จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 56
บทที่ 56 : มีเรื่องสําคัญต้องทํา (1)
“จ่อเอ่อ กลับกันเถอะ” นัยน์ตาของไปเฉิงเชียงวาวโรจน์ ขณะ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ไปหยาน หากขารู้ว่าเรื่องทั้งหมดที่ เจ้ากล่าวมาเป็นเรื่องโกหก ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้เด็ดขาด !” ครั้นทิ้งคาไว้แล้ว เขาก็บังคับพาตัวบุตรสาวของตนออกไป จากที่นั่นทั้งที่นางไม่เต็มใจ “ไปเฉิงเชียง ไอ้คนสารเลว มันคงคิดว่า ตาเฒ่าอย่างขากาลัง ป่วยอยู่ก็เลยทาอะไรได้ตามใจชอบ !” ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้าน หลานกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ส่วนเจ้า อย่าคิดว่ามอบวิหค เพลิงให้ข้าแล้ว ข้าจะให้อภัยเจ้า ! ” ทันทีที่ไปหยานถอนสายตาจากประตูทางเข้า นางก็ได้ยินคา กล่าวตาหนิจากท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานทันที ทาให้นาง ถึงกับอึ้งไป “ท่านตาขาทาสิ่งใดผิดกระนั้นรึ ?” ชายชราจ้องมองนาง นัยน์ตาของเขาหรี่ลงข้างหนึ่ง เขา หายใจเข้าออกแรงฟัดพัด ราวกับจะให้ลมหายใจของตนพัด พาทุกอย่างปลิวไป ขณะกล่าวว่า “หากเจ้าต้องหิวโหยเช่นนั้น ก็แล้วเหตุใดเจ้าไมมาที่นี่ ขามใช้ตาของเจ้ารีไร ? มารดาของ
เจ้าอย่างไรเสียก็เป็นบุตรสาวของข้ามิใช่รึ ? เหตุใดเจ้าจึง ปล่อยให้คนตระกูลไปรังแกเจ้าถึงเพียงนั้น ? ” ไปหยานได้แต่ยืนฟังคาตาหนิของท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลาน
นางจะบอกท่านอย่างไรว่านางมิใช่ไปหยานคนนั้น ? “หลานหยู !” จู่ ๆ ชายชราก็คารามลั่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับหัน ไปทางบุตรชายของตน หลานหยูรีบคุกเข่า และเดินเขาเข้า
มาหาบิดา “ท่านพ่อ ท่านประสงค์สิ่งใด ?” เขาเอยถามอย่างระมัดระวัง พร้อมด้วยรอยยิ้มประจบประแจงที่สุดเท่าที่เขาสามารถปั้น
ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานไม่หลงกลรอยยิ้มนั่น เขาชี้บุตรชายที่ มีสีหน้าเจื่อน ๆ ด้วยความโมโห “ช่วงที่ข้าปวง ข้ามอบหมาย ให้เจ้าดูแลบ้านสกุลหลาน แล้วนี่คือวิธีที่เจ้าดูแลลูก ๆ ของ น้องสาวเจ้ากระนั้นรึ ? เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปดูดาดูดีพวกเขาที่ บ้านตระกูลไปบ้าง ?” หลานหยูกล่าวอย่างสานึกผิด “ท่านแม่พยายามส่งคนไป รับหยานเอ่อ ทวาหยานเออไม่อยากรบกวนบ้านสกุลหลาน นางเลยไม่ยอมกลับมา หline “เจ้า” ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานโกรธจัด กระทั่งกล่าวคาใด
ไม่ออกไปชั่วขณะ เขาไม่รู้จะกล่าวคาใดกับบุตรชายที่ได้ ประโยชน์ผู้นี้ “หากนางไม่กลับมา เจ้าก็ไม่ปัญญาสอบถาม เรื่องราวของนางเลยรึไร ?” นับตั้งแต่น้องสาวของเขา หลานเยี่ยจากโลกนี้ไป บิดาของเขา ก็ล้มป่วยได้แต่นอนอยู่บนเตียง เขาจึงรับหน้าที่ดูแลบ้านสกุล หลานอย่างเต็มตัว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเคยคิดเสมอว่าไปเฉิงเชียงต้องยัง ระลึกถึงบุญคุณของตระกูลหลานอยู่บ้าง และต้องดูแลหลาน ๆ ของเขาเป็นอย่างดี เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลานทั้งสองจะมี ชีวิตหดหู นี่นับเป็นความผิดพลาดของเขาอย่างแน่นอน … “เจ้ามัวทาบออะไรอยู่ ?” ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านหลานเตะ บุตรชายด้วยความโมโห “ยังไม่รีบออกไปเตรียมตัวอีก เ นับ จากวันนี้ไป ที่ใดมีสกุลหลาน ที่นั่นก็ต้องไม่มีสกุลไป ! ” ช่วงเวลานี้นับเป็นโอกาสเหมาะที่ประกาศออกมาเช่นนี้ เพราะหลังจากเหตุการณ์ในค่าคืนนี้แล้ว แขกผู้มีเกียรติที่
พร้อมหน้ากัน ณ ที่นี้ต่างก็ต้องเริ่มพิจารณาแล้วว่าจะอยู่ข้าง ฝ่ายใดระหว่างสองตระกูลนี้ ปีที่ผ่านมามานสกุลหลานอยู่ในสภาพตกต่า เนื่องจากท่านผู้ เฒ่าเจ้าบ้านล้มป่วย ทว่ายามนี้ท่านผู้เฒ่าเจ้าบ้านไม่เพียงหาย
ดีแล้ว หากแต่เขายังเป็นเจ้าของวิหคเพลิงอีกด้วย ตระกูล หลานย่อมกลับคืนสูตระกูลชั้นนาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม … บ้านสกุลไป ก็ยังมีบุตรสาวที่เป็นถึงพระชายาเอก ซึ่งนับเป็น สิ่งที่บ้านสกุลหลานยากจะเปรียบเทียบได้ แม้ว่าคงจะดูชื่นชอบไปหมานมาก ทว่าไม่มีทางที่ราชสานัก จะอนุญาตให้สตรีที่ไม่บริสุทธิ์เช่นนางได้อภิเษกสมรสกับท่าน อ่อง เพราะทางราชสานักย่อมไม่อยากให้มีเรื่องอื้อฉาว นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าฮ่องเต้จะทรงพระราชทานสมรส ให้แก่ท่านอองคัง และบุตรสาวคนเล็กของบ้านสกุลไป “หยานเออ เจ้าไปได้วิหคเพลิงนี้มากจากที่ใดหรือ ?” หลาน หยินผู้เฒ่ากุมมือไปหยานผู้เป็นหลานสาว พลางเอยถาม พร้อมรอยยิ้มอบอุ่น “ขาเคยช่วยชีวิตมันไว้ จากนั้นมันก็ติดตามข้ามาตลอด และ ขาเห็นว่าเป็นวันเกิดของท่านตา ขาจึงตัดสินใจมอบมันเป็น ของขวัญให้ท่านตา” ไปหยานตอบ ครั้นทุกคนได้ยินคาตอนต่างก็เข้าใจว่า ด้วยความแข็งแกร่ง ของไปหยาน ยอมเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสามารถควบคุมสัตว์ อสูรระดับเทพ หากแต่กล่าวกันว่าสัตว์อสูรนั้นมีความกตัญญู
ยิ่ง เช่นนั้นการที่นางช่วยชีวิตมัน มันก็ย่อมต้องตอบแทน เรื่องนี้สามารถเป็นที่เข้าใจได้” “พี่ไปหยาน” หลานเสี่ยวหยุนยิ้ม พร้อมกับเอยออกมาด้วย น้าเสียงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่จะทาได้ “วันเกิดของขากาลังจะ มาถึงในเร็ววันนี้ พี่ออกไปช่วยสัตว์อสูรมาให้ข้าอีกสักตัวจะได้ หรือไม่ ?”