จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 83-2
จำนนรักชายาตัวร้าย – ตอนที่ 83-2 ความรักแสนหวาน
“อิอิ ท่านไม่แก่สักหน่อย! ข้าชอบกินหญ้าแก่ หญ้าแก่ต้องออกแรงเคี้ยวให้มาก! ท่านดูสิ ฟันของข้าออกจะดี! ข้าไม่กลัวหรอก!”
กล่าวจบมู่เหนี่ยนซีก็อ้าปาก ให้อวี้เชียนเสวี่ยสำรวจฟันขาวๆของตนเอง
อารมณ์เด็กๆเช่นนี้ของนาง ทำให้อวี้เชียนเสวี่ยอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้!
ก่อนหน้านี้ที่เขามักจะต่อว่าซย่าโหวฉิงเทียน ตอนนี้ เห็นทีจะต้องขอบคุณอีกฝ่ายให้มากเสียแล้ว
หากมิใช่ซย่าโหวฉิงเทียนดวลสุรากับนางจนเมา อวี้เชียนเสวี่ยไหนเลยจะมีโอกาสได้เห็นนางในอีกด้านเช่นนี้เล่า!
แต่ทว่า อวี้เชียนเสวี่ยมิรู้เลยว่า สิ่งที่ทำให้เขาต้องขอบคุณซย่าโหวฉิงเทียนให้มากๆ อยู่หลังจากนี้ต่างหาก…
“เอาละ เหนี่ยนซี ข้าประคองเจ้าไปนอนที่เตียงดีหรือไม่”
“ดี!”
เมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ มู่เหนี่ยนซีก็สงบลง พยักหน้าอย่างว่าง่าย
จนกระทั่งอวี้เชียนเสวี่ยประคองนางนอนลง ถอดถุงเท้าให้กับนาง และเตรียมจะห่มผ้าให้นางนั่นเอง มู่เหนี่ยนซีกับร้องขึ้นมาว่าร้อน แล้วเริ่มแกะปมเสื้อ
ห้ามมองเสียมารยาท!
เมื่อไหปลาร้าที่งดงามประจักษ์แก่สายตา อวี้เชียนเสวี่ยก็รีบเสมองไปอีกด้าน
“ร้อนจัง!”
มู่เหนี่ยนซีมิสนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว นางจัดแจงปลดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนเองออกจนเกือบหมด เหลือเพียงชุดชั้นในปกปิดเรือนร่างเอาไว้เท่านั้น
ตรงหน้าคือหญิงที่ตนเองรัก แล้วนางก็อยู่ในสภาพเช่นนี้ เพียงแค่ความสมบูรณ์พูนพร้อมราวกับภาพวาดเสมือนจริงตรงหน้า ก็ทำให้อวี้เชียนเสวี่ยเกือบเลือดกำเดาไหลออกมาแล้ว
“ข้าไปล่ะ…”
อวี้เชียนเสวี่ยพูดจาตะกุกตะกัก หมุนกายเตรียมเดินออกไป ทว่ากลับได้ยินเพียงแค่เสียง
ฟุ่บ!
และเมื่อเขาหันกลับมา ไม่รู้มู่เหนี่ยนซีทำอิท่าไหน ถึงได้นอนกองอยู่บนพื้น ทำเอาอวี้เชียนเสวี่ยตกใจจนใจหาย รีบเข้าไปประคองนางขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่ามู่เหนี่ยนซีกลับยื่นมือออกมาผลักอวี้เชียนเสวี่ยล้มไปที่เตียง ส่วนตนเองดึงทึ้งผ้าม่านข้างเตียงลงก่อนที่จะพุ่งตัวเข้าไปข้างใน
“เหนี่ยนซี เหนี่ยนซี…”
เมื่อเห็นว่ามู่เหนี่ยนซีเริ่มดึงสายคาดเอวของเขาออก อวี้เชียนเสวี่ยก็รีบไปตะครุบเอวของนางเอาไว้
“น่ารำคาญน่า!”
มู่เหนี่ยนซีตบที่มือของอวี้เชียนเสวี่ยที่พาดอยู่บนเอวของตนอย่างแรง
“อวี้เชียนเสวี่ย ข้าจะบอกท่านให้นะ วันนี้ข้าจะต้องกินท่านให้จงได้! ทางที่ดีให้ท่านเชื่อฟังข้า หากท่านมิยอมละข้าละก็ ข้าไม่ปล่อยท่านเอาไว้แน่!”
เมื่อครู่ยังเรียบร้อยว่าง่ายอยู่เลย แล้วเหตุใดตอนนี้วิญญาณนายหญิงใหญ่ประทับร่างอีกแล้วเล่า
“เหนี่ยนซี เจ้าฟังข้านะ พวกเรายังมิได้แต่งงานกัน!”
“ข้าจะต้องเชิญแม่สื่อและยกสินสอดมาสู่ขอเจ้า จากนั้นเราจึงจะร่วมหอกันได้ เจ้ารู้หรือไม่!”
อวี้เชียนเสวี่ยพยายามหลบหลีก แต่ทว่ามู่เหนี่ยนซีกลับไม่มีท่าทีจะหยุดแต่อย่างใด
“พูดมากน่า! ท่านจะให้ก็ดีไม่ให้ก็ช่าง อย่างไรก็ต้องให้ข้าอยู่ดี! ข้าต้องการท่าน ท่านต้องการข้า หากท่านมิต้องการข้า เช่นนั้นก็ให้ข้าต้องการท่านแล้วกัน!”
ถึงแม้ว่าอวี้เชียนเสวี่ยจะสำเร็จขั้นราชันแล้ว แต่กำลังของเขายังไม่ฟื้นฟูเต็มที่
ซึ่งหากจะกล่าวในแง่พละกำลังและทักษะละก็ อวี้เชียนเสวี่ยในตอนนี้มิใช่คู่ต่อสู้ของมู่เหนี่ยนซีเป็นแน่
ไม่ว่าจะฐานะที่เป็นโจรสลัดสาว หรือว่าในฐานะเป็นหัวหน้าโจรสลัดก็ตาม มู่เหนี่ยนซีจะแสดงถึงวิถีทางของโจรสลัดที่ทำสิ่งใดแล้วจะต้องทำให้ถึงที่สุดออกมา
นางจับมือทั้งสองข้างของอวี้เชียนเสวี่ยเอาไว้แน่นแล้วใช้ที่คาดเอวของเขานั่นแหละมัดเอาไว้ แล้วจัดแจงลอกคราบเขาราวกับปอกเปลือกไข่ไก่อย่างไรอย่างนั้น
แต่ทว่าเมื่อถึงนาทีเข้าด้ายเข้าเข็มนั่นเอง นางกลับหยุดมือ ขมวดคิ้ว ขั้นตอนต่อไปทำอย่างไรนะ นางทำไม่เป็นจริงๆ! ท่านแม่ก็ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้เสียด้วย ทำให้นางปวดเศียรเวียนเกล้าจริงเลย!
นี่ก็เพิ่งเริ่มต้นฤดูไม้ใบผลิ แต่ยามค่ำคือของหุบเขาลั่วสยานับว่าหนาวเหน็บอยู่มากนัก
ทว่าภายในห้องกลับอยู่ในสภาวะเร่าร้อนอย่างหนักหน่วง
มู่เหนี่ยนซีกัดตรงนี้ที ขบเม้มตรงนั้นที เปลี่ยนที่ลูบคลำ กระทั่งใช้ลิ้นเลียไปมา ร้อนรนจนเหงื่อแตกทั่วร่าง
แต่คนที่ทรมานยิ่งกว่านางนั่นก็คืออวี้เชียนเสวี่ย ให้ตายเถอะ นี่มันทรมานเสียยิ่งกว่าในสนามรบ ทรมานยิ่งกว่าลมปราณแตกซ่านเป็นไหนๆ
ถูกโจรสลัดสาวโจมตี ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว!
ที่น่ากลัวก็คือ ถูกโจรสลัดสาวที่ไม่รู้อะไรเลยยั่วยวนนี่แหละ นี่มันทรมานกันชัดๆ!
ให้ข้าได้ตายสบายๆมิได้หรืออย่างไร ขอร้องละ!
“น่าจะทำอย่างนี้แหละ!”
หลังจากย่ำไปย่ำมาบนร่างอวี้เชียนเสวี่ยจนสาแก่ใจแล้ว มู่เหนี่ยนซีก็นอนลง แล้วยื่นมือไปโอบรอบคอเขาเอาไว้แล้วกล่าวว่า
“ไม่รู้ว่าจะมีลูกหรือไม่นะ!”
“ลูก…”
อวี้เชียนเสวี่ยถึงกับน้ำตาไหลพราก
หากว่าทำเช่นนี้อย่างที่เจ้าว่าละก็ ให้ร้อยปีพวกเราก็ไม่มีลูกหรอก!
เห็นว่ามู่เหนี่ยนซี หัวถึงเอนหมอนก็จวนเจียนจะหลับ อวี้เชียนเสวี่ยไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงแต่ขานชื่อเรียกนางเบาๆ
“เหนี่ยนซี เจ้าปล่อยข้าเถอะ”
“ไม่ปล่อย! หากปล่อยมือท่าน ท่านก็จะหายไป!”
มู่เหนี่ยนซีไม่สนใจอะไรอีกแล้ว นางกอดอวี้เชียนเสวี่ยเอาไว้แน่น ด้วยเกรงว่าเขาจะหายไป
หยกที่อ่อนนุ่มอยู่แนบกาย ต่อให้อวี้เชียนเสวี่ยเป็นสุภาพบุรุษขนาดไหน แต่คราวนี้ก็คิดอะไรไม่ออกเช่นกัน
มู่เหนี่ยนซี นี่เจ้ายั่วยวนให้ข้าต้องกระทำผิด!
หากข้าทำอะไรเจ้า ก็เลวเยี่ยงสัตว์ร้าย
แต่ทว่า หญิงคนรักอยู่ตรงหน้า ทั้งยังทำถึงขนาดนี้แล้ว หากว่าเขายังมิซาบซึ้งใจอีกละก็ เช่นนั้นก็คงเทียบอะไรกับสัตว์มิได้แล้วเช่นกัน!
“เหนี่ยนซี ปล่อยข้าเถอะ ข้าจะได้สอนเจ้าว่าเราจะมีลูกกันได้อย่างไร นะเด็กดี!”
เสียงอวี้เชียนเสวี่ยหวานราวกับเคลือบไว้ด้วยน้ำตาล ทั้งยังนุ่มนวลอ่อนหวาน เต็มไปด้วยแรงดึงดูด
“จริงหรือ”
เพียงแค่ได้ยินว่าลูก มู่เหนี่ยนซีก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะนางครุ่นคิดเกี่ยวกับหลักการที่ว่า ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุก ของเชียนเยี่ยเสวี่ยมาตลอด โดยเฉพาะประโยคที่ตระกูลอวี้มีลูกหลานน้อยนิด ทำให้มู่เหนี่ยนซียิ่งอยากที่จะมีลูกให้กับอวี้เชียนเสวี่ยไปใหญ่
“เร็ว! พวกเราทำลูกกัน!”
มู่เหนี่ยนซีรีบปล่อยอวี้เชียนเสวี่ยให้เป็นอิสระอย่างเร็วพลัน ส่วนตัวนางนอนอยู่บนเตียง
“เร็วเข้า!”
คำเชื้อเชิญที่อบอุ่นเช่นนี้ ทำให้สติของอวี้เชียนเสวี่ยที่ยังคงเหลืออยู่น้อยนิดสูญสิ้นไปไม่เหลือ เขาพลิกกายขึ้นคร่อมมู่เหนี่ยนซีเอาไว้