จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 66
บทที่ 66 : ลอดโพรงสุนัข
“เร็วเข้า แยกกันออกตามหา ข้าไม่เชื่อว่าเราจะหาสุนัขจิ้งจอก
ตัวน้อยนั่นไม่เจอ !”
ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากด้านหน้า ไป๋เสี่ยวเฉินหมอบลงกับ
พื้นหญ้าอย่างรวดเร็ว แล้วใช้พงหญ้าในการหลบซ่อนตัว
“นายน้อยเร็ว ๆ เข้าเถอะ เราควรรีบออกจากบ้านสกุลไป๋
ก่อนจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”
เสี่ยวมี่เลียอุ้งเท้า ขณะหรี่ตามองยามหลายคนที่เดินผ่านพง
หญ้าไป จากนั้นมันก็สะบัดตัว และลุกขึ้นจากพื้น
“ข้ารู้ทางออกจากที่นี่ ตามข้ามา”
ในใจของไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกหงุดหงิด แม้เขาจะไม่อยากทาตาม
สักเท่าไหร่ ทว่าเขาก็จาใจลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเดิน
ตามหลังเสี่ยวมี่ไป
หากมิใช่เป็นเพราะมารดาของเขาสั่งให้เสี่ยวมี่คอยดูแลเขา
เขาก็คงจะไม่ฟังคาพูดของเสี่ยวมี่เป็นแน่
เสี่ยวมี่พาไป๋เสี่ยวเฉินหลบหลีกพวกยามไปตลอดทาง ทันทีที่
พ้นสายตายามเหล่านั้น ทั้งคู่ก็ยังคงเดินมุ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ
จวบจนกระทั่ง…
ไป๋เสี่ยวเฉินเห็นโพรงสุนัขปรากฏอยู่เบื้องหน้า น้าเสียงของ
เขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงโกรธเกรี้ยวแบบเด็ก ๆ “เสี่ยวมี่
แมวชั่ว ! เจ้าต้องการให้ข้าลอดโพรงสุนัขนี่หรือ ?”
“ก็แล้วแต่นายน้อย นายน้อยคิดจะเพิกเฉยต่อคาสั่งของท่าน
แม่และเปิดเผยตัวตนงั้นเหรอ ?”
เสี่ยวมี่กลอกตาพร้อมกับกล่าววาจาประชดประชัน
ยามนี้แม้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะอยู่ในร่างของสุนัขจิ้งจอก ทว่า
ทันทีที่เสี่ยวมี่พูดจบ เขาก็ไม่อาจซ่อนความขยะแขยงในแวว
ตาไว้ได้
เด็กน้อยอยากจะร้องไห้ …
“ฮึ ! เสี่ยวมี่ ต่อให้เจ้ายกหม่ามี้มาขู่ข้า ! แต่นี่มันโพรงสุนัข
อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่ยอมลอดออกไปเด็ดขาด”
แต่ว่า…ถึงมันจะน่าขยะแขยง ก็ยังดีกว่าทาให้หม่ามี้โกรธเป็น
ไหน ๆ
เสี่ยวมี่ที่ยืนอยู่หลังไป๋เสี่ยวเฉินยิ้มอย่างซุกซน พร้อมกับ
ชาเลืองมองไป๋เสี่ยวเฉิน ซึ่งกาลังเดินไปทางโพรงสุนัขอย่าง
เชื่องช้า
นายน้อยไม่เคยกลัวสิ่งใดเว้นแต่มารดาของเขา…
ช่วงเวลานั้นไป๋เสี่ยวเฉินรู้สึกเหมือนตนเองกาลังมุ่งหน้าสู่ลาน
ประหาร เด็กน้อยหลับตาลอดเข้าโพรง และทันทีที่เขาพ้น
จากโพรงสุนัขเขาก็ลุกขึ้นพร้อมกับผิวปากดังวิ้ว
ครั้นเด็กชายลอดผ่านโพรงสุนัขออกไปได้ เสี่ยวมี่ก็ไม่ลังเลที่
จะคลานลอดผ่านโพรงสุนัขออกมาด้วย
ท้องถนนกว้างสว่างไสวภายใต้แสงจันทร์
พลันสายตาของไป๋เสี่ยวเฉินก็หันไปเห็นร่างในอาภรณ์สีแดง
กาลังเดินอย่างแช่มช้ามาตามถนน
นัยน์ตาของเด็กน้อยเบิกบานเปี่ยมความสุข ขณะที่เขากาลัง
จะเรียกนาง เขาก็เห็นสตรีอีกคนเดินตามหลังมา สตรีผู้นั้นทา
ให้เขากลืนถ้อยคาทั้งหมดลงคอทันที สายตาของเขายังคงจับ
จ้องไป๋หยานอย่างเศร้า ๆ …
“พี่ไป๋หยาน ดูนั่นสิ จิ้งจอกนั่นน่ารักจังเลย !”
หลานเสี่ยวหยุนลากไป๋จื่อ พร้อมกับเดินมาอยู่ข้าง ๆ ไป๋ห
ยาน นางมองตรงไปข้างหน้า พลันสายตาของนางก็ปะทะเข้า
กับจิ้งจอกเงิน นัยน์ตาของนางเปล่งประกายเต็มไปด้วยความ
ประหลาดใจ
ในฐานะบุตรสาวของบ้านสกุลหลาน แม้ว่านางจะไม่มี
ความสามารถมากพอที่จะทาสัญญากับสัตว์อสูร หากแต่
อย่างน้อยนางก็มีโอกาสได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง อีกทั้ง
สวยงามเหล่านั้นมาบ้าง …
อย่างไรก็ตาม ไม่มีจิ้งจอกตัวใดที่นางเคยเห็นสามารถเทียบ
จิ้งจอกสีเงินตัวนี้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดวงตากลมโตใสบริสุทธิ์คู่นั้นราวกับน้าพุ
ใส ๆ น่ารักเสียจนทาให้หัวใจของนางเต้นระรัวด้วยความ
ตื่นเต้น
ไป๋เสี่ยวเฉินไม่สนใจสาวน้อยหลานเสี่ยวหยุนเลย เขากลับ
กระโดดข้ามท้องฟ้ายามราตรีพุ่งเข้าหาไป๋หยาน จากนั้นก็ซุก
ตัวเข้าสู่อ้อมแขนของนาง
หางที่อ่อนนุ่มเคลียไล้บนใบหน้าของไป๋หยาน กระทั่งนางอด
ไม่ได้ที่จะบีบจมูกเล็ก ๆ ของจิ้งจอกน้อย
“เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินเหลือบมองเด็กสาวที่อยู่ถัดจากมารดาของตน
เขาไม่กล่าวคาใดเพียงชี้อุ้งเท้าเล็ก ๆ ของเขาไปที่เสี่ยวมี่แทน
เพื่อบอกเป็นนัยว่าเขามากับมัน
ไป๋หยานหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อเห็นเสี่ยวมี่ออกมาจากบ้าน
สกุลไป๋เช่นนี้ นั่นก็หมายความว่าไป๋เซียวยังปลอดภัยดี …