จักรพรรดิเซียนหวนคืน - บทที่ 431 โต้กลับ
บทที่ 431 โต้กลับ
เฮยเถิงกับค่งเถิงเฟยกระทำการสังหารหมู่พังพอนปีศาจ 30 กว่าตัวจนหมดสิ้น
ณ จุดนี้ บรรดาเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจที่อยู่ในหุบเขาอเวจีล้วนล้มตายหมดแล้ว
มนุษย์หมาป่าทั้งสองตัวที่รอดชีวิตมาได้ รู้สึกสำนึกขอบคุณผู้มาช่วยเหลือเป็นอย่างยิ่ง
ค่งเถิงเฟยกับเฮยเถิงช่วยเยียวยาบาดแผลให้มนุษย์หมาป่าทั้งสองตัวนั้น ก่อนที่จะพากันไปเข้าพบหวูเค่อจินเพื่อทำเรื่องร้องเรียน
เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจบุกมาฆ่ากลุ่มมนุษย์หมาป่าถึงที่พัก เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกเผ่าพันธุ์ตกตะลึงไปแล้ว
หวูเค่อจินใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น ด้วยตัวมันเองพูดเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า ขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดการจอมมารฉู่ชวิ๋น
แต่เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจเอ๋ย เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจ ก่อนหน้านี้ที่ข้าไม่เอาเรื่องเอาราว เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนอารมณ์ดีนักหรือไง
“หวงเซิง มารายงานตัวกับฉันเดี๋ยวนี้!” หวูเค่อจินออกคำสั่งด้วยเสียงที่กึกก้องไปทั่วหุบเขาอเวจี
แต่ 10 นาทีผ่านไป หวงเซิงก็ยังไม่มารายงานตัว
หวูเค่อจินสีหน้าเคร่งเครียดมากขึ้นกว่าเดิม มันจึงส่งเฮยเถิงเป็นตัวแทนไปยังที่พักของกลุ่มพังพอนปีศาจ
แต่ที่พักนั้นกลับกลายเป็นตึกร้างไปเสียแล้ว
“คุณหวู ดูเหมือนว่าหวงเซิงกับเหล่าสือจะหนีไปแล้วครับ” ค่งเถิงเฟยรายงาน
หวูเค่อจินรีบสั่งให้ผู้คนไปปิดทางเข้าออกหุบเขาทันที หลังจากสอบถามกันอยู่พักใหญ่ ก็ได้ความว่ายังไม่มีใครพบเห็นหวงเซิงเดินทางออกไปจากหุบเขาด้วยตาของตัวเอง
“ค้นหาให้ทั่ว มันยังซ่อนตัวอยู่ในหุบเขานี้แน่นอน”
หวูเค่อจินออกคำสั่งแก่บรรดามนุษย์กลายพันธุ์ให้ค้นหาทั่วหุบเขาอเวจี
สองชั่วโมงให้หลัง ถึงจะค้นหากันแทบพลิกแผ่นดิน แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดพบเจอหวงเซิงอยู่ดี
ความเดือดดาลของหวูเค่อจินยากที่จะดับลงได้ เผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจละเมิดกฎที่มันตั้งเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า เท่ากับเป็นการหักหน้ามันโดยเจตนา
ในขณะนี้ ที่เส้นขอบฟ้าเริ่มมีแสงสว่างเรืองรอง
หวูเค่อจินระงับโทสะลงและออกคำสั่งกับพวกของเฮยเถิงว่า “เรื่องนี้พักเอาไว้ก่อน เราต้องจัดการกับสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่า เมื่อเสร็จธุระเรื่องนี้แล้ว ฉันจะไปเล่นงานพวกพังพอนปีศาจด้วยตัวเอง”
ทุกคนขนลุกเกรียว ชะตากรรมของเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจจบสิ้นลงแล้ว หวูเค่อจินโกรธแค้นพวกมันอย่างแท้จริง
“คุณหวู แล้วเจอกันนะครับ” พวกของเฮยเถิงลุกขึ้นยืนประสานมืออำลา
หวูเค่อจินพยักหน้าพูดว่า “พวกนายรีบไปตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละดีแล้ว ฟ้ายังไม่เปิด ไม่มีใครเห็นแน่นอน”
ตัวแทนของเผ่าพันธุ์มนุษย์นกยูง เผ่าพันธุ์ผีดิบ เผ่าพันธุ์มังกรดำและเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาใช้ประโยชน์ของความมืดมิด เตรียมเดินทางออกจากหุบเขาอเวจีเพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองกู่เจียง
เดิมทีพวกมันต้องไปด้วยกันทั้งหมดหกคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สี่คนเท่านั้น
แต่ทั้งสี่คนนี้ก็มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 สามารถเดินทางผ่านพ้นบึงน้ำได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อพวกมันพ้นบึงน้ำมาแล้ว กลับพบว่ามีคนผู้หนึ่งยืนขวางทางอยู่
“นั่นใคร?” เฮยเถิงถาม
ฉู่ชวิ๋นหันหน้ากลับมา จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา
“ไอ้พังพอนโสโครก ที่แท้ก็เป็นแกนี่เอง” ค่งเถิงเฟยหัวเราะเยาะ
ฉู่ชวิ๋นยังคงปลอมตัวเป็นเหล่าสือของเผ่าพันธุ์พังพอนปีศาจ
“หวงเซิงอยู่ที่ไหน? บอกให้มันไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้” เฮยเถิงกวาดสายตามองรอบตัว และคิดว่าหวงเซิงจะต้องแอบซุ่มโจมตีอยู่แถวนี้แน่นอน
“เขาล่วงหน้าไปรอเจอพวกแกแล้ว” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเยาะเย้ยหยัน แต่น่าเสียดายที่ฝ่ายตรงข้ามทั้งสี่คนไม่เข้าใจความหมาย
“พังพอนปีศาจ แกยังกล้าเสนอหน้ามาอีกได้ยังไง?” ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาระเบิดเสียงหัวเราะ “ถ้าฉันเป็นแกนะ ฉันหนีไปนานแล้ว”
“ทำไมฉันต้องหนีด้วยล่ะ?”
“การสังหารมนุษย์หมาป่าและละเมิดกฎของคุณหวู เพียงเท่านี้ยังไม่ดีพอที่จะหลบหนีอีกหรือ?”
“จะเสียเวลาคุยกับมันอีกทำไม? เราฆ่ามันแทนคุณหวูเลยดีกว่า” ค่งเถิงเฟยแผดเสียงหัวเราะและกระโจนเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ค่งเถิงเฟยแข็งแกร่งมาก รอบกายมีม่านพลังหลากสีสันหมุนวน แล้วในทันใดนั้น ค่งเถิงเฟยก็เปลี่ยนร่างเป็นนกยูงยักษ์และเงื้อกรงเล็บหมายตะปบฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยิ้มมุมปาก ปล่อยหมัดสวนกลับไปเป็นประกายวูบวาบ ก็พอดีหมัดของเขาปะทะเข้ากับกรงเล็บของค่งเถิงเฟย
กร๊อบ!
เสียงกระดูกแตกหัก เลือดสาดกระจาย
ค่งเถิงเฟยร้องโหยหวน ใบหน้าบิดเบี้ยว กรงเล็บของมันหักผิดรูปผิดร่าง เลือดสีแดงสดหยดลงมาติ๋งๆ
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะในลำคอ ร่ายวิชาด้วยพลังจิตวิญญาณ
วิชาฝ่ามืออสูร!
มวลพลังรูปฝ่ามือขนาดใหญ่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าพร้อมด้วยแรงกดดันมหาศาล โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ค่งเถิงเฟย
ตู้ม!
ภูเขาสั่นสะเทือน แรงกดดันแผ่กระจาย พื้นดินแตกตัวเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ ฝุ่นควันคลุ้งตลบในอากาศ
เมื่อกลุ่มหมอกควันจางหายไปแล้ว เฮยเถิงหรี่ตามอง ก่อนที่สีหน้าจะปรากฏความสยองขวัญ
ค่งเถิงเฟย ตัวแทนที่มีฝีมือแข็งแกร่งที่สุดจากเผ่าพันธุ์มนุษย์นกยูง ลำตัวครึ่งหนึ่งจมหายลงไปใต้ดินเหมือนคนกำลังนอนแช่สระน้ำ
พลังของฝ่ามืออสูรทำให้กระดูกในร่างกายค่งเถิงเฟยแตกละเอียด
แค่ลงมือครั้งเดียว สัตว์ร้ายขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว นับว่าฝีมือน่ากลัวยิ่ง
วูบ!
ฉู่ชวิ๋นโคจรพลังทั่วร่างกาย ก่อนที่จะระเบิดพลังลมปราณใส่พวกของเฮยเถิง
“พวกเราร่วมมือกัน”
เฮยเถิงคำราม โคจรม่านพลังสีดำมาห่อหุ้มร่างกาย ทันใดนั้น เงาของมังกรดำตัวหนึ่งก็โผพุ่งขึ้นมาจู่โจมฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นโบกสะบัดด้วยมือเพียงข้างเดียว
ครืน!
มวลอากาศสั่นไหว นิ้วมือขนาดใหญ่ยักษ์ร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศ พร้อมด้วยแรงกดดันที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า
ตู้ม!
เงาของมังกรดำแตกสลายหายไปเมื่อปะทะเข้ากับนิ้วมือขนาดยักษ์
เฮยเถิงคำรามในลำคอ สองเท้าไม่มั่นคง ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก
ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาตกตะลึง มันกระพือปีกขึ้นบินในอากาศ พัดขนนกทองคำพลันปรากฏในมือ
ผลั่ก!
ฉู่ชวิ๋นกระทืบเท้าส่งตัวเองลอยขึ้นไปกลางอากาศ ในขณะเดียวกันนั้น เขาก็ต่อยหมัดออกไปรัวๆ พลังลมปราณจากหมัดของเขาพุ่งเป็นสายราวสายรุ้ง ถาโถมเข้าใส่ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษา
ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษามีสีหน้าตื่นกลัว อยู่เฉยไม่ได้ต้องรีบสะบัดพัดขนนกในมือ ระเบิดพลังลมปราณสีทองคำโต้ตอบกลับไป
ผลั่ก! ผลั่ก!
หมัดแรกปะทะเข้ากับพัดขนนก ส่งผลให้แขนของผู้อาวุโสลำดับที่ 9 สั่นระริก
หมัดที่สองยังคงต่อยใส่พัดขนนก แต่ด้วยแรงกระแทกมหาศาลถึงเพียงนี้ มือของผู้อาวุโสลำดับที่ 9 จึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะกำด้ามพัดได้อีกต่อไป พัดขนนกทองคำร่วงหลุดออกจากมือมันแล้ว
ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกไปข้างหน้า พัดขนนกทองคำร่วงหล่นลงมาเข้ามือของเขาอย่างง่ายดาย
พัดขนนกทองคำด้ามนี้มีพลังน่าประทับใจ มันเป็นอาวุธที่ใช้สร้างพายุหมุนและทำให้ปราสาทหยานหลงถึงเกือบพังทลายไปหมดสิ้น
ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามได้ใช้งานอาวุธชิ้นนี้อีกแล้ว
“คืนพัดของฉันมานะ” ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของมนุษย์ปักษาร้องตะโกน พัดขนนกทองคำด้ามนี้เป็นสุดยอดอาวุธประจำเผ่าพันธุ์ จะทำสูญหายไม่ได้เด็ดขาด
“อยากได้ก็มาเอาคืนไป!”
ฉู่ชวิ๋นกระแทกหมัดออกไปไม่ยั้งมือ พลังลมปราณพวยพุ่งเป็นประกายแวววับ ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาไม่มีโอกาสได้กระโดดหลบหนีด้วยซ้ำ
ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 ส่งเสียงกรีดร้อง ถึงจะโคจรม่านพลังขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายถึงเก้าชั้น แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานลำแสงที่พุ่งเข้ามาได้อยู่ดี ปีกของมันระเบิดตู้ม ขนนกปลิวกระจายไปทั่วท้องฟ้า
มนุษย์ปักษาหมุนคว้างลงมาจากกลางอากาศ ตกกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น ไม่ต้องเหลือบตามองก็รู้ว่าบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย
เฮยเถิง รวมถึงตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบ ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความตะลึงงัน คนผู้นี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มีฝีมือแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
“พวกเราบุกโจมตีพร้อมกันเถอะ” ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบตะโกนก้อง
เฮยเถิงโคจรม่านพลังสีดำมาห่อหุ้มร่างกายในขณะที่กระโดดเข้าหาฉู่ชวิ๋น
แต่ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบกลับอาศัยจังหวะนี้หันหลังขวับ และหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้ผีเน่าเอ๊ย” เฮยเถิงเพิ่งจะรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่า อีกฝ่ายหนึ่งตั้งใจหลอกใช้มัน เพื่อเปิดโอกาสให้ตนเองหลบหนี
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายขั้นจักรพรรดิระดับ 9 ดังกังวานไปทั่วบึงน้ำ
“พี่เฮยเถิง กรุณารับมือมันไปก่อน ฉันจะไปตามคุณหวูมาช่วย” ตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบมีแขนยาวขายาว เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วยิ่ง เพียงพริบตาเดียวก็หลบหนีไปไกลหลายกิโลเมตรแล้ว
ฟึบ!
แต่เส้นไหมสีขาวกลับปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ และพุ่งไล่หลังตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบมาติดๆ
ฉู่ชวิ๋นใช้วิชาตัวเบากระโดดติดตามตัวแทนเผ่าพันธุ์ผีดิบอย่างรวดเร็ว เพียงหมุนตัวสองครั้ง เขาก็สามารถไปดักหน้าผีดิบจอมเจ้าเล่ห์ได้แล้ว
“ย๊าก” ผีดิบคำรามเสียงดัง ตัวยังคงลอยไปข้างหน้า แขนขาที่ยาวผิดมนุษย์ของมันตวัดตัดอากาศเหมือนกับเคียวของยมทูต หมายจะตัดศีรษะของฉู่ชวิ๋นในขณะที่พุ่งผ่าน
ฉู่ชวิ๋นกำมือเป็นหมัด รวบรวมพลังลมปราณ แล้วต่อยหมัดสวนกลับ
เปรี้ยง!
พลังลมปราณพุ่งแหวกอากาศ แขนข้างหนึ่งของมนุษย์ผีดิบโดนหมัดของฉู่ชวิ๋นต่อยเข้าไปเต็มแรง กระดูกแตกกระจาย
ฉู่ชวิ๋นยังคงลงมือด้วยความอำมหิต เขาคว้าจับแขนอีกข้างของมนุษย์ผีดิบ ก่อนที่จะออกแรงฉีกกระชาก
มนุษย์ผีดิบร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด มันอ้าปากกว้างหมายจะกัดคอฉู่ชวิ๋น เผยให้เห็นฟันสีขาวที่แหลมคมเป็นประกายวิบวับ
แต่น่าเสียดายที่ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นมา แล้วต่อยหมัดใส่ใบหน้าของมันเต็มแรง ยิ่งผนวกเข้ากับพลังลมปราณที่กระแทกเข้าใส่แล้ว หัวของมนุษย์ผีดิบตัวนี้หมุนได้ 360 องศา
กร๊อบ! ลำคอของผีดิบสามารถหมุนได้รอบทิศอย่างน่าหวาดกลัว
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่ตาย ทว่า บนใบหน้าปรากฏความหวาดกลัวเปี่ยมล้น
ฉู่ชวิ๋นมีแววตาเย็นชาปานน้ำแข็ง ชายหนุ่มก้มตัวลงไป บีบลำคอของมนุษย์ผีดิบ
“แกไม่ควรมายุ่งกับคนที่ฉันรัก”
พูดจบ ก็ปรากฏเปลวไฟลุกลามออกมาจากฝ่ามือของเขา แผดเผาร่างกายของตัวแทนจากเผ่าพันธุ์ผีดิบหลงเหลือเพียงแค่เถ้าถ่าน มีแต่เฉพาะส่วนของศีรษะเท่านั้นที่ยังสมบูรณ์อยู่
เมื่อฉู่ชวิ๋นหันหน้ากลับมา ก็พบว่าเฮยเถิงอยู่ในสภาพที่เลือดท่วมตัว บนร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผล มองไปคล้ายกับเป็นมนุษย์โลหิตคนหนึ่ง
โฮก!
เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นกำลังจะกลับมาหาตนเองอีกครั้ง เฮยเถิงก็เปลี่ยนร่างกลายเป็นมังกรดำ ที่มีความยาวลำตัวหลายเมตร
มันเป็นมังกรในแบบฉบับโลกตะวันออก เพียงแต่เกล็ดบนผิวหนังเป็นสีดำมะเมื่อมเหมือนชุบน้ำหมึก เกล็ดแต่ละแผ่นมีขนาดเท่าฝ่ามือ แข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า
ถ้าวัดกันตามขนาดตัวแล้ว เฮยเถิงมีร่างกายใหญ่โตกว่าจิ่วโยวตอนเปลี่ยนร่างเป็นงูยักษ์เสียอีก
“หน้าตางูดินแบบนี้ แกกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์มังกรได้ยังไง?” ฉู่ชวิ๋นยิ้มเหยียดหยาม
โฮก! เฮยเถิงอ้าปากกว้างแล้วพ่นน้ำสีดำออกมา
ฉู่ชวิ๋นรีบกระโดดหนี
น้ำสีดำถูกพ่นลงมาบนพื้นดินกินพื้นที่ประมาณ 10 ตารางเมตร หมอกควันสีขาวพุ่งขึ้นมาทันที พื้นดินถูกกัดกร่อนกลายเป็นรูพรุนหลายร้อยรู แม้แต่ก้อนหินใหญ่ที่อยู่บนพื้นก็ถูกกัดกร่อนไม่เหลือชิ้นดี
โฮก!
เฮยเถิงรู้ตัวแล้วว่าถึงพ่นพิษไปก็ไร้ประโยชน์ มันจึงเปลี่ยนวิธีโจมตีเป็นสะบัดหางเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร ย่อมสามารถหลบเลี่ยงได้อย่างไม่มีปัญหา
โครม!
หางมังกรฟาดลงไปบนพื้นดิน เกิดแรงสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว ก่อนที่จะปรากฏรอยแตกร้าวบนพื้นดินกินพื้นที่หลายสิบเมตร
เฮยเถิงเคลื่อนไหวตรงเข้าหาฉู่ชวิ๋นอย่างรวดเร็ว ร่างกายที่ใหญ่โตของมันทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน ถ้ามันได้สะบัดหางอีกครั้ง แม้แต่ยอดเขาสูงก็คงถล่มลงมาได้ไม่ยาก
พื้นดินใต้เท้าของฉู่ชวิ๋นระเบิดตู้ม ตัวคนทะยานขึ้นไปกลางอากาศ
เฮยเถิงโผตัวขึ้นกลางอากาศเช่นกัน มันบ่ายหน้าตรงเข้าหาฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นลอยตัวอยู่กลางอากาศ สะบัดฝ่ามือยิงพลังอย่างรวดเร็ว
แว๊ก!
เสียงกรีดร้องของนกเพลิงดังกึกก้องท้องนภา ซึ่งในขณะนี้กำลังเป็นประกายสว่างไสวด้วยเปลวไฟเวทมนตร์ นกเพลิงบินโฉบลงมา เปลวไฟของมันแผดเผาเข้าใส่เฮยเถิงด้วยความร้อนแรงเป็นอย่างยิ่ง
ตู้ม!
ทันใดนั้น บังเกิดแรงระเบิดที่ก่อให้เกิดก้อนเมฆรูปเห็ดลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า
เฮยเถิงร้องโหยหวนสุดเสียง ร่างมังกรของมันกลิ้งกระเด็นไปหลายตลบ ชนต้นไม้โค่นล้ม กระแทกก้อนหินแตกกระจายนับไม่ถ้วน
ร่างกายที่ยาวหลายเมตรของมันอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส ช่วงกลางลำตัวมีเลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด ส่วนนอกนั้นก็เป็นแผลไฟไหม้ขั้นรุนแรง กลิ่นเนื้อไหม้ลอยมาเตะจมูกตั้งแต่ไกล
ฟึบ!
เส้นไหมสีขาวรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ก่อนที่จะพุ่งแหวกอากาศออกไปโจมตีมังกรดำ
ฟู่!
เลือดสาดกระจายเต็มพื้นดิน เสียงร้องโหยหวนของเฮยเถิงขาดหายไปกลางคัน ร่างของมันถูกเส้นไหมสีขาวตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลงเหลือเพียงแต่ส่วนหัวเท่านั้นที่ยังสมบูรณ์อยู่ดังเดิม
“ที่แท้ก็แกนี่เอง จอมมารฉู่ชวิ๋น”
ฉู่ชวิ๋นลอยตัวกลับลงมาสู่พื้นดินแล้ว ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ได้ยินเสียงของผู้อาวุโสจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาอุทานออกมาพอดี
ค่งเถิงเฟยจ้องมองฉู่ชวิ๋นด้วยสีหน้าดุร้าย แต่แววตาของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“แกนี่เองจอมมารฉู่ชวิ๋น ฉันคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแก มันต้องเป็นแกคนเดียวเท่านั้น…” ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาพูดด้วยความเคียดแค้น ไม่รู้เลยว่าตนเองควรจะหวาดกลัวหรืออับอายมากกว่ากัน
มันรู้ดีถึงความน่ากลัวของจอมมารฉู่ชวิ๋น โดยเฉพาะฤทธิ์ของเส้นไหมวิญญาณสีขาวเหล่านั้น ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสังหารมนุษย์ปักษามาหลายสิบตัว
“ได้เจอกันอีกแล้วนะ” ฉู่ชวิ๋นเปิดเผยตัวตนไม่มีปิดบัง
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็กลับมาอยู่ในโฉมหน้าที่แท้จริงของตัวเอง
“จอมมารฉู่ชวิ๋น” ค่งเถิงเฟยสั่นเทาไปทั้งตัว กระอักเลือดออกมาจากปากคำใหญ่
สัตว์ร้ายสองเผ่าพันธุ์มีสีหน้าอับอายยิ่งนัก พวกมันวางแผนกันมานาน หมายเล่นงานฉู่ชวิ๋นให้อยู่มือ ใครจะไปคิดเลยว่าจอมมารกลับดอดมาแฝงตัวอยู่ข้างกายพวกมันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าและพังพอนปีศาจล้วนต้องตกตายด้วยฝีมือของจอมมารฉู่ชวิ๋น
เมื่อเป็นเช่นนี้ หวงเซิงก็คงหนีชะตากรรมไม่พ้นแล้ว
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสลำดับที่ 9 จากเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษากำลังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ตัวมันเองย่อมรู้ดีว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นร้ายกาจมากแค่ไหน แล้วทำไมมันถึงตัดสินใจเข้าร่วมแผนการครั้งนี้ด้วยนะ?
แต่ที่น่าตลกที่สุดก็คือหวูเค่อจินผู้มั่นใจในแผนการของตัวเองเป็นนักหนา ประเมินดูแล้วคนอวดดีนั่นคงยังไม่รู้ตัวสักนิด ว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นได้ทำลายแผนการของพวกมันพังยับเยินไปหมดแล้ว!