จักรพรรดิเซียนหวนคืน - ตอนที่ 37
บทที่ 37 นายท่านผู้ลึกลับ
ตรงหน้าภัตตาคารป่าไผ่สีม่วง เจิ้งก่วงอี้และลูกชายยืนรอคอยใครคนหนึ่งอย่างคาดหวัง ได้ยินเฉินฮั่นหลงพูดมาว่าฉู่ชวิ๋นอาจจะมาด้วย เจิ้งก่วงอี้และลูกชายไม่กล้าเฉยเมย พวกเขายืนอยู่ที่นี่รอต้อนรับตั้งนานแล้ว พวกเขายืนรอที่นี่มากว่าสองชั่วโมงกว่าแล้ว!
“พ่อ ลุงเฉินบอกว่านายท่านจะมาก็ยังไม่แน่ใจ พวกเรารอแบบนี้ต่อไป งานเลี้ยงที่จัดอยู่ข้างบนก็ใกล้จะจบแล้ว แบบนี้ไม่ดีแน่ พ่อไปทักทายพวกเขาก่อนเถอะ!” พวกเขาคือเจ้าของงานที่จัดงานเลี้ยงในครั้งนี้ มีเจ้าของงานที่ไหนตั้งแต่เริ่มจนจะจบงานยังไม่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงเลย
เจิ้งก่วงอี้ก็คิดตามที่ลูกชายพูดมาก็มีเหตุผล “งั้น…ลูกขึ้นไปทักทายแขกแทนพ่อก่อน เดี๋ยวพ่อขึ้นตามไป” เจิ้งกันพยักหน้าและหันหลังกลับขึ้นตึกไป
เมื่อเจิ้งกันกลับมาถึงห้องจัดงานเลี้ยงก็เห็นทุกคนที่อยู่กันเป็นกลุ่มกำลังนินทากระซิบกระซาบกัน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” เจิ้งกันดึงเพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักคุ้นเคยมาถาม
“เจิ้งกัน นายมาสายเกินไปแล้ว พลาดโอกาสเห็นสิ่งดี ๆ เลย ผู้ชายคนนั้นไปจีบดาราเด็กแล้วโดนไวน์แดงสาดใส่เปื้อนตัวไปหมดแล้วจากนั้น……” เพื่อนคนนี้พูดสมจริงสมจังมาก
“ฮ่าฮ่า……” พอเจิ้งกันรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือฮู่เหวินเพื่อนสมัยเด็กเขาเอง เจิ้งกันก็เลยหัวเราะขึ้นมา
แต่จู่ ๆ เขาก็ถามต่ออย่างไม่แน่ใจ “ดาราเด็ก? วันนี้ช่วงกลางคืนไม่ได้เชิญดารามาแสดงอะไรนะ?”
“ตามที่ได้ยินผู้ชายคนนั้นพูดแล้ว ผู้หญิงคนนี้ที่เป็นดาราเด็กชื่อถางโร้วเป็นคนร่วมเตียงกับคนอื่นเพื่อแลกโอกาสเข้าร่วมงานเลี้ยง ใช่แล้ว พ่อแม่ของเธอก็ทำงานในเครือบริษัทของตระกูลนาย…” พอได้ยินชื่อถางโร้ว ในหัวเจิ้งกันก็มีเสียงระเบิดออกมา ประโยคที่พูดต่อมาก็ไม่ได้เข้าหูของเขาเลยสักนิด ถางโร้วถูกคนตบหน้า?
เจิ้งกันแววตาเริ่มไร้ความรู้สึก ขาทั้งสองข้างอ่อนจนล้มลงกับพื้น “เจิ้งกัน นายเป็นอะไรไป?”
ทันใดนั้นเจิ้งกันก็ล้มลงทำให้เพื่อนที่กำลังพูดเป็นต่อยหอยตกใจและรีบช่วยเขาพยุงให้ลุกขึ้น
“แย่แล้ว ครั้งนี้ตายแน่ ๆ…..” พอคิดถึงนายท่านฉู่ชวิ๋นที่ชอบถางโร้ว ฟันของเจิ้งกันก็กำลังสั่นระริก และผลักเพื่อนที่พยุงเขาออกไปทันทีเขารีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปกลางฝูงชนจนเจอกับพวกฮู่จิ้น
“อ้าว เสี่ยวกัน พ่อของเธอล่ะ? ฉันมีเรื่องที่ต้องรายงานกับเขา” ฮู่จิ้นไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของเจิ้งกันเขาพูดขึ้นมาเสียงดัง
“พี่กัน พี่มาช้าเกินไปแล้ว สักพักต้องโดนลงโทษ สามแก้ว” ฮู่เหวินยิ้มและเดินเข้ามาทักทายเจิ้งกัน คำพูดของสองพ่อลูกนี้ล้วนตั้งใจพูดให้ถางเหวินเยียนและซ่งซื๋อฟัง เพราะต้องการยืนยันความสัมพันธ์ของพวกเขาพ่อลูกและพ่อลูกตระกูลเจิ้งว่าสนิทสนมกันมาก
พ่อถางโร้วสีหน้าก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เขาไร้ประโยชน์เกินไปลูกสาวถูกเหยียดหยาม เขายังไม่อาจพูดเพื่อความยุติธรรมให้ลูกสาวได้เลยแถมยังผู้คนในงานเลี้ยงก็ไม่สนใจเขาเลย แต่เป็นเจิ้งกันที่ตกใจมาก พอได้ยินคำพูดของฮู่จิ้นและลูกชายเขาก็สะดุ้งตกใจเจิ้งกันรีบใช้มือหยิบขวดไวน์แดงที่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมาทุบหัวฮู่เหวินอย่างแรง
“เพล้ง!”
ไวน์แดงที่มูลค่านับหมื่น สาดกระเด็นไปทั่วทิศทาง เศษแก้วก็ลอยกระจัดกระจายตกลงสู่พื้น ฮู่เหวินกุมหัวตัวเองและร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด โซซัดโซเซไม่กี่ก้าวก็ล้มลง ฉากนี้ทำให้ทุกคนงงงวย!
ถางเหวินเหยียนและซ่งซื๋อสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกยากที่จะเชื่อ
“เสี่ยวกัน เธอ….”
“เพียะ!”
ฮู่จิ้นยังไม่ทันพูดจบก็โดนฝ่ามือของเจิ้งกันตบลงไปบนหน้าจนหน้าสั่นเทา
“บัดซบเอ๊ย พวกแกถูกไล่ออกแล้ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกแกกับเชียนคุนกรุ๊ปไม่เกี่ยวข้องอะไรกันอีก…” ประโยคพวกนี้คือเจิ้งกันตะโกนออกมาและพ่นน้ำลายใส่หน้าฮู่จิ้น แขกที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ลูกตาแทบจะทะลักออกมา สีหน้าล้วนประหลาดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
“แก…แกกล้าตบฉัน?” ฮู่จิ้นกุมหน้าตัวเอง พูดได้เลยว่าเขาเห็นเจิ้งกันเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ปกติเคารพต่อเขามาก แต่วันนี้เป็นอะไร? หรือว่าเสียใจจนเป็นบ้า?
“ก็ตบแกไงแล้วจะทำไมวะ? บัดซบเอ๊ย แกคิดว่าแกเป็นใคร? ฉันอยากจะฆ่าแกให้ตายจริง ๆ” สีหน้าเจิ้งกันเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาชี้ไปยังฮู่เหวินที่นั่งอยู่บนพื้น “ยังมีแก รอความตายไปเถอะ แกกล้ารังแกคุณถาง ดูเหมือนว่าแกจะเบื่อชีวิตแล้วสินะ” ถางเหวินเหยียนมองเจิ้งกันอย่างสงสัย หรือว่าเจิ้งกันชอบลูกสาวตัวเอง ดังนั้นถึงได้เดือดดาลขนาดนี้
ไม่ใช่เพียงถางเหวินเหยียนที่คิดแบบนี้ แขกคนอื่น ๆ ก็คิดเหมือนกัน ฮู่จิ้นจ้องมองไปที่ฮู่เหวินอย่างดุร้าย เจ้าเด็กโง่คนนี้! จีบสาวก็ไม่ตรวจสอบสักหน่อย
ฮู่เหวินกุมหัวอยู่ด้วยความเจ็บปวด ในใจรู้สึกระทมทุกข์จนจะตายอยู่แล้ว เขารู้ที่ไหนว่าถางโร้วคือคนที่เจิ้งกันถูกใจ แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง คนที่สืบทอดตระกูลเชียนคุนกรุ๊ป ถึงกับทำแบบนี้เพื่อผู้หญิงคนเดียวเหรอ?
“พี่กัน ผมขอโทษ! ผมไม่รู้ว่าคุณถางเป็นผู้หญิงของพี่ ผมมีตาหามีแววไม่จริง ๆ……”
ฮู่เหวินยังไม่ทันพูดจบ เจิ้งกันก็รู้สึกราวกับโดนมีดจี้อยู่บนคอ เขาก็ตกใจจนหน้าซีดเผือดและกระโดดพุ่งเข้ามาและเตะหน้าของฮู่เหวินทันทีก่อนแผดเสียงพูดออกมา “ไอ้บัดซบ แกหุบปากเดียวนี้ คุณถางเป็นตัวตนระดับไหน คนไม่ได้เรื่องแบบฉันจะไปเหมาะสมกับเธอได้ยังไง?”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกมา คุณชายทายาทเชียนคุนกรุ๊ปด่าตัวเอง? ทุกคนงงงัน บนโลกใบนี้มีเรื่องกลับตาลปัตรขนาดนี้เหรอ? พวกเขารู้สึกว่าตัวเองได้เจอกับเจิ้งกันตัวปลอมแล้ว
เจิ้งกันไม่สนว่าคนอื่นจะคิดยังไงเขาเดินไปทางถางโร้วและนั่งคุกเข่าลงต่อหน้า “คุณถาง ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง ต้องขอร้องคุณแล้ว คุณต้องช่วยผมพูดกับนายท่านด้วย เจ้าสองนี้มันไม่ได้เรื่องนี้ผมไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ ๆ คุณต้องช่วยพูดให้ผม……” คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตัวแข็งทื่อ พวกเขาตกใจจนตัวชาไปหมด
ไม่รอให้ถางโร้วพูดอะไร เจิ้งกันก็เหมือนจะคิดอะไรได้ ลุกลี้ลุกลนควักโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วกดโทรออกและเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่นี่
สักพัก ทุกคนก็เห็นเจิ้งก่วงอี้ตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ สีหน้าลุกลี้ลุกลนวิ่งเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง
เมื่อเขามองเห็นรอยนิ้วมือบนหน้าของถางโร้ว สมองก็มีเสียงเหวิงออกมาเขามึนงงราวกับโดนรถชน
ถางเหวินเหยียนนั้นตัวเขาเองที่เชิญมาเพราะว่าจะมอบรางวัลให้อย่างงาม เพื่อเอาใจถางโร้วกับฉู่ชวิ๋น แต่ทำไมมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น พอคิดถึงความโกรธที่ลุกเป็นไฟของฉู่ชวิ๋น เขาก็เกือบจะเป็นลม
“พี่เจิ้ง พี่มาแล้วเหรอ!” ฮู่จิ้นตะโกนขึ้นมา เจิ้งก่วงอี้สะดุ้งตกใจทันทีและหันไปจ้องเขม็งฮู่จิ้น “ไอ้ฮู่ ความสัมพันธ์ของพวกเราแน่นแฟ้นกันหลายปีแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกเราพ่อลูกจะต้องมาจบชีวิตลงเพราะน้ำมือคนโง่ ๆ แบบแก นี้แกอยากให้พวกเราตายขนาดนี้เลยเหรอ!”
เจิ้งก่วงอี้ไม่สนใจเขาหันกลับไปมองครอบครัวถางเหวินเหยียนและคุกเข่าขอร้อง “ผู้จัดการถาง ผู้จัดการซ่ง คุณหนูถาง เรื่องในวันนี้เป็นความผิดของผมเอง เป็นผมเองที่มีตาหามีแววไม่ การกระทำของคนโง่ฮู่จิ้นคนนี้ ผมขอโทษพวกคุณจากใจจริง ๆ! ขอให้พวกคุณให้อภัยผมด้วย”
ถางเหวินเหยียนและซ่งซื๋อตกใจและรีบพยุงเจิ้งก่วงอี้ให้ลุกขึ้นมา พอถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังมึนงงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
“คุณถาง ให้ผมอภัยด้วยเถอะ!” เจิ้งก่วงอี้คุกเข่าขอโทษถางโร้วอีกครั้ง
เจิ้งก่วงอี้รู้ดีทั้งหมดต้องดูท่าทีของถางโร้ว ถ้าหากว่าสามารถทำให้ถางโร้วให้อภัยพวกเขาได้ พวกเขาสองพ่อลูกก็น่าจะยังสามารถรักษาชีวิตได้อยู่
อายุของเจิ้งก่วงอี้และถางเหวินเหยียนไม่ได้ต่างกันมาก พอเห็นคนที่มีอายุพอ ๆ กับพ่อตัวเองมาคุกเข่าขอร้อง ถางโร้วก็รู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณรีบลุกขึ้นมาเถอะ…เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณไม่ต้อง ขอโทษ” เจิ้งก่วงอี้ในใจรู้สึกโล่งอกไปแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งต้องดูว่าเขาสามารถทำให้ฉู่ชวิ๋นพอใจได้ไหม เขาจะโดนลงโทษหนักหรือเบา
“ขอบคุณ คุณหนูถาง ผมขอร้องให้คุณหนูถางพูดแก้หน้าแทนผมต่อหน้านายท่านด้วย พวกเราสองพ่อลูกจะซาบซึ้งใจมาก!”
ถางโร้วรู้ว่านายท่านที่พวกเขาพูดถึงคือฉู่ชวิ๋น แต่ก็สงสัยว่าทำไมเจิ้งก่วงอี้ถึงกลัวพี่ฉู่ชวิ๋นขนาดนี้ แต่เธอที่มีจิตใจดีงามพยักหน้ารับปากให้ สายตาเจิ้งก่วงอี้ก็ดีใจขึ้นมา “ขอบคุณครับ คุณหนูถางจะจัดการลงโทษสองคนนี้ยังไงดีครับ สั่งมาได้เลย?”
เจิ้งก่วงอี้สร้างบริษัทมาด้วยลำแข้งตัวเอง จะให้โดนโคนล้มที่นี่ได้ยังไงกัน ฮู่จิ้นสองพ่อลูกนี้เกือบทำให้พวกของสองพ่อลูกตาย เขาไม่ปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด
เมื่อฮู่จิ้นได้ยินเจิ้งก่วงอี้พูด สีหน้าก็ซีดเผือด ฮู่เหวินไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนี้แต่เขารู้ว่าเจิ้งก่วงอี้เอาจริง ถ้าเป็นแบบนี้อีกฝ่ายอาจใช้อำนาจยัดพวกเขาเข้าไปนอนในคุกก็ได้ สองพ่อลูกในเวลานี้ล้วนรู้แล้วว่าครั้งนี้ทำผิดไปจริง ๆ ในสายตาพวกเขา ดาราเด็กที่อ่อนแอจนน่าแกล้ง จะมีอำนาจที่น่าตกใจอยู่เบื้องหลังแบบนี้ได้ยังไงกัน
แขกคนอื่น ๆ ก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แม้แต่เจิ้งก่วงอี้ก็ยังตกใจจนกลายเป็นแบบนี้ คนที่เจิ้งก่วงอี้เรียกว่านายท่านช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว ผู้คนทั้งหลายก็รู้สึกดีใจที่บังเอิญโชคดีไม่ได้มีเรื่องกับถางโร้ว
ถางโร้วจ้องมองไปที่ฮู่จิ้นอย่างโกรธเคือง “ฉันอยากให้พวกคุณขอโทษพ่อแม่ของฉัน และฮู่เหวินต้องล้างมลทินที่ทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียหาย”
“ฉันยอมขอโทษ……พวกเรายอมขอโทษ….” ฮู่จิ้นและลูกชายรีบตะโกนเสียงดัง พวกเขาคิดไม่ถึงว่าความต้องการของถางโร้วจะง่ายขนาดนี้
“ขอโทษอะไรกัน? ใครต้องขอโทษใคร?” ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่ดังก้องกังวานมาจากประตู เมื่อทุกคนได้ยินเสียงก็หันไปมองหลังจากนั้นก็ต่างทยอยก้าวถอยหลังให้คนที่เดินเข้ามา คนที่เดินเข้ามาคือเฉินฮั่นหลงและหลี่เทียน พวกเขาเจอกันอยู่ชั้นล่างพอดีก็เลยเดินขึ้นมาด้วยกัน
“ประธานเฉิน! ประธานหลี่!” ทุกคนก็ต่างพากันทักทาย
หลี่เทียนน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เฉินฮั่นหลงผู้นี้เป็นผู้ทรงอำนาจในวงการใต้ดินเมื่อเขามาที่นี่ถึงกับทำให้ผู้คนตื่นกลัว เฉินฮั่นหลงและหลี่เทียนยิ้มให้เจิ้งก่วงอี้ก่อนจะเดินเข้ามาทักทาย
“พวกคุณยืนอยู่ตรงนี้ทำอะไรกันเหรอ? มีเรื่องอะไรสนุก ๆ สินะ?” เฉินฮั่นหลงถามออกมา ทุกคนยังไม่ตอบคำถามเขา สีหน้าของเฉินฮั่นหลงก็เปลี่ยนไปเขารีบเดินไปโค้งคำนับให้กับถางโร้วทันที
“คุณถาง สวัสดีครับ!” ถางโร้วรู้จักเฉินฮั่นหลงเธอพูดตอบกลับอย่างไม่เกรงอะไร
“คุณเฉิน สวัสดีค่ะ!” ในเวลานี้ หลี่เทียนก็รีบเดินเข้ามา
“คุณหนูถางโร้ว สวัสดีครับ! รบกวนพาผมไปทักทายนายท่านหน่อยครับ”
“คุณหลี่ สวัสดีค่ะ!” ถางโร้วพยักหน้าเล็กน้อย คนที่อยู่บริเวณนี้ตัวแข็งทื่อลูกตาแทบทะลักออกมา นายท่านคนนี้เป็นใครกันแน่? แต่ไม่สนว่าจะเป็นใคร พอผ่านคืนวันนี้ไป นายท่านที่ลึกลับท่านนี้จะต้องมีชื่อเสียงในเมืองกู่เจียงเป็นแน่
ถางเหวินเหยียนและซ่งซื๋อก็สบตากัน พวกเขาล้วนเห็นสายตาที่หวาดผวาของฝ่ายตรงข้าม ลูกสาวของพวกเขารู้จักคนแบบไหนกันแน่?
คนที่อยู่ตรงหน้านี้ทุกคนเป็นผู้ทรงอำนาจในเมืองกู่เจียง โดยเฉพาะเฉินฮั่นหลงที่เป็นเหมือนเจ้าพ่อวงการมาเฟียในเมืองกู่เจียง
“พวกนายเมื่อกี้กำลังทำอะไรกันอยู่? ฉันได้ยินว่าใครต้องขอโทษ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” เฉินฮั่นหลงถามด้วยความอยากรู้ เจิ้งก่วงอี้ก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้เฉินฮั่นหลงฟังหนึ่งรอบ เฉินฮั่นหลงฟังจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปหน้าผากเริ่มมีเม็ดเหงื่อโผล่ขึ้นมา
“ถางโร้วโดนตบ?” เรื่องนี้มันสั่นสะเทือนฟ้าดินจริง ๆ คนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครรู้นิสัยของฉู่ชวิ๋นดี ไปกว่าเขาอีกแล้ว
“เพื่อนเฉิน ครั้งนี้นายต้องช่วยฉัน…” เจิ้งก่วงอี้มองเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเฉินฮั่นหลง ในใจก็เต้นตุบ ๆ
“ตอนนี้ทำได้แค่เพียงกู้คืนสถานการณ์ให้เต็มที่ เรื่องนี้นายต้องไปยอมรับความผิดกับนายท่านด้วยตัวเอง” เฉินฮั่นหลงพูดเสียงเข้ม
“ต้องให้เพื่อนเฉินชี้แนะแล้ว” เจิ้งก่วงอี้รีบขอบคุณเฉินฮั่นหลง เฉินฮั่นหลงไตร่ตรองสักพักและหันไปมองถางโร้ว
“คุณถางให้ผมดูแผลบนใบหน้าคุณได้หรือเปล่า?” ถางโร้วกุมหน้าของตัวเองเอาไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ก่อนหน้านี้เฉินฮั่นหลงมองไม่เห็นรอยแผล
ถางโร้วปล่อยมือออก ใบหน้าอันงดงามมีรอยนิ้วทั้งห้าอยู่บนหน้าอย่างชัดเจน เหงื่อบนหน้าผากของเฉินฮั่นหลงที่พึ่งแห้งก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งน่องขาก็อ่อนแรงจนแทบล้มลงไป