จักรพรรดิเซียนหวนคืน - บทที่ 428 สังหารตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
บทที่ 428 สังหารตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
ฉู่ชวิ๋นและบรรดาพังพอนปีศาจยกมือชี้ไปที่คนของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
ดวงตาของตัวแทนเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าเป็นประกายเย็นชา ทั่วตัวแผ่รังสีสังหารออกมาน่ากลัวไม่น้อย
“ถึงกับกล้าใส่ความพวกเรามนุษย์หมาป่า พวกแกมันชั่วร้ายเกินไปแล้ว” ตัวแทนของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
หวงเซิงขยับออกไปข้างหน้า ดวงตาเท่าเม็ดถั่วเขียวเป็นประกายแวววาว
“ก็ในเมื่อมนุษย์หมาป่าเป็นผู้กระทำผิด แล้วเหตุไฉนต้องป้ายความผิดมาที่พวกเรามนุษย์พังพอนด้วย?”
ถึงแม้ว่าเกือบทุกคนจะเกลียดชังพังพอนปีศาจที่เนื้อตัวสกปรก แต่ในความเกลียดชังนั้นก็แฝงความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน เนื่องจากเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจมีฝีมือแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการโจมตีจากพลังจิตที่คาดเดาไม่ได้
“ใครกันแน่ที่เป็นคนฆ่ามนุษย์นกยูงพวกนั้น? ค่งหยิงพูดออกมาชัดเจนแล้วว่าใครเป็นคนทำ หน่วยลาดตระเวนของเธอถูกพวกแกฆ่าตายไปหมดแล้วไม่ใช่หรือไง?” ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่ายังคงพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“แล้วถ้าเธอเกิดสติฟั่นเฟือนขึ้นมาล่ะ? เธออาจจะสับสนระหว่างคนที่มาช่วยกับคนที่ทำร้ายก็ได้” หวงเซิงหรี่ตาลงแล้วหัวเราะเยาะ “อีกอย่างนะ แม่นางท่านนี้อยู่ในสภาพตกใจสุดขีด แล้วพวกเราจะสามารถเชื่อในสิ่งที่เธอพูดได้มากแค่ไหน?”
“แต่พวกเราถูกพังพอนปีศาจฆ่าตายจริง ๆ” ค่งหยิงร่ำร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น
เธอถลึงตาจ้องมองพวกของฉู่ชวิ๋น ไม่คิดมาก่อนเลยว่าโลกใบนี้จะมีคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้อยู่ด้วย?
“เอาอีกแล้วนะแม่นางนกยูง เธอใส่ความพวกฉันไม่เลิกไม่รา หรือที่เธอต้องพูดแบบนี้เป็นเพราะมีคนบังคับกันแน่? มีคนบังคับเธออยู่ใช่ไหม?” ฉู่ชวิ๋นพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ถูกต้อง พวกเราอุตส่าห์ไปช่วยเธอไว้แท้ ๆ แต่เธอกลับมาใส่ร้ายป้ายสีพวกเราได้หน้าตาเฉย แบบนี้มันหมายความว่าไงกัน?”
“จริงด้วย ถ้าเราเป็นคนทำจริงนะ ถามตัวเองให้ดีเถอะว่าแล้วเธอหนีรอดมาได้ยังไง?”
บรรดาพังพอนปีศาจแย่งกันพูด ไม่เปิดโอกาสให้ค่งหยิงได้โต้แย้งเลยสักนิด
“ฉันหนีมาได้เพราะแกล้งตายไงล่ะ” ค่งหยิงตะโกนสวนกลับไปโดยไม่รู้ตัว ลืมเลือนเรื่องความอับอายไปชั่วขณะ
“แกล้งตายอย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นมันก็ยิ่งตลกมากกว่าเดิมอีก” ฉู่ชวิ๋นมีสีหน้าเหยียดหยามขณะพูดต่อว่า “พวกเราพังพอนปีศาจยามลงมือโหดร้ายอำมหิต หลังจากฆ่าผู้คนแล้ว พวกเราจะตรวจสอบเสมอว่าเหยื่อตายจริงหรือไม่ แล้วเธอแกล้งตายแค่นี้? คิดหรือว่าจะหนีรอดออกมาได้?”
ไฟโทสะในดวงตาของค่งหยิงลุกโชน โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงตอนที่กลุ่มพังพอนปีศาจแตะเนื้อต้องตัวเธอ นกยูงสาวก็อยากจะกรีดร้องออกมาแล้ว
“ทุกคนฟังให้ดี นกยูงสาวคนนี้นอกจากหวาดกลัวแล้วยังโง่เง่าอีกด้วย คำพูดของเธอเต็มไปด้วยความสับสน ข้อมูลก่อนหน้านี้กับภายหลังที่ให้มาไม่ตรงกัน พวกคุณคงเข้าใจดีแล้ว ในขณะนี้พวกเรามีแต่ต้องตามหาหน่วยลาดตระเวนของมนุษย์หมาป่าให้เจอเท่านั้น”
“มนุษย์หมาป่าพวกนั้นก็โดนพวกแกฆ่าตายไปหมดแล้วไง” นกยูงสาวตะโกนออกมาเสียงสั่นเครือ
ว่าไงนะ?
ทุกสายตาหันขวับไปจ้องมองค่งหยิงด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ค่งหยิง อย่าพูดอะไรไร้สาระ” ค่งเถิงเฟยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่ามีดวงตาวาวโรจน์ ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
“เหลวไหลที่สุด” หวงเซิงหัวเราะเยาะ “เธอจะใส่ความพวกเราอีกไปถึงไหน? ไม่ว่าเป็นใครต่างก็ทราบดีว่ามนุษย์หมาป่าแข็งแกร่งเพียงใด ต่อให้ต่อสู้กันจริง ไม่แน่มนุษย์มังกรดำก็ไม่อาจเอาชนะมนุษย์หมาป่าได้ด้วยซ้ำไป”
ทุกคนพยักหน้า คิดตรงกันว่าหวงเซิงพูดจามีเหตุผล
เผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าขึ้นชื่อลือชาในด้านทักษะการต่อสู้เสมอมา
หลังจากได้ยินคำพูดของค่งหยิง แม้แต่ตัวแทนจากฝ่ายมนุษย์หมาป่าก็ขมวดคิ้ววุ่น
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยไม่ได้พูดจาเหลวไหล ศพของมนุษย์นกยูงและมนุษย์หมาป่ายังคงอยู่ในลานหินนั้นอยู่เลย” ค่งหยิงตะโกนเสียงดัง
“ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเราก็เดินทางไปดูให้เห็นกับตาคงไม่เป็นไรหรอกกระมัง? จะได้รู้กันสักทีว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่” เฮยเถิงพูด
ทุกคนพยักหน้า
แล้วคนกลุ่มใหญ่ก็เดินทางไปที่ลานหินกลางความมืด
ภายใต้การนำทางของค่งหยิง ทุกคนก็มาถึงตำแหน่งที่เธอได้พูดเอาไว้
แต่พวกเขาพบเจอแต่เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
ศพของมนุษย์นกยูงและมนุษย์หมาป่าหายไปแล้ว
บรรดาพังพอนปีศาจหันไปมองหน้า “เหล่าสือ” ของพวกมันด้วยความเคารพยกย่อง
ตอนที่ฉู่ชวิ๋นเดินทางกลับ เขาได้โยนศพลงหน้าผาไปหมดแล้ว
“แม่นางนกยูง ไหนล่ะศพที่เธอว่า?” ฉู่ชวิ๋นถาม
ค่งหยิงมีดวงตาหมองเศร้า พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
“แต่มีร่องรอยการต่อสู้เกิดขึ้นจริง ๆ แฮะ” เฮยเถิงพลันส่งเสียงขึ้นมา
มันเดินไปชี้รอยขีดข่วนที่อยู่บนก้อนหินใหญ่
“นี่คือรอยกรงเล็บของมนุษย์หมาป่า” หวงเซิงว่า
ทุกคนพยักหน้า นี่คือรอยกรงเล็บของมนุษย์หมาป่าไม่ผิดแน่
“ถ้าอย่างนั้น นี่ก็คือขนของมนุษย์นกยูง”
มีคนพบขนนกยูงร่วงหล่นอยู่แถว ๆ ข้างก้อนหินเป็นจำนวนไม่น้อย
“ทุกอย่างไขกระจ่างแล้ว” ฉู่ชวิ๋นคำรามเสียงดัง “มนุษย์หมาป่าลงมือฆ่ามนุษย์นกยูง หลังจากที่พวกเรามาพบเห็นเหตุการณ์ พวกมันก็เลยทำลายซากศพทิ้งไป”
“กล้าดียังไงมาใส่ความพวกฉัน?” ตัวแทนของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าจ้องมองฉู่ชวิ๋นเขม็ง
“ทำไมล่ะ? มนุษย์หมาป่าฆ่ามนุษย์นกยูงไปแล้ว คิดจะฆ่าพวกฉันอีกด้วยหรือไง” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“แกรนหาที่ตายเองนะ” ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าโกรธแค้นสุดขีด กระโดดปราดเข้ามายิงพลังจากฝ่ามือพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้น ซัดพลังลมปราณสวนกลับไปโดยตรง
เปรี้ยง!
พลังลมปราณปะทะกัน ฉู่ชวิ๋นลอยกระเด็นออกมากระแทกเข้ากับหินก้อนใหญ่เสียงดังโครม
“มนุษย์หมาป่า แกมันร้ายกาจเกินไปแล้ว” หวงเซิงคำรามเสียงดังและกระโดดเข้าใส่ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
เปรี้ยง…!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันด้วยความดุเดือด
ดวงตาของหวงเซิงเป็นประกายแวววาว ระเบิดพลังจิตที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าออกมาอย่างรุนแรง
มนุษย์หมาป่าเซถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะเงยหน้าร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด มันกำลังถูกโจมตีด้วยพลังจิต ปวดร้าวไปจนถึงวิญญาณภายในร่างกาย
การต่อสู้ของทั้งสองคนทำให้ก้อนหินใหญ่ที่ตั้งอยู่โดยรอบ ระเบิดตัวกระจัดกระจาย
เปรี้ยง!
แต่ตัวแทนของมนุษย์หมาป่าก็ยิงลมปราณสวนกลับมา จนร่างของหวงเซิงลอยกระเด็นออกไป
หน้าอกของมนุษย์หมาป่ามีเลือดไหลโชก ซึ่งเป็นบาดแผลจากกรงเล็บของหวงเซิง
“หวงเซิง ไอ้พังพอนโสโครก แกกล้าทำร้ายฉัน ฉันจะฉีกแกให้เป็นชิ้น ๆ”
มนุษย์หมาป่าคํารามด้วยความดุร้าย บาดแผลบริเวณหน้าอกยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของมันให้ถูกปลดปล่อยออกมามากยิ่งขึ้น
“แกคิดว่าจะมารังแกพวกเราพังพอนปีศาจได้ง่าย ๆ หรือไง?” ฉู่ชวิ๋นตะโกนด้วยความเจ็บใจ และพุ่งเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
ผลที่ได้ก็คือ เขาถูกตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าซัดกระเด็นกลับออกมา
“เหล่าสือ โจมตีด้วยพลังจิตดีกว่า” หวงเซิงลอบสื่อสารกับฉู่ชวิ๋น
ถ้ามีพลังด้านพลังจิต ก็สามารถสื่อสารกันผ่านทางพลังจิตได้เป็นปกติ
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าและรอคอยโอกาสที่เหมาะสม
หวงเซิงและตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าต่อสู้กันอีกหลายกระบวนท่า
ฉู่ชวิ๋นเหยียดยิ้มเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ปล่อยคลื่นพลังจิตเข้าไปที่มนุษย์หมาป่าผู้ร้ายกาจ
มนุษย์หมาป่าผู้นั้นกำลังวุ่นวายอยู่กับการรับมือหวงเซิง ที่โจมตีเข้ามาเหมือนพายุบ้าคลั่ง
แต่แล้วในทันใดนั้นเอง พลังงานที่มองไม่เห็นก็พุ่งเข้ามากระแทกมันเต็มแรง หัวใจของมนุษย์หมาป่ารู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง และความเจ็บปวดนั้นก็ปรากฏขึ้นบนสีหน้าของมันอย่างชัดเจน
หวงเซิงจะปล่อยให้โอกาสดีอย่างนี้หลุดมือไปได้อย่างไร มือของมันเปลี่ยนเป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ แทงสวบเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามราวกับเป็นมีดสั้นเล่มหนึ่ง
ฟู่!
เลือดสาดกระจาย มนุษย์หมาป่าร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด กรงเล็บของหวงเซิงแทงทะลุหน้าท้องของมัน ส่งผลให้ลำไส้ไหลทะลักออกมาแล้ว
ควับ
เลือดเปรอะเต็มกรงเล็บของหวงเซิง ดวงตาสีเหลืองเป็นประกายแจ่มใส รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าอัปลักษณ์
มันไม่สงสัยในตัวของฉู่ชวิ๋นแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากชายหนุ่มสามารถโจมตีด้วยพลังจิตได้จริง ๆ
เหล่ามุนษุย์กลายพันธุ์รู้เรื่องพลังจิต แต่แทบไม่เคยมีใครรู้เลยว่าจอมยุทธ์ทั่วไปก็สามารถฝึกฝนการใช้พลังจิตได้เช่นกัน
ในเวลาเดียวกันนี้ ฉู่ชวิ๋นถลันออกไปข้างหน้า แล้วต่อยหมัดใส่มนุษย์หมาป่าที่กำลังบาดเจ็บเข้าเต็มแรง
เปรี้ยง!
ถึงแม้ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าจะบาดเจ็บอยู่ก็จริง แต่มันมีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 สามารถทนแรงกระแทกจากหมัดของฉู่ชวิ๋นได้พอสมควร
เฮือก!
หวงเซิงจึงต้องลงมือช่วยเหลือ กรงเล็บเป็นประกายวูบวาบ นับว่ามันลงมือด้วยความเยือกเย็นและดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ฟู่!
เลือดฉีดสูงหลายเมตร ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าร้องโหยหวน แขนข้างหนึ่งของมันถูกตัดขาดไปแล้ว
ทุกคนตื่นตกใจ การโจมตีด้วยพลังจิตของพังพอนปีศาจยากต่อการรับมืออย่างเหลือเชื่อ แม้แต่คนของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน
หวงเซิงมีสีหน้าดุร้าย แต่หัวใจของมันดุร้ายมากกว่าหลายเท่า มนุษย์กลายพันธุ์ทั้งหลายดูถูกเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจมานานแล้ว วันนี้แหละ นี่คือโอกาสที่พวกมันจะได้เฉิดฉายเสียที
ฉู่ชวิ๋นตามติดเข้าเล่นงานฝ่ายตรงข้ามไม่ลดละ
ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าร้องคำรามด้วยความบ้าคลั่ง หลังจากนั้น มันก็ตัดสินใจเปลี่ยนร่าง หมาป่ายักษ์ที่มีความยาวลำตัวมากกว่าห้าเมตร มีเขี้ยวแหลมยาวงอกออกมาจากปากดูดุร้ายตัวหนึ่ง พลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทุกคน
แต่น่าเสียดายที่มันไม่มีขาหน้าข้างขวา และการมีอยู่แค่เพียงสามขาก็ไม่สามารถรับน้ำหนักตัวมันได้ ทำให้หมาป่ายักษ์ตัวนี้ล้มคะมำลงไปแล้ว
ดวงตาสีเหลืองของหวงเซิงเป็นประกายวาววับ กระทำการโจมตีด้วยพลังจิตอีกครั้ง
คลื่นพลังจิตที่มองไม่เห็น พุ่งเข้ากระแทกตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า
ด้วยว่าตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าบาดเจ็บอยู่แล้ว พลังการต่อสู้จึงลดลง ซ้ำยังถูกเล่นงานด้วยพลังจิต มันรู้สึกปวดหัวเหมือนกับกะโหลกศีรษะจะแตกออกเป็นสองเสี่ยง ต้องร้องโหยหวนออกมาโดยไม่รู้ตัว
ฉู่ชวิ๋นใช้จังหวะนี้กระโดดเข้าไปต่อยหมัดใส่ลำคอหมาป่ายักษ์ เลือดพุ่งกระฉูด ลำคอของมันปรากฏรูโบ๋ขนาดเท่ากำปั้นรูหนึ่ง
เปรี้ยง!
หมาป่ายักษ์ร้องคำราม ฉู่ชวิ๋นกระโดดไปจับหางมัน แล้วฟาดเข้ากับก้อนหินใหญ่เต็มแรง
ฉู่ชวิ๋นถูกเศษหินที่แตกกระจายกระแทกกลับมาถล่มทับตัว ล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
หลังจากโจมตีคู่ต่อสู้ที่มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ติด ๆ กันเช่นนี้ ถ้าเขายังสามารถลุกขึ้นมาได้อีก มันจะดูน่าสงสัยเกินไป
“เหล่าสือ”
หวงเซิงร้องคำราม กระโดดเข้าไปหาหมาป่ายักษ์ แล้วตัดขาทุกข้างของมันทิ้งไป
“ไอ้พวกมนุษย์หมาป่า วันนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าพวกเราพังพอนปีศาจ ไม่เคยปล่อยให้ใครมารังแกได้ง่าย ๆ”
ฟู่!
เลือดสาดกระจาย หัวหมาป่าหลุดกระเด็นกลิ้งไปไกลหลายเมตร ทุกคนเห็นกับตาว่าหวงเซิงใช้กรงเล็บตัดหัวตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าด้วยความโหดร้ายอย่างยิ่ง
“ปกติฉันก็ไม่ทำแบบนี้หรอกนะ แต่เป็นพวกแกที่มาหาเรื่องฉันก่อน” หวงเซิงหัวเราะเยาะ ดวงตาเป็นประกายอำมหิต
ความจริงแล้ว แม้แต่มันก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน ว่าจะสามารถสังหารตัวแทนของมนุษย์หมาป่าได้สำเร็จ
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้แต่ยืนนิ่ง
เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจแข็งแกร่งมากเกินไป ไม่คิดเลยว่าพลังการต่อสู้กลับร้ายกาจกว่ามนุษย์หมาป่าเสียอีก
ทุกสายตาจ้องมองไปยังเหล่าสือที่นอนจมอยู่ใต้กองหิน ไม่ว่าเป็นใครต่างก็ทราบดีว่าการสังหารตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าได้สำเร็จครั้งนี้ ต้องยกความดีความชอบให้เหล่าสืออยู่หลายส่วน เห็นได้ชัดก็จากความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าจนตัวเองต้องบาดเจ็บ
ผู้ฝึกวิชาขั้นจักรพรรดิระดับ 8 สามารถรับการโจมตีจากผู้มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ได้ถึงสามครั้งซ้อน นับเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน
ทุกคนต่างคิดเห็นตรงกันว่าเหตุผลที่คนของเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะว่ามันประมาทเหล่าสือของพวกพังพอนปีศาจมากเกินไป
มนุษย์พังพอนพวกนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“เหล่าสือ”
กลุ่มพังพอนปีศาจรีบวิ่งมาตะกุยก้อนหินที่ฝังร่างฉู่ชวิ๋นอยู่ออกไป เรียบร้อยจึงช่วยกันดึงร่างของฉู่ชวิ๋นขึ้นมาจากพื้น
“อะเฮือก…”
ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาเต็มปาก สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี
“จะให้ใครมาดูถูกเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจไม่ได้” ฉู่ชวิ๋นพูดออกมาเหมือนไม่รู้ตัว ในขณะที่กระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่
“เหล่าสือ เป็นยังไงบ้าง? นั่งลงก่อน ฉันจะช่วยรักษาบาดแผลให้นายเอง” หวงเซิงพูดด้วยความเป็นห่วงเป็นใย การสังหารมนุษย์หมาป่าได้สำเร็จ ต้องยกความดีให้เหล่าสืออยู่หลายส่วน ปกติเหล่าสือคนนี้ออกจะขี้ขลาดเกินไปด้วยซ้ำ แต่วันนี้กลับแสดงความกล้าหาญออกมาอย่างเหลือเชื่อ ทำให้มันต้องประทับใจแล้ว
ฉู่ชวิ๋นรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที ร่างกายภายนอกเขาปลอมแปลงได้ แต่โครงสร้างร่างกายภายในไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจากคนเป็นสัตว์ได้เด็ดขาด
เมื่อเห็นว่าหวงเซิงตั้งหน้าตั้งตาจะพยายามช่วยรักษาเขาเหลือเกิน ฉู่ชวิ๋นจึงต้องพูดออกมาว่า
“ข้าน้อยตั้งใจสังหารมนุษย์หมาป่า ไม่อยากมาตัดกำลังพวกเดียวกันเอง ท่านเหล่าปาเก็บพลังเอาไว้เถิด ข้าน้อยสามารถเยียวยาบาดแผลของตัวเองได้” ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างยากลำบาก
หวงเซิงนิ่งคิดไปก็รู้สึกว่ามีเหตุผล การถ่ายทอดพลังลมปราณเพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางมาก ไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้เลยว่า จะไม่มีคนร้ายคิดลงมือฉวยโอกาสโจมตีในช่วงเวลานั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็รักษาตัวเองซะ ฉันจะคอยคุ้มกันให้”
ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าแล้วนั่งลง ก่อนเริ่มต้นโคจรพลังลมปราณ
“คนที่เหลือออกไปตามหาหน่วยลาดตระเวนของมนุษย์หมาป่าที่ฆ่ามนุษย์นกยูงซะ ฉันอยากถามพวกมันเหลือเกินว่าทำไมต้องมาใส่ความเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจของเราด้วย?” หวงเซิงสั่งงานบริวาร แววตาเป็นประกายอำมหิต
ดวงตาของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นประกายระยิบระยับ เห็นได้ชัดว่าหวงเซิงอยากจะฆ่ามนุษย์หมาป่าพวกนั้นให้หมด
เมื่อหันไปมองหัวของตัวแทนจากเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าที่แน่นิ่งอยู่บนพื้น แม้แต่เฮยเถิงก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกแล้ว
ว่ากันตามตรง ถึงจะทำตามคำสั่งของหวูเค่อจินในการสงบศึกชั่วคราว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ไหนต่างก็อยากเห็นกันและกันตกตายไปให้หมดสิ้นทั้งนั้น