จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 131-135
นางข้าหลวงเฒ่าผู้ซึ่งอยู่ข้างไทเฮาเห็นเช่นนั้นก็ตกใจ กระทั่งคิดจะห้ามปราม ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มน่ารักของเด็กน้อย นางก็ได้แต่ถอนใจกล่าวคำใดไม่ออก
นานเท่าใดแล้ว?
นานเท่าใดแล้วที่ไทเฮาไม่เคยมีความสุขเช่นนี้? นับตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต พระนางก็ขังองค์เองอยู่ภายในพระตำหนักแห่งนี้ มีเพียงหลานเยี่ยมารดาของไป๋หยานเท่านั้นที่สามารถเข้าเฝ้าได้
ครั้นหลายเยี่ยตายจากไปไทเฮาก็ไม่เคยแย้มสรวลอีกเลย …
“เด็กดีเจ้าสัญญากับยายทวดนะว่าจะเก็บรักษาสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้ดี ๆ อย่าทำหายล่ะ” ไทเฮาตรัส
ไป๋เสี่ยวเฉินรับสร้อยข้อมือพลันใบหน้าที่น่ารักของเขาก็เผยรอยยิ้มไร้เดียงสา
”ขอบพระทัยเสด็จยายทวด”
”ให้เสี่ยวเหม่ยพาเจ้าออกไปเล่นข้างนอกเถอะเจ้าจะได้ไม่เบื่อ”
เสี่ยวเหม่ยเป็นหญิงชราที่คอยรับใช้ดูแลข้างกายไทเฮาฐานะของนางในวังนั้นสูงส่งกว่าผู้อื่น หากมีนางอยู่ข้างกายเด็กน้อยย่อมจะปลอดภัย ไม่มีผู้ใดกล้าทำอันตรายเขาเป็นแน่ ไทเฮาคิด
”เสด็จยายทวดไทเฮาพี่สาวคนสวยเหล่านี้ต่างก็เหน็ดเหนื่อยมากแล้ว เช่นนั้นเฉินเอ๋อจึงไม่อยากรบกวนพวกนาง” ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าเชื่อถือ “เฉินเอ๋อ รู้ว่าพระองค์เป็นห่วงเฉินเอ๋อ แต่เฉินเอ๋อเป็นเด็กดี และเชื่อฟังเสมอ ไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ”
“แต่..”ไทเฮาทอดพระเนตรไป๋หยาน เหมือนอยากจะมีรับสั่งบางอย่างมากกว่านี้ ทว่าไป๋หยานเอ่ยขัดเสียก่อน
”ไทเฮาไม่ต้องทรงเป็นกังวล เฉินเอ๋อดูแลตัวเองได้เพคะ”
เฉินเอ๋อเป็นเด็กที่รู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควรเช่นนั้นนางจึงมั่นใจในตัวเขา
”ดี…”ไทเฮาตรัส “เช่นนั้นก็ออกไปเล่นเถอะ หากมีปัญหาใด จงนำสร้อยข้อมือที่ยายทวดให้เจ้าออกมา เห็นสร้อยข้อมือนั่นก็เท่ากับเห็นข้า จะไม่มีผู้ใดในตำหนักในนี่กล้ารังแกเจ้า”
”เฉินเอ๋อเข้าใจแล้ว”
ไป๋เสี่ยวเฉินดึงตัวเสี่ยวมี่ลงมาจากไหล่ของเขาจากนั้นก็อุ้มมันไว้ในอ้อมแขน
ทันทีที่ออกมาพ้นตำหนักเขาก็คิดว่า ตำหนักที่ไป๋รั่วหญิงชั่วร้ายนั่นพักอยู่ ไปทางไหนกันนะ ?
บทที่ 134 : อันธพาลตัวน้อย
”เจ้าเดรัจฉานน้อยเจ้ากล้าดียังไงมาเหยียบเงาของข้า !”
ในขณะที่ไป๋เสี่ยวเฉินกำลังเดินโต๋เต๋อย่างไร้จุดหมายอยู่ในสวนด้านหลังนั้นจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงคุกคามข่มขู่ตวาดแว้ดขึ้นมา
ไป๋เสี่ยวเฉินย่นคิ้วพร้อมกับหันไปตามทิศทางที่เสียงนั้นลอยลมมา
ไม่ไกลกันนักมีกลุ่มขององค์หญิงองค์ชายตัวน้อย ๆ กำลังห้อมล้อมเด็กชายตัวเล็ก ๆ ผอมบางให้อยู่ตรงกลาง
เด็กชายร่างผอมบางคนนั้น… แต่งกายด้วยชุดผ้ากระสอบแลดูแปลกแยกจากคนในกลุ่ม ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแลดูเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เขาจ้องมองเด็ก ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยนัยน์ตาแข็งกร้าว
”เจ้ากระต่ายน้อยเจ้ากล้าดียังไงมาจ้องมองข้า !”
อันธพาลตัวน้อยที่เป็นผู้นำเตะเด็กร่างผอมเต็มแรง ใบหน้ากลม ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความยโสโอหัง
เด็กชายร่างผอมกัดฟันแน่นไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาเลย เขาเพียงก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนจะทรุดตัวลง
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ร้องออกมาสักแอะ
บางทีอาจเป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาทำให้เขารู้ดีว่าต่อให้ร้องออกมาก็เปล่าประโยชน์ รังแต่จะทำให้เจ็บตัวหนักกว่าเดิมก็เท่านั้น
”ข้าถามแล้วไม่ตอบ! แม่ของเจ้าเป็นเพียงนางกำนัลเล็ก ๆ เจ้ามันก็แค่ลูกนางกำนัลต๊อกต๋อย !” อันธพาลตัวน้อย ก้าวไปข้างหน้า เขายกเท้าหมายจะกระทืบเด็กชายร่างผอมอย่างไร้ปรานี
ทันใดนั้นเองเสียงเด็กน้อยก็ดังแทรกขึ้น
”เสี่ยวมี่จัดการเขาซะ !”
ฟิ้ว!
แมวน้อยสีขาวกระโจนขึ้นสู่อากาศอย่างรวดเร็วมันพุ่งเข้าหาอันธพาลตัวน้อยทันที อันธพาลตัวน้อยร้องโวยวาย ด้วยการจู่โจมของแมวขาว ทำให้อันธพาลตัวน้อยล้มลงกับพื้น
”องค์ชาย!”
ครั้นนางกำนัลเห็นอันธพาลตัวน้อยล้มลงพวกนางต่างก็หน้าซีดด้วยความหวาดกลัว พวกนางพยายามช่วยพยุงเขาขึ้นมา
แม้ว่าพระชายาไป๋รั่วจะมีเมตตาสักเพียงไรแต่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับพระโอรสของนางแม้เพียงรอยขีดข่วน นางกำนัลเหล่านี้ก็คงไม่อาจพบเจอชีวิตดี ๆ อีกต่อไป
นางกำนัลช่วยพยุงอันธพาลตัวน้อยลุกขึ้นยืนใบหน้ากลม ๆ ของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องมองไป๋เสี่ยวเฉิน “เด็กผี เจ้าเป็นใคร ? มาจากไหน ?”
“ข้าไม่ใช่เด็กผีเจ้าต่างหากเด็กผี !” ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความโกรธพอ ๆ กัน “นอกจากนี้ หม่ามี้ของข้า ยังสอนข้าตั้งแต่เด็กว่าหากเขาไม่รุกรานเรา เราก็อย่ารุกรานเขา เหตุใดเจ้าจึงรังแกผู้อื่น ? ”
ไป๋เสี่ยวเฉินเป็นผู้รักความยุติธรรมหากเห็นผู้ที่อ่อนแอกว่าถูกรังแก เขาก็จะไม่ยอมนิ่งเฉย
”นี่มันบ้านของข้าดังนั้นข้าจะกลั่นแกล้งใครก็ได้ !” อันธพาลตัวน้อยเชิดหน้าอย่างภูมิใจ “เจ้าก็อยู่ในบ้านของข้า เชื่อไหมว่า ข้าจะให้เสด็จปู่ของข้าตัดหัวของเจ้ายังได้ !”
”ปู่ของเจ้ามีอะไรดีนักหนา? ข้ามีทั้งป๊ะป๋า มีทั้งพ่อบุญธรรม พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีอำนาจมาก แค่ปู่ของเจ้าจะน่ากลัวตรงไหน ?”
แม้ว่าหัวใจของไป๋เสี่ยวเฉินจะไม่ต้องการยอมรับสถานะของตี้คังทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เขาพบว่าการอ้างถึงป๊ะป๋าก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง
อันธพาลตัวน้อยโกรธ”เสด็จแม่ของข้าบอกว่า ข้าเป็นคนมีอำนาจมากที่สุดในอาณาจักรนี้ หากข้าต้องการให้ใครสักคนตาย มันก็ต้องตาย ! นอกจากนี้ ข้ายังถูกลิขิตให้ปกครองแผ่นดินนี้ ไม่เพียงแต่เจ้า แม้แต่พ่อทั้งสองคนของเจ้าก็ยังต้องเลียรองเท้าของข้า ! ”
ประกายกระหายเลือดฉายวาบผ่านแววตาของไป๋เสี่ยวเฉิน”ลองพูดอีกครั้งสิ !”
”ข้าไม่พูดแต่ข้าจะทุบเจ้าแทน ! คุกเข่า และขอความเมตตาจากข้าเดี๋ยวนี้ !”
อันธพาลตัวน้อยวิ่งเข้าหาไป๋เสี่ยวเฉินด้วยความโกรธแค้นมืออ้วน ๆ ของเขากวัดแกว่งไปที่ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินอย่างดุดัน
เสด็จแม่ของเขาเคยบอกเขาว่าเขาเป็นพระนัดดาของฮ่องเต้ เป็นบุคคลที่สูงส่งที่สุดในโลกนี้ หากมีใครไม่เชื่อฟังเขา เขาก็สามารถทุบตีคนเหล่านั้น บังคับให้คนเหล่านั้นเชื่อฟังเขา !
ทว่า…
ก่อนที่มือของอันธพาลตัวน้อยจะเข้าถึงใบหน้านุ่มๆ ของไป๋เสี่ยวเฉิน ไป๋เสี่ยวเฉินก็จับมือเขาไว้ก่อนแล้ว
บทที่ 135 : ภาพที่โหดร้าย
”เจ้าควรที่จะขอโทษพี่ชายคนนี้!”
”ทำไมข้าต้องขอโทษ? ข้าเป็นหลานชายของฮ่องเต้ ! ข้าจะทำอะไรก็ได้”
หลานชายฮ่องเต้?
ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบตาเด็กอ้วนคนนี้เป็นลูกชายของไป๋รั่วใช่มั้ย ? ไม่แปลกใจเลยที่เขาหยิ่งยโสเช่นนี้ !
”เสี่ยวมี่กัดเขา !”
ทันทีที่รู้ว่าเด็กอ้วนคนนี้เป็นบุตรชายของไป๋รั่วไป๋เสี่ยวเฉินก็ออกคำสั่ง พร้อมกันนั้นเขาก็ปล่อยเสือน้อยออกจากอ้อมแขน
”เมี้ยว…”
เสี่ยวมี่ร้องเมี้ยวก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้าหาอันธพาลตัวน้อยอย่างว่องไว กรงเล็บแหลมคมของเสี่ยวมี่ข่วนใบหน้าของเด็กอ้วน ทำให้อันธพาลตัวน้อยกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
”ช่วยข้าด้วยพวกเจ้าช่วยข้าเร็ว ฆ่าแมวบ้านั่นไว ๆ !”
ขันทีและนางกำนัลที่กำลังจะเข้าไปจับตัวไป๋เสี่ยวเฉิน ครั้นได้ยินเสียงร้องเรียก ต่างก็รีบหันกลับมา พวกเขาโถมตัวพุ่งเข้าหาแมวขาว
เสี่ยวมี่เคลื่อนไหวอย่างปราดเปรียวว่องไวแมวน้อยหลบรอดจากวงล้อมของเหล่าขันที ไปโผล่ที่ด้านหลังอันธพาลตัวน้อย มันตะปบกรงเล็บลงไปอีกครั้ง เลือดไหลออกมาจากลำคอของ อันธพาลตัวน้อย พร้อมกับเสียงร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด
บรรดาองค์หญิงองค์ชายที่อยู่โดยรอบต่างก็ตัวสั่นสะท้าน เมื่อแลเห็นภาพนี้ พวกเขาก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ต่างก็จ้องมองไป๋เสี่ยวเฉินด้วยความหวาดกลัว
”เจ้า…เป็นไงบ้าง”ไป๋เสี่ยวเฉินวิ่งเข้าไปหาเด็กผอมกะหร่องคนนั้นพร้อมกับยื่นมือให้ “ข้าชื่อไป๋เสี่ยวเฉิน ท่านแม่ของข้าชื่อไป๋หยาน นางเป็นผู้หญิงที่สวย อีกทั้งใจดีที่สุดในโลกเลย”
”ข้า… ” เด็กชายตัวผอมมองมือของไป๋เสี่ยวเฉินที่ยื่นออกมาอย่างลังเล แต่ครั้นเขาตั้งสติได้ เขาก็คว้ามือของไป๋เสี่ยวเฉินอย่างมีความสุข “ข้าชื่อหนานกงซุ่น ตอนนี้เจ้าได้ทำให้พระนัดดาขององค์ฮ่องเต้ขุ่นเคือง เขาไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”
ไป๋เสี่ยวเฉินเบ้ปากพลางกล่าวว่า“หม่ามี้ของข้าบอกไว้ว่า หากเราไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ฮ่องเต้แล้วไงล่ะ ? ข้าไม่กลัวหรอก”
เมื่อใดก็ตามที่ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวถึง”แม่” ประกายตาของเด็กร่างผอมก็จะหม่นหมองลง
”เจ้าไม่ต้องกังวลหม่ามี้ของข้าเป็นคนดีมาก ๆ เลย หากหม่ามี้ของข้ารู้ว่าเจ้าถูกรังแกแล้วล่ะก็ นางก็จะไม่ยอมนิ่งเฉยอย่างแน่นอน” ไป๋เสี่ยวเฉินตบหน้าอกของตนอย่างมั่นใจ
หนานกงซุ่นยิ้มอย่างเศร้าๆ “การมีแม่ ช่างดีจริง ๆ … ”
มารดาของเขาเป็นเพียงนางกำนัลในวังและเขาเป็นเด็กที่เกิดมาจากความผิดพลาด ราตรีนั้นฮ่องเต้เสวยน้ำจัณฑ์กระทั่งเมามาย พระองค์ได้กระทำเรื่องน่าละอายกับมารดาของเขา แต่ครั้นตื่นบรรทม ฮ่องเต้ก็ทรงหลงลืมเรื่องก่อนหน้าจนหมดสิ้น หากมิใช่เป็นเพราะมารดาของเขาตั้งครรภ์ เรื่องน่าละอายนี้ก็คงจะไม่มีผู้ใดล่วงรู้
แม้ว่ามารดาของเขาจะโชคดีที่สามารถให้กำเนิดเขาได้ทว่าไม่นานนางก็ต้องเสียชีวิตเนื่องจากความอ่อนแอ
”หนานกงซุ่นนับจากนี้ไปมารดาของข้าก็เหมือนมารดาของเจ้า”
ไป๋เสี่ยวเฉินคว้าข้อมือของเด็กชายพลางกล่าวว่า“มากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปพบหม่ามี้ของข้า”
หนานกงซุ่นตัวแข็งค้างคิ้วของเขาขมวดเป็นปม สายตาของเขาจับจ้องมองเขม็งบริเวณข้อมือซึ่งไป๋เสี่ยวเฉินจับอยู่
ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินเห็นว่าหนานกงซุ่นไม่ขยับตัวตามเขาก็กระพริบนัยน์ตากลมโต พร้อมหันกลับไปมองอย่างสงสัย เขาทันได้เห็นสายตาของหนานกงซุ่นที่จับจ้องมองแขนของตนเอง
ไป๋เสี่ยวเฉินย่นคิ้วที่น่ารักของเขาก่อนจะยื่นมือไปเลิกแขนเสื้อของหนานกงซุ่นขึ้นดู ชั่วขณะนั้นแม้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว ทว่าภาพที่เขาเห็นก็ยังทำให้เขาถึงกับตกตะลึง
แขนผอมๆ นับจากข้อมือนั้นขึ้นมาล้วนเต็มไปด้วยรอยแผล ไม่มีส่วนใดอยู่ในสภาพดีเลย รอยแผลที่ปรากฏทั่วแขน มีทั้งรอยฟกช้ำดำเขียว บางแห่งก็เป็นรอยบาดจากของมีคม บางแห่งก็เป็นรอยไหม้ ผู้ใดได้เห็นย่อมต้องตกใจ
หัวใจของไป๋เสี่ยวเฉินเศร้าเป็นอย่างมากผู้ใดกันที่สามารถทำเรื่องโหดร้ายเช่นนี้กับเด็กอายุเพียง 7 – 8 ขวบได้ ?
แค่แขนก็ยังเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายถึงเพียงนี้เช่นนั้นเนื้อตัวภายใต้ผ้ากระสอบของเขาล่ะ ? ร่างกายของเขาจะได้รับบาดเจ็บมากมายเพียงไร ?