จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 641-645
บทที่ 641 : ราชครูยังโดนตี (4)
”ข้าเป็นใคร?”
ราชครูยิ่งงงงวยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ในขณะที่เขากำลังคิดว่าเหตุใดองค์ราชาถึงโกรธมากเพียงนี้ มือเล็ก ๆ พลันยื่นออกตบหน้าเขาอย่างแรง
ทันใดนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ปรากฏรอยนิ้วมือแดง ๆ ห้านิ้ว
ครั้นเห็นราชครูถูกตบผู้อาวุโสรองและฮัวหยูต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาแทบจะฝังศีรษะลงกับพื้น
ยามนี้แม้แต่ราชครูก็ยังถูกทุบตีพวกเขาคงใกล้ที่จะถึงความตายเข้าไปทุกทีแล้วสิ ?
”เสี่ยวอวิ๋น?” ราชครูหันหน้าไปมองตี้เสี่ยวอวิ๋นที่กำลังโกรธเคือง เขาสับสนพลางกล่าวว่า “นี่…เกิดอะไรขึ้น ?”
”หากมิใช่เป็นเพราะท่านพี่สะใภ้ของข้าคงไม่ไปจากแดนอสูร !” ในอกของตี้เสี่ยวอวิ๋นมีความปั่นป่วน นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา นางจ้องมองราชครูด้วยความโกรธเกรี้ยว
ราชินีไปจากแดนอสูรแล้วงั้นหรือ?
ราชครูตกใจมากเมื่อครู่เขาได้ยินว่าราชินีหายตัวไป เขาคิดว่านางเพียงออกจากวังเพื่อพักผ่อนหย่อนใจชั่วครั้งชั่วคราว
แต่นี่นางหนีจากแดนอสูรไปเลยงั้นรึ?
หรือว่าจะเกี่ยวพันถึงสิ่งที่เขาทำลงไป
”ท่านราชครู”ผู้อาวุโสรองเช็ดเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของตนพลางกล่าวว่า “ตัวปลอมที่ท่านสร้างขึ้น แสร้งทำเป็นองค์ราชาแล้วเรียกข้ามาพบ พร้อมกับกล่าววาจาไม่สุภาพเกี่ยวกับองค์ราชินี พระนางได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น จึงจากไปด้วยความโกรธ”
ใบหน้าของราชครูแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวไม่น่าแปลกใจที่ตี้คังและตี้เสี่ยวอวิ๋นจะโกรธมาก
ที่เขาถูกทุบตีเมื่อครู่ก็สมควรแล้ว
”ท่านราชครู”ตี้เสี่ยวอวิ๋นจิกปาก พลางกล่าวเย้ยหยัน “ไหนว่าท่านมีพลังมากมายมิใช่หรือ ? เหตุใดท่านไม่คำนวณเสียก่อนว่าตัวปลอมของท่านจะก่อปัญหาหรือไม่ ? ท่านไม่ทราบหรือว่าหากพี่สะใภ้ของข้าจากไปจะเกิดอะไรขึ้น ?”
ปากของราชครูงุ้มลงเพราะถ้อยคำของตี้เสี่ยวอวิ๋นทำให้เขาไม่อาจปฏิเสธได้ เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจ “กระหม่อมไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ พระองค์ควรจะประหารกระหม่อมเสีย”
”ท่านสร้างตัวปลอมขึ้นมาเหตุใดท่านถึงไม่บอกกล่าวเสด็จพี่ ?” อารมณ์ของตี้เสี่ยวอวิ๋นยังคงควบคุมไม่ได้อยู่เล็กน้อย “หากเสด็จพี่รู้ พี่สะใภ้ของข้าก็ย่อมไม่มีทางไม่รู้การมีตัวตนของชายผู้นี้”
ราชครูถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้”หากองค์ราชารู้จะยอมให้มีตัวปลอมกระนั้นรึ ?”
ด้วยความยโสขององค์ราชาพระองค์ย่อมไม่อนุญาตให้ผู้ใดแสร้งทำตัวเป็นเขา แม้ว่าในวันหน้าชายผู้นั้นจะช่วยรับดาบแทนเขาได้ก็ตามที ทั้งเขาก็จะไม่มีวันยอมให้ตัวปลอมมีชีวิตอยู่แน่ !
หาไม่แล้วราชครูเช่นเขาคงไม่ต้องทำงานหนัก เพื่อปกปิดการมีตัวตนของตัวปลอมหรอก
นัยน์ตาของตี้คังเปล่งประกายกระหายเลือดเขาจ้องมองราชครูอย่างเย็นเยือก “แล้วข้าจะจัดการคิดบัญชีกับเจ้าในภายหลัง ตอนนี้ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งก้านธูปรีบไปนำเจ้าตัวปลอมคนนั้นกลับมา หาไม่ เจ้าก็ไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก ! ”
”พ่ะย่ะค่ะข้าพระองค์จะพาเขามาที่นี่”
ราชครูป้องกำปั้นใบหน้าของเขาแลดูขมขื่น เขารีบไปที่ประตูไม่กล้าอยู่สู้หน้าผู้ใดอีกต่อไป
ทั่วทั้งห้องเงียบสงัดลงอีกครั้งเพราะการจากไปของท่านราชครู
ผู้อาวุโสรองเนื้อตัวสั่นเขามองไปที่ผู้อาวุโสใหญ่ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ผู้อาวุโสใหญ่พ่นลมหายใจออกจมูกเขาเพิกเฉยต่อการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสรอง พลางหันหน้าหนีไปอีกทางหนึ่ง
หากมิใช่เพราะไอ้โง่ผู้นี้ถูกเจ้าตัวปลอมหลอกใช้ราชินีก็คงจะไม่ออกจากวังไปด้วยความโกรธ !
”ตี้เสี่ยวอวิ๋น!”
เสียงต่ำๆ ของชายหนุ่มทำให้ร่างของตี้เสี่ยวอวิ๋นสั่นสะท้าน นางเบือนหน้าเล็กน้อยมามองตี้คังอย่างรู้สึกผิด “เสด็จพี่ เรียกข้าหรือ ?”
”การจากไปของหยานเอ๋อเจ้าเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน” แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นกระหายเลือด ทั้งน้ำเสียงของเขาก็เย็นยะเยือก
ตี้เสี่ยวอวิ๋นเข่าแทบทรุดนางตัวสั่นระริก
นางไม่ทราบว่ากลิ่นอายสามารถปลอมแปลงได้เช่นนั้นนางจึงบอกพี่สะใภ้เท่าที่นางรู้
***จบบทราชครูยังโดนตี (4)***
บทที่ 642 : ราชครูยังโดนตี (5)
”เสด็จพี่…ข้าผิดไปแล้ว”ตี้เสี่ยวอวิ๋นเช็ดน้ำตา “แต่นี้ไปข้าจะไม่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก ข้ายังมีประโยชน์อีกหลายอย่างนะ ข้าสามารถช่วยพี่ตามหาพี่สะใภ้ได้ ทั้งข้ายังสามารถดูแลลูกของพี่ได้ พี่อย่าไล่ข้าไปเลยนะ”
แววตาเย็นชาของตี้คังกวาดไปมองใบหน้าเล็กๆ ที่น่าสงสารของตี้เสี่ยวอวิ๋น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “หากมิใช่เป็นเพราะหยานเอ๋อขอให้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ป่านนี้ข้าคงทุบเจ้าไปแล้ว”
ขาของตี้เสี่ยวอวิ๋นสั่นระริกเสด็จพี่ของนางคิดจะทุบตีนางจริง ๆ
โชคดีที่นางมีพี่สะใภ้คอยปกป้องนางหากนางมีพี่สะใภ้อยู่เคียงข้าง เสด็จพี่ก็จะไม่ตีนาง
”ที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้เจ้าไปจัดการซะ”
”อะไรหรือ?”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นเบิกนัยน์ตากลมโตด้วยความหวาดกลัวขณะจ้องใบหน้าที่หล่อเหลาสมบูรณ์แบบนั่น
”เจ้าบอกว่าเจ้าจะเจาะรูบนร่างของนางให้พรุน แล้วอย่าลืมเทปลิงดูดเลือดลงไปในรูเหล่านั้นด้วยล่ะ” น้ำเสียงของตี้คังช่างน่าหดหู่ ทำให้บรรยากาศของวังไป๋เยว่ลดลงไปอีก “เรื่องนี้ต้องการให้เจ้าทำถึงจะสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ เจ้าไปหาหมีขนดำมาอีกสองตัวด้วย”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจเสด็จพี่จะเอาหมีไปทำอะไร ?
หมีขนดำทรงพลังมากเพียงใด? หรือเขาต้องการให้หมีขนดำจัดการชิงเซียะ
เอ้อ!
เพียงคิดถึงฉากนั้นตี้เสี่ยวอวิ๋นพลันรู้สึกคลื่นเหียน นางนึกภาพโศกนาฏกรรมของชิงเซียะได้ทันที
”เมื่อนางตายเจ้าก็เอาวิญญาณของนางไปไว้ที่เดียวกับจุนหรู่ชิง ข้าจะให้นางวนเวียนตายวนเวียนเกิดตลอดกาล เพื่อรอให้หยานเอ๋อกลับมาสำเร็จโทษนาง !”
ทุกครั้งที่ตี้คังกล่าวใบหน้าของชิงเซียะก็ยิ่งซีดลงเรื่อย ๆ นางไม่อาจรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากการถูกสายฟ้าฟาดบนร่างอีกต่อไปแล้ว หัวใจของนางชาไปหมดแล้วจากความเจ็บปวดที่ผ่านมา
ในฐานะสตรีเหตุใดไป๋หยานถึงโชคดีเพียงนี้ ? แต่นางกลับไม่มีโอกาสเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย !
พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ !
ขณะที่ชิงเซียะเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองนางก็เห็นว่าราชครูผู้หล่อเหลากับชายผู้หนึ่งกำลังเดินผ่านประตูเข้ามา
ชายผู้นี้แลดูธรรมดาๆ ทว่ากลิ่นอายของเขาเหมือนกับตี้คัง
“องค์ราชานี่เป็นตัวปลอมที่ข้าสร้างขึ้นในเวลานั้น แค่เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของเขา ก็เพียงพอที่จะเป็นตัวปลอมให้พระองค์ได้ หากแต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องเช่นนี้ได้”
หลังจากราชครูกล่าวจบเขาก็หันไปมองตี้เสี่ยวอวิ๋น เขาเห็นว่าตี้เสี่ยวอวิ๋นสะบัดหน้าใส่เขาด้วยความโกรธ พลันสีหน้าของเขาก็ขมขื่นหนักกว่าเดิม
ร่างของตี้คังนั้นรวดเร็วมากราวสายลมพัดเขาพุ่งตัวถึงด้านหน้าของชายผู้นั้นทันที
แววตาที่กระหายเลือดของตี้คังจับจ้องมองชายผู้นั้นพร้อมกับขยุ้มคอของชายผู้นั้นอย่างเย็นชาดูเหมือนว่าตราบใดที่ฝ่ามือของเขาบีบลงไปชายผู้นั้นก็จะต้องสิ้นใจทันที
”พูดมาสิว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องทำลายข้า ?”
นัยน์ตาของชายผู้นั้นเหลือบมองเล็กน้อยเขาเห็นชิงเซียะถูกขังอยู่ในกรง ทว่าเพียงไม่ช้าเขาก็หันกลับมา สายตาของเขาแสร้งทำเป็นเหลือบมองโดยไม่ตั้งใจ
ถึงกระนั้นใบหน้าของเขาก็ยังซีดมือทั้งสองข้างของเขากุมกันแน่น
”เพราะกระหม่อมรักราชินีกระหม่อมต้องการสร้างความร้าวฉานระหว่างทั้งสองพระองค์ ยามนี้ในเมื่อเรื่องทั้งหมดเปิดเผยแล้ว หากอยากสังหารกระหม่อมก็เชิญตามสบาย ทำตามที่พระองค์ต้องการได้เลย” เขาหลับตาลงพลางกล่าวอย่างเย็นชา
แม้ว่าเขาจะตายเขาก็ไม่ยอมทำร้ายชิงเซียะ
รอยยิ้มของตี้คังนั้นหล่อเหลาหาใดเทียบทว่าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม “ถึงตอนนี้ เจ้าก็ยังไม่ยอมพูดความจริงอีกงั้นหรือ ? ดี ตี้เสี่ยวอวิ๋นช่วยข้าหน่อย สับนังงูนั่นออกเป็นชิ้น ๆ ที !”
”เสด็จพี่ข้าเก่งที่สุดในเรื่องการฆ่าคน ทั้งข้ามั่นใจว่า นางจะต้องทรมานมากเสียยิ่งกว่าตาย !” ตี้เสี่ยวอวิ๋นถูฝ่ามือ พลางเดินไปที่หญิงสาวผู้ซึ่งอยู่ในกรง
เดิมทีแค่เห็นชิงเซียะทุกข์ทรมานในคุกสายฟ้า หัวใจของชายผู้นั้นก็เกือบจะแหลกสลาย ทว่าตอนนี้ครั้นได้ยินถ้อยคำของตี้คัง ใบหน้าของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไป เขากำหมัดแน่นขึ้น และแน่นขึ้น
***จบบทราชครูยังโดนตี (5)***
บทที่ 643 : ข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (1)
”แต่… ” ตี้เสี่ยวอวิ๋นเดินไปที่กรงพร้อมรอยยิ้ม พลางเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “เมื่อเปรียบเทียบกับการตัดนางออกเป็นชิ้น ๆ แล้ว ข้าชื่นชอบการเจาะรูลงบนร่างกายของนาง จากนั้นก็ปล่อยปลิงพิษไชชอนเข้าไปในร่างของนางมากกว่า เพราะมันเจ็บปวดยิ่งกว่าปล่อยให้นางตายง่าย ๆ เสียอีก !”
ทุกครั้งที่ตี้เสี่ยวอวิ๋นพูดประโยคหนึ่งนัยน์ตาของชายคนนั้นก็ยิ่งกระวนกระวาย เขาอยากจะลุกขึ้นยืนหลายต่อหลายครั้ง ทว่าก็ต้องอดทนไว้
มีเพียงใบหน้าของเขาเท่านั้นที่แสดงความปวดร้าวใจ
ฮัวหยูลอบออกจากวังไป๋เยว่อย่างลับๆ และทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในอุ้งมือของเขาก็มีเจ้าหมีขนดำที่ดุร้าย หมีขนดำน้ำลายไหล มันพยายามถอดกุญแจมือหลายต่อหลายครั้ง
“องค์หญิงหมีขนดำตัวนี้เป็นตราบาปของเผ่าหมี ว่ากันว่าหมีขนดำตัวเมียจำนวนมากถูกหมีขนดำตัวนี้สังหาร ทำให้หัวหน้าเผ่าหมีโกรธมาก เขาจึงส่งมอบหมีตัวนี้ให้ศาลอาญาเพื่อลงโทษ ตอนนี้หมีขนดำตัวนี้ไม่ได้ลิ้มรสสวาทมานานมากแล้ว มันเหมาะกับชิงเซียะมาก”
ยามนี้ฮัวหยูเพียงต้องการที่จะไถ่บาปของตน เช่นนั้นเมื่อเขาคิดได้ว่ามีหมีขนดำอยู่ในวัง เขาก็รีบไปพามันมาทันที
ชิงเซียะต้องการผู้ชายมากนักมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็ให้นางได้ลิ้มชิมรสชาติดี ๆ แบบนี้ เผื่อนางจะลืมเรื่ององค์ราชา และราชินีออกไปจากสมอง !
ตี้เสี่ยวอวิ๋นยกมือขึ้นโบก”เปิดกรงแล้วโยนหมีขนดำเข้าไป ทว่า … ”
นางหันไปมองตี้คังอย่างน่าเอ็นดู”เสด็จพี่ ช่วยหยุดสายฟ้าให้หน่อยจะได้หรือไม่ ? หาไม่เราจะไม่ได้ดูหนังสดกัน”
บูม!
ทันใดนั้นกรงก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า สายฟ้าฟาดเสียงฟ้าร้องพลันจางหายไป และในที่สุดชิงเซียะก็สามารถหายใจได้สะดวกขึ้น
ทว่าเบื้องหน้าสิ่งที่รอคอยนางอยู่คือทัณฑ์ทรมานที่โหดร้ายทารุณยิ่งนัก
”อ๊าาาา!”
เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังไม่ต่างจากดาบแหลมคมแทงทะลุแก้วหูเขาซ้ำ ๆ ทำให้หัวใจของเขาร้าวราน ใบหน้าของเขาขาวซีดทันที
เทพธิดาในดวงใจของเขากำลังถูกหมีขนดำย่ำยีให้แปดเปื้อน ! ช่างโหดร้ายเสียเหลือเกิน
”ไม่!”
เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดดังก้องในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนไหวอีกต่อไป เขาผุดลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่เขาจะเข้าถึงตัวชิงเซียะที่อยู่เบื้องหน้ามือหนึ่งพลันยื่นออกมากดร่างของเขาแนบลงกับพื้น
”เจ้ารอดูอยู่ตรงนี้แหละ!”
ผู้อาวุโสใหญ่เป็นผู้ที่ยื่นมือออกมาแววตาของเขาทั้งเย้ยหยันทั้งโกรธเคือง “นี่คือจุดจบของเจ้าที่บังอาจปลอมเป็นองค์ราชา !”
ทุกคนที่อยู่ที่นี่หาใช่คนโง่ไม่พวกเขาเห็นแล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างชายผู้นี้กับชิงเซียะนั้นไม่ธรรมดา หาไม่แล้วตี้คังคงจะไม่จงใจยั่วยุเขาด้วยวิธีนี้
”องค์ราชาโปรดปล่อยเซียะเอ๋อไปเถอะนางเป็นผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ข้าผิดเองทุกเรื่อง ข้าตัดสินใจทำเอง โปรดปล่อยนางไปเถอะ !”
ชายผู้นั้นคุกเข่าต่อหน้าตี้คังพลางคำนับอย่างแรง กระทั่งหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเลือด เลือดไหลออกมานองพื้น
”ผู้บริสุทธิ์”ตี้คังเยาะเย้ย พลางกัดริมฝีปาก “นางกล้าใส่ร้ายราชินีต่อหน้าข้า แค่เพียงเรื่องนี้นางก็สมควรตายแล้ว”
ร่างของชายผู้นั้นอ่อนยวบความสิ้นหวังกระจายไปทั่วใบหน้า
เขากล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่าทุกสิ่งให้เขาจัดการเอง เหตุใดชิงเซียะยังมาปรากฏตัวที่นี่อีก นางไม่รู้หรือไรว่า การกระทำเช่นนี้จะนำนางไปสู่ความตาย !
ตี้คังหันไปหาราชครูพลางสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปหาข้อมูลมาว่าหลังจากที่ราชินีออกจากแดนอสูรแล้ว นางไปที่ใด เดี๋ยวนี้…”
ราชครูป้องกำปั้นขึ้นจากนั้นเขาก็หันไปทางประตู
เขาเพิ่งจะก้าวเท้าออกไปได้สองก้าวจู่ ๆ ร่างที่น่าสยดสยองก็พุ่งเข้าใส่ เขารีบหลบ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
”องค์ราชา!”
ผู้ที่พุ่งตัวผ่านประตูเข้ามากระทั่งเกือบชนเข้ากับเขา ไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเขาเลย คนผู้นั้นคุกเข่าลงต่อหน้าตี้คัง ใบหน้าซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าคนผู้นั้นน่าที่จะสูญเสียวิญญาณไปแล้ว
***จบบทข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (1)***
บทที่ 644 : ข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (2)
“เสด็จพี่”ตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกประหลาดใจ นางขมวดคิ้ว “นี่เป็นอัศวินเงาของพี่ไม่ใช่เหรอ ? เหตุใดพวกเขาบาดเจ็บถึงเพียงนี้ได้ล่ะ มีผู้ใดในแดนอสูรที่จะสามารถทำร้ายพวกเขาได้เช่นนี้ ?”
ชั่วขณะนั้นเองสายตาทุกคู่ต่างก็มองไปที่คนเหล่านั้น สีหน้าของพวกเขาแลดูไม่ดีนัก
ในแดนอสูรผู้ใดหาญกล้าทำร้ายอัศวินเงา? ผู้ใดกันที่ขวัญกล้าถึงเพียงนั้น ?
”องค์ราชากระหม่อมทำงานล้มเหลว” อัศวินเงาลดศีรษะลงพลางกล่าว ใบหน้าของเขายามนี้ซีดขาว
เนื่องจากร่างเงาของพวกเขาถูกทำลายพวกเขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ตอนนี้ลมหายใจก็ยังอ่อนแรง ราวกับว่าพวกเขาจะสิ้นใจลงได้ทุกเวลา
ตี้คังพลันรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งเขาเอ่ยถามอย่างไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ว่า “ภารกิจที่ล้มเหลวของเจ้าคือภารกิจใด ?”
”เอ๊ะ! ?” อัศวินเงาทำหน้างงงวย ก่อนจะตอบว่า “พระองค์มีรับสั่งให้พวกกระหม่อมติดตามไปสังหารราชินีมิใช่หรือ ? ทว่าองค์ชายน้อยทรงพลังทั้งยังแข็งแกร่งมาก ทำให้ภารกิจของพวกกระหม่อมล้มเหลว พวกกระหม่อมทำได้เพียงทำให้ราชินีได้รับบาดเจ็บ แต่มิอาจสังหารพระนางได้ ”
สังหารราชินี!
ความโกรธหลั่งไหลเข้ามาในศีรษะของเขาอย่างรุนแรง กระทั่งแทบจะทำลายล้างโลกทั้งใบ เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ๆ พลางกระชากคอเสื้ออัศวินเงาขึ้นมาอย่างแรง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระหายเลือด ราวกับดังมาจากนรกอเวจี “เมื่อครู่นี้ เจ้าว่ากระไรนะ ?”
อัศวินเงาตกตะลึงเขามองชายหนุ่มผู้ซึ่งเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เนื้อตัวสั่นเทา “องค์ราชา กระหม่อมไร้ความสามารถ กระหม่อมมิได้สังหารราชินี ทั้งมิได้นำองค์ชายน้อยกลับมา โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยเถิด”
บางทีเขาอาจจะเชื่อคำสั่งตี้คังตัวปลอมก่อนหน้านี้เช่นนั้นอัศวินเงาจึงคิดว่า เหตุที่ตี้คังโกรธมาก เป็นเพราะพวกเขาปฏิบัติภารกิจล้มเหลว
บูม!
ตี้คังกระชากคออัศวินเงายกขึ้นสูงจากนั้นก็โยนเขาลอยละล่องก่อนตกลงสู่พื้น
พื้นแข็งๆ กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมาทันที อัศวินเงานอนอยู่ในหลุมขนาดใหญ่นั้น พร้อมกับกระอักโลหิตออกมา เขาจ้องมองชายหนุ่มไม่ต่างจากเห็นอสูรจากนรก สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ใบหน้าของตี้เสี่ยวอวิ๋นและคนอื่น ๆ ซีดเผือด พวกเขาทุกคนต่างก็คิดว่าตัวปลอม เพียงแค่พยายามขับไป๋หยานออกจากแดนอสูร ไม่มีผู้ใดคาดว่าที่เขาปลอมเป็นตี้คัง เพียงเพื่อจะออกคำสั่งให้สังหารไป๋หยาน
”ไอ้สารเลว!”
ผู้อาวุโสรองลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเขาปรี่เข้าหาเจ้าตัวปลอม โดยไม่พูดไม่จาสักคำ ชายชราชักดาบออกมาฟันแขนของเจ้าตัวปลอมทันที
ทันทีที่แขนของเจ้าตัวปลอมขาดเลือดก็พวยพุ่งราวกับน้ำพุ ย้อมเสื้อคลุมของเจ้าตัวปลอมเสียจนแดงฉาน
“แค่เจ้าปลอมเป็นองค์ราชาก็ผิดมหันต์แล้วนี่เจ้ายังคิดจะสังหารราชินีอีก ! ต่อให้บดขยี้เจ้าจนเป็นผุยผง ก็ยากที่จะลบความแค้นเคืองของพวกเราได้ !”
เขาโกรธจัดกระทั่งน้ำตาร่วงรินจากปลายหางตา
นับเป็นความผิดของเขาทั้งหมด! หากมิใช่เพราะเขา ราชินีคงจะไม่เสด็จจากไป หากราชินีไม่ได้เสด็จจากไป พระนางก็คงไม่ต้องพบเจอสิ่งเหล่านี้ !
หากว่าองค์ราชาจะทรงพิโรธกระทั่งสังหารเขาก็นับว่าสมควรแล้ว !
อัศวินเงาผู้ซึ่งนอนอยู่ในหลุมขนาดใหญ่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่เขาได้ยินถ้อยคำของผู้อาวุโสรอง เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ
องค์ราชามีตัวปลอมด้วยกระนั้นหรือ?
แสดงว่าผู้ที่ออกคำสั่งให้สังหารราชินีมิใช่องค์ราชากระนั้นสิ
สีหน้าของอัศวินเงาซีดเผือดริมฝีปากของเขาสั่นระริก เขาหลับตาลงเล็กน้อย พลันความสิ้นหวังก็ท่วมท้นหัวใจของเขา
เขารู้ทันทีว่านับจากนี้ไปจะไม่มีอัศวินเงาในแดนอสูรอีกต่อไป
”ข้าเคยบอกแล้วว่าราชินีแห่งแดนอสูรต้องมาก่อน รับสั่งของนางต้องมาเป็นอันดับแรก ผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนคำสั่งของราชินี หรือผู้ใดที่ทำร้ายนาง มีโทษสถานเดียวคือตาย !”
เขาไม่สนใจว่าอัศวินเงาจะโดนหลอกหรือไม่? เขารู้เพียงว่าคนเหล่านี้ทำร้ายสตรีที่เขาต้องการปกป้องด้วยชีวิตเท่านั้น !
ผู้ที่ทำร้ายนางต้องตาย!
อัศวินเงาคลานขึ้นมาจากหลุมขนาดใหญ่เขาคุกเข่าลงเบื้องหน้าตี้คัง ร่างของเขาพลันสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
***จบบทข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (2)***
บทที่ 645 : ข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (3)
”องค์ราชาราชินีให้กระหม่อมส่งข้อความถึงพระองค์ … ”
น้ำเสียงของอัศวินเงาสั่นสะท้านเขามองตี้คังที่ยังคงไม่พูดไม่จา จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “พระนางมีรับสั่งว่า ข้าจะไม่ให้อภัยเจ้าตลอดชีวิต”
ประโยคสุดท้ายนี้ดูเหมือนจะเป็นพลังเฮือกสุดท้ายของเขาหลังจากนั้นร่างของเขาก็ทรุดลงกับพื้น นัยน์ตาของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีเทา
นางว่า..
นางจะไม่อภัยให้ข้าตลอดชีวิต!
”ฮ่าๆ ๆ ๆ !”
จู่ๆ ตี้คังก็หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง สายลมพัดพลุ่งพล่านไปทั่วทั้งวังไป๋เยว่ ทุกสิ่งพลันนิ่งเงียบ ยกเว้นเสียงหัวเราะของตี้คัง
”ข้าเคยประกาศต่อโลกนี้ว่าข้าจะปกป้องนางตลอดชีวิต ทั้งจะไม่ทำให้นางต้องเจ็บช้ำอีก หากท้ายที่สุดข้ากลับทำร้ายนาง ด้วยผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าเอง !”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเป็นความโศกเศร้าอันไม่มีวันสิ้นสุด ส่งผลให้อารมณ์ของทุกคนในที่นั้นหดหู่เป็นอย่างมาก
”เสด็จพี่… ” ตี้เสี่ยวอวิ๋นนิ่งอึ้ง ขณะมองตี้คัง
เสด็จพี่ร้องไห้งั้นหรือ?
เสด็จพี่ที่เคยหยิ่งผยองทั้งยังข่มเหงทุกคนตลอดมาถึงกับมีน้ำตา ?
หัวใจของตี้เสี่ยวอวิ๋นเศร้าเป็นอย่างมากนางเกลียดพวกอัศวินเงา ผู้อาวุโสรอง ท่านราชครู เกลียด ๆ
หากมิใช่เพราะคนพวกนี้พี่สะใภ้ของข้าคงจะไม่เป็นเช่นนี้…
”เสด็จพี่พี่สะใภ้ยังมีชีวิตอยู่ นางยังคงมีชีวิตอยู่ นาง และเฉินเอ๋อกำลังรอให้พี่ออกตามหานะ พี่ต้องไม่ทำร้ายตัวเองนะ”
”นางไม่ให้อภัยข้านางไม่ให้อภัยข้าอีกแล้ว … ” ตี้คังหลับตา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
”พี่พบพี่สะใภ้เมื่อใดพี่ก็อธิบายให้นางฟัง นางจะต้องให้อภัยพี่”
ตี้เสี่ยวอวิ๋นกล่าวออกมาเบาๆ “ตั้งยี่สิบวันเชียวนะ ที่พี่สะใภ้ได้ยินเรื่องจากปากของตัวปลอม ก็แล้วเหตุใดนางถึงยังไม่ยอมจากไป นางยังคงอยู่ นางอาจจะรออยู่ รอให้พี่กลับมาอธิบายกับนาง ทว่าพี่ก็ไม่กลับมา สุดท้ายนางจึงตัดใจจากไป”
ต้องกล่าวว่าตี้เสี่ยวอวิ๋นผู้ซึ่งใครๆ ต่างก็คิดว่า นางสวยแต่ไร้สมอง ก็มีความฉลาดเฉลียวเช่นกัน ถ้อยคำของนางตรงกับความคิดของไป๋หยานในเวลานั้น
ครั้นตี้คังเงยหน้าขึ้นเขาก็มีสภาพเหมือนคนที่กำลังจะตาย ทว่ายังคงพยายามคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ แววตากระหายเลือดของเขาเริ่มเปล่งประกายแสง “จริงหรือ ? นางรอข้าจริงหรือ ? นางจะเชื่อข้างั้นหรือ ?”
”เสด็จพี่ข้าจะช่วยพี่เอง พี่สะใภ้จะต้องกลับมา”
ถึงแม้ตี้เสี่ยวอวิ๋นจะเห็นว่าตี้คังเชื่อถ้อยคำของนางทว่านางกลับไม่ได้รู้สึกดีใจแต่อย่างใด นางรอคำตอบของตี้คังอยู่นาน หากแต่ก็ไม่มีคำใดตอบกลับมา
และเมื่อนางมองเขาด้วยความประหลาดใจนางก็พบว่าใบหน้าของตี้คังนั้นซีดลงกว่าเดิม มือของเขากุมหน้าอกแน่น พลันความเจ็บปวดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
”เสด็จพี่เกิดอะไรขึ้น ?” ตี้เสี่ยวอวิ๋นตกตะลึงหน้าซีด นางรีบก้าวเข้าไปช่วยพยุงร่างที่สั่นเทาของตี้คังอย่างรวดเร็ว
อัค!
ตี้คังปัดมือของตี้เสี่ยวอวิ๋นออกเขาก้าวถอยหลังสองสามก้าว ทันใดนั้นโลหิตก็พ่นพรวดออกมาราวสายฝน
”เสด็จพี่!” สีหน้าของตี้เสี่ยวอวิ๋นเปลี่ยนไป นางไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?
เสด็จพี่หัวใจสลายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ใช่แล้วตี้เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกราวกับว่า ยามนี้ตี้คังสูญสิ้นชีวิตแล้วอย่างสมบูรณ์ นัยน์ตาเรียวคมของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
”พันธะสัญญาถูกยกเลิกแล้ว”
พันธะสัญญาระหว่างเขากับไป๋หยานถูกนางยกเลิกแล้ว!
ตี้คังหลับตาลงอย่างเจ็บปวดแม้ว่าเขาไม่อาจใช้พันธะสัญญาตามหานางได้ หากแต่ตราบใดที่พันธะสัญญายังคงอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะไม่มีวันสิ้นสลาย !
ทว่าบัดนี้เขาไม่อาจรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของพันธะสัญญาอีกต่อไป
***จบบทข้าไม่มีวันรามือจากเจ้าชั่วชีวิต (3)***