จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 154-3 ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นคือคนต่ำช้า ที่มาจากแผ่นดินชั้นต่ำ
- Home
- จำนนรักชายาตัวร้าย
- ตอนที่ 154-3 ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นคือคนต่ำช้า ที่มาจากแผ่นดินชั้นต่ำ
ตอนนี้สองแม่ลูกกำลังร้องไห้คร่ำครวญอย่างน่าเวทนาอยู่เบื้องหน้าเหวินจู๋
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
ได้ยินน้องสาวและหลานสาวเอ่ยมาเพียงเท่านั้น เหวินจู๋ก็อารมณ์ขึ้นทันที
เขาเป็นถึงผู้นำตระกูลเหวิน สกุลหลิวไม่เห็นแก่หน้าชีก็ต้องเห็นแก่หน้าพระบ้าง หลิวปิงปิงจึงไม่สมควรไล่พวกนางสองแม่ลูกออกจากตระกูลหลิว!
“บรรพชนเฒ่าไม่ยอมแก้แค้นให้กับหลิวหลาง ท่านบังคับให้สกุลหลิวทุกคนอดทนอดกลั้นกับเรื่องที่เกิดขึ้น ให้ทุกคนทำตัวเป็นตัวหดหัว แต่ว่า พี่ ข้ายอมให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปเช่นนี้ไม่ได้!”
“หลิวหลางตายแล้ว ข้าไร้ซึ่งที่พึ่งพิง ข้าต้องการแก้แค้นให้กับหลิวหลาง นี่ก็เป็นความผิดด้วยหรือ?”
ในส่วนของเรื่องที่เกิดขึ้นกับสกุลหลิวและสกุลสุ่ย เหวินจู๋รู้ตั้งแต่แรกแล้ว
ว่ากับตามความจริง หากเขาเป็นหลิวปิงปิง เขาก็ต้องเลือกที่จะกระทำแบบนี้เช่นกัน
เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องที่สกุลหลิวและสกุลสุ่ยไปหาเรื่องเขาเอง สมองของพวกเขาจะต้องเลอะเลือนไปแล้วเป็นแน่ ถึงได้ไปหาเรื่องตลบหลังประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น
แล้วเป็นอย่างไร อีกฝ่ายกลับสำเร็จปราชญ์ราชันย์ เท่ากับเป็นการตบหน้า ‘เพี้ยะๆ’ สองตระกูลนี้ฉาดใหญ่!
ตอนนี้ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นไม่ตามมาคิดบัญชีกับสกุลหลิวก็นับว่าเป็นบุญเท่าไหร่แล้ว หากว่าเขากัดเรื่องนี้ไม่ปล่อยละก็ ต่อให้เป็นหลิวปิงปิง เมื่อตกอยู่ในเงื้อมือของปราชญ์ราชันย์ก็คงมีจุดจบที่ไม่ดีเท่าไหร่เช่นกัน
“ข้าจะบอกกับเจ้านะน้องพี่ บรรพชนเฒ่าของพวกเจ้ากระทำเช่นนี้ถูกต้องแล้ว!”
ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นคือปราชญ์ราชันย์ สกุลหลิวของพวกเจ้านะสูญเสียยอดฝีมือไปมากมายบอบช้ำอย่างหนัก ตอนนี้จึงจึงเป็นต้องเก็บตัวเจียมเนื้อเจียวมตัวเอาไว้! อย่าหาว่าพี่ว่าเจ้าเลยนะ แต่หลิวปิงปิงนะทำถูกต้องแล้ว!
เพียงแค่ได้ยินเหวินจู๋ ‘เอ่ยว่า’ สิ่งที่หลิวปิงปิงกระทำนั้นถูกต้อง ก็ทำให้เหวินหลาน ผลุบ ผุดลุกขึ้นทันที
“พี่ ท่านเป็นพี่ชายของแท้ๆของข้าจริงหรือเปล่า! ทำไมท่านถึงคอยช่วยพูดแทนคนนอกตลอดเลย! ท่านกำลังเห็นขี้ดีกว่าไส้!”
การที่เหวินหลานกลับมาเดิมทีคิดที่จะหาคนช่วย ใครจะคาดคิดเล่าว่าเหวินจู๋จะพูดจาเช่นนี้ และนั่นทำเหวินหลานโกรธเคืองเป็นอย่างมาก
“น้องพี่ ทำไมเจ้าพูดจาเช่นนี้เล่า! เพราะว่าข้าคือพี่ชายแท้ๆของเจ้า ถึงได้ช่วยเจ้าวิเคราะห์คาดการณ์สิ่งเหล่านี้”
เหวินจู๋พยายามพูดจาโน้มน้าวเหวินหลานด้วยความใจเย็น
“เราไม่ควรไปหาเรื่องประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น เจ้าไม่เห็นจุดจบของสกุลหนานกงและสกุลหลิวหรือ? ตอนนี้แม้แต่สกุลเสิ่นถูยังเป็นพันธมิตรกับเขา ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการแก้แค้นจริงๆ”
“เช่นนั้นท่านว่า ตอนนี้ข้าควรจะทำอย่างไร!” เหวินหลานเริ่มน้ำตาอาบแก้มอีกครั้ง
“รอ!” เหวินจู๋ตอบคำถาม
“นอกเสียจากรอคอยเวลาที่เหมาะสม เจ้าไม่มีทางอื่นอีกแล้ว! “
เหวินหลานร้องแรกแหกกระเชิงอยู่ที่สกุลหลิวไม่มีใครสนใจใยดีนาง สุดท้ายหลิวปิงปิงจึงขับไล่นางและหลิวอวี๋เยี่ยนออกมา มาตอนนี้ กลับบ้านที่บ้านของตัวเอง พี่ชายบังเกิดเกล้ายังมาพูดจาโน้มเช่นนี้อีก ซึ่งนางไหนเลยจะฟังเข้าหู
“รอๆๆ!”
รอคอยอย่างไม่มีจุดหมาย!
เหวินหลานเริ่มเช็ดน้ำตาอีกครั้ง
“พี่ ข้ารู้ว่าท่านเป็นผู้มีความอดทนสูงส่ง ท่านเองก็เคยเสียท่าให้กับประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นมาแล้ว จึงรอคอยโอกาสที่จะได้แก้แค้นมาโดยตลอด แต่ว่า ผลลัพธ์แห่งการรอคอยของท่านมันเป็นอย่างไร?”
“ท่านรอคอยมาตั้งหลายปี จนอีกฝ่ายสำเร็จปราชญ์ราชันย์ ท่านยังจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่กัน!”
“ท่านบอกให้ข้ารอ ข้าเห็นทีจะรอไม่ไหว เกรงว่าหากข้ารออีกสองสามปี เขาจะยิ่งสำเร็จยุทธ์สูงขึ้น ถึงตอนนั้นข้าจะยิ่งไม่มีโอกาสได้แก้แค้นอีกเลย!”
เรื่องราวที่เหวินจู๋และประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นแย่งชิงน้ำอมฤทธิ์ไท่จี๋นั้น แพร่สะพัดจนรู้กันโดยทั่วทั้งอู๋โยวมาตั้งนานแล้ว
ลับหลังเขา ไม่รู้ว่าเหวินจู๋ต้องถูกผู้คนหัวเราะเยาะไปตั้งเท่าไหร่ เหวินหลานไม่เข้าใจหรอกว่า เพราะอะไรเขาถึงได้อดทนมาจนกระทั่งถึงวันนี้ได้
เมื่อเห็นว่าน้องสาวของตน เอ่ยถึงเรื่องอะไรไม่เอ่ยดันเอ่ยเรื่องน่าอับอายขายหน้าของตนขึ้นมา ก็ทำให้เหวินจู๋เริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
“น้องพี่ แต่เล็กจนโตเจ้าเติบโตมาบนแผ่นดินอู๋โยวแห่งนี้ ก็น่าจะรู้กฎเกณฑ์ของที่นี่ดี ใครมีกำลังที่แข้งแกร่งกว่าถือว่าเป็นใหญ่ นอกเสียจากเจ้ามีกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเขา มิฉะนั้นเจ้าจะเอาอะไรไปแก้แค้น!”
สิ่งที่เหวินจู๋พูดมา เหวินหลานเข้าใจดีทุกอย่าง
เพียงแต่ว่าตอนนี้ในหัวของนางมีแต่ต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น!
นางแค้นประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่นที่สังหารหลิวอวี๋เซิง แค้นที่หลิวปิงปิงเย็นชาไร้หัวใจเช่นนี้
หลิวปิงปิงไม่เพียงแต่ขับไล่นางออกมา แม้แต่หลิวอวี๋เยี่ยนช่วยพูดแทนนางเพียงแค่สองสามประโยคก็ถูกขับไล่ออกมาเช่นกน
แม้กระทั่งสุ่ยอวิ๋นเอ๋อร์ที่กำลังตั้งครรภ์ หลิวปิงปิงก็ยังไม่ละเว้น
ต่อให้สุ่ยอวิ๋นเอ๋อร์เกี่ยวข้องกับสกุลสุ่ย แต่ลูกในท้องของนางคือเลือดเนื้อเชื้อไขของหลิวปั๋วนะ หลิวปิงปิงกลับสั่งฆ่าสุ่ยอวิ๋นเอ๋อร์ นี่มันเรื่องอะไรกัน!
เหวินหลานแค้นหลิวปิงปิง แค้นที่นางเย็นชาไร้หัวใจ เกลียดที่นางนิ่งดูดาย แต่คนที่นางแค้นที่สุดนั่นก็คือประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น
ลูกชายของนางถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น สามีของนางก็ตายด้วยน้ำมือของเขาเช่นกัน แม้แต่หลานชายที่ยังไม่ลืมตาดูโลกก็ยังต้องพลอยเดือดร้อน หนึ่งศพสองชีวิต ก็เพราประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น
จะพูดให้ถูกต้องนั่นก็คือ ประมุขอแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นสมควรตายมากที่สุด
“พี่ ท่านจะต้องช่วยข้าแก้แค้นนะคะ!”
“แม้ว่าข้าจะแต่งงานออกไปแล้ว แต่ข้าก็ยังเป็นลูกสาวของสกุลหเหวิน ท่านพูดกับบรรพชนเฒ่าให้ที ช่วยข้าที!”
เหวินจู๋ได้ยินน้องสาวกล่าวเช่นนั้นก็ถึงกับอึ้งกิมกี่
แม้ว่าเขาจะรักและสงสารน้องสาวคนนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือนางไปต่อกรกับประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเลยแม้แต่น้อย
เพราะไม่ว่าอย่างไร นางก็คือลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป
หากว่าเหวินหลานกลับมาที่บ้านเพื่อให้ช่วยเหลือในเรื่องอื่น เขายังสามารถช่วยเหลือนางได้อย่างเต็มที่
แต่ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นคือคลื่นลูกใหม่ที่กำลังเรืองอำนาจ หากว่ายังไม่รู้จักอีกฝ่ายดีเพียงพอ สกุลเหวินจึงทำได้เพียงแค่ฝ้าดู ไม่มีทางที่จะออกหน้าล่วงเกินประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเพียงเพราะเหวินหลานอย่างแน่นอน
เห็นสีหน้าของเหวินจู๋ไม่สู้ดี หลิวอวี๋เยี่ยนจึงรีบก้าวออกมาคุกเข่าลงต่อหน้าเหวินจู่
“ท่านลุง ท่านลุงเอ็นดูเยี่ยนเอ๋อร์ที่สุด ท่านลุงช่วยข้าและท่านแม่เถอะนะคะ! ข้าไม่มีท่านพ่อแล้ว ข้าไม่อยากเสียท่านแม่ไปอีก!”
คำพูดของหลิวอวี๋เยี่ยนเตือนสติเหวินหลาน
‘หากวันนี้ไม่เสียเลือดเนื้อเสียหน่อย คงจะไม่สามารถทำให้เหวินจู๋สงสารได้เป็นแน่’
“พี่ ท่านเติบโตมาพร้อมกับข้า หลังจากที่ท่านพ่อและท่านแม่จากไป ท่านก็คือญาติสนิทคนเดียวของข้า หากแม้แต่ท่านก็ไม่ยอมช่วยข้าละก็ ข้าก็ได้แต่เลือกทางตายเท่านั้น!”
กล่าวจบ เหวินหลานก็วิ่งเอาศีรษะชนเข้ากับกำแพงหินทันที
“น้องพี่!”
เดิมทีเหวินจู๋เตรียมที่จะวิ่งเข้าไปห้ามปรามเหวินหลาน ทว่าเขาไม่ทันคาดคิดว่า พลังบางอย่างกลับดึงเขาเอาไว้
เขาจึงทำได้แค่เพียงยืนมองเหวินลานใช้ศีรษะโขกกับกำแพงหิน จนศีรษะแตกเลือดไหลอาบใบหน้า เดิมทีเหวินหลานเพียงแค่ต้องการข่มขู่เหวินจู๋เท่านั้น เพราะนางรู้ดีว่าพี่ชายของนางไม่มีทางมองดูนางเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาได้ เขาต้องเข้ามาห้ามนางอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีโถมเข้าไป เพื่อต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าตนเองนั้นมีใจคิดที่อยากจะตายจริงๆแต่ทว่าเหวินหลานกลับนึกไม่ถึงว่า เหวินจู๋กลับไม่ขยับเขยื้อน
คราวนี้ ทำเอาเหวินหลานเสียเปรียบครั้งใหญ่
ศีรษะของนางถูกกระแทกจนเป็นรู เลือดสดๆค่อยไหลออกมา ไม่นานก็ไหลอาบใบหน้าของเหวินหลาน
“ท่านแม่! ท่านแม่!”
หลิอวี๋เยี่ยนเมื่อเห็นดังนั้น จึงรีบเข้าไปหาเหวินหลานทันที
“ท่านแม่ ท่านแม่เป็นอย่างไรบ้างคะ?”
“พี่…”
เหวินหลานเงยหน้าขึ้น เหือบอาบหน้าแลดูน่าอนาถยิ่งนัก เมื่อเห็นสภาพของเหวินหลานแล้วก็ทำใหเหวินจู่เริ่มที่จะหวั่นไหว
เหวินหลานเติบโตขึ้นมาในบ้านสกุลเหวิน ได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี นางเป็นคุณหนูผู้บอบบาง ฐานะสูงส่งอยากที ยากจะหาใครเทียบเทียม แต่ตอนนี้กลับต้องขอร้องอ้อนวอนเขาอย่างน่าอัปยศอดสู
เขามีน้องสาวเพียงคนเดียว หากว่าเหวินหลานตายไปจริงๆ แล้วเขาจะทำอย่างไร…
วินาที่กำแพงในใจของเหวินจู๋กำลังจะพังทลายลงไปนั่นเอง เสียงอันทรงอำนาจของชายชราผู้หนึ่งก็ดังขึ้น
“นางอยากตาย ก็ให้นางตายไปเสีย…”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น พลันเหวินจู๋ก็ทรุดคุกเข่าลงทันที แม้ว่าเหวิจื่ออู่จะไม่ได้เผยตัว แต่เขาสำเร็จถึงขั้นเทพอาวุโสขั้นปลาย ดังนั้นเพียงแค่เขาปล่อยดวงจิตออกมา ก็สามารถรับรู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับสกุลเหวินได้อย่างชัดเจน
เหวินจื่ออู่อายุร่วมสองร้อยกว่าปีเข้าไปแล้ว ทั้งยังไม่มีความผูกพันใดๆกับเหวินหลาน ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ว่านางคือลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วซึ่งคิดที่จะดึงสกุลเหวินไปให้ตกที่นั่งลำบากไปด้วยอีก
เมื่อได้ยินบรรพชนเฒ่าของตนเอ่ยปากเช่นนั้น ทำให้เหวินจู๋จนใจยิ่งนัก ต่อให้เขามีใจอยากช่วยก็ตาม แต้บรรพชนเฒ่าเอ่ยถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่อาจขัดคำสั่งของบรรพชนเฒ่าได้
“ดี ดี!”
เหวินหลานโซซัดโซเซลุกขึ้นโดยมีหลิวอวี๋เยี่ยนประคับประคอง
หลิวอวี๋เซิงตายแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเสียหมด
‘ตอนนี้บ้านสามีพึ่งพาไม่ได้ บ้านพ่อแม่ตัวเองก็พึ่งพาไม่ได้เช่นกัน!’
“เยี่ยนเอ๋อร์ พวกเราไป! ในเมื่อบรรพชนเฒ่าไม่ยินยอมที่จะช่วยเหลือ พวกราก็อย่าได้หน้าด้านหน้าทนอยู่ต่อไปเลย พวกเราไป——”
เหวินหลานหาได้สนใจว่าบาดแผลของตนจพกำลังหลั่งเลือดแต่อย่างใด นางให้หิลอวี๋เย่ยนประคองตนเองเดินออกไป
“น้องพี่…”
เหวินจู๋มองตามหลังน้องสาว เริ่มรู้สึกกผิดต่อนางไม่น้อย
“น้องพี่ เจ้าจะไปไหน ข้าจะให้คนไปส่งเจ้า!”
“ไม่จำเป็น!”
เหวินหลานหันหลังกลับมา พร้อมกับตวัดสายตามองมายังเหวินจู๋อย่างเคืองแค้น
“พี่ ท่านไม่ยอมช่วยเหลือข้า เช่นนั้นก็รอเก็บศพข้าก็แล้วกัน! หลิวปิงปิง ไม่มีทางยอมให้ข้ากลับสกุลหลิวเป็นแน่!”
เหวินหลานและหลิวอวี๋เยี่ยนเดินมาจนกระทั่งถึงหน้าประตู จึงพบเข้ากับเหวินเหรินเจี๋ยที่เพิ่งก้าวลงจากรถม้าพอดิบพอดี
เมื่อเห็นสภาพของคนทั้งสอง เหวินเหรินเจี๋ยจึงรีบสาวเท้าเข้าไปหาทันที
“ท่านอา ท่านบาดเจ็บได้อย่างไร?”