จักรพรรดิเซียนหวนคืน - ตอนที่ 9
บทที่ 9 หยกช่วยชีวิต
EnjoyBook
บทที่ 9 หยกช่วยชีวิต
“ในเมื่อไม่มีคนประมูล งั้นหยกนี่ก็เป็นของผมแล้วนะ” ฉู่ชวิ๋นเดินตรงไปหาหงหลิง
หงหลิงไม่ได้โง่ เธอรีบประเคนหยกอุ่นนั่นให้ทันที
ฉู่ชวิ๋นรับหยกอุ่น ก่อนจะล้วงไปหยิบเอาเช็กออกมา “นี่ยี่สิบล้านส่วนอีกหนึ่งล้านเอาที่เฉินฮั่นหลงได้เลยนะ”
“จะให้ท่านสิ้นเปลืองได้ยังไงละครับ เงินที่ผมก็มี” เฉินฮั่นหลงรีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“ไม่เป็นไร คุณออกส่วนที่เหลือก็พอแล้ว” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นอย่างเรียบ ๆ “ผมไม่ค่อยชอบติดหนี้น้ำใจใคร ผมมีของขวัญให้คุณเป็นค่าเสียเวลา” พูดจบ ฉู่ชวิ๋นเพียงกระดิกนิ้ว หยกอุ่นในมือก็แตกแยกออกมาแผ่นหนึ่งผิวหยกที่ขาดเรียบราวกับใช้มีดตัดเนย!
ในขณะที่คนอื่น ๆ มองอย่างตกตะลึง ฉู่ชวิ๋นก็ใช้นิ้วตวัดลงไปอีกครั้งทำให้หยกแผ่นนั้นแยกออกเป็นสี่ส่วน
ฉู่ชวิ๋นหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่งใช้นิ้วกรีดไปนิดหน่อย พริบตาเดียวก้อนหยกก็กลายเป็นฝุ่นผงลอยว่อนในอากาศ เพียงไม่นาน ฉู่ชวิ๋นก็หยุดลง มองพักหนึ่งก่อนจะถามเฉินฮั่นหลง “คุณน่าจะพกปืนมาด้วยใช่มั้ย?” เฉินฮั่นหลงพยักหน้าอย่าง งง ๆ ก่อนจะชักปีนตรงเอวออกมาส่งให้ฉู่ชวิ๋น
“รับไว้ แล้วถอยไป” ฉู่ชวิ๋นยื่นแผ่นหยกให้เฉินฮั่นหลง พอเขารับหยกนั่นมาไว้ในมือ ก็มีไอเย็นแผ่ออกทั้งที่ตอนนี้อยู่ในฤดูร้อน เฉินฮั่นหลงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ เหงื่อบนหน้าผากหายไปแล้ว เขาตะลึงอยู่สักพักก่อนจะรีบถอยห่างและมองฉู่ชวิ๋นอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่ต้องกลัว!” พูดจบฉู่ชวิ๋นก็เล็งปืนมาที่เฉินฮั่นหลง
ปัง!
เสียงปืนที่ดังลั่นให้ทำเฉินฮั่นหลงตกใจจนแทบยืนไม่ไหว หลับตาปี๋ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฉู่ชวิ๋นต้องการจะฆ่าเขา คนอื่นตกใจไปตาม ๆ กัน คิดไม่ถึงว่าฉู่ชวิ๋นจะยิงเฉินฮั่นหลง และหลังจากนั้นคนอื่น ๆ ก็มองด้วยความตกตะลึงในสิ่งที่ตัวเองเห็น พวกเขาขนลุกซู่ไปทั้งตัว เห็นเพียงแค่กระสุนที่พุ่งตรงไปยังตัว แต่กลับมีระลอกคลื่นแผ่ออกมาด้านหน้าเฉินฮั่นหลงบังกระสุนไว้
หนึ่งวินาที
สองวินาที
ผ่านไปสามวินาทีจนกระทั่งได้ยินเสียง
“ติง” เฉินฮั่นหลงถึงได้ลืมตาขึ้นมา ก็เห็นลูกกระสุนตกอยู่ตรงเท้าตัวเองไม่ขยับ
“นี่มัน….” เขาพูดด้วยความงง เพราะเมื่อครู่เขาหลับตาถึงไม่รู้ไม่เห็นอะไร
“ปังปัง…!” ฉู่ชวิ๋นเริ่มยิงอีกหลายครั้ง และตอนนี้เฉินฮั่นหลงก็ไม่ทันได้หลับตา เขาเห็นอย่างชัดเจน กระสุนที่พุ่งเข้าหาเขาโดนระลอกคลื่นบางอย่างกั้นเอาไว้ เขามองมันอย่างประหลาดใจพร้อมกับร่างกายที่ยังคงสั่น เขารู้แล้วว่าสิ่งที่ฉู่ชวิ๋นมอบให้คืออะไร…มันคือชีวิตที่สอง!!
เฉินฮั่นหลงรีบเดินเข้าหาคนตรงหน้า
“ปึก” เสียงหัวเข่ากระทบลงบนพื้น เขาคุกเข่าแล้วกำลังจะพูดขึ้น ในขณะนั้นหยกในมือก็แตกออกละเอียด ฉู่ชวิ๋นหยิบเอาอีกแผ่นออกมา เพียงกระดิกนิ้วอยู่ไม่นานก็มีวงเวทย์เกิดขึ้นก่อนจะโยนมันให้เฉินฮั่นหลง
“พกของสิ่งนี้ไว้แล้วจะปลอดภัย ความร้อนความหนาวจะไม่คืบคลานหาตัว แล้วมันยังสามารถช่วยชีวิตคุณได้ด้วย ถึงแม้จะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ชนคุณเข้า ก็ไม่มีอันตรายเลยแม้แต่น้อยแต่ว่ามันใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะ”
“ขอบคุณ คุณมากครับ ขอบคุณมาก ๆ” เฉินฮั่นหลงกล่าวขอบคุณซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายครั้ง แถมยังโขกศีรษะลงกับพื้นเป็นการขอบคุณขั้นสูงแบบจีน
คนอื่น ๆ นิ่งเงียบไปนานแล้ว สิ่งที่พวกเขาเห็นเมื่อครู่มันคืออะไรกัน? พกหยกแผ่นเดียวแม้กระสุนก็ทำอะไรไม่ได้ นี่มันเทียบเท่ากับมีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต!! เถ้าแก่โจวตกใจจนเหมือนเอ๋อไปแล้ว เวลานี้เขาเพิ่งจะเข้าใจว่าตัวเองทำอะไรโง่ ๆ ลงไป ก่อนจะคุกเข่าลงด้วยความกลัว แล้วหันไปร้องขอชีวิตกับฉู่ชวิ๋น
“ท่านเซียนโปรดไว้ชีวิต ผมพร้อมที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ขอแค่ให้ท่านเซียนโปรดไว้ชีวิต”
เฉินฮั่นหลงที่ถือแผ่นหยกในมือยืนขึ้นแล้วยิ้มอย่างโง่ ๆ เขาลุกไปเตะเถ้าแก่โจวจนกลิ้งไปบนพื้น ก่อนจะพุ่งเข้าไปชกอย่างแรง
“สมองแกอยู่ที่ตูดรึไง ถึงได้หยาบคายกับคุณท่าน ฉันจะเอาแกให้ตาย!” เดิมทีเฉินฮั่นหลงเป็นพวกอันธพาลอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงระยะเวลาหลายปีมานี้ไม่ได้ลงมือเลย แต่หมัดของเขาก็ไม่ใช่หมัดที่เถ้าแก่โจวผู้เนื้อหนังนุ่มนิ่มจะรับไหว จึงได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“บัดซบ! แกกล้าเรียกคุณท่านว่าน้องชาย แกคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ? ไอ้บ้าเอ๊ย! วันหลังอย่าคิดว่าการขนส่งของแกจะผ่านที่ของฉันไปได้ง่าย ๆ!” เฉินฮั่นหลงทั้งเตะทั้งต่อยแถมยังด่าไปด้วย เพียงครู่เดียวเถ้าแก่โจวก็โดนซ้อมจนหน้าบวมเหมือนหมู
“บ้าเอ๊ยย เพียงแวบเดียวฉันก็มองออกแล้วว่าท่านฉู่ไม่ธรรมดา คนแบบนี้ทำไมถึงจะไม่มีเงิน แกมันมีตาหามีแววไม่” หลี่เทียนพูดออกมา ก่อนจะพุ่งไปเตะเถ้าแก่โจวชนิดที่ลืมรักษาภาพพจน์ตัวเอง คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้โง่ พอหายจากการตะลึงก็เข้าไปร่วมด้วย
“ตอนที่ท่านฉู่เดินเข้ามาผมก็ดูออกแล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพราะโดนไอ้หมานี่กรอกหู ผมคงจะไม่หยาบคายกับท่าน…จัดการไอ้โง่จิตใจต่ำทรามนี่ให้ตาย”
“พอคุณฉู่เดินมายืนอยู่ตรงนี้ ผมก็รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่และความน่าเคารพได้เลย ไอ้แก่อย่างแกกลับกล้าล่วงเกินท่านฉู่ ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเสียจริง” กลุ่มคนทั้งด่าทั้งเตะเถ้าแก่โจวอย่างรุนแรงจนเบียดเฉินฮั่นหลงออกไปและไม่มีที่ให้แทรกเข้าจัดการเถ้าแก้โจว จะให้ทนได้ยังไงนี่เป็นเวลาดีที่จะประจบ เฉินฮั่นหลงเริ่มพับแขนเสื้อขึ้นแล้วแทรกตัวเข้าไปจัดการกับเถ้าแก่โจวอีกครั้ง
หงหลิงยืนนิ่งไม่กล้าขยับ เธออยากจะเข้าไปจัดการกับเถ้าแก่โจวเหมือนกันแต่พอเห็นพวกที่เหมือนกินยาชูกำลังเข้าไปแล้วเธอก็รู้สึกขนลุกจนไม่กล้าที่จะเข้าไปร่วม
เถ้าแก่โจวที่น่าสงสารตัวกระตุกอยู่สองถึงสามครั้ง ก่อนจะสลบเหมือดไป เฉินฮั่นหลงและคนอื่น ๆ ถึงได้หยุดมือลง คนเจ็ดถึงแปดคนหายใจหอบออกมาเห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อกี้ไม่มีใครกินแรงใคร
“ต้องการให้ผม…ไหมครับ?” เฉินฮั่นหลงยกมือขึ้นมาทำท่าบาดคอ คนอื่นอดไม่ได้ที่จะถอยออกมาสองถึงสามก้าว เฉินฮั่นหลงช่างโหดร้ายเหลือเกิน ทำร้ายคนจนสลบแล้วยังจะฆ่าอีก คนอื่นอดไม่ได้ที่จะมองไปยังฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นส่ายหัว เถ้าแก่โจวก็แค่หาเรื่องเขาเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของเขาขาด ตอนนี้ก็ได้รับโทษที่ควรรับแล้ว ไว้ชีวิตไปก่อนละกัน ฉู่ชวิ๋นละสายตาไปมองคนอื่น ๆ
คนอื่น ๆ รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเพราะเมื่อครู่ที่เถ้าแก่โจวเยาะเย้ยฉู่ชวิ๋น พวกนั้นก็ร่วมมือไม่น้อย หรือว่าฉู่ชวิ๋นจะหันมาแก้แค้นพวกเขา?
ในตอนที่พวกเขากำลังกังวลอยู่นั่น ฉู่ชวิ๋นกลับหันหลังเดินออกไป ผ่านไปหลายนาทีเมื่อแน่ใจว่าฉู่ชวิ๋นจะไม่กลับมา คนอื่น ๆ ถึงได้ถอนหายใจออกมา
“ประธานเฉิน ท่านฉู่….”
หลี่เทียนพูดไม่ทันจบก็โดนเฉินฮั่นหลงพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน “คุณหลี่ เห็นแก่ความสัมพันธ์เรา ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนเลยว่าอย่าพยายามสืบเรื่องของท่านฉู่ถ้าเขาไม่เอ่ยปากพูดเอง ไม่อย่างงั้นบอกเลยว่าไม่มีใครบนโลกนี้สามารถช่วยคุณได้”
พอเห็นเฉินฮั่นหลงพูดอย่างจริงจังแบบนั้น หลี่เทียนก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“และอีกอย่าง ผมอยากจะเตือนทุกคนไว้ ท่านฉู่เป็นเหมือนเซียน ฝีมือของเขาที่พวกคุณเห็นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น หวังว่าทุกท่านจะควบคุมปากของตัวเองได้ ไม่อย่างงั้น อย่าหาว่าผมไม่เตือน”
คนอื่น ๆ พยักหน้าไปตาม ๆ กันต่อให้เฉินฮั่นหลงไม่พูดพวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ คนที่ใช้หยกสร้างเกราะกันกระสุนได้ เป็นสิ่งที่คนธรรมดาทำได้ซะที่ไหน พอคิดได้แบบนี้ คนอื่น ๆ ก็หันไปมองหยกในมือของเฉินฮั่นหลง และกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว สามารถเพิ่มชีวิตให้ตัวเองได้อีกหนึ่งชีวิต สิ่งนั้นมันช่างยั่วยวนซะเหลือเกิน จะต้องพยายามเข้าถึงตัวคนคนนี้ให้ได้… นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนคิด
เฉินฮั่นหลงที่เห็นสายตาของทุก ๆ คนก็แสยะยิ้มก่อนจะเอาหยกนั่นขึ้นมาจูบ ๆ ลูบ ๆ
“คุณเฉิน พวกเราคุยกันสักหน่อยดีไหม? หยกแผ่นนั้น ผมให้ห้าสิบล้านเป็นไง ผมจะจดจำความดีของคุณไปทั้งชีวิตเลย” หลี่เทียนทนต่อความยั่วยวนนั้นไม่ไหวจึงพูดขึ้น
“ให้เงินห้าสิบล้านก็คิดจะได้หยกนั่นไปเหรอ? ผมให้หนึ่งร้อยล้าน”
“ผมให้สองร้อยล้าน”
“ผมยอมให้หุ้นของบริษัทครึ่งหนึ่งเลยเอาไหม” ผู้คนต่างพากันอยากได้จนตัวสั่น
“ผมพูดว่าจะขายหรือไง?” เฉินฮั่นหลงยิ้มขึ้นมา ราคาจะสูงแค่ไหนมันก็ซื้อชีวิตเขาไม่ได้ พูดจบเขาก็เก็บหยกแผ่นนั้นไว้อย่างดี
ฉู่ชวิ๋นขับรถกลับไปยังภูเขาเฉียนหลง พอมีหยกก้อนนี้เขาก็จะสามารถเริ่มค่ายกลดูดวิญญาณฟ้าได้แล้ว
สำหรับฉู่ชวิ๋นแล้วการสร้างค่ายกลถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีค่ายกลก็สำเร็จ
ค่ายกลดูดวิญญาณฟ้า เริ่ม!!
เขาใช้หยกอุ่นเป็นจุดศูนย์กลาง จากนั้นค่ายกลก็เริ่มก่อตัวขึ้น พอเริ่มใช้งานค่ายกล ทั้งภูเขาเฉียนหลงก็สั่นไหว พลังชีพจรวิญญาณโดนอะไรบางอย่างดึงดูด มันไม่ได้แตกซ่านล่องลอยในอากาศ แต่กลับรวมกันเป็นกลุ่มก้อนและพุ่งเข้ามาหาฉู่ชวิ๋น
ค่ายกลดูดวิญญาณฟ้า ครอบคลุมบ้านพักตากอากาศนี่ไว้ทั้งหมด พลังในค่ายกลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ดอกไม้ใบหญ้าในบ้านก็ได้รับพลังงานจนเขียวชอุ่ม พลังวิญญาณนั้นยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ฉู่ชวิ๋นมองไปยังชีพจรวิญญาณ เขาเพื่อเริ่มสร้างค่ายกลป้องกันอย่างใจเย็นเพราะถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดหรือมีคนมารบกวนเขากลัวว่าค่ายกลดูดวิญญาณฟ้าจะหยุดทำงาน
พอรู้สึกว่ารอบ ๆ มีพลังวิญญาณอยู่เต็มไปหมด ฉู่ชวิ๋นก็นั่งลงเริ่มฝึกฝน กระทั่งถึงตอนกลางคืนที่แสงจันทร์ส่องไปทั่วบริเวณ
ฉู่ชวิ๋นลุกขึ้นจากการฝึกตนและรู้สึกถึงพลังในตัวที่มากขึ้น ขั้นรวบรวมลมปราณระดับกลาง!
วิถีมังกรฟ้าเจ้าแห่งโลกายังเป็นแค่ระดับหนึ่งอยู่ แต่ก็มั่นคงขึ้นแล้ว เมื่อรับรู้ถึงร่างกายที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ฉู่ชวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา โชคดีที่ค่ายดูดวิญญาณฟ้าสามารถกั้นเสียงได้ ไม่อย่างงั้นคนในภูเขาเฉียนหลงจะต้องตกใจตื่นกันระนาวแน่ ๆ
ในเวลานี้ พลังวิญญาณในบ้านพักตากอากาศเริ่มเบาบางลงเพราะพลังวิญญาณรอบ ๆ ถูกฉู่ชวิ๋นดูดซับจนหมดสิ้น!