จักรพรรดิเซียนหวนคืน - บทที่ 253 นำเลือดไปสร้างเป็นยา
บทที่ 253 นำเลือดไปสร้างเป็นยา
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นแฝงไปด้วยความเลือดเย็น สำนักดาบพิฆาตช่างโหดเหี้ยมจริงๆ สิ่งที่คนพวกนี้ตามหาก็คือเลือดของคนที่กินผลกีวี่ทองคำเข้าไปและนำมันไปกลั่นเป็นยาอีกที
มีกลิ่นผลไม้อ่อนๆ ในเลือดของเด็กหนุ่ม ซึ่งเป็นกลิ่นของผลกีวี่ทองคำ
“กลิ่นหอมของผลไม้นี่มันเหลือทนจริงๆ มิน่านายน้อยถึงต้องการมันนัก” จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่กำลังเก็บเลือดพูดอย่างสนอกสนใจ
โฮ่!
เลือดไหลออกมาไม่ยุ่ง พร้อมมีดของจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่โบกไปมา
เด็กหนุ่มกลัวจนตัวสั่นแต่ไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลย
ร่างของเขาถูกกรีดเพื่อรีดเลือดออกมา
บาดแผลบนตัวของเด็กหนุ่มไม่นานก็หายไป เพราะฤทธิ์ขิงผลกีวี่ทองคำ
“ช่างหอมจริงๆ ฉันอยากจะจิบสักหน่อยแล้วสิ” จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารณ์เมื่อได้กลิ่นหอมจากเลือดก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะจิบมัน
“ถ้าไม่กลัวนายน้อยจะตัดหัวแกทิ้งก็ดื่มไปเลย” จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารณ์อีกคนเอ่ย
“พวกแก….มันไม่ใช่คน พวกแกคือสัตว์ร้าย” ชายชราซึ่งเป็นจอมยุทธ์ครึ่งก้าวสู่จักรพรรดิที่นอนบาดเจ็บอยู่ตะโกนด่าด้วยความโกรธ เขาพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ล้มเหลว
“น่ารำคาญจริงๆ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิของสำนักดาบพิฆาตพูดอย่างเลือดเย็น “ฆ่ามัน”
จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “ได้เวลาแล้วสินะ เวลาส่งแกไปยังสรวงสวรรค์ไงละ!”
“ไอ้พวกสัตว์นรก ผลกรรมที่พวกแกทำ ท่านจอมมารฉู่จะต้องเอาคืนอย่างแน่นอน!” ชายชราคำรามอย่างไม่กลัวตาย
“หยุดก่อน!” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิหยุดจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่กำลังจะลงมือฆ่าและหันกลับไปหาชายชรา “แกรู้จักจอมมารฉู่ขนาดไหนกันเชียว?”
ชายชราพูดด้วยความโมโห “ไม่รู้มากนักหรอก แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นหัวหน้าของพวกเรา!”
ชายคนนั้นแววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ก่อนที่จะพูดต่อว่า “สรุปแล้วสำนักเทียนหวู่จงมีความสัมพันธ์กับจอมมารฉู่จริงๆ สินะ และนั้นแหละเป็นเหตุผลว่าทำไมสำนักเทียนหวู่จงถึงต้องล่มสลาย!”
“ไปแจ้งข่าวซะ ว่าสำนักเทียนหวู่จงเกี่ยวข้องกับจอมมารฉู่ ทางนั้นจะได้ส่งคนไปเก็บกวาดเอง” จักรพรรดิอีกคนพูดขั้นอย่างไม่สบอารมณ์
“ครับ” จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์คนนั้นหันไปเปิดวิทยุสื่อสารเพื่อจะแจ้งข่าวกับพวกพ้อง
ฟิ้ว!
แสงสีม่วงพุ่งมายังหน้าของเขา ก่อนที่จะได้พูดอะไรมันก็ทะลุคอหอยโดยที่ไม่อาจต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
ปัง!
ร่างล้มลงกองกับพื้นทันที เสียงล้มทำให้คนที่เหลืออยู่ตื่นตัว
“ใครกัน!?”
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งตะโกนขึ้น ก่อนที่จะหยิบโซ่ขึ้นมาใช้เป็นอาวุธ โชคไม่ดีเลยที่จู่ๆต้นไม้ต้นใหญ่ก็โค้นลงมาทับพวกพ้องของเขาทันที กิ่งก้านของมันแทงทะลุร่างของคนพวกนั้น
“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นก้องไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน ไหล่ของชายคนนั้นถูกตัด เลือดไหลออกมาราวกับว่าแขนของเขากลายเป็นน้ำพุไปแล้ว
ฉั่ว!
หัวของคนที่เป็นจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์กระเด็นไปไกลทำให้เลือดนั้นพุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้าหลายเมตร
การตอบสนองของพวกสำนักดาบพิฆาตนั้นช้าเกินไป
ในขณะเดียวกันก็มีแสงสีม่วงปกคลุมร่างของชายชราและเด็กหนุ่มที่กำลังบาดเจ็บ แผลต่างๆ หายดีราวกับว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องกลัวไป” ฉู่ชวิ๋นปลอบพวกเขาราวกำลังปลอบนกน้อยที่กำลังหวาดกลัว เขาใช้ลมปราณจำแลงเข้าไปรักษาเด็กหนุ่มรวมถึงผู้บาดเจ็บคนอื่น
ฉู่ชวิ๋นเหลือบไปมองถังเลือดที่มีเลือดอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเด็กหนุ่มกินผลไม้วิเศษเข้าไป ทำให้เขาไม่ตายไปในทันที
ปัง!
จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ของฝั่งตรงข้างฉวยโอกาสโจมตีชายชราแต่ก็มีม่านพลังปกป้องอยู่ นั้นทำให้จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิของสำนักดาบพิฆาตตกใจและตื่นตัวในเวลาเดียวกัน
“แกคือจอมมารฉู่ใช่ไหม?” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนหนึ่งพูดขึ้น
พูดจบ คนที่เป็นจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์และทุกคนรอบๆ ก็ถอยหลังกันไปคนละก้าว
ดวงตาของชายชราและเด็กหนุ่มต่างก็เต็มไปด้วยแสงแห่งความหวัง
“ทำไมถึงรู้?” ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าตัวเองทำตัวกระโตกกระตากอะไรจนอีกฝ่ายรู้ตัวได้
“มีข่าวลือว่าจอมมารฉู่กำลังรวบรวมกองกำลังอยู่น่ะสิ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ฉู่ชวิ๋นก็พอเข้าใจแล้วว่าน่าจะมีคนในทรยศเขา
“ของคุณที่ช่วยพวกผมเอาไว้” ชายชราตะโกนอย่างประหลาดใจ
ฉู่ชวิ๋นโบกมือ “วันนั้นที่ภูเขาเซวียนฉี ผู้นำของพวกนายช่วยฉันเอาไว้ นี้ก็เพื่อตอบแทน”
ตอนนั้นเขาไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ และสำนักเทียนหวู่จงกับสำนักภูผาทมิฬก็ช่วยพ่อแม่ของเขาเอาไว้
ฉู่ชวิ๋นร่ายเขตแดนคุ้มกันเด็กหนุ่ม
“ส่วนพวกแก ตาย!” ฉู่ชวิ๋นมองไปยังพวกสำนักดาบพิฆาตแล้วตะโกนขึ้นมา
ฟิ้ว!
ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้าไปด้วยความเร็วปานสายฟ้า เขาอัดคนพวกนี้ด้วยความแค้นอันแสนสาหัส ที่เมืองมังกร ตอนที่เขากำลังสู้กับประตูวิญญาณสลาย สำนักดาบพิฆาตยังกล้าเข้าไปร่วมกับอีกฝ่ายในสถานกาณ์ที่เสียเปรียบแบบสุดๆ ของเขา
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้งสามของสำนักดาบพิฆาตรู้ทันทีว่าฉู่ชวิ๋น โหดเหี้ยมแค่ไหน ทั้งสามพุ่งเข้าไปหวังจะแลกกับอีกฝ่ายด้วยทุกสิ่งที่ตนมี
สู้กันได้ไม่นาน จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้งสามคนก็ถูกต่อยจนกระเด็นภายในหมัดเดียว พวกเขาลอยไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเข้าเต็มแรงก่อนที่จะล้มลงไป
ฉู่ชวิ๋นผลักต้นไม้ออกไปให้พ้นทางก่อนที่จะเข้าไปจัดการให้สิ้นซาก
ฉู่ชวิ๋นชกหมัดออกมา 3 หมัดติดต่อกัน กำปั้นของเขาร้องคำรามราวกับเสียงฟ้าร้อง
ปัง!
กำปั้นของเขาแข็งแกร่งจนอีกฝ่ายไม่อาจต่อต้านได้เลย
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้งสามและฉู่ชวิ๋นสู้กันอย่างดุเดือด จนเกิดเป็นพายุการระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวทำลายพื้นที่โดยรอบทั้งหมด
ฉู่ชวิ๋นรวบรวมลมปราณจำแลงรอบกำปั้นก่อนที่จะชกทั้งสามภายในหมัดเดียว ลมปราณจำแลงพุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำ ซัดทั้งสามให้กระเด็นไปไกล
ทั้งสามตกตะลึงมากพวกเขาไม่คิดว่าฉู่ชวิ๋นจะน่ากลัวขนาดนี้ แขนขวาของพวกเขาบิดเบี้ยว
ฉู่ชวิ๋นระเบิดใต้ฝ่าเท้าพุ่งตัวเข้าไปตามฆ่าอย่างโหดเหี้ยมไม่ให้อีกฝ่ายได้พักหายใจ
“จอมมารฉู่มันบ้าไปแล้ว”
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ เขาตั้งท่าก่อนที่จะหมุนตัวฟาดดาบใส่ฉู่ชวิ๋น
ฟิ้ว!
แสงจากดาบเปล่งประกายไปกับท้องฟ้ายามราตรี ก่อนที่จะปลดปล่อยพลังออกมา
“หึ เพลงดาบล้านเงา อีกแล้วเหรอ” ฉู่ชวิ๋นดูถูกอีกฝ่าย เขาเจอไอ้วิชานี้มาหลายครั้งแล้ว
ฉู่ชวิ๋นวาดบางอย่างบนท้องฟ้า จากนั้นจิตสังหารที่รุนแรงก็กระจายออกไปเป็นวงกว้าง
กลอักษร “ฆ่า !”
คำว่า “杀” สีม่วงระเบิดราวพายุและทำลายศัตรูทั้งหมด
แรงระเบิดทำให้แผ่นดินไหวและไฟลุกลาม เพลงดาบล้านเงาเองก็ถูกทำลายลงด้วยเช่นกัน
ตู้ม!
จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่ใช้เพลงดาบล้านเงาโดยเข้าเต็มไป ร่างครึ่งบนของเขาระเบิดเป็นเศษเนื้อ ปากของเขาไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ก็หายไปเสียแล้ว
“พวกสำนักดาบพิฆาตมันใช้เป็นอยู่กระบวนท่าเดียวหรือไง?” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นมาอย่างสงสัย
ตู้ม!
ทันใดนั้นอากาศรอบๆ ก็บิดตัวพลังวิญญาณไหลเขาไปยังตัวดาบ ตอนนี้เงาของดาบสูงถึง 10 ฟุตแล้ว
“จอมมารฉู่ เอาเพลงดาบล้านเงานี้ไปกินซะ!”
ปัง!
เงาดาบอันน่าสะพรึงกลัวถูกตัดลงมาจากฟากฟ้า โลกสั่นสะเทือน ต้นไม้และก้อนหินโดยรอบถูกบดขยี้กลายเป็นผงด้วยลมปราณของดาบล้านเงา
มุมปากของฉู่ชวิ๋นยกขึ้นเล็กน้อย รูขุมขนของเขาเปร่งแสงทองออกมา ร่างกายกลายเป็นสีม่วง อวัยวะภายในส่องสว่าง หมัดของเขาทะยานเข้าไปราวมังกร
แกร็ง!
เพลงดาบล้านเงาของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิปะทะกับหมัดของเขา ทำให้เกิดเสียงโลหะปะทะกันอย่างแรง
ผั่ว!
ฉู่ชวิ๋นเหวี่ยงหมัดหลายสิบครั้งอย่างต่อเนื่อง หมัดแต่ละหมักราวกับสายฟ้าระเบิดกลางอากาศ
แกร็ก!
เสียงหมัดปะทะกับดาบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดพวกเขาก็แยกออกจากกัน
อะเฮือก!
อีกฝ่ายกระอักเลือดออกมา ลมหายใจรวยรินใกล้จะตายเต็มทีแล้ว
ฉู่ชวิ๋นค่อยๆ ลงมาจากฟ้า พร้อมกับเหวี่ยงหมัดที่ส่องแสงสีม่วงออกมา หมัดนั้นพุ่งออกไปด้วยราวกับกระสุนปืน
ผั่ว!
เลือดสาดกระจายไปทุกหนทุกแห่งและแล้วจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนนี้ก็ถูกฉู่ชวิ๋นจัดการอย่างโหดเหี้ยม
“ยังไงก็เถอะ เป็นวิชาที่น่าสนใจดีจริงๆ” ฉู่ชวิ๋นชมอีกฝ่ายจากใจจริง สำหรับคนที่เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิ วิชาดาบของพวกเขาจัดได้ว่าเป็นแนวหน้าเลยก็ว่าได้
ตอนนี้จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิทั้งสามอยู่ในภาวะที่ต่างกัน หนึ่งคนตายแบบ ร่างเหลือแค่ครึ่งร่าง อีกคนแหลกเป็นเศษเนื้อและคนสุดท้ายยังคงยืนนิ่ง
ฉู่ชวิ๋นมองหน้าจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิคนสุดท้าย “เอาหละ แกจะมาไม้ไหนอีก ใช้มันซะเพราะแกจะไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีกแล้วหลังจากนี้”
หัวใจและส่วนต่างๆ ในร่างกายของจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิกำลังสั่นสะท้าน เพราะวิชาดาบของสำนักดาบพิฆาตนั้นไร้ที่ติ แต่เมื่อมาเจอกับฉู่ชวิ๋นแล้ว เขาก็ได้แต่ต้องยอมแพ้ ความสามารถของเขาไม่ต่างกับพวกพ้องอีกสองคนนัก แต่เขาจะมายอมตายเหมือนหมาข้างถนนนี้ไม่ได้!
“เหอะ! ระวังจะรับพลังของข้าไม่ไหวก็แล้วกัน!” ชายที่ยืนอยู่คนสุดท้าย
ก็เปลี่ยนท่าทีอันหวาดกลัวของตัวเอง กลายเป็นชายที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เขากำดาบด้วยมือทั้งสองข้างก่อนที่จะฟาดฟันออกไปอย่างสุดแรง
ดาบที่มีพลังลมปราณนั้นขยายร่างใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว มันเป็นฉากที่ชวนขนหัวลุกอย่างยิ่ง
ฟิ้ว!
ดาบฟาดฟันลงมายังจุดที่ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่
เขาเลิกคิ้วขึ้น เขาได้แต่รู้สึกผิดหวังกับความดื้อดึงของคนพวกนี้
หลังจากนั้นพวกจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ก็หันหลังกลับและวิ่งรีบหนีทันที
“หม่ายวี้ผิง แกมันไอ้ขี้ขลาด!” ชายชราอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา
จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ของสำนักพิฆาตทุกคนต่างหวาดกลัว ริมฝีปากของพวกเขาสั่นเทา
ฉู่ชวิ๋นส่ายหน้า ร่างของเขาวิ่งผ่านคมดาบยักษ์ที่พุ่งเข้ามาและเข้าประชิดศัตรูในพริบตาเดียว
ตู้ม!
ดาบที่พลาดเป้าปะทะเข้ากับเงาร่างของฉู่ชวิ๋น ทำให้เกิดระเบิดขึ้นทั่วทั้งท้องฟ้า
ฉู่ชวิ๋นสะบัดมือเบาๆ เส้นไหมวิญญาณก็ลอยออกมาก่อนที่มันจะพุ่งเข้าไปทะลุคอจอมยุทธ์ขั้นปรมจารย์เหล่านั้น
แม้จอมยุทธ์ขั้นปรมจารย์เหล่านั้นจะฝึกมาไม่มากนัก แต่พวกมันก็โหดร้ายมาก พวกมันเอาเลือดของเด็กหนุ่มไปอย่างไม่มีความสงสารเลยแม้แต่น้อยและนี้ก็อาจจะไม่ใช้ครั้งแรกที่พวกมันออกล่า ซึ่งเป็นอะไรที่โหดร้ายมาก ตอนนี้พวกมันต้องได้รับผลของการกระทำที่สาสม!
ฉู่ชวิ๋นสังหารคนพวกนั้นอย่างไม่สนใจใยดี
เพลงดาบล้านเงาของอีกฝ่ายทิ้งแรงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวเอาไว้ เกิดแสงสว่างราวกับฟ้าผ่าไปทั่วทั้งท้องฟ้า จากนั้นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิก็หนีไปอย่างรวดเร็ว
แต่ภายในไม่กี่อึดใจ ฉู่ชวิ๋นก็ไล่ตามจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิที่หนีตายได้ทัน ก่อนที่จะใช้กำปั้นสีม่วงต่อยเข้าไปยังหัวของชายคนนั้นจนระเบิดเป็นเศษเนื้อ
ป่าทั้งป่าตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นคาวของเลือด
ฉู่ชวิ๋นช่วยชายชราให้ลุกขึ้นมาก่อนที่จะรักษาบาดแผลของเขาและแอบโอนถ่ายเลือดกลับเข้าไปยังร่างของเด็กหนุ่ม
“ขอบคุณ ท่านฉู่มากที่ช่วยชีวิตพวกเราเอาไว้ พวกเราจะไม่มีวันลืมบุญคุณ ท่านเลย” ชายชราคุกเข้าเคารพ
ฉู่ชวิ๋นโบกมือ และใช้พลังที่มองไม่เห็นพยุงร่างของชายชราขึ้นมา
“ผู้อาวุโสตกเป็นเป้าของสำนักดาบพิฆาตได้ยังไง?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัย
“ทุกอย่างเป็นเพราะผลกีวี่ทองคำ…” ชายชราพูดอย่างเคร่งขรึม
ปรากฏว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายคนเดียวของ เจ้าสำนักเทียนหวู่จง และกลุ่มพวกเขาก็ออกไปล่าสัตว์ร้าย เด็กหนุ่มบุกเข้าไปในสถานที่ลึกลับโดยไม่ได้ตั้งใจและได้รับผลกีวี่ทองคำมา แต่ใครจะคิดว่านายน้อยแห่งสำนักดาบพิฆาตเองนั้นรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่เขาไม่สามารถบุกเข้าไปในสถานที่ลึกลับได้ เป็นผลให้เมื่อพวกเขาก้าวออกจากสถานที่ลึกลับก็ถูกตามล่าทันที ตอนแรกพวกเขามีกันมากกว่าหนึ่งโหลแต่ตอนนี้มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่รอดชีวิต
ฉู่ชวิ๋นมองไปยังชายหนุ่มคนนี้ เด็กคนนี้โชคดีมากที่รอดออกมาจากสถานการณ์แบบนี้มาได้
“ทำไมคุณถึงหนีไปยังภูเขาหวู่จินล่ะ?” ฉู่ชวิ๋นถาม
“สำนักภูผาทมิฬ และ สำนักเทียนหวู่จง เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เมื่อเจ้าสำนักรู้ว่าสำนักภูผาทมิฬมีปัญหา พวกเราเองก็อยากจะยืนมือเข้าช่วยเลยมารวมตัวกันที่นี่”
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเขาใจ
ชายชราและเด็กหนุ่มที่รอดออกมาได้ก็ทำการฝั่งศพพวกพ้องและทำป้ายหลุมศพให้
จากนั้นคนทั้งสามก็รีบเดินทางเข้าไปยังป่าลึกในภูเขาหวูจินด้วยกัน
อย่างที่ทุกคนรู้กัน ตอนนี้ภูเขาหวูจินกำลังตกอยู่ในวิกฤติครั้งใหญ่!