จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 70
บทที่ 70 : ใครยั่วใคร
แล้วไง ?
มากลัวอะไรตอนนี้ ?
“หกปีก่อน เจ้าข่มขืนข้า ครั้นหกปีให้หลัง เจ้าบังคับจูบข้า !
ตอนนี้ข้าจะคิดบัญชีทั้งสองนี้กับเจ้าอย่างไรดี ?”
“ข้าบอกท่านแล้วว่าเรื่องหกปีก่อนนั้นมิใช่ข้า”
อย่างไรเสีย นางก็ไม่มีวันยอมรับความจริง นางไม่มีวัน
ยอมรับเรื่องที่นางทาไว้เมื่อ 6 ปีก่อนเป็นแน่
“เรื่องเมื่อหกปีก่อน พักไว้ก่อน ไว้ข้าจะตรวจสอบอย่าง
ละเอียดเอง เอาล่ะ ทีนี้มาคุยกันเรื่องเมื่อครู่นี้ดีกว่า !”
ตี้คังยื่นมือออกไปคว้าตัวไป๋หยานที่อยู่ข้างหน้า จากนั้นก็
บังคับกดร่างนางลงบนเตียง
ไป๋หยานมิอาจเคลื่อนไหวใด ๆ ได้เลย ขาทั้งสองของนางถูก
น้าหนักตัวของเขากดทับ
“ตี้คัง ท่าน… อึ้มมมม…”
ไป๋หยานโกรธ นางพยายามประท้วง ทว่าก่อนที่จะทันพูดจบ
ริมฝีปากของนางก็ถูกริมฝีปากแดง ๆ ของเขาครอบครอง
จูบของเขาหยาบคาย ทั้งดูเหมือนจะไม่ประสากับการจูบ
ริมฝีปากบอบบางของไป๋หยานไม่คุ้นเคยกับการจูบที่รุนแรง
ต่อเนื่องเช่นนี้ จูบของเขาบดขยี้ กระทั่งริมฝีปากของนางแตก
กลิ่นเลือดกระจายคลุ้งในปาก คนทั้งสองลิ้มรสเลือดที่แผ่ซ่าน
ทั่วลิ้น
ตี้คังเลื่อนมือลงไปลูบไล้ขาอ่อนของไป๋หยานอย่างเผลอไผล
ปลายนิ้วเย็น ๆ ของเขาทาให้ไป๋หยานตัวสั่น นัยน์ตาของนาง
ฉายแววโกรธเคือง
รสชาติของหญิงสาวที่อยู่ภายใต้ร่างของเขาช่างดีเหลือเกิน ดี
เสียจนตี้คังไม่อาจผละออกมาได้โดยง่าย
เดิมที เขาขยะแขยงสตรีทุกคน ทว่าเมื่อครู่ จูบของไป๋หยาน
กลับนุ่มนวลอ่อนหวาน จนเขาไม่รู้สึกสะอิดสะเอียนเช่นเคย
หากแต่กลับอยากสารวจให้ลึกไปกว่าเดิม
ไป๋หยานพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากบุรุษผู้นี้ ทว่าแรงกด
ของเขากลับหนักหน่วงมาก นางจึงทาได้เพียงนอนนิ่ง ๆ ไม่
อาจเคลื่อนไหวใด ๆ
โชคดี… หลังจากที่นางพยายามดิ้นรนอีกครั้ง ขาข้างหนึ่งก็
หลุดพ้นจากพันธนาการ
นัยน์ตาของนางฉายแววแห่งความสุข นางยกเท้าข้างนั้นเตะ
เขาทันที !
หากเป็นครั้งก่อน ๆ ตี้คังคงจะสามารถคว้าขาข้างนั้นได้อย่าง
ง่ายดาย แต่นี่เขากาลังเพลิดเพลินกับรสจูบ ทาให้เขาไม่รู้ตัว
ว่าขาข้างหนึ่งของนางหลุดรอดจากพันธนาการของเขาแล้ว
เช่นนั้น …
เปรี้ยง เท้าของไป๋หยานเตะเข้าที่จุดยุทธศาสตร์ของบุรุษ นั่น
ก็คือเป้ากางเกงของเขา
เตะนี้เป็นดั่งน้าเย็นดับไฟปรารถนาที่พลุ่งพล่านลุกโชนของ
เขาเมื่อครู่ได้ทันที
ใบหน้าของตี้คังเขียวคล้า นัยน์ตาหงส์ที่กระหายเลือดของเขา
เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว “ไป๋หยาน ! เจ้าไม่ต้องการขาของเจ้า
อีกแล้วใช่หรือไม่ ?”
ไป๋หยานรีบจัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง อีกทั้งเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยของนาง
จากนั้นก็รีบก้าวลงจากเตียง
“ตี้คัง ! อย่าคิดว่าจะรังแกข้าได้ ! หากท่านมิได้พยายามบังคับ
ขืนใจข้า ไม่ให้เกียรติข้า ข้าก็คงจะไม่เตะท่าน !”
“อย่าลืมสิว่า เป็นเจ้าที่ยั่วยวนข้าก่อน !” ความเจ็บปวดรวด
ร้าวที่บริเวณเป้า ทาให้ใบหน้าของตี้คังแลดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
เขาอยากจะเดินเข้าไปบีบคอผู้หญิงน่าเกลียดนั่นให้ตายคามือ
เสียจริง ๆ !
ทันใดนั้นเอง ตี้คังก็ยิ้ม ยิ้มของเขาแลดูโหดร้ายน่ากลัว
นัยน์ตาของเขาเปล่งประกายแห่งความแค้นเคืองมากขึ้นเรื่อย
ๆ
“ไป๋หยาน ! เจ้าควรภาวนาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหกปีก่อนมิใช่
เจ้าที่เป็นผู้กระทา หาไม่แล้ว ความเกลียดชังทั้งเก่า และใหม่
จะต้อง…”
ไป๋หยานถามกลับ “แล้วท่านจะทาอย่างไรล่ะ ?”
“ข้าจะกักตัวเจ้าไว้ให้อยู่บนเตียงกับข้าทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้อง
หลับไม่ต้องนอน” ตี้คังก้าวไปข้างหน้าสองก้าว จากนั้นก็ใช้นิ้ว
เรียวยาวบีบคางไป๋หยาน “และเมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้เจ้าร้อง
ขอความเมตตาก็ไร้ประโยชน์ !”
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็พลันสังเกตเห็นเลือดไหลออก
จากริมฝีปากของไป๋หยาน ตี้คังขมวดคิ้ว หน้าผากของเขาย่น
เล็กน้อย “เจ้าเจ็บหรือ ?”
ไป๋หยานปัดมือตี้คังออก พร้อมกับหันไปจ้องเขา ถามอะไรโง่
ๆ ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าท่านเป็นคนทา ไยจะต้องถามอีก ?
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดให้ดี ๆ แล้ว นางก็รู้สึกผิดเพราะตนเอง
เป็นผู้เริ่มก่อน
อย่างที่ชายผู้นั้นว่า … เริ่มแรกนางเองเป็นผู้ยั่วยุเขา เพียงแต่
นางไม่คิดว่าตี้คังจะระเบิดอารมณ์ราวสัตว์ป่าเช่นนี้ …