จักรพรรดิเซียนหวนคืน - บทที่ 337 นักรบจากยุโรป
บทที่ 337 นักรบจากยุโรป
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว” ชายหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างฉู่ชวิ๋นคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น เขามีนามว่าเยวี่ยต้าย่ง มีอุปนิสัยเต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ เขาตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล “แกมาทำอวดดีที่นี่ แกต้องตาย”
เมื่อ ฮอฟมัน เห็นว่ามีคนพร้อมต่อสู้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนพูดเสียงดัง “ฉันนึกว่าพวกแกจะเป็นคนขี้ขลาดกันหมด แต่อย่างน้อยก็มีคนกล้าหาญอยู่บ้าง และเพื่อแสดงความเคารพต่อแก ฉันจะตัดหัวแกให้ทุกคนดูเอง!”
ดาบทองคำเป็นประกาย ปลายดาบชี้ไปยังเยวี่ยต้าย่ง
เยวี่ยต้าย่งสูงกว่าสองเมตร ยืนตระหง่านเหมือนกับเสาไฟฟ้า เขากระโจนเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามด้วยมือเปล่า
ดาบในมือของ ฮอฟมัน ส่องแสงสว่างไสวขณะที่ตวัดออกไปหมายจะตัดหัวเยวี่ยต้าย่งด้วยความดุร้าย
ถึงแม้ว่าเยวี่ยต้าย่งจะมีร่างกายสูงใหญ่ แต่เขาก็มีความยืดหยุ่นสูงเช่นกัน ชายหนุ่มสามารถก้มตัวหลบคมดาบของอีกฝ่ายได้ พร้อมกับหมุนตัวและกระแทกหลังมือใส่ฮอฟมัน
ฮอฟมันระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความดูถูก ดาบทองคำในมือของตวัดกลับมา
เปรี้ยง!
ประกายไฟสาดกระจายเมื่อคมดาบปะทะเข้ากับกำปั้นของเยวี่ยต้าย่ง เสียงดังสะเทือนไปถึงหูของทุกคน
ตู้ม!
เยวี่ยต้าย่งสีหน้าแปรเปลี่ยน แรงกระแทกจากตัวดาบของอีกฝ่ายทำให้เขาตัวเซถอยหลังไปหลายก้าว
ฮอฟมัน ยิ้มกริ่มอย่างชั่วร้าย ตวัดดาบลงไปที่ลำคอของเยวี่ยต้าย่ง ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ
ทุกคนได้แต่ตกตะลึง ฝีมือของฮอฟมันแข็งแกร่งมากเกินไป เยวี่ยต้าย่งไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแม้แต่น้อย ระดับพลังของทั้งสองฝ่ายห่างชั้นกันมากเกินไป
เยวี่ยต้าย่งเองก็กำลังตื่นกลัวเช่นกัน เขาถูกฝ่ายตรงข้ามซัดกระเด็นมาอย่างง่ายดาย อานุภาพคมดาบของฮอฟเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถต่อกรได้
แต่ขณะที่ดาบของฮอฟมันกำลังจะสัมผัสกับลำคอของเยวี่ยต้าย่ง หยานหวูซวงก็ชักดาบของตัวเองออกมาและกระโดดเข้าไปรับดาบทองคำเอาไว้
เสียงคมดาบปะทะกันดัง “เคล้ง” แรงกระแทกทำให้ ฮอฟมัน เซถอยหลัง จนหยานหวูซวงรีบหมุนตัวตวัดดาบ ฟาดฟันใส่ฮอฟมันอีกครั้ง
เปรี้ยง!
ประกายไฟสาดกระจายไปทั่วบริเวณ ดาบทั้งสองเล่มดีดตัวออกจากกัน ฮอฟมันถึงกับเซถอยหลังไปอีกหลายก้าว ยืนอย่างไม่มั่นคงนัก
“ใครกันกล้ามาลองดีกับฉัน?” ฮอฟมัน คำรามด้วยความเดือดดาล
“ฉันเอง” หยานหวูซวงตอบกลับทันที พร้อมกับจ้องมองฮอฟมันด้วยความอาฆาตแค้น “นี่น่ะเหรอคนที่เก่งที่สุดของพวกแก โชคดีเหลือเกินนะที่แกเกิดที่ยุโรป ถ้าเกิดในแผ่นดินใหญ่ ระดับฝีมือเท่านี้คงเป็นได้แค่ลิ่วล้อของคนอื่นเท่านั้น อย่าหวังจะได้เป็นหัวหน้าใครเลย”
ถึงแม้ ฮอฟมัน จะสามารถพูดภาษาจีนได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังมีอีกหลายคำที่เขาไม่ทราบความหมาย ฮอฟมันเลยหันกลับไปถามคนที่อยู่ข้างตัวว่าคำว่าลิ่วล้อหมายถึงอะไร? เมื่อได้ทราบความหมายแล้ว ฮอฟมันก็หันกลับมาด้วยสีหน้าโกรธจัด
“พวกแกมันก็แค่ไอ้ลิงเหลือง ในเมื่อกล้ามาต่อสู้กับฉัน แกจะได้รู้ถึงความน่ากลัวของวิหารดวงตะวัน ฉันจะฆ่าแกเอง”
หยานหวูซวงหัวเราะในลำคอ “ไอ้พวกฝรั่งเอ๋ย คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหรือไง จะเป็นตัวแทนสำนักมาฆ่าฉันว่างั้น? คนอย่างแกฉันจัดการได้ไม่ยากเท่าไรหรอก”
เยวี่ยต้าย่งสีหน้าที่เต็มไปด้วยความละอายใจ เขาก้มหน้าก้มตาพูด “รองหัวหน้าทีมหยาน ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้”
หยานหวูซวงตบไหล่เขาอย่างปลอบใจ “สู้แล้วแพ้ ก็ยังถือว่ากล้าหาญกว่าพวกเศษสวะที่ยืนดูเฉย ๆ หลายเท่านัก!”
หยานหวูซวงกวาดตามองกลุ่มจอมยุทธ์จีนที่ยืนอยู่โดยรอบ เขาไม่สนใจสายตาแห่งความเกลียดชังที่ทุกคนจ้องมองมา คนกลุ่มนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอยู่แล้ว
หยานหวูซวงเป็นคนที่หยิ่งทะนงในตนเองมาก
“ไอ้หัวทอง เก่งจริงก็เข้ามา ฉันจะตัดหัวสุนัขของแกเอง” หยานหวูซวงตั้งใจพูดกับฮอฟมัน
“รองหัวหน้าทีมหยานโคตรเท่เลยครับ” ฉู่ชวิ๋นตะโกนแซวหยานหวูซวง
“รองหัวหน้าทีมหยาน ตัดหัวสุนัขของมันซะ มันจองหองเกินไปแล้ว”
“จัดการมันเลย น้องชาย พวกเราเป็นกำลังใจให้” อี้เสี่ยวซูพูดอย่างมีความสุข ครั้งนี้สมาคมนักล่ามังกรของพวกเขาคงได้เฉิดฉายเป็นแน่แท้
“ไอ้พวกลิงโสโครก ฉันจะตัดหัวพวกแกและบอกให้โลกนี้รู้ว่า เลือดของพวกแกมันสกปรกยิ่งกว่าน้ำล้างพื้นวิหารของฉันซะอีก”
หยานหวูซวงระเบิดเสียงหัวเราะ ลมปราณแผ่ออกมาจากร่างกาย “วิหารของแกมันสูงส่งเหลือเกินนะ ฉันขอดูฝีมือสักหน่อยเถอะ ว่าจะเก่งเหมือนปากหรือเปล่า”
ฮอฟมันเงื้อดาบพุ่งเข้าไปหาหยานหวูซวงด้วยความเดือดดาล ร่างกายของเขาเป็นประกายสีแดงสว่างจ้า
ฉู่ชวิ๋นหยีตามอง นี่หรือพลังแสงอาทิตย์?
หยานหวูซวงโคจรพลังลมปราณรอรับไว้อยู่แล้ว ดาบในมือของเขาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวราวกับอสรพิษ แทงไปที่ลำคอของฮอฟมัน
ดาบของหยานหวูซวงรวดเร็วมากเสียจนฮอฟมันต้องดึงดาบกลับมาปัดป้อง
เคล้ง!
ดาบทองคำของฮอฟมันปะทะเข้ากับดาบของหยานหวูซวง เกิดเป็นประกายไฟสาดกระจายกลางอากาศ
เสียงดาบปะทะกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสื้อผ้าของพวกเขาปลิวไสวตามแรงลม พวกเขาหายใจอย่างรุนแรง หยานหวูซวงเป็นคู่ต่อสู้สุดแข็งแกร่งที่ฮอฟมันพึ่งเคยพบเจอมาก่อน
ข้อมือของหยานหวูซวงขยับด้วยความรวดเร็ว ดาบในมือของเขาตวัดตัดดาบของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดประกายไฟกลางอากาศ แล้วร่างของทั้งสองฝ่ายก็หมุนสวนกัน
หยานหวูซวงมีความคล่องตัวเยอะกว่ามาก เขาหมุนตัวอีกตลบแล้วตวัดดาบฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง
เฮือก!
ฮอฟมันร้องด้วยความเจ็บปวดในขณะที่เลือดสาดกระจายออกมาจากแผ่นหลัง เขาถูกดาบของหยานหวูซวงฟันใส่จนเป็นแผลใหญ่
“ไอ้ลิงเหลืองโสโครก แกกล้าทำร้ายฉัน!?”
ลำตัวของฮอฟมันเปล่งประกายเปลวไฟสีแดง แล้วอุณหภูมิรอบตัวก็พุ่งสูงขึ้นโดยทันที นี่คือความน่ากลัวของพลังแสงอาทิตย์จากวิหารดวงตะวัน
พื้นดินใต้เท้าของฮอฟมันส่งเสียงระเบิดตัวดัง “เปรี๊ยะ” แล้วมันก็ถูกพลังของแสงอาทิตย์แผดเผาจนแตกละเอียด
ฮอฟมันส่งเสียงคำรามในขณะที่ดาบทองคำกลายเป็นสีแดง ตวัดตรงเข้าใส่ลำตัวของหยานหวูซวง
หยานหวูซวงยกดาบขึ้นปัดป้อง ดาบในมือสั่นสะเทือนอย่างแรงเมื่อปะทะเข้ากับดาบของฮอฟมัน
เคล้ง!
เสียงเนื้อโลหะปะทะกันดังถนัดหูอีกครั้ง ฮอฟมันถูกกระแทกจนเซถอยหลังกลับไป
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือหยานหวูซวง มือข้างหนึ่งของเขามีควันสีขาวลอยขึ้นมา ตัวดาบของเขากลายเป็นสีแดงเพลิงพร้อมที่จะหลอมเหลวได้ตลอดเวลา
“รองหัวหน้าทีมหยานได้รับบาดเจ็บแล้ว” เยวี่ยต้าย่งอุทานด้วยความตกใจ
อี้เสี่ยวซูพูด “นี่หรือพลังแสงอาทิตย์ ช่างแปลกประหลาดและน่ากลัวจริง ๆ”
ทุกคนเห็นตรงกันว่า ฮอฟมัน มีฝีมือเท่ากับจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 6 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยานหวูซวง แต่ฮอฟมันมีพลังแสงอาทิตย์เป็นส่วนเสริม ช่วยเพิ่มพูนพลังการต่อสู้ให้มากขึ้นและทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บเวลาสู้ระดับประชิดจากความร้อนรอบตัว
หยานหวูซวงโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง มือซ้ายของเขาสั่นเทาใช้งานไม่ได้ชั่วคราว ถ้าเมื่อสักครู่นี้เขาเคลื่อนไหวไม่เร็วพอ มือขวาก็คงมีชะตากรรมไม่ต่างกัน
“ไอ้ลิงสกปรก ทีนี้รู้จักความน่ากลัวของพลังแสงอาทิตย์หรือยัง?” ฮอฟมัน พูดด้วยความภูมิใจที่ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้สำเร็จ
“ไอ้ฝรั่งหัวทอง คิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้จริง ๆ ใช่ไหม” หยานหวูซวงลงมืออย่างจริงจังแล้ว ลมปราณพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างน่ากลัว มวลอากาศรอบตัวปั่นป่วนภายในพริบตา
ลมปราณพุ่งออกไป! ลมปราณจากมือขวาของหยานหวูซวงตรงไปที่ฮอฟมัน
ฮอฟมันคำรามเสียงดัง ตวัดดาบปัดป้องการโจมตีของหยานหวูซวง ที่เกิดพายุลมหมุนก่อตัวขึ้น กินรัศมีหลายสิบเมตร
สีหน้าของจอมยุทธ์ชาวจีนทุกคนแปรเปลี่ยนไป เนื่องจากสิ่งที่พวกเขาได้เห็นก็คือฮอฟมันสามารถใช้ดาบทำลายลมปราณของหยานหวูซวงลงได้ ตัวดาบทองคำของเขามีพลังแสงอาทิตย์ห่อหุ้ม ส่งผลให้พลังลมปราณของหยานหวูซวงที่โจมตีเข้ามาอ่อนแอลงมากกว่าเดิม
นับว่าพลังแสงอาทิตย์น่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง มันคือตัวช่วยที่สำคัญในการต่อสู้ เมื่อเป็นแบบนี้การโจมตีของหยานหวูซวงจะอานุภาพที่ลดน้อยลงไปถึงครึ่งหนึ่งทำให้หยานหวูซวงไม่สามารถโจมตีอย่างเต็มที่
หยานหวูซวงรอจังหวะไม่โหมโจมตี ในดวงตาของเขาเป็นประกายระยิบระยับ ลมปราณถูกรวบรวมอีกครั้งที่ฝ่ามือของเขา ก่อนที่จะซัดเข้าใส่หมายจะปลิดชีวิตฮอฟมัน
เปรี้ยง!
เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง เกิดเสียงคำรามดังต่อเนื่องเช่นกัน
ไม่ช้า ฮอฟมันก็ต้องล่าถอยออกมา อาการบาดเจ็บของฮอฟมันนั้นสาหัสมากกว่าหยานหวูซวง ถ้าไม่ได้พลังแสงอาทิตย์ช่วยเอาไว้ ป่านนี้ฮอฟมันคงพ่ายแพ้ไปแล้ว
แต่คุณชายหยานไม่ใช่คนโง่ เขารู้แล้วว่าเขาต้องโจมตีจากระยะไกลเท่านั้น ห้ามเข้าระยะใกล้ แบบนี้พลังแสงอาทิตย์ก็จะไม่อาจทำอะไรเขาได้
เคล้ง!
ดาบในมือของฮอฟมันหล่นลงไปกองกับพื้น ปากของฮอฟมันกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
หยานหวูซวงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเดินเข้าไปเอาดาบพาดลำคอของฮอฟมันเตรียมสังหาร แต่ในทันใดนั้นเอง หยานหวูซวงก็ไม่มีโอกาสได้ลงมือ
ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน
ธนูน้ำแข็ง 3 ดอกถูกยิงเข้าใส่ตรงตำแหน่งที่หยานหวูซวงเคยยืนอยู่เมื่อวินาทีก่อน แต่ตอนนี้พื้นที่ตรงนั้นว่างเปล่าไปแล้ว
ทุกคนได้แต่ปากอ้าตาค้างเมื่อเห็นว่าธนูน้ำแข็งพอปักลงไปบนพื้น พื้นดินก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำแข็งแผ่กระจายออกมาเป็นวงกว้าง โดยที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ลูกธนูดอกแรก กินบริเวณกว้างกว่า 3 เมตร
“เปรี๊ยะ!”
แล้วพื้นดินที่เป็นน้ำแข็งก็แตกตัวออกทันที
แม้แต่ฉู่ชวิ๋นก็ยังต้องเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง ถ้าลูกธนูพวกนี้ยิงใส่คน คนผู้นั้นก็จะกลายเป็นน้ำแข็ง ถ้าถูกสัมผัสตัวเมื่อไหร่ก็จะน้ำแข็งก็จะแตกกระจาย
หยานหวูซวงโกรธมาก เขาเริ่มมองหาที่มาของลูกธนูเหล่านี้ แล้วเขาก็พบว่าผู้ที่ยิงมันออกมาเป็นหญิงสาวชาวยุโรปหน้าตาสวยงามมากคนหนึ่ง
เธอมีรูปร่างเย้ายวนชวนเพ้อฝันตามแบบฉบับยุโรปขนานแท้ มีผมสีทอง ริมฝีปากสีแดงเพลิง ในมือถือคันธนูน้ำแข็งอันหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าหยานหวูซวงกำลังมองมาที่ตนเอง เธอก็ยกมือส่งจูบให้เขา ก่อนที่จะหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาถือ แล้วมันก็ละลายกลายเป็นเพียงละอองสีขาวลอยขึ้นไปจากมือของเธอ
สิ่งนี้…ทำให้จอมยุทธ์ชาวจีนทุกคนตกตะลึงกันหมด
“น่ากลัวเหลือเกิน”
ใครบางคนอุทานออกมา
ฉู่ชวิ๋นก็สงสัยอยู่ไม่น้อย เขาเคยได้ยินเรื่องเล่าลือมานานแล้วว่าชาวยุโรปสามารถใช้เวทมนตร์ควบคุมธาตุต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ หรือธาตุอีกหลายชนิดที่อยู่ในธรรมชาติ
“ฮอฟมัน นายแพ้แล้ว!” หญิงสาวผมทองพูดเป็นภาษาจีน
ฮอฟมันคำรามในลำคอและพูดกับหญิงสาวคนนั้นว่าเธอมันไร้เหตุผล แต่สุดท้ายเขาก็หยิบดาบทองคำขึ้นมาและกลับไปที่พักของตนเองแต่โดยดี
“คุณชายจอมยุทธ์รูปหล่อ ฉันยอมรับว่าคุณแข็งแกร่งมาก ฉันขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้ก็แล้วกัน ไม่ใช่จอมยุทธ์จีนทุกคนจะขี้ขลาด อย่างน้อยคุณก็สมควรได้รับการเคารพจากฉัน” หญิงสาวผู้นี้กวาดตามองโดยรอบและกล่าวต่อว่า “ฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ฉันมีนามว่าคาเร็น อลิซ หรือจะเรียกฉันว่าแม่มดน้ำแข็งไฟก็ได้”
ฉู่ชวิ๋นขมวดคิ้วกับคำว่าแม่มดน้ำแข็งไฟ หมายความว่านอกจากหญิงสาวคนนี้จะควบคุมธาตุน้ำแข็งได้แล้ว เธอยังควบคุมธาตุไฟได้อีกด้วย ฉู่ชวิ๋นเริ่มรู้สึกสนใจหญิงสาวที่ชื่อคาเร็นคนนี้ซะแล้ว เนื่องจากอย่างที่รู้กันดีว่าน้ำกับไฟไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ แล้วเธอทำได้ยังไง?
หยานหวูซวงเองก็ทราบถึงข้อนี้เช่นกัน จึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
แต่ทันใดนั้นเอง พื้นดินก็สั่นสะเทือน ไม่ใช่แผ่นดินไหว แต่มันสั่นสะเทือนจากการเคลื่อนไหวของนักรบจากยุโรปคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้นักรบคนนี้นั่งมาตลอด ตอนนี้เขาลุกขึ้นยืนแล้ว เขาสูงถึง 250 เซนติเมตร มีเอวหนาใหญ่ แข็งแรงยิ่งกว่าวัวกระทิง ถ้าจับเยวี่ยต้าย่งมายืนอยู่ข้าง ๆ เยวี่ยต้าย่งก็จะกลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างบอบบางไปในทันที
อาวุธในมือเขาคือดาบขนาดใหญ่มโหฬาร มีความยาว 3 เมตร มีความกว้าง 1 เมตร เขาเดินถือดาบออกมาข้างหน้า ตัวดาบเป็นประกายน่ากลัว ไม่ว่าเป็นใครต่างก็ต้องหลีกทางให้กับเขาคนนี้
“เคร็บส์ คุณจะทำอะไร?” แม่มดน้ำแข็งไฟถาม
“คุณผู้หญิง กลับบ้านไปซะเถอะ ที่นี่คือสนามรบ มีแต่เรื่องไร้สาระ ไอ้พวกลิงโสโครกพวกนี้ ฉันจะฆ่ามันให้หมด และทำให้ทั้งโลกได้จดจำฝีมือของอัศวินโต๊ะกลม”
ที่แท้ชายหนุ่มร่างยักษ์คนนี้ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของอัศวินโต๊ะกลมในตำนานจากฝั่งยุโรป ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าคราวนี้แม้แต่อัศวินโต๊ะกลมก็มาด้วย
“พวกแกออกมารอรับความตายกันซะดี ๆ” เคร็บส์พูดด้วยน้ำเสียงอวดดี และยิ้มอย่างโหดเหี้ยม
หยานหวูซวงเดือดดาลเป็นที่สุด ตอบกลับไปว่า “อัศวินโต๊ะกลมที่ไหนฉันไม่รู้จัก ฉันรู้จักแต่อัศวินโต๊ะจีน เฟ้ย…”
เสียงของหยานหวูซวงยังไม่ทันจะขาดหาย ดวงตาของทุกคนก็ต้องเบิกกว้าง
เคร็บส์ตวัดดาบและพุ่งเข้าใส่หยานหวูซวง
ตู้ม!
แผ่นดินสั่นสะเทือน พื้นดินเกิดรอยปริแตก ถ้าหยานหวูซวงไม่มีความรวดเร็วมากพอ ตัวเขาก็คงกลายเป็นเพียงเศษเนื้อกองหนึ่งไปแล้ว!