วจับมือทักทายกับพวกเขา
พวกเขากล่าวทักทายกับมู่ชิงซานไม่กี่คำ มู่ชิงซานสั่งให้มู่เฉิง หาที่นั่งให้กับทุกคน
ข้างนอก จู่ๆก็มีเสียงร้องตะโกนของบอดี้การ์ดดังขึ้นมา “ประธานหวางของบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป มาถึงแล้ว!”
“ท่านประธานหลี่ของบริษัทฝูหลินจำกัด มาถึงแล้ว!”
“ประธานจางของบริษัทเหอซุ่นมาถึงแล้ว!”
“ซุปเปอร์มาเก็ตชิ่งเฟิง……”
คนที่มามีมากจนเกินไป ครั้งนี้บอดี้การ์ดไม่ได้เข้ามารายงาน แต่กลับตะโกนออกมาแทน
ข้างในห้องโถง คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังพูดคุยกันอยู่ตกใจจนเงียบไป
แววตาของมู่ชิงซานเผยความเย็นชาออกมา จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
มู่เฉิงถามด้วยความสงสัยตรงๆว่า “พ่อ คนของบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปมาที่บ้านเราทำไมกัน?”
“ยังมีบริษัทพวกนี้อีก ล้วนเป็นลูกน้องของบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป!พวกเขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
แววตาของมู่ชิงซาน แอบจ้องมองไปยังเหล่าประธานที่กำลังนั่งอยู่ จังหวะเดียวกัน เหล่าประธานพวกนี้ก็แอบมองเขาอยู่เช่นกัน
มู่ชิงซานหน้าสั่น พูดด้วยเสียงจริงจังว่า “ดูเหมือนว่า คนพวกนี้จะไม่ได้มาดี!”
“แต่ว่า ฉันก็อยากจะดูว่าหวางซี่ไห่จะทำอะไรฉันได้!”
ไม่รอคำอนุญาตจากมู่ชิงซาน พ่อลูกหวางซี่ไห่ ก็พาคนกลุ่มหนึ่ง เข้ามาข้างในด้วยตัวเองแล้ว
บรรยากาศของคนกลุ่มนี้ดูน่ากลัวมาก พวกเขามาพร้อมกับท่าทางที่เหมือนจะมาถามเอาความผิด ปิดรอบประตูห้องโถงของตระกูลมู่เอาไว้
หวางซี่ไห่ในชุดสูทสีดำเผยรอยยิ้มออกมา แล้วหันไปประสานมือกล่าวทักทายกับมู่ชิงซานที่กำลังนั่งอยู่ “ไอ้มู่ สวัสดีปีใหม่!”
มู่ชิงซานหัวเราะแล้วพูดว่า “ไอ้หวาง วันแรกของปีทั้งที คุณกลับพาคนมากขนาดนี้มาอวยพรปีใหม่กับฉัน ช่างใจดีจริงๆ!”
พอได้ยินประโยคนี้ เหล่าผู้คนที่อยู่ข้างหลังหวางซี่ไห่ ใบหน้าก็เผยความอับอายออกมาเล็กน้อย แววตาก็เกิดความสั่นไหว
หวางซี่ไห่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “มู่ชิงซาน เดิมที ฉันก็เตรียมที่จะมากล่าวคำอวยพรปีใหม่กับคุณ!แต่นึกไม่ถึงว่าคุณจะรีบร้อนขนาดนี้ คุณรีบร้อนที่จะทำให้ที่ดินทำเลทองผืนนั้นโด่งดังขึ้นมา จะต้องเป็นเพราะว่าบริษัทกำลังขาดเงินทุนอย่างมหาศาลถูกไหม?”
“เพราะงั้น ฉันจึงต้องลงมือก่อนกำหนด จะได้รีบช่วยให้คุณพ้นจากปัญหาโดยเร็วที่สุด”
มู่ชิงซานมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที ราวกับกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
ดูเหมือนว่ามู่เฉิงจะยังไม่เข้าใจเป้าหมายที่หวางซี่ไห่มาที่นี่ ร้องตะโกนด้วยเสียงเย็นชาว่า “หวางซี่ไห่ ถ้าเกิดพวกคุณมาเพื่ออวยพรปีใหญ่จริงๆ งั้นฉันก็ยินดีต้อนรับ!ถ้าเกิดไม่ใช่ เชิญคุณออกไปเดี๋ยวนี้!”
หวางซี่ไห่หันไปหัวเราะกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลัง “โอ้ ดูเหมือนว่าคุณชายตระกูลมู่ของพวกเรา จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า!ใครก็ได้ออกมาบอกเขาหน่อย ให้เขาเข้าใจว่าพวกเรามาที่นี่ทำไมกัน!”
“ฮ่าๆ……” กลุ่มคนพวกนี้ได้หัวเราะเสียงดังออกมา
ใบหน้าของมู่เฉิงแดงก่ำ ร้องตะโกนออกไปว่า “บอดี้การ์ด บอดี้การ์ด ไล่คนพวกนี้ออกไป!”
“หุบปาก!” มู่ชิงซานตะโกนออกมา จ้องมองมู่เฉิง “ไปนั่งตรงโน้ว!”
“……ครับ!” มู่เฉิงนั่งลงด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ
มู่ชิงซานมองไปยังหวางซี่ไห่ ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “หวางซี่ไห่ ฉันสนใจเป็นอย่างมาก วันนี้คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
หวางซี่ไห่เงยหน้าหัวเราะเสียงดังออกมา “แกคิดว่าฉันต้องการจะทำอะไรล่ะ? หรือคิดว่าฉันจะพาคนพวกนี้มาเพื่ออวยพรปีใหม่กับแกจริงๆงั้นเหรอ?”
หวางซี่ไห่กวาดสายตามองคนที่อยู่ในห้องโถง ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “วันนี้ฉันมาเพื่อเจรจากับแก เรื่องที่จะเข้ามาซื้อกิจการของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป!”
มู่เฉิงตกใจขึ้นมาก่อน จากนั้นใบหน้าก็เผยรอยยิ้มเย็นชาที่ดูถูกแล้วพูดว่า “หวางซี่ไห่ แกบ้าไปแล้วรึไง? เริ่มพูดจาเพ้อเจ้อตั้งแต่กลางวันแสกๆ”
มู่ชิงซานเองก็ยิ้มอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “แค่บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปของแก ก็คิดจะเข้ามาซื้อกิจการของมู้่ซื่อ เกรงว่ายังไม่มีสิทธิ์!”
มีเหล่าเจ้าของบริษัทบางคนที่มาเพื่ออวยพรปีใหม่กับมู่ชิงซานจริงๆ หัวเราะเยาะออกมา คนทั้งอำเภอจีหมิงต่างก็รู้กันดี บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปและบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปมีอำนาจพอๆกัน ไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ไม่สามารถบีบอีกฝ่ายจนมุมได้
คำพูดนี้ของหวางซี่ไห่ มันดูโอ้อวดเกินไปจริงๆ
พอโดนพ่อลูกตระกูลมู่กับกลุ่มคนดูถูก หวางซี่ไห่เองก็ไม่โมโห ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “จริงอยู่ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันไม่มีสิทธิ์พูดคำนี้ออกมาจริงๆนั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนกัน หลังจากวินาทีที่แกได้เอาที่ดินผืนนั้นไป ชะตากรรมของบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว!”
“ขอถามหน่อยว่า การที่บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปรีบร้อนที่จะทำให้ที่ดินผืนนั้นโด่งดังขึ้นมา เป็นเพราะว่ากำลังขาดเงินทุนอย่างมหาศาลถูกไหม รีบร้อนที่จะหากำไรเพิ่ม?”
มู่เฉิงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “ใช่แล้วจะทำไม? บริษัทอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น สิ่งที่พวกเราทำมันเป็นเรื่องปรกติ”
มู่ชิงซานไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เขาเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของมู่เฉิง
หวางเจียเฉียงที่อยู่ข้างๆหวางซี่ไห่ยิ้มอย่างเย็นชาออกมา “ถ้าเกิดบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปไม่สามารถทำกำไรได้ หรือไม่มีเงินทุนสนับสนุนจากที่อื่น? จะเกิดอะไรขึ้น?”
มู่ชิงซานยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “อย่าว่าแต่บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนถ้าเกิดขาดเงินทุนสนับสนุนจากที่อื่น ล้วนต้องล้มละลายทั้งนั้น!”
“แต่ว่า ถ้าเกิดแกคิดว่าพอพวกเราได้ราชาประมูลมา แล้วจะทำให้ขาดเงินทุนสนับสนุนจากที่อื่น งั้นแกก็ดูถูกบริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปของฉันไปหน่อยแล้ว”
“ต่อให้บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปของฉันจะไม่สามารถทำกำไรเพิ่มได้เวลาสั้นๆ พวกเราก็ยังสามารถกู้เงินจากธนาคาร พวกเรายังสามารถจัดหาไฟแนนซ์ได้ ต่อให้ถอยหลังหมื่นก้าวพูด พวกเรายังสามารถหาคนมาลงทุนได้ และเติบโตไปด้วยกัน”
“ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีทางถึงจุดที่แกว่ามา เพราะงั้นถ้าเกิดแกจะใช้ราชาประมูลเพื่อให้บริษัทมู้่ซื่อกรุ๊ปขาดเงินทุนสนับสนุนจากที่อื่น มันก็เป็นแค่คำพูดเพ้อเจ้อ”