จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 54
บทที่ 54 : เหมือนลากมาตบหน้า (3)
“หากนกอสูรนี่อยู่ในระดับเทพแล้ว ท่านพ่อ..ท่านเองก็เป็นยอดฝีมือระดับเทพเช่นกัน ? ก็แล้วเหตุใดท่านจึงการาบมันไม่ได้เล่า ?”
ไป๋จื่อกัดริมฝีปาก สายตาของนางไม่อาจขยับออกจากวิหคเพลิงแสนสวยตัวนั้นได้เลย
“จื่อเอ๋อ เลิกวุ่นวายเสียที !” ไป๋เฉิงเซียงไม่ตามใจนางอย่างเคย สีหน้าของเขาเคร่งขรึม อีกทั้งคล้าลงเล็กน้อย “นั่นคือสัตว์อสูรระดับเทพ ไม่ใช่เรื่องที่เราจะควบคุมมันได้ง่าย ๆ อย่าพูดจาให้มันระคายเคืองใจ“
ไป๋จื่อรู้สึกเศร้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยหยาดน้าตา นางกัดปากแน่น ขณะมองวิหคเพลิงที่งดงามอย่างไม่เต็มใจ
วิหคเพลิงส่งเสียงร้องเบา ๆ ก่อนจะเยื้องย่างช้า ๆ มาทางไป๋หยาน
ทุกย่างก้าวของวิหคเพลิงเต็มไปด้วยความสง่างาม ขนเงางามของมันแลดูเลอค่า โดยเฉพาะดวงตาสีเขียวที่เปล่งประกายสว่างไสว
สายตาทุกคู่มองตามร่างสีแดงเพลิงมาเรื่อย ๆ กระทั่งมันมาหยุดยืนต่อหน้าไป๋หยาน
“ท่านตา…” ไป๋หยานเรียก ก่อนจะปรายตามองวิหคเพลิงแวบหนึ่ง แล้วหันกลับมาสนใจท่านตาของนางที่กาลังนิ่งอึ้งพร้อมกับส่งยิ้มให้ “ท่านชอบของขวัญที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านหรือไม่ ?”
ทั้งห้องจัดเลี้ยงเงียบสนิท เงียบชนิดที่เพียงเข็มหล่นก็ได้ยินเสียง
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านสกุลหลานหันมองไป๋หยาน น้าเสียงของเขาลังเลเล็กน้อย “ของขวัญนั่นก็คือ … “
มันคือวิหคเพลิงจริง ๆ น่ะหรือ ?
ไม่ !
เป็นไปไม่ได้ !
ยามนี้ ในใจของทุกคนก็กาลังคิดว่ามันควรจะเป็นเช่นนั้น ทว่าพวกเขาก็พยายามลบความคิดนั้นออกจากหัว
ไป๋หยานเป็นใครกันแน่ ?
นางเป็นเพียงผู้หญิงไร้ค่าที่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งงาน อีกทั้งยังหนีตามผู้ชาย ! ด้วยความสามารถของนาง นางจะปราบสัตว์อสูรระดับเทพได้อย่างไรกัน ?
ไป๋หยานเลิกคิ้ว ก่อนจะปรายตามอง เพียงนางแลมอง วิหคเพลิงก็ก้มหัวที่เคยหยิ่งผยองของมันลง จากนั้นก็หมอบลงต่อหน้าท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลาน
นี่เป็นวิธีการแสดงความเคารพของวงศ์วานวิหคเพลิง
หากสมาชิกตัวใดตัวหนึ่งของเผ่าพันธุ์วิหคเพลิงต้องศิโรราบต่อหน้าผู้อื่น พวกมันจะลดศีรษะลง และหมอบลงกับพื้น เป็นการพิสูจน์ว่าพวกมันเต็มใจที่จะเป็นข้ารับใช้ของเขา
ไป๋จื่อขยี้ตา นางแทบไม่อยากเชื่อในภาพที่ได้เห็น นางกาหมัดจนแน่นราวกับลูกบอลแข็ง อีกทั้งเกือบจะพูดโพล่งออกมาตามอารมณ์โกรธของตน
“นี่…” หลานหยูหายใจขัดเล็กน้อย “วิหคเพลิงนี่เป็นของขวัญที่เจ้ามอบให้ท่านตาของเจ้ากระนั้นหรือ ?”
นี่มิใช่สัตว์อสูรธรรมดา ๆ ทว่ามันเป็นวิหคเพลิงสัตว์อสูรระดับเทพเชียวนะ !
แม้แต่ในเผ่าพันธุ์อสูรเอง ก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถการาบสัตว์อสูรระดับนี้ได้ !
หากตระกูลหลานสามารถควบคุมวิหคเพลิงตัวนี้ได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะกลับขึ้นมาเป็นตระกูลชั้นนาอีกครั้ง !
ไป๋หยานไม่กล่าวโอ้อวดแต่อย่างใด นางเพียงกล่าวว่า “ท่านตาก็อายุมากแล้ว เพื่อให้ท่านเดินทางได้สะดวกขึ้น หลานจึงเตรียมวิหคเพลิงตัวนี้มอบเป็นของขวัญให้ท่าน เพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องเดินเหินมากนัก“
คนที่นั่นหลายคนอ้าปากค้าง และอีกหลายคนตาแทบถลนออกมานอกเบ้า
อายุมาก ? เดินทางไม่สะดวก ?
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านแห่งตระกูลหลานออกจะดูแข็งแรง ไม่มีตรงไหนที่ดูแก่หง่อมถึงขนาดที่ว่าเลย
แล้วการใช้วิหคเพลิงเป็นพาหนะเช่นนี้ มันไม่ดูมากเกินไปหรอกหรือ ?
“ท่านพ่อ !” ครั้นเห็นวิหคเพลิงหมอบกราบท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้าน ไป๋จื่อก็อดอิจฉาขึ้นมาไม่ได้ นางเม้มปากเอ่ยกล่าวว่า “ไหนท่านว่า สัตว์อสูรทุกตัวล้วนหยิ่งยโสโอหัง ก็แล้วเหตุใดมันจึงยอมศิโรราบให้แก่ไป๋หยานล่ะ“
ไป๋เฉิงเซียงไม่สนใจถ้อยคาถามของบุตรสาว เขาเพียงมองไปทางไป๋หยาน สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าสลด
“เจ้าเจตนาทาเช่นนี้ใช่หรือไม่ ? จงใจซ่อนวิหคเพลิงตัวนี้ไว้ จากนั้นก็ยั่วยุให้ข้าขับเจ้าออกจากสกุลไป๋”