จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 601-605
บทที่ 601 : ข้าอยากแต่งกับราชินี (2)
”นอกจากนี้… ” ตี้คังแสดงสีหน้าเยาะเย้ยพลางกล่าวต่อว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเจ้าสร้างความปวดร้าวให้กับราชินีของข้า ผู้ใดก็ตามที่ยังคงพยายามส่งสตรีเข้าตำหนัก ผู้นั้นจะต้องรับโทษประหารชีวิตเฉกเช่นเดียวกัน !”
ชายชราผู้ซึ่งกำลังจะเอ่ยปากร้องขอครั้นได้ยินถ้อยประกาศดังกล่าว เขาก็ก้าวถอยหลังสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว เขยิบกายเข้าสู่ฝูงชนเงียบ ๆ
”เอาล่ะข้าพูดจบแล้ว” ตี้คังกล่าวพลางมองชายชราอย่างเยือกเย็น น้ำเสียงของเขายะเยือกยามกล่าวขึ้นว่า “เจ้าต้องการจะพูดกระไรรึ ?”
ชายชราตัวสั่นพลางยิ้มอย่างประจบสอพลอ “เอ่อ กระหม่อมเพียงต้องการจะกราบทูลว่า เนื่องในวันนี้…คือวันอภิเษกสมรสระหว่างองค์ราชาและราชินี กระหม่อมขอทูลเกล้าถวายสมบัติประจำเผ่าหมาป่าแด่ทั้งสองพระองค์ เพื่อเป็นการร่วมแสดงความยินดีพ่ะย่ะค่ะ”
ตลกสิ!
องค์ราชารับสั่งถึงเพียงนี้แล้วผู้ใดจะขวัญกล้าเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเล่า รนหาที่ตายชัด ๆ เขาจะกล้าส่งหลานสาวของตนเข้าวังได้อย่างไร ?
“หากพวกเจ้าไม่มีสิ่งใดแล้วหลังจากได้คำนับราชินีกับองค์ชายแล้วพวกเจ้าก็กลับไปได้ ส่วนของขวัญ…” ตี้คังยกยิ้มเยาะเย้ย “ข้าจะส่งคนไปรับของขวัญจากทุกเผ่าพันธุ์เอง เพื่อที่พวกเจ้าจะได้ไม่ต้องรบกวนราชินีอีก”
ชายชราปาดเหงื่อบนหน้าผากก่อนจะคุกเข่า ก้มศีรษะลงกับพื้นพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างเหนือศีรษะ จากนั้นก็คำนับอย่างแรง
”ข้า…ผู้นำเผ่าหมาป่าคำนับองค์ราชินีและองค์ชาย”
ผู้คนจากเผ่าอื่นๆ ต่างก็คุกเข่าลงกับพื้นเช่นเดียวกับชายชรา เพื่อแสดงความเคารพไป๋หยานและไป๋เสี่ยวเฉิน
การแสดงออกของพวกเขานั้นแลดูจริงจังทั้งเต็มไปด้วยความจงรักภักดี มีเพียงหวงเสี่ยวหยิงเท่านั้นที่ยื่นข้อศอกออกไปสะกิดหญิงชรา “ท่านย่า ท่านเห็นหรือไม่ ? องค์ชายกำลังอุ้มว่าที่หลานเขยของท่านอยู่”
ทันใดนั้นเองดวงตาของหญิงชราพลันเบิกกว้างนางมองเสือขาวตัวน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของไป๋เสี่ยวเฉิน พลันใบหน้าชราของนางก็เบ่งบานรอยยิ้มของนางราวดอกเบญจมาศ
“ไม่เลวนะว่าที่หลานเขยของข้าหล่อเหลามากเลยทีเดียว ดูจมูกนั่นสิ ดูดวงตานั่นด้วย เห็นเพียงครั้งก็มั่นใจได้เลยว่ามิใช่เสือธรรมดา ๆ หลานสาวข้านี่ตาแหลมจริง ๆ”
ใบหน้าของหวงฉีเปลี่ยนเป็นดำมืดไอ้หนุ่มนั่นยังไม่อาจเปลี่ยนร่างเป็นคนได้เลยด้วยซ้ำ มารดาของเขามองเห็นความหล่อได้จากตรงไหน ?
”ท่านย่าข้าเองก็คิดว่าข้าตาแหลมเช่นกัน” หวงเสี่ยวหยิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องเป็นหลานเขยตัวจริงของท่านแน่”
“เจ้าเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากย่าชอบเขาทันทีที่ได้เห็นหน้า ผิดกับบิดานิสัยเสียของเจ้า แท้ที่จริงในโลกนี้มีคนหน้าตาท่าทางน่าเกลียดมากมาย ย่าเองก็ไม่ชอบคนเหล่านั้น หากแต่ย่าก็ไม่เคยพูดออกมาโต้ง ๆ เช่นที่บิดาของเจ้าทำเลย”
”ท่านย่าไม่ต้องกังวลข้าจะไม่บอกบิดาของข้าว่า เขาไม่เพียงแต่จะน่าเกลียดเท่านั้น ทว่ายังใจร้ายมากอีกด้วย”
ครั้นได้ยินบทสนทนาระหว่างย่ากับหลานใบหน้าของหวงฉีก็ยิ่งดำคล้ำหนักขึ้น
นินทาคนอื่นต่อหน้าไม่คิดบ้างหรือว่าคน ๆ นั้นก็ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย ?
ยิ่งไปกว่านั้นยังพูดด้วยว่าจะไม่บอกข้าทั้งที่กำลังนินทาข้าต่อหน้าต่อตา
ฮ่าฮ่า…ขอโทษนะ…ข้าได้ยินหมดแล้วล่ะ
*****
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของฝูงชนแล้วหัวใจของหลงฉางเทียนกลับค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย
เผ่ามังกรของเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดของแดนอสูร ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวเผ่าพันธุ์ใด เว้นแต่องค์ราชา
เช่นนั้นสตรีที่ยืนเคียงข้างองค์ราชาก็ควรจะเป็นบุตรสาวของเขา!
ความไม่พึงใจนี้ทำให้เขาหันไปมองหลงเอ๋อ
ครั้นเขาเห็นว่าหลงเอ๋อกำลังติดตามไป๋หยานนัยน์ตาของเขาก็เผยรอยยิ้มอย่างมิอาจหลบซ่อน
”ข้ายังมีอีกเรื่องที่จะประกาศ”ไป๋หยานผลักตี้คังออก พลางเอื้อมมือไปดึงมังกรน้อยผู้อยู่ข้างหลังให้มายืนข้างหน้า ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยปากว่า “ผู้นำเผ่ามังกรอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ ?”
ครั้นได้ยินเช่นนี้หลงฉางเทียนก็ลุกขึ้นยืนเขาป้องกำปั้นพลางกล่าวว่า “ไม่ทราบว่า องค์ราชินีทรงมีพระบัญชาเรื่องใด ?”
***จบบทข้าอยากแต่งกับราชินี (2)***
บทที่ 602 : ข้าอยากแต่งกับราชินี (3)
”ข้าไม่รู้ว่าทางวังได้ส่งคนไปแจ้งให้เจ้าทราบแล้วหรือไม่ ? ทว่าตอนนี้ข้าขอบอกเจ้าอีกครั้ง นับแต่นี้ ข้าจะรับหลงเอ๋อไว้ติดตามเคียงข้างกายข้า หากเผ่ามังกรประสงค์ที่จะพบนาง ข้าจะให้คนส่งนางไปเยี่ยม”
ไป๋หยานหัวเราะน้อยๆ ทว่านัยน์ตาของนางกลับเต็มไปด้วยอำนาจ “แต่หากข้าพบแม้บาดแผลเดียวบนกายหลงเอ๋อ เจ้าจะต้องถูกลงโทษ !”
หลงฉางเทียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเขาจ้องใบหน้างดงามยากจะหาผู้ใดเทียบของไป๋หยานค้างนิ่ง
น้ำเสียงของนางหนักแน่นไม่มีวี่แววล้อเล่นแม้แต่น้อย นั่นทำให้หลงฉางเทียนรู้สึกขนลุกเล็กน้อย
เขาไม่รู้ว่านี่นับเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่? ที่เผ่ามังกรจะทิ้งหลงเอ๋อไว้ในวังหลวงแห่งนี้ ?
“หม่อมฉันไม่เห็นด้วย”จางหรู่หยุนลุกขึ้นยืน “หลงเอ๋อ เป็นบุตรสาวของหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ต้องการแยกจากนาง”
นางไม่ยอมให้โอกาสนังโง่น้อยคนนี้ได้ดีไปกว่าเซี่ยวหย่า !
”จางหรู่หยุน!” หลงฉางเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “คุกเข่าลง !”
หากเป็นแต่ก่อนจางหรู่หยุนคงจะเชื่อฟังหลงฉางเทียน ทว่าตอนนี้เมื่อนางหวนคิดถึงใบหน้าที่เจ็บปวดของเซี่ยวหย่า นอกจากจะไม่ฟังคำหลงฉางเทียนแล้ว นางยังกัดฟันกล่าวต่อว่า “องค์ราชินี พระองค์ไม่ควรจะพรากบุตรสาวของหม่อมฉันไป พระองค์กำลังจะพรากแม่พรากลูก ? ”
สายตาที่เฉยเมยของไป๋หยานกวาดไปทางจางหรู่หยุนจากนั้นก็หันไปทางหลงเอ๋อ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “บอกข้าทีสิว่า มารดาของเจ้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไรบ้าง ?”
”เอ่อ..”หลงเอ๋อจับมือของไป๋หยาน นัยน์ตากลมโตเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา “แม่ของข้าบอกว่าข้าโง่… นางไม่อนุญาตให้ข้าเรียกว่าท่านแม่ นางให้ข้าเรียกนางว่าฮูหยินท่านหัวหน้า… นอกจากนี้นางมักจะเรียกข้าว่า นางโง่น้อย หากข้าทำอะไรผิด นางก็จะทุบตีข้า… ครั้งหนึ่งข้าขโมยขนมของพี่รอง นางก็ใช้น้ำเดือด ๆ ลวกข้าและ … ”
ทุกครั้งที่หลงเอ๋อนิ่งคิดฝูงชนก็จะเงียบเสียงตามไปด้วย ผู้คนในวิหารสวรรค์ทั้งหมดต่างก็เงียบเสียงรอฟังนาง ทำให้เสียงของนางดังชัดเจนมาก
ใบหน้าของจางหรู่หยุนประเดี๋ยวซีดประเดี๋ยวดำคล้ำนางจ้องมองหลงเอ๋อด้วยความโกรธ
นางโง่น้อยกล้าฉีกหน้าข้าต่อหน้าสาธารณชนได้เยี่ยงไร? นี่นางลืมไปแล้วหรือไรว่าผู้ใดให้กำเนิดนาง ?
ชั่วขณะนี้จางหรู่หยุนยังไม่รู้ว่าทุกคนในวิหารสวรรค์ต่างก็หันมามองนางด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม ทั้งยังโกรธเกรี้ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลงเอ๋อเป็นคนโง่น่ะถูกต้องแล้วหากแต่การที่มีคนทำร้ายนางหนักหนาถึงเพียงนี้ ซ้ำผู้ที่ทำร้ายนางยังเป็นมารดาของนางเอง เพียงเพราะเด็กหญิงที่น่ารักคนนี้อยากกินขนมสักชิ้นหนึ่ง เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ ?
”ผู้นำเผ่ามังกร”ที่สุดใครบางคนก็กล่าวขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะเยาะ “สตรีผู้นี้เป็นมารดาของบุตรสาวท่านจริง ๆ กระนั้นหรือ ? มิใช่ผู้ที่ท่านแต่งงานใหม่แล้วรับมาเป็นแม่เลี้ยงนางหรอกนะ ?”
“นับเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นมารดากระทำเรื่องเช่นนี้กับบุตรสาวตนเองมันทำให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ”
เสียงเยาะเย้ยของผู้คนทำให้หลงฉางเทียนก้มหน้าด้วยความอับอายเขาจ้องมองจางหรู่หยุนอย่างดุดัน “อย่าสร้างปัญหาไปมากกว่านี้ ! หาไม่ข้าจะขังเจ้าทันทีที่ข้ากลับถึงเผ่ามังกร”
คำกล่าวนี้จี้จุดอ่อนจางหรู่หยุนร่างของนางสั่นสะท้าน นางไม่กล้ากล่าวคำใดต่ออีก
ไป๋หยานมองผู้คนที่อยู่เบื้องล่างพลางหันมามองหลงเอ๋ออีกครั้ง”บอกข้าสิว่า เจ้าอยากกลับไปกับพวกเขาหรือไม่ ?”
”ไม่!ข้าไม่อยากกลับไป !” หลงเอ๋อจับแขนของไป๋หยานแน่น “ราชินีข้าชอบท่าน ข้าไม่อยากกลับไปกับพวกเขา ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อนะ”
ผู้ใดบอกว่าหลงเอ๋อโง่ ?
นางรู้ว่าใครที่ดีที่สุดสำหรับนางหากกลับไปเผ่ามังกรนางจะต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป
“ตกลง”ไป๋หยานยิ้มพลางลูบศีรษะหลงเอ๋อ “ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการกลับไป เช่นนั้นก็ไม่มีผู้ใดสามารถบังคับเจ้าได้ เจ้าจงอยู่เป็นเพื่อนเฉินเอ๋อเถิด”
***จบบทข้าอยากแต่งกับราชินี (3)***
บทที่ 603 : ข้าอยากแต่งกับราชินี (4)
ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบนัยน์ตากลมโตสุกใสของเขาพลางเหล่ตาไปมองหลงเอ๋อ
เพื่อเห็นแก่ความรัดทดของหลงเอ๋อเขาจะไม่คิดมาก แม้ว่านางจะฉกหม่ามี้ของเขาก็ตาม
“สุดท้ายนี้ข้ามีคำพูดฝากไว้” ไป๋หยานยิ้ม นางปล่อยมือหลงเอ๋อ แล้วหันไปสบตากับทุกคน นางใช้แววตาที่ทรงอำนาจอีกครั้ง “ในแดนอสูรแห่งนี้ ข้าไม่สนใจว่าเผ่าใดจะสูงศักดิ์หรือต่ำศักดิ์ ข้าจะสั่งการให้ทหารในเมืองของข้าเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าเผ่ามังกรหรือเผ่าพันธุ์ใด หากกล้าเคลื่อนไหว ข้าก็จะปกป้องคนของข้าอย่างดีที่สุด !”
หลงฉางเทียนเงียบเขาจ้องมองหลงเอ๋อด้วยสายตาแปลก ๆ
”พัฒนาการของหลงเอ๋อช้าทว่านางมิได้โง่ ! ห้ามผู้ใดดูถูกนางว่าเป็นเด็กโง่อีก ! หากคำ ๆ นี้เข้าหูของข้าอีกล่ะก็ ข้าก็จะให้พวกเจ้าได้เห็นว่าจุดจบของตนเองคืออะไร ?”
ผู้คนต่างไม่เข้าใจคำว่าพัฒนาการหากแต่พวกเขาต่างก็เข้าใจคำพูดของไป๋หยาน นางว่า หากมีผู้ใดกล้าดูถูกหลงเอ๋อว่าเป็นเด็กโง่ ก็ไม่ต่างจากการต่อต้านนาง
ต่อต้านนางก็เท่ากับต่อต้านองค์ราชา!
ชีวิตของพวกเขาคงจะอยู่ไม่ได้นาน!
ล่วงเกินองค์ราชาจุดจบจะไม่น่ากลัวยิ่งกว่าตายงั้นหรือ? บางทีหากการมีชีวิตอยู่ ไม่ต่างจากการตาย เช่นนี้ตายเสียยังจะดีกว่า !
ตี้คังยกยิ้มเขายกมือขึ้นรั้งร่างของไป๋หยานเข้าสู่อ้อมแขน นิ้วมือเรียวยาวของเขาลูบไล้เรือนผมดำขลับของนาง นัยน์ตาเรียวงามที่ทรงอำนาจและชั่วร้ายกวาดมองผู้คนซึ่งกำลังคุกเข่า
”รับสั่งของราชินีก็เหมือนกับคำสั่งของราชาพวกเจ้าเข้าใจใช่หรือไม่ ?”
สายตาแน่วแน่ของตี้คังที่เต็มไปด้วยอาการปกป้องไป๋หยานทำให้ทุกคนต้องก้มหัวต่ำลงไปอีก ในใจของพวกเขา หลงเอ๋อเป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้ที่ไม่ควรแตะต้อง
หาไม่แล้ว
ด้วยการปกป้องของราชินีและองค์ราชาพวกเขาเกรงว่า พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไม่อาจหลุดพ้น !
”หยานเอ๋อเราเสียเวลามากเกินไปแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันพิเศษของเรา”
หัวใจของไป๋หยานสั่นไหว
นับแต่วันนั้นนางกับตี้คังก็พยายามมีสัมพันธ์กันอีกหลายครั้ง หากแต่ในขณะที่นางกำลังเคลิบเคลิ้ม นางก็จะหลุดเข้าสู่สมรภูมิเสมอ
ภาพที่คุ้นเคยเหล่านั้นทำให้นางเจ็บปวดหัวใจ เช่นนั้นทั้งคู่จึงล้มเหลวทุกคราไป
”ไม่ต้องกังวลข้าเพียงแค่จะพาเจ้าเข้านอน”
นิ้วของตี้คังลูบไล้ใบหน้าอันงดงามของนาง”หากเจ้าไม่ต้องการ ข้าก็จะไม่ฝืนใจเจ้า”
”ตี้คังเท่าที่ข้าจำได้ ครั้งนั้นดูเหมือนว่าท่านพยายามหาโอกาสแก้แค้นครั้งแล้วครั้งเล่ามิใช่หรือ ?” นัยน์ตาของไป๋หยานเต็มไปด้วยประกายแวววาว ขณะเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
ใบหน้าของตี้คังเปลี่ยนเป็นดำมืด”ในครั้งนั้น ข้าต้องการแก้แค้นจริง ๆ หากแต่ผู้ใดจะทันคิดได้ว่า เจ้าจะขโมยหัวใจของข้าไปเล่า !”
หากมิใช่เพราะคิดแก้แค้นจะมีวันนี้หรือ ?
ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่รู้ว่า เขาหลงรักสตรีผู้นี้เข้าให้แล้วนับแต่ตอนนั้น
ทันใดนั้นเองจูบเบา ๆ ก็ประทับลงบนริมฝีปากของชายหนุ่ม ครั้นถอนริมฝีปาก นางก็ส่งยิ้มให้
เมื่อนางให้สัญญาว่าจะเป็นคนของแดนอสูรนางก็ทลายกำแพงใจที่นางเคยสร้างป้องกันชายผู้นี้ลงจนสิ้น
เพียงหวังว่าเขาจะไม่ทำให้นางผิดหวังเท่านั้น
หลงเอ๋อจ้องมองคู่สร้างคู่สมที่เหมาะสมราวเทพบุตรกับเทพธิดา ด้วยสายตาโหยหา พลางกล่าวว่า “ข้าเองก็อยากจะจูบราชินีเหมือนกัน”
ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินเปลี่ยนเป็นดำคล้ำ”นั่น…หม่ามี้ของข้า ยังไงก็ต้องเป็นหม่ามี้ของข้า ! ข้าไม่สนใจหรอก ต่อให้เจ้าต้องการฉกหม่ามี้ของข้า เจ้าก็ไม่ได้รับอนุญาตให้จูบนาง ข้าเป็นคนเดียวที่จูบหม่ามี้ได้”
อ๊ะ…!
จู่ๆ หลงเอ๋อ ก็จูบแก้มไป๋เสี่ยวเฉิน สัมผัสที่นุ่มนวลทำให้ไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า ส่งผลให้เขายืนงงโง่งมอยู่กับที่
นัยน์ตากลมโตของเขาเบิกกว้าง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
แน่นอนว่าเขาโกรธ
หญิงผู้นี้กล้าดียังไงมาจูบเขา?
หากแต่สิ่งที่ทำให้ไป๋เสี่ยวเฉินโกรธยิ่งกว่าก็คือ
”ข้าเห็นราชินีจูบเจ้าเมื่อครู่เช่นนั้นข้าจึงจูบเจ้า นั่นก็เท่ากับว่าข้าได้จูบราชินีด้วยเหมือนกัน” ใบหน้าของหลงเอ๋อปรากฏรอยยิ้มสดใส ราวกับนางไม่รู้ว่าพฤติกรรมเมื่อครู่นี้ของนางนั้นไม่ถูกต้อง
***จบบทข้าอยากแต่งกับราชินี (4)***
บทที่ 604 : ข้าอยากแต่งกับราชินี (5)
”ฮึดๆ !”
ครั้นได้ฟังถ้อยคำไร้เดียงสาของหลงเอ๋อกอรปกับได้เห็นร่างที่สั่นสะท้านของไป๋เสี่ยวเฉิน ที่สุดไป๋หยานก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ดีแล้ว เฉินเอ๋อจะได้มีเพื่อนเล่น ข้าชอบเด็กหญิงผู้นี้นับแต่แรกเห็นแล้ว”
”หม่ามี้!”
ไป๋เสี่ยวเฉินหันหน้าไปมองไป๋หยานอย่างน้อยใจภาพลักษณ์ของเขายามนี้น่าสงสาร น้ำตาของเขาไหลลงมาอาบแก้มแลดูน่าเวทนา
”ได้โปรดอย่าให้เด็กคนนี้อยู่ใกล้เฉินเอ๋อ นางช่างน่ากลัวเหลือเกิน”
”ไม่มีทาง!” ตี้คังปฏิเสธทันที “ข้ามีเรื่องต้องทำร่วมกับมารดาของเจ้า เจ้าต้องดูแลเด็กหญิงคนนี้”
ใบหน้าของไป๋เสี่ยวเฉินแข็งค้างเขาอยากจะปฏิเสธ ทว่าตี้คังขี้เกียจเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงด้วย ตี้คังโอบประคองไป๋หยาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลำแสงสีแดงสดใสพุ่งผ่านข้ามท้องฟ้า หายลับไปจากสายตาของทุกคน
ไป๋เสี่ยวเฉินกัดมุมเสื้ออย่างผิดหวัง”หม่ามี้ ท่านไม่รักข้าแล้ว หลังจากที่ท่านแต่งงานกับป๊ะป๋า … ”
ฮือฮือ หม่ามี้ไม่เคยทิ้งเขามาก่อนเลย ทว่าช่วงนี้นางทิ้งเขาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
”เฉินเอ๋อที่น่าสงสาร” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเช็ดน้ำตาอันขมขื่นให้เขา “เจ้าเชื่อเถอะว่า หากบิดาของเจ้าต้องการบังคับพามารดาของเจ้าไป ก็ย่อมไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งเขาได้ และมารดาของเจ้าก็ไม่มีทางเลือก”
ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้น “งั้นก็เป็นความผิดของป๊ะป๋าวายร้ายใช่หรือไม่ ?”
“ใช่แล้วทั้งหมดเป็นความผิดของเขา” ตี้เสี่ยวอวิ๋นพยักหน้าอย่างจริงจัง “เขาแข็งแกร่งมาก เลยบังคับพามารดาของเจ้าไปได้ทุกครั้ง”
“ป๊ะป๋าวายร้ายคงเห็นว่าเฉินเอ๋อทั้งน่ารักทั้งเชื่อฟังหม่ามี้ต้องรักเฉินเอ๋อมากกว่าเขา เขาเลยเกิดอาการหึงหวง จึงทำให้หม่ามี้ทิ้งเฉินเอ๋อไปหลายต่อหลายครั้ง” ไป๋เสี่ยวเฉินพูด ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งโกรธ “วันหน้า หากเขาทำให้หม่ามี้โกรธ เฉินเอ๋อจะไม่ช่วยเขา ผู้ใดใช้ให้เขาทิ้งเฉินเอ๋อก่อนล่ะ”
”แค่ก”
หลังจากท่านราชครูเข้ามาได้ยินถ้อยคำของตี้เสี่ยวอวิ๋นเขาก็กระแอม พลางยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังก่อเรื่องวุ่นวายให้พี่ชายของเจ้า ?
ตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้ดีว่าราชครูคิดสิ่งใด? นางยิ้มอย่างมีความสุข พลางกล่าวว่า
“ผู้ใดใช้ให้เสด็จพี่ชอบแกล้งข้าบ่อยๆ กันล่ะ” ครานี้เป็นนข้าช่วยเขาตามตื๊อพี่สะใภ้ได้สำเร็จ เช่นนั้นก็ควรถึงเวลาแก้แค้นของข้าเสียที
”เจ้าคิดจะทำอะไร?” ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้าขึ้น จึงเห็นหลงฉางเทียนเดินมาทางเขา เขารีบกางแขนออกเพื่อหยุดหลงฉางเทียนทันที “หม่ามี้ของข้าบอกแล้วไงว่า หลงเอ๋อจะไม่กลับไปกับเจ้า”
หลงฉางเทียนมีทีท่าละอาย“ข้าเพียงอยากคุยกับบุตรสาวตามลำพัง ข้าไม่ได้คิดจะพานางกลับเผ่ามังกร”
“ข้าไม่เชื่อหรอก”ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมกับเบ้ปาก เขาตวัดสายตาจ้องมองหญิงสาวสวยที่ยืนอยู่ด้านหลังหลงฉางเทียน “หญิงผู้นี้รังแกหลงเอ๋อมามากแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยหลงเอ๋อให้ไปกับเจ้างั้นหรือ ?”
หลงฉางเทียนขมวดคิ้วพลางเหลือบไปมองจางหรู่หยุนผู้ซึ่งยืนติดอยู่ด้านหลังเขา “เจ้าอยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องตามข้ามา !”
หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาไป๋เสี่ยวเฉินอีกครั้ง เอ่ยกล่าวด้วยความเคารพว่า “ฝ่าบาท ข้าต้องการสนทนากับบุตรสาวของข้าเพียงลำพังจริง ๆ หากพระองค์กังวลว่านางจะถูกรังแก ข้าจะทิ้งหญิงชั่วคนนี้ไว้ที่นี่ดีหรือไม่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินเงียบเพื่อประเมินหลงฉางเทียน เขาไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับหลงฉางเทียน เพราะหลงฉางเทียนไม่เคยรังแกหลงเอ๋อ
”เฉินเอ๋อ”ตี้เสี่ยวอวิ๋นดึงแขนเสื้อของไป๋เสี่ยวเฉิน พลางมองหลงฉางเทียนด้วยนัยน์ตากลมโตที่สวยงาม “มีอะไรที่เจ้าไม่สามารถกล่าวต่อหน้าพวกเรากระนั้นรึ ?”
”คือ… ” หลงฉางเทียนลังเลอยู่นาน ก่อนจะเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงยุ่งยากใจ “พฤติกรรมของบุตรสาวข้าเมื่อครู่นี้ดูจะเกินไป ข้าต้องการสั่งสอนนาง ถ้อยคำเหล่านั้นไม่เหมาะที่จะพูดต่อหน้าองค์ชาย เช่นนั้นข้าจึงอยากสนทนากับนางตามลำพัง”
***จบบทข้าอยากแต่งกับราชินี (5)***
บทที่ 605 : ข้าอยากแต่งกับราชินี (6)
คำกล่าวของหลงฉางเทียนฟังดูสมเหตุสมผลดีแววตาของตี้เสี่ยวอวิ๋นเต็มไปด้วยความสงสัย นางครุ่นคิดเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “ไปได้ ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม แล้วรีบนำนางกลับมาส่งภายในครึ่งชั่วยามนะ”
”ท่านอาหญิง”ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวพร้อมกับเบ้ปาก “ป๊ะป๋ากับหม่ามี้ให้ข้าดูแลเด็กหญิงคนนี้ หากนางถูกรังแกล่ะ… ”
”เขากล้าหรือ?” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเย้ยหยัน “หากเขากล้ารังแกหลงเอ๋อ ก็รอพี่สะใภ้ส่งเขาไปยมโลกได้เลย”
หลงฉางเทียนมิได้โง่ถึงเพียงนั้นแน่เขาจะกล้ารังแกหลงเอ๋อในพระราชวังอสูรรึ !
”หลงเอ๋อเจ้าไปได้” ตี้เสี่ยวอวิ๋นตบไหล่หลงเอ๋อ “แล้วกลับมาเร็ว ๆ ล่ะ”
”อืม”
ดวงตาของหลงเอ๋อยกโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยวนางยิ้มอย่างไร้เดียงสา แลดูน่ารัก นางรีบก้าวไปยืนข้าง ๆ หลงฉางเทียนพลางตะโกนว่า “ท่าน”
”ไปกันเถอะ”
หลงฉางเทียนหรี่ตาลงนัยน์ตาของเขาปรากฏรอยยิ้มให้กับท่าทางไร้เดียงสาของหลงเอ๋อ เขาจับมือเล็ก ๆ ของนางพลางก้าวช้า ๆ ไปทางด้านนอกวิหารสวรรค์
ในทางเดินที่เงียบสงบครั้นหลงฉางเทียนเห็นว่ารอบข้างไร้ซึ่งผู้คน เขาก็ปล่อยมือหลงเอ๋อ ท่าทางที่แสดงออกถึงความรักแต่แรกของเขาแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง
”ท่านพ่อ?” หลงเอ๋อไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางเอ่ยถามว่า “ท่านมีอะไรจะพูดกับข้าหรือ ?”
”หลงเอ๋อฟังพ่อนะ!” หลงฉางเทียนกดไหล่ของหลงเอ๋อ พลางกล่าวอย่างเคร่งเครียด “พี่สาวของเจ้าล้มเหลวไปคนแล้ว จากนี้ความยิ่งใหญ่ของเผ่ามังกรต้องฝากไว้ที่เจ้าแล้ว”
นัยน์ตาของหลงเอ๋อเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ”ท่านพ่อ หลงเอ๋อไม่เข้าใจ”
”ตามจริงแล้วข้าปรารถนาให้เจ้าแต่งงานกับองค์ราชา ! หากแต่ตอนนี้เจ้าสามารถใกล้ชิดราชินีได้แล้ว เจ้าเป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าไปอยู่ในตำหนักของราชินีได้ !”
“แต่…”ใบหน้าของหลงเอ๋อเต็มไปด้วยความคับข้องใจ “ข้าไม่ได้ชอบองค์ราชา ข้าชอบราชินี ข้าจะแต่งงานกับราชินีแทนได้มั้ย ?”
หลงฉางเทียนตกใจมากเขาลืมไปว่าเด็กหญิงเบื้องหน้าเขานี้เป็นเด็กโง่ นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแต่งงานกับใครสักคนหมายความเช่นไร?
หากแต่เขาก็ไม่มีเวลาอธิบายให้นางฟังมากนักเช่นนั้นเขาจึงกล่าวต่อว่า “เจ้าต้องเป็นสตรีที่อยู่เคียงข้างองค์ราชาดังเช่นราชินีในวันนี้ให้จงได้ ! นี่คือคำสั่งของข้า เจ้าเข้าใจใช่หรือไม่ ?”
“หลงเอ๋อไม่เอา!” หลงเอ๋อตัวสั่น นางก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว น้ำตาพลันร่วงริน “ข้าไม่ต้องการเป็นผู้หญิงข้างๆ องค์ราชา ข้าชอบราชินี”
”หากเจ้าไม่ต้องการแต่งงานกับองค์ราชาเช่นนั้นเปลี่ยนเป็นองค์ชายน้อยแทนก็ได้ … ”
ใบหน้าของหลงฉางเทียนแลดูเป็นกังวลเด็กคนนี้กลายเป็นเด็กดื้อตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ?
“ท่านพ่อข้าชอบแต่ราชินี ข้าอยากแต่งงานกับนางเท่านั้น ข้าไม่ต้องการแต่งกับใครอีก” ใบหน้าของหลงเอ๋อชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ร่างเล็ก ๆ ของนางสั่นสะท้าน
ทำไมวันนี้ท่านพ่อ…น่ากลัวจะให้นางแต่งงานกับองค์ราชา หรือองค์ชายน้อย นางไม่ต้องการพวกเขานี่
คนที่นางชอบคือราชินีเท่านั้น
”หลงเอ๋อ!” หลงฉางเทียนโมโห เขาใช้มือทั้งสองกดไหล่ของหลงเอ๋อ
หลงเอ๋อร้องไห้อย่างขมขื่นนางรู้สึกถึงความเจ็บปวด เสียงร้องของนางทำให้หลงฉางเทียนกลับมารู้สึกตัว แววตาของเขาสับสนเล็กน้อย
”หลงเอ๋อพ่อขอโทษ เป็นเพราะพ่อกังวลมากเกินไป หยุดร้องไห้ได้แล้วให้พ่อดูบ่าของเจ้าหน่อย”
เขายกมือขึ้นตรวจสอบหลงเอ๋อทว่าหลงเอ๋อกลับผลักเขาอย่างแรงจนเขาหงายหลัง
ชั่วขณะนั้นนัยน์ตาของหลงฉางเทียนเต็มไปด้วยความตกใจเหตุใดนางถึงได้มีพลังมากมายเพียงนี้ ?
”ท่านเป็นคนใจร้ายข้าเกลียดท่านมากที่สุด อย่าแตะต้องข้าอีก ข้าจะไปหาราชินี !”
ใบหน้าของหลงเอ๋อเต็มไปด้วยความโกรธน้ำตาเอ่อคลอนัยน์ตาทั้งสองของนาง กระทั่งเห็นได้อย่างชัดเจน
***จบบทข้าอยากแต่งกับราชินี (6)***