จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 142-1 ไม่ใช่มิตร ก็คือศัตรู
เมื่อเห็นว่าหลิวอวี๋เซิงเริ่มโกรธเกรี้ยวขึ้นมา ผู้อาวุโสที่สามแห่งสกุลหลิวจึงได้เล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดออกไป
‘ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น?’
ชื่อนี้คุ้นหูยิ่งนัก หลิวอวี๋เซิงครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ จึงนึกเรื่องที่เหวินจู๋ถูกใครบางคนแย่งชิงน้ำอมฤทธิ์ไท่จี๋เมื่อสองปีก่อนขึ้นมาได้ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเรียกขานตนเองแบบนี้เช่นกัน
‘เฮอะ! แม้กระทั่งชื่อจริงยังไม่กล้าเอ่ยออกมา ทำราวกับมีลับลมคมนัย!’
‘เล่นลูกไม้ร้อยแปดทำให้ผู้คนงงงวยน่าสนุกนักหรือ?’ หลิวอวี๋เซิงดูถูกประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นชุดใหญ่
แต่ทว่า การที่ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นกำจัดหนานกงซีรั่ว นับว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก
“เขาอยู่ระดับขั้นอะไร?”
“ไม่รู้แน่ชัด แต่ว่า หนานกงซีรั่วคือเทพอาวุโสขั้นหก ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นสามารถกำจัดนางได้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวรยุทธ์ที่เหนือกว่านั้น แน่นอนว่าเรายังไม่อาจตัดทิ้งเรื่องที่ว่าเขาอาจจะใช้วิธีการอื่น…”
ผู้อาวุโสที่สามแห่งสกุลหลิว หลิวอ้าวกว๋อ รูปร่างสูงโปร่งและผอมบาง เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าของหลิวอวี๋เซิงแล้วดูราวกับก้านไม้ไผ่ที่ยาวเหยียดตรงอย่างไรอย่างนั้น
ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นสังหารหลิวอ้าวหลาน ดูผิวเผินก็คือหนี้แค้นที่สังหารบิดา ใหญ่หลวงจนมิอาจอยู่ร่วมแผ่นฟ้าเดียวกันได้ แต่ลึกๆในใจของหลิวอวี๋เซิงก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อย
เขาต้องอดทนอดกลั้นต่อการดูถูกเหยียดหยาม และถูกสวมเขามาสิบกว่าปี
หากมิใช่หลิวอ้าวหลานร่วมมือกับผู้อาวุโสในตระกูล ผลักดันให้เขาขึ้นเป็นผู้นำของตระกูลละก็ เขาก็คงจะไม่อดทนอดกลั้นมาจนถึงวันนี้
บัดนี้ในที่สุดก็มีคนช่วยลงมือแทนเขา ทั้งยังกำจัดคนสองคนที่ขวางหูขวางตาเขาไปได้ในคราวเดียว ดียิ่งนัก!
‘มารหัวขนตายไป หลิวอ้าวหลานก็ตายแล้วเช่นกัน สวรรค์มีตาโดยแท้!’
‘กรรมตามสนอง!’
หากมิใช่ที่เบื้องหน้าของเขายังมีผู้อาวุโสที่สามของตระกูล ลุงสามของเขา พี่ชายของหลิวอ้าวหลานยืนอยู่ละก็ หลิวอวี๋เซิงคงจะเงยหน้าหัวเราะออกมาด้วยความดีใจอย่างเปิดเผยไปแล้ว
ขณะเดียวกันหลิวอ้าวกว๋อเองก็คาดเดาความคิดลึกๆในใจของหลิวหลิวอวี๋เซิงออกได้บางส่วนเช่นกัน
หากเป็นตัวเขา ถูกบิดาบังเกิดเกล้าและเมียของตัวเองสวมเขา จนต้องเรียกน้องชายเป็นลูกเช่นนี้ เขาเองก็คงไม่ยินดีเช่นกัน
อีกทั้งด้วยอานิสงส์ของ ‘หลิวอ้าวหลาน’ เรื่องราวฉาวโฉ่ที่พ่อลูกคู่นี้ปิดบังเอาไว้ช้านานจึงถูกแฉจนความแตกเข้าให้
ตอนนี้ ทั่วทั้งเมืองอู่โยวต่างก็รู้โดยทั่วว่าผู้อาวุโสใหญ่แห่งสกุลหลิวหลับนอนกับลูกสะใภ้ของตนเอง จนเกิดเป็นมารหัวขนขึ้นมา น่าอับอายขายหน้าไปยันต้นตระกูล! ซึ่งหลิวอ้าวกว๋อเองเห็นว่าการกระทำของหลิวอ้าวหลานเป็นสิ่งน่าละอาย!
“นายท่าน ท่านคิดว่าเรื่องนี้ควรจะทำอย่างไร? จะให้ข้าไปเรียนท่านบรรพชนเฒ่าสักนิดหรือไม่?”
หลิวอ้าวกว๋อเอ่ยถามพร้อมกับมองมาที่หลิวอวี๋เซิง
หากมิใช่หลิวอ้าวหลานไปหาเรื่องประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นละก็ จวบจนตอนนี้หลิวอ้าวกว๋อคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่รองทั้งครอบครัวที่ต้องตายอย่างอนาถเป็นฝีมือของพี่ใหญ่
เช่นนั้นก็ถือว่า คนชั่วย่อมได้รับกรรมชั่วตามสนอง!
ในอดีต หลิวอ้าวกว๋อสนิทสนมรักใคร่กับพี่รองของเขายิ่งนัก ตรงกันข้ามเขากลับไม่ชอบหน้าพี่ใหญ่ที่มักจะเสแสร้งจอมปลอมเลยสักนิด
ในตอนนั้นเมื่อรู้พี่รองเกิดเรื่อง หลิวอ้าวกว๋อยังเสียใจอยู่เป็นนาน เพียงแต่เขาได้พยายามสืบเสาะเรื่องนี้มาหลายปี แต่ก็หาฆาตกรไม่พบ สุดท้ายถูกหลิวอ้าวหลานยั้บยั้งการสืบสาวนั้นเอาไว้ เรื่องนี้จึงมีอันต้องยุติลงไปเพียงเท่านั้น
แต่หลิวอ้าวกว๋อไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่า ฆาตกรที่สังหารพี่รอง ซ้อรอง ยังมีหลานชายและหลานสะใภ้นั้น กลับเป็นพี่ใหญ่นี่เอง!
เมื่อได้รู้ความจริง ก็ทำให้หลิวอ๋าวกว๋อเจ็บแค้นอย่างที่สุด
หลังจากที่เขาส่งคนไปสืบเสาะเรื่องราวทั้งหมดโดยละเอียดและได้รู้ว่าหลานชายคนเล็กของพี่รองสำเร็จถึงขั้นจักรพรรดิอาวุโสแล้ว จึงทำให้หลิวอ้าวกว๋อก็ยังมีเรื่องให้ดีใจอยู่บ้าง
ไม่ว่าหลิวอวี๋เซิงจะแก้แค้นให้กับหลิวอ้าวหลานหรือไม่ เขาไม่สนใจ แต่ว่า ลูกหลานสกุลหลิว เลือดเนื้อเชื้อไขของพี่รอง จะต้องกลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเดิมของเขา!
ลูกหลานสกุลหลิวรุ่นใหม่ ยังไม่มีใครสำเร็จถึงจักรพรรดิอาวุโสเลยสักคน
หลิวเซิ้ง เด็กคนนี้เติบโตอยู่ข้างนอกต้องเผชิญกับความยากลำบากมาตั้งหลายปี กลับยังสามารถประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้ ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
“เรื่องเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องรบกวนถึงบรรพชนหรอก!”
หลังจากที่แอบดีใจเป็นที่เรียบร้อย หลิวอวี๋เซิงก็รีบเก็บอาการให้เป็นปกติและเมื่อหลิวอวี๋เซิงได้ยินเช่นนั้น ฉับพลันเขาก็ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าขึ้นมาทันที
‘จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว!’
‘ในฐานะที่เป็นลูกชาย บิดาถูกสังหาร เขาก็ควรจะแก้แค้นให้กับบิดา’
‘แต่ปัญหาอยู่ที่ หากว่าเขาออกหน้า คนอื่นจะมองเขาอย่างไรกัน? จะหัวเราะเยาะเขาเพียงไหน?’
จะชั่วดีอย่างไรเขาก็คือผู้นำแห่งสกุลหลิวคนปัจจุบัน แม้ว่าต่อหน้าเขา คนพวกนั้นอาจจะไม่กล้าพูดอะไร แต่ลับหลังพวกเขาอาจจะกำลังหัวเราะเยาะเขาจนฟันแทบหัก ด่าว่าเขาว่าเป็นไอ้โง่เป็นลูกเนรคุณ ไปแล้วก็เป็นได้!
อีกอย่าง ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นไม่ได้ลงมืออะไรเลยด้วยซ้ำ
เพราะตั้งแต่ต้นจนจบหลิวอ้าวหลานก็ได้แต่ถูกสุนัขของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นกลั่นแกล้งทรมานเท่านั้น ไม่มีใครพบเห็นขณะที่หลิวอ้าวหลานถูกสังหารกับตาของตนเองสักคน
หลิวอ้าวหลานตายได้อย่างไรกันแน่ ยังต้องรอสืบสวนอีกครั้ง
หากว่าหลิวอวี๋เซิงบุ่มบ่ามเข้าไปหาเรื่องแล้วประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นผู้นั้นไม่เพียงยอมรับ ตรงกันข้ามกลับเป็นฝ่ายกล่าวโทษเขาเสียเอง เขาจะทำอย่างไร?
หรือว่าเขาจะต้องต่อสู้กับประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเพียงเพราะหลิวอ้าวหลาน?
อีกฝ่ายแม้แต่เทพอาวุโสก็เคยสังหารมาแล้วนะ!
หลิวอวี๋เซิงสำเร็จเพียงราชาอาวุโสท่านั้นเอง หากว่าเขาต้องตายด้วยน้ำมือประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่นละก็ บรรดาผู้อาวุโสที่ใฝ่ฝันถึงตำแหน่งผู้นำของตระกูลเหล่านั้นคงจะนี้ใจจนเนื้อเต้นเป็นแน่!
เขาจะไม่มีวันทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด!
อีกอย่าง เจ้าหนุ่มที่ไม่รู้โผล่มจากไหนนามว่าหลิวเซิ้งคนนั้นก็สำเร็จถึงขั้นจักรรพรรดิอาวุโสอีกด้วย หากว่าเรื่องนี้รู้ถึงหูบรรพชนเฒ่าละก็ ท่านจะต้องเสียดายและสั่งการให้ตามหลิวเซิ้งกลับมาอย่างแน่นอน
จักรพรรดิอาวุโสที่อายุอานามเพียงยี่สิบกว่าๆเท่านั้นเอง ลูกหลานสกุลหลิวไม่เคยมีใครเก่งกาจโดดเด่นเท่านี้มาก่อน
หากว่าหลิวเซิ้งเข้าตาบรรพชนเฒ่า จนบรรพชนเฒ่ากำหนดให้เขาเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไปขึ้นมา แล้วลูกชายของตนเล่าจะทำอย่างไร?
ดังนั้น เรื่องที่หลิวอ้าวหลานถูกสังหารนี้จะให้รู้ถึงหูบรรพชนเฒ่าไม่ได้เด็ดขาด
สีหน้าของหลิวอวี๋เซิงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หลิวอ้าวกว๋อมองดูรูปลักษณ์ใบหน้าของอีกฝ่ายว่ามีส่วนคล้ายคลึงกับหลิวอ้าวหลานอยู่ไม่น้อย ก็ยิ้มเยาะในใจ เพราะเขามองผลลัพธ์ออกตั้งแต่แรกแล้ว
หลิวอวี๋เซิงสามารถอดทนอดกลั้นแม้ได้กระทั่งถูกพ่อและเมียของตนเองสวมเขา ทั้งยังปกปิดฐานะที่แท้จริงของหลิวติงชนิดที่ว่าเงียบสนิทมาได้ตั้งนาน ฉะนั้นเขาต้องไม่ใช่ธรรมดา
เพียงแต่เวลานี้ บรรพชนเฒ่ากำลังเก็บตัวฝึกวิชา ตอนนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ไม่ควรไปรบกวนเวลาฝึกวิชาของท่าน ฉะนั้นรออีกหน่อยก็ไม่เสียหายอะไร
“ท่านลุงสาม เมื่อครู่ท่านบอกว่าท่านพ่อปักใจเชื่อว่าประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นคือผู้ที่สังหารหลิวติง เพราะหลิวเจ๋อซีเป็นคนบอกท่าน?” หลิวอวี๋เซิงที่ยังคงหาทางออกไม่ได้ฉับพลันแววตาก็เป็นประกาย
“ใช่! หลังจากที่ประมุขแห่งสกุลสุ่ยกลับออกไปแล้ว พี่ใหญ่ก็เร่งรีบเดินทางออกไปทันที” หลิวอ้าวกว๋อกล่าว
หลิวอวี๋เซิงเรียนบ่าวไพร่ที่คอยรับใช้ในวันนั้นมาซักถาม และหลังจากที่ได้ฟังในสิ่งที่พวกเขาเล่ามาแล้ว หลิวอวี๋เซิงก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ท่านลุงสาม ท่านว่าเรื่องนี้จะมีแผนการร้ายอะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่? เป็นไปได้หรือไม่ว่าสกุลสุ่ยเจตนายุแหย่ให้สกุลหลิวเราและประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเกิดความบาดหมางกัน แล้วสกุลสุ่ยก็จะได้นั่งชมเสือสองตัวต่อสู้กันอย่างสบาย?”
หลิวอวี๋เซิงยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มาก
หลิวเจ๋อซีคนๆนี้ หลิวอวี๋เซิงรู้จักนิสัยของเขาดี
สิ่งที่คนผู้นี้ทนไม่ได้มากที่สุดนั่นก็คือ เห็นคนอื่นดีกว่าตนเอง และมักที่จะชื่อชอบมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น เสมอ ตรงกันข้ามหากว่าคนอื่นต้องพบประสบเหตุร้าย สุ่ยเจ๋อซีก็แทบจะตีฆ้องร้องป่าว จุดประทัดเฉลิมฉลองกันเลยทีเดียว
อีกทั้ง สกุลสุ่ยและสกุลหนานกงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
‘สกุลหนานกงถูกประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นล้างบาง สกุลสุ่ยมิต้องการหาเรื่องใส่ตัว แต่ก็ต้องการที่จะแก้แค้นให้กับสกุลหนานกง ดังนั้นจึงลากสกุลหลิวไปตายแทน?’
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ล้วนแต่เป็นไปได้ทั้งสิ้น!
สิ่งที่หลิวอวี๋เซิงกล่าวมา ตรงกันกับที่หลิวอ้าวกว๋อกำลังสงสัย หากว่ายังไม่รู้พื้นเพนิสัยใจคอและระดับขั้นวรยุทธ์ของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นชัดเจน สกุลหลิวจะไม่ทำอะไรบู่มบ่ามออกไปแน่นอน
อีกอย่าง สกุลสุ่ยถนัดนักเรื่องการยุแยงตะแคงรั่ว แทงข้างหลังคนอื่น และสุ่ยเจ๋อซีผู้นี้ก็เคยกระทำมาแล้วด้วย! เผ่าตันถือเป็นตัวอย่างชั้นดีที่ให้เราได้เห็นมิใช่หรือ!
แม้ว่าหลิวอ้าวกว๋อจะไม่ชอบขี้หน้าหลิวอ้าวหลานและลูกชายของเขา แต่ทว่า เขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาคิดร้ายกับสกุลหลิวเช่นกัน
“ประมุข สิ่งที่ท่านสงสัยก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้!” หลิวอ้าวกว๋อขมวดคิ้วสีหน้าเคร่งเครียด
ใกล้จะถึงงานชุมนุมที่หุบเขาจื่อจิงเข้าไปทุกขณะ เมื่อไม่มีสกุลหนานกง สกุลสุ่ยก็จะต้องรั้งอยู่ในอันดับท้ายสุด พวกเขาอยู่ต่อท้ายพวกเรามาโดยตลอด ไม่แน่ว่าสุ่ยเจ๋อซีอาจคิดจะใช้วิธีการต่างๆนานาลากพวกเราลงไปแทน!