จักรพรรดิเซียนหวนคืน - บทที่ 396 คลื่นใต้น้ำ
บทที่ 396 คลื่นใต้น้ำ
วันต่อมา
ฉู่ชวิ๋นตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัว
เขาไม่เคยดื่มมานานแค่ไหนแล้วนะ? เท่าที่จำได้ตอนที่เมามายขนาดนี้ น่าจะเป็นตอนที่อยู่ในเมืองหยุนหยาน ซึ่งผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว
หลังจากโคจรพลังลมปราณจำแลงทั่วร่างกาย ฤทธิ์ที่สุราทิ้งไว้ในร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็ถูกขับออกไปหมดสิ้น
ฉู่ชวิ๋นลงจากเตียง เดินออกไปเปิดประตู สิ่งที่พบคือสวนหน้าบ้านของหลงชิงฉวน
“นายท่านฉู่ชวิ๋น ตื่นแล้วหรือครับ?” หลงชิงฉวนเดินเข้ามาจากประตูหน้าบ้าน
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าและพูดว่า “เราไปหาพวกหน่วยรบมังกรเงินกันได้หรือยัง?”
“ไม่ต้องห่วงครับ หาอะไรกินกันก่อนดีกว่า” หลงชิงฉวนสั่งให้คนนำอาหารเช้าและเครื่องดื่มมาจัดเตรียมให้ชายหนุ่ม
หลังจากที่ฉู่ชวิ๋นรับประทานอิ่มแล้ว เขาก็เดินตามกลุ่มคนไปที่ทะเลสาบหลงฉวน
กลุ่มคนตอนนี้นอกจากหลงชิงฉวนกับบรรดาชายชราแล้ว ก็ยังมีกลุ่มเด็กชายที่ติดสอยห้อยตามมาอย่างนึกสนุกอีกด้วย
สถานที่ซึ่งเป็นดินแดนแห่งม่านพลังของจักรพรรดิอ๋าวฮวงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ตลอดทางที่เดินไป สามารถพบเห็นสมุนไพรวิญญาณ สมุนไพรรักษาโรค ดอกไม้และผลไม้ประหลาด รวมถึงสัตว์ร้ายนานาชนิดได้ไม่จบไม่สิ้น
อู๊ด!
หมูป่ากลายพันธุ์ที่มีตัวใหญ่เท่ากับรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งเข้ามาใช้งาอันแหลมคมของมันไล่แทงพวกของฉู่ชวิ๋นด้วยความดุร้าย
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นจะยิงพลังลมปราณสังหารมัน
“นายท่าน ได้โปรดยั้งมือเอาไว้ก่อน” หลงชิงฉวนยิงพลังลมปราณออกไปเพียงแค่ขับไล่หมูป่าปีศาจให้พ้นไปเท่านั้น ก่อนจะหันมาอธิบายต่อฉู่ชวิ๋นว่า “หมูป่าตัวนี้มันท้องอยู่ครับ ที่มันจะเข้ามาเล่นงานพวกเราก็เป็นเพราะว่าพวกเราบุกรุกอาณาเขตของมัน สำหรับชาวหมู่บ้านมังกรเงินแล้ว จะมีสัตว์อยู่สองชนิดที่เราฆ่าไม่ได้เด็ดขาด”
“หา? มีอะไรบ้างล่ะ?” ฉู่ชวิ๋นถามด้วยความสงสัย
“สัตว์ที่กำลังตั้งท้อง กับสัตว์ที่เพิ่งเกิดใหม่ครับ” หลงชิงฉวนให้คำตอบ
ฉู่ชวิ๋นเข้าใจได้ไม่ยาก เขาพยักหน้าเล็กน้อย
หมู่บ้านมังกรเงินอาศัยอยู่ด้วยระบบพึ่งพาตัวเอง ถ้าฆ่าสัตว์แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ห่วงโซ่อาหารก็จะพังทลาย และผู้ที่จะได้รับผลกระทบก็คือพวกเขาเอง
“พี่ชาย ฉันขอติดตามพี่ชายไปที่โลกภายนอกด้วยคนได้ไหม?” เสี่ยวฉีเดินเข้ามาใกล้ เจ้าหนูอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับโลกภายนอกเป็นที่สุด
ฉู่ชวิ๋นยกมือขยี้หัวมันเล่น ตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มว่า “นายยังเด็กเกินไป โลกข้างนอกโกลาหลเกินไป เอาไว้นายโตแล้วเมื่อไหร่ เดี๋ยวฉันจะกลับมารับออกไปเอง”
“แต่ผมโตพอที่จะล่าสัตว์ได้แล้วนะ” เสี่ยวฉียกมือชูกำปั้น เป็นสัญลักษณ์บอกว่าตัวมันก็แข็งแกร่งไม่น้อย
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ “โลกข้างนอกมันอันตรายมาก นายต้องแข็งแกร่งให้ได้มากกว่านี้ถึงจะปกป้องตัวเองกับคนที่รักได้ จงพยายามฝึกวิชาให้หนักกว่านี้อีกนะ”
“พี่ชาย พี่ชายเคยฆ่าคนหรือเปล่า?” เด็กชายอีกคนหนึ่งถามขึ้น
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า
“พี่ชายฆ่ามาแล้วกี่คน? ถึงห้าคนไหม?” เด็กชายคนเดิมถามด้วยความอยากรู้
ฉู่ชวิ๋นตอบ “คนที่ฉันฆ่ามีเยอะเกินไป ฉันจำได้ไม่หมดหรอก”
หลงชิงฉวนหันมองหน้ากลุ่มชายชราที่เดินมาด้วยกัน ทุกคนได้แต่คิดด้วยความสงสัยว่า ตกลงฉู่ชวิ๋นเคยสังหารคนมาแล้วเท่าไหร่กันแน่?
พวกเขาพูดคุยกันไปตลอดทาง เดินกันประมาณสามชั่วโมงก็มาถึงทะเลสาบหลงฉวน
ชาวหมู่บ้านมังกรเงินเป็นคนตั้งชื่อให้กับทะเลสาบแห่งนี้ มันเป็นทะเลสาบประจำหมู่บ้านของพวกเขา ไม่ว่าใครที่ได้ลงไปแช่น้ำในทะเลสาบ ก็จะมีร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเป็นทวีคูณ
ทะเลสาบหลงฉวนไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก มีกระท่อมไม้ปลูกเรียงรายอยู่ข้างทะเลสาบ มีก้อนหินขนาดใหญ่ถูกนำมาตั้งไว้บริเวณริมน้ำ จากร่องรอยของกองไฟที่ดับไปแล้ว บอกให้รู้ว่าก้อนหินเหล่านี้เป็นจุดที่ผู้คนจะมานั่งฝึกตนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ
ฉู่ชวิ๋นสังเกตเห็นว่ามีม่านพลังลอยขึ้นมาจากทะเลสาบหลงฉวน
ในขณะนี้ บรรยากาศตกอยู่ภายใต้ความเงียบสงบ ไม่มีผู้คน ไม่มีแม้แต่เสียงนกร้องสักตัวเดียว
ฉู่ชวิ๋นกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีเสียงวัตถุแหวกอากาศ ลูกศรเหล็กที่มีความยาวกว่า 2 เมตรจำนวนนับไม่ถ้วน พุ่งเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นเป็นจุดเดียว
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายเย็นชาขึ้นมาแล้ว
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” หลงชิงฉวนคำรามด้วยความโกรธแค้น ไม้เท้าที่สูงมากกว่าตัวเขาเองระเบิดแสงสว่างสีขาวแสบตา และลำแสงสีขาวเหล่านั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาลูกศรเหล็กที่ถูกยิงเข้ามา
เปรี้ยง เปรี้ยง…!
เสียงของการปะทะกันดังขึ้น ประกายไฟสาดกระจาย ลูกศรเหล็กหักครึ่งร่วงหล่นบนพื้นดิน แต่ในขณะเดียวกัน หลงชิงฉวนก็เซถอยหลังไปหลายก้าว
หลงชิงฉวนใบหน้าแดงก่ำ คำรามออกไปด้วยความเดือดดาลว่า “ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้”
เกิดเสียงฝีเท้าผู้คนดังขึ้น แล้วชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาที่อยู่รายล้อมรอบกาย ทุกสายตาของพวกมันกำลังจ้องมองมายังพวกของฉู่ชวิ๋นเป็นจุดเดียว
“หลงไค แกลืมกฎของเราไปแล้วหรือไง?” หลงชิงฉวนจ้องมองชายหนุ่มร่างกำยำผิวทองแดง หน้าตาหล่อเหลา ถือคันธนูผู้หนึ่ง
“พ่อเฒ่า คุณนั่นแหละที่ลืมกฎของเราไปแล้วกระมัง?” หลงไคลดคันธนูลงอย่างเกียจคร้าน พูดด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ปากของมันคาบเศษหญ้าอยู่เส้นหนึ่ง
“ฉันจะบอกให้นะ ต่อให้เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ทะเลสาบหลงฉวนเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา ถ้าคุณจะเข้ามาในพื้นที่นี้ก็ต้องแจ้งพวกเราล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นใครก็ตามที่บุกรุกเข้ามา พวกเรามีสิทธิ์ฆ่าทิ้งได้ทันที” ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งระเบิดเสียงหัวเราะ
“ว่าไงนะ? นี่พวกแกอยากจะฆ่าฉันรึ?” หลงชิงฉวนพูดด้วยความโกรธแค้น
“หัวหน้าหมู่บ้าน เราก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ทำไมต้องมีอารมณ์ด้วย?” หลงไคพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ก่อนจะหันมาจ้องมองฉู่ชวิ๋น “ฉันไม่เคยเห็นคนแปลกหน้าผู้นี้มาก่อน มันเป็นคนนอกใช่หรือไม่? แล้วพ่อเฒ่ามีเหตุผลอะไรถึงพามันมาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราอย่างนี้?”
หลงชิงฉวนพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “พวกแกรีบมาทำความเคารพนายท่านฉู่ชวิ๋นเร็วเข้า”
บรรยากาศตกอยู่ภายใต้ความเงียบไปอึดใจใหญ่
“นายท่านฉู่ชวิ๋น?” ดวงตาของหลงไคเป็นประกายตลกขบขัน ก่อนกล่าวว่า “พ่อเฒ่า คุณสมองเลอะเลือนแล้วหรืออย่างไร? คนหนุ่มอย่างมันทำไมเราต้องเรียกว่านายท่านด้วย?”
“หลงไค” หลงชิงฉวนคำรามออกมาอีกครั้ง “นายท่านฉู่ชวิ๋นเป็นคนที่ท่านพญามังกรทองคำส่งมา หรือว่าแกคิดตั้งคำถามกับท่านพญามังกร?”
ชายฉกรรจ์หลายสิบคนที่ยืนอยู่บนยอดเขาพากันชะงักไปทันที
ผ่านไปครึ่งค่อนวัน หลงไคจึงได้ถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “แล้วพญามังกรส่งไอ้หน้าอ่อนนี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
“หลงไค ระวังคำพูดหน่อย” หลงชิงฉวนมีสีหน้าไม่ชอบใจนัก
ผู้อาวุโสหลายคนก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาแล้ว
“นายท่านฉู่ชวิ๋นมาที่นี่เพื่อคัดเลือกนักรบมังกรเงิน เพื่อออกไปทำศึกกับศัตรูร้ายที่โลกภายนอก ตามคำสั่งของท่านพญามังกรทองคำ” หลงชิงฉวนพูด
“แล้วมันได้เอาตราประทับของพญามังกรมาด้วยหรือเปล่า?” หลงไคถาม
“ข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด คือการที่นายท่านฉู่ชวิ๋นสามารถเข้ามาที่หมู่บ้านของเราได้อย่างปลอดภัย”
หลงไคระเบิดเสียงหัวเราะ สีหน้าของมันเต็มไปด้วยความเหยียบหยาม “ที่แท้ใครก็ตามที่เป็นผู้ส่งสาส์นของพญามังกร ก็สามารถเข้ามาที่หมู่บ้านของเราได้หมดเลยใช่ไหม? น่าสนุกจังเลยนะ ถ้าฉันออกไปจากหมู่บ้านนี้บ้าง ฉันก็จะกลายเป็นคนนอกทันทีเลยหรือเปล่า?”
หลงชิงฉวนกัดฟันพูดด้วยความฉุนเฉียว “หลงไค แกตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?”
“ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” หลงไคตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “เราอยู่ในหมู่บ้านนี้มานานเกินไปแล้ว ฉันมีอายุเกือบ 200 ปี แต่ไม่เคยพบเจอพญามังกรเลยสักครั้งเดียว ก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า พญามังกรทองคำของพ่อเฒ่ามีตัวตนจริงหรือเปล่า? หรือมันอาจจะเป็นแค่เพียงนิทานหลอกเด็กที่พ่อเฒ่าแต่งขึ้นมาเองก็ได้”
“บัดซบ เดี๋ยวนี้แกกล้าตั้งคำถามกับท่านพญามังกรแล้วหรือ?” หลงชิงฉวนคำรามด้วยความเดือดดาลสุดขีด “ฉันขอบอกเอาไว้ตรงนี้ ทุกอย่างที่เรามีล้วนมาจากท่านพญามังกรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรวิญญาณหรือเคล็ดวิชาที่แกฝึกฝน ก็เป็นสิ่งที่ท่านพญามังกรประทานมาทั้งนั้น ถ้าแกยังกล้าพูดจาเช่นนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน”
“พ่อเฒ่า ไม่ต้องห่วงหรอก เดิมทีพวกฉันตั้งใจว่าจะไปคุยเรื่องที่จะออกไปโลกภายนอกอยู่พอดี เราเกิดที่นี่ก็จริง แต่เราไม่ได้อยากตายอยู่ที่นี่สักหน่อย” หลงไคพูด
“ว่าไงนะ?” ชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลังฉู่ชวิ๋นส่งเสียงคำรามออกมาบ้าง “แกลืมกฎระเบียบของพวกเราไปแล้วหรือไง? ห้ามคนของหมู่บ้านมังกรเงินออกไปโลกภายนอกเด็ดขาด”
“กฎระเบียบถูกเขียนขึ้นโดยผู้คน กาลเวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนไป กฎระเบียบเหล่านั้นก็ตกตายไปตามกาลเวลา แต่ผู้คนยังคงมีชีวิตอยู่” หลงไคพูดเสียงแข็งกระด้าง ไม่เห็นกฎระเบียบอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
“ก็ได้ ก็ได้ ไม่มีปัญหา!” หลงชิงฉวนโกรธจนตัวสั่น “ในเมื่อแกไม่เคารพกฎระเบียบ ในเมื่อแกยืนกรานที่จะออกไปสู่โลกภายนอกให้ได้ เราก็จะไม่ขัดขวาง แต่ทุกสิ่งที่จะได้รับมาจากท่านพญามังกรทองคำจะต้องถูกริบคืนทั้งหมด เช่นเดียวกับพลังวรยุทธ์ที่แกมี ก็จะต้องถูกทำลายก่อนที่จะออกไปจากหมู่บ้านแห่งนี้”
พวกของหลงไคยืนตัวแข็งทื่อกันทันที
“ต้องถูกทำลายวรยุทธ์ด้วยหรือ?” ดวงตาของหลงไคเป็นประกายเย็นชา “เราฝึกฝนด้วยตัวเอง ทุกอย่างมาจากความพยายามของเราเอง แล้วจะให้คนอื่นมาทำลายได้อย่างไร?”
หลงชิงฉวนขยับออกมาข้างหน้าพร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธแค้น “ฉันรับใช้ท่านพญามังกรทองคำในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านมังกรเงินมาเนิ่นนาน แต่แกกล้าสร้างคลื่นใต้น้ำลบหลู่ท่านพญามังกรถึงขนาดนี้ วันนี้แหละ พวกฉันผู้อาวุโสประจำหมู่บ้าน จะเป็นตัวแทนท่านพญามังกรทำลายวรยุทธ์ของพวกแกเอง”
“พวกพ่อเฒ่ามีปัญญาทำได้หรือ?” หลงไคหัวเราะเยาะ
ฉู่ชวิ๋นยิ้มมุมปากด้วยความเหยียดหยาม เขาไม่ได้สนใจเรื่องท่าทีของพวกหลงไคเลยแม้แต่น้อย แต่ที่อดรำคาญใจขึ้นมาไม่ได้ก็คือ ทำไมพวกมันถึงกล้าดูหมิ่นจักรพรรดิอ๋าวฮวงขนาดนี้? ฉู่ชวิ๋นรู้สึกตาสว่างขึ้นมาในทันทีว่า อนาคตตนเองก็อาจถูกบริวารสร้างคลื่นใต้น้ำขึ้นมาก่อกวนแบบนี้ได้เช่นกัน
ในอนาคต ฉู่ชวิ๋นคงต้องหาทางป้องกันปัญหาเหล่านี้เอาไว้ก่อนเสียแล้ว
“ใครอยู่ในกระท่อมไม้พวกนั้น?” ฉู่ชวิ๋นปล่อยคลื่นพลังจิตออกไปสำรวจพื้นที่โดยรอบ และพบว่ากระท่อมไม้ริมทะเลสาบมีชายฉกรรจ์อีกหลายสิบคนกำลังหลบซ่อนตัวอยู่
หลงชิงฉวนตกตะลึง สีหน้าฉายความโกรธแค้นออกมาชัดเจนมากขึ้น
“หลงอี้ นี่แกคิดก่อกบฏด้วยใช่ไหม?” หลงชิงฉวนตะโกนไปทางกระท่อมไม้ริมน้ำ
ประตูของกระท่อมไม้ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทยอยเปิดออกมาทีละหลัง แล้วชายฉกรรจ์หลายสิบคนก็เดินออกมา ถึงแม้ว่าพวกมันจะสวมใส่ผ้าเนื้อหยาบ แต่ก็ดูมีสง่าราศีไม่ใช่เล่น บุคลิกของพวกมันเตะตาฉู่ชวิ๋นไม่น้อยเลยทีเดียว
พวกมันเป็นจอมยุทธ์ มีระดับพลังไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าชายชราผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านหรือหลงไคแม้แต่น้อย
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน” หลงอี้ประสานมือทำความเคารพ แต่สีหน้าเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
“หลงอี้ แกก็อยากออกไปข้างนอกด้วยเหมือนกันหรือไง?” หลงชิงฉวนถามอย่างโกรธแค้น
หลงอี้ส่ายหน้าตอบว่า “ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย”
“หลงไคอยากจะออกไปข้างนอก แกรู้หรือเปล่า?” หลงชิงฉวนถาม
“รู้ครับ” หลงอี้ตอบ
“แล้วทำไมไม่ห้าม?”
“นั่นเป็นเรื่องของหลงไค ไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย” หลงอี้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เอาละ ในนามของพญามังกรทองคำ ฉันขอสั่งให้แกจับกุมตัวหลงไคเดี๋ยวนี้” หลงชิงฉวนออกคำสั่งด้วยความเกรี้ยวกราด
“รับทราบครับ” หลงอี้พูดเพียงเท่านั้น ก็หันไปมองหน้าหลงไคที่ยืนอยู่บนยอดเขา
สีหน้าของหลงไคแปรเปลี่ยนไปทันที ถ้ามีแต่เพียงหลงชิงฉวนมันก็ไม่แยแสหรอก แต่ถ้าเพิ่มหลงอี้เข้ามาด้วยอีกคน หลงไคก็ไม่แน่ใจแล้วว่ามันจะเป็นฝ่ายชนะ
“หลงอี้ เอ็งอยากจะสู้กับข้าจริง ๆ เหรอ?” หลงไคมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาแล้ว
หลงอี้ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่คือคำสั่งของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน”
“หลงอี้ เอ็งกับข้าเกิดที่นี่ โตที่นี่ด้วยกัน อย่าบอกว่าเอ็งก็ไม่อยากเห็นโลกภายนอกหรือไง เอ็งกับข้าอุตส่าห์ฝึกวรยุทธ์มาจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เอ็งอยากให้พวกเราตกตายอยู่ในหมู่บ้านซอมซ่อแบบนี้รึไงวะ?” หลงไคถาม
หลงอี้นิ่งคิดอยู่เล็กน้อย ก่อนจะหันมามองหน้าหลงชิงฉวน แล้วถามว่า “หัวหน้าหมู่บ้านครับ พญามังกรมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า?”
“แกกล้าถามคำถามนี้ออกมาได้ยังไง?” หลงชิงฉวนพูดด้วยความเดือดดาล “นายท่านฉู่ชวิ๋นยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน ถ้าไม่ใช่พญามังกรบอกเขา แล้วใครจะรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของหน่วยรบมังกรเงินอีกเล่า?”
หลงอี้เลื่อนสายตามามองหน้าฉู่ชวิ๋น “พญามังกรทองคำส่งคุณมาที่นี่จริง ๆ หรือ?”
ฉู่ชวิ๋นจ้องมองตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม “นายก็อยากเห็นโลกภายนอกเหมือนกันใช่ไหม?”
หลงอี้พยักหน้าโดยไม่ปิดบัง
“ตกลง ถอยไปซะ” ฉู่ชวิ๋นโบกมือ
หลงอี้ยืนนิ่ง มองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความไม่เข้าใจ
ฉู่ชวิ๋นละสายตาจากหลงอี้ แล้วหันไปมองหลงไคที่ยืนอยู่บนยอดเขา
“ฉันเข้าใจว่านายอยากออกไปเห็นโลกภายนอก แต่ฉันไม่ชอบวิธีการของนายเลยจริง ๆ” ฉู่ชวิ๋นพูดเสียงเรียบ “หากนายยอมรับความผิดแต่โดยดี ฉันจะพานายออกไปโลกภายนอกเอง”
หลงไคมองหน้าฉู่ชวิ๋น ทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“แกเนี่ยนะจะพาพวกฉันออกไป? คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?” หลงไคหัวเราะเยาะ
“เห็นแก่หน้าของตาเฒ่าอ๋าวฮวง ฉันจะมอบโอกาสให้แกอีกครั้ง จงเดินมายอมรับความผิดกับหัวหน้าหมู่บ้านซะ” ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเริ่มปรากฏความเย็นชาขึ้นมาแล้วในขณะที่จ้องมองหลงไค “ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำมากกว่าทำลายวรยุทธ์ของแก เพื่อไม่ให้ตัวชั่วช้าอย่างพวกแก ได้มีโอกาสลบหลู่สรวงสวรรค์แห่งนี้อีก”