จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 76
บทที่ 76 : ฮองเฮำมีพระรำชเสำวนีย์ให้เข้ำเฝ้ำ
ทันทีที่ไป๋หยานก้าวผ่านประตูเข้ามา นางก็รู้ว่าไทเฮาถูก
วางยา
พิษชนิดนี้จะค่อย ๆ ส่งผล ทาให้ไทเฮาไม่ทันตระหนัก
“ไป๋หยาน เจ้าหมายถึง…” ไทเฮาหาใช่คนโง่ เช่นนั้นจึงทรง
เข้าพระทัยในสิ่งที่ไป๋หยานกล่าวเป็นนัย ๆ ได้ทันที พระนาง
ขมวดพระขนงเล็กน้อย
ไป๋หยานจ้องพระพักตร์ไทเฮาพลางกล่าวเบา ๆ ว่า “ทูลไทเฮา
จะเป็นการดีที่สุด หากพระองค์จะมีรับสั่งหาหมอปรุงยาที่
เชื่อถือได้มาตรวจพระวรกาย ทรงจาไว้ว่าต้องเป็นหมอปรุง
ยา หากเป็นหมอธรรมดาจะมิสามารถตรวจพระอาการของ
พระองค์พบ”
แท้ที่จริงไป๋หยานเพียงใช้ยาเม็ดเดียวก็สามารถถอนพิษใน
พระวรกายของไทเฮาได้
ทว่าที่นี่คือวังหลวง นางไม่อยากทาอะไรที่จะเป็นการสะดุดหู
สะดุดตา นางจึงเพียงแค่ถวายคาแนะนาไทเฮาเท่านั้น
แน่นอนว่า ทันทีที่ได้ยินถ้อยคาของไป๋หยาน ไทเฮาก็เริ่ม
ครุ่นคิด นางจมอยู่กับห้วงคิดนั้น กระทั่งไม่ทันสังเกตเห็นว่า
ไป๋หยานเดินออกจากห้องโถงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ไป๋หยานออกมาจากพระตาหนักอันหนิง
นางกานัลคนหนึ่งก็มาขวางทางนางไว้
นางกานัลในชุดสีชมพูนางนี้ เชิดคางขึ้นสูงอย่างเย่อหยิ่ง
“คุณหนูไป๋ ฮองเฮามีพระราชเสาวนีย์ให้เจ้าเข้าเฝ้า”
“นางให้ข้าเข้าเฝ้า ข้าก็ต้องเข้าเฝ้ากระนั้นหรือ ?” ไป๋หยาน
เหลือบมองเด็กสาว พร้อมกับยิ้มเยาะ “นางคิดว่านางเป็นผู้ใด
กัน ?”
นางกานัลโกรธ ขณะกล่าวว่า “พระราชเสาวนีย์ของฮองเฮา
เจ้ากล้าขัดงั้นรึ ?”
ไป๋หยานหรี่ตาลงเล็กน้อย ประกายแสงเย็นยะเยือกเปล่ง
ออกมาจากแววตา ทีท่าของนางไม่สะทกสะท้านใด ๆ “หาก
ฮองเฮามีพระประสงค์จะพบข้า ก็ให้มาหาข้าเอง ข้าจะรอที่
อุทยานด้านหลังวัง”
“เจ้า …”
นางกานัลไม่เคยเห็นผู้ใดกล้าปฏิเสธพระราชเสาวนีย์เช่นนี้
เส้นเลือดบนหน้าผากของนางปูดโปน นางอยากจะร้องกรี๊ด
ทว่าเสียงอันเย็นชาของไป๋หยานดังก้องราวกับจะระเบิดแก้วหู
ของนาง
“ไปสิ !”
อยากพบข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็มาหาข้าสิ !
นางกานัลหน้าซีดแทบลืมหายใจ นางทาได้เพียงมองตามหลัง
ร่างที่แสนงดงามในอาภรณ์สีแดงด้วยความประหลาดใจ ร่าง
นั้นเดินตรงไปยังอุทยานด้านหลังของวังหลวง
นางกานัลขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความคิดเดียวที่วิ่งผ่านสมองของ
นางในยามนี้ก็คือ เรื่องนี้ต้องกราบทูลฮองเฮา
ภายในอุทยานด้านหลังวังหลวง บุปผาที่มีกลิ่นหอมมากมาย
หลากหลายชนิดกาลังเบ่งบาน
ไป๋หยานนั่งไขว่ห้างพิงเสาต้นหนึ่งอยู่ในศาลา นางใช้ช่วงเวลา
สั้น ๆ ซึมซับความสงบ และร่มเย็น พร้อมกันนั้นก็เพลิดเพลิน
ไปกับทิวทัศน์ที่งดงามโดยรอบ
กระทั่ง…
ร่าง ๆ หนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในแววตาเต็มไปด้วย
ความโกรธ ข้างกายนางมีไป๋รั่วที่ยามนี้มีสีหน้า และแววตา
เป็นกังวล
กังวลด้วยเรื่องใดกัน ?
น่าจะสาสมใจเสียมากกว่า ไป๋หยานยิ้มเยาะ
“ไป๋หยาน !”
หนิงไต้กราดพระเนตรมอง นางทอดพระเนตรเห็นไป๋หยาน
นั่งอย่างเกียจคร้านอยู่ในศาลา พระขนงของนางเลิกขึ้นสูง
ด้วยความพิโรธ “เจ้ากล้าดียังไง ! นี่คือวังหลวง ข้าสั่งให้เจ้าไป
พบข้า เจ้ากล้าดียังไงถึงขัดคาสั่งข้า ! ช่างโอหังนัก พวกเจ้ามา
นี่ พาตัวนางผู้หญิงคนนี้ไปลงโทษเดี๋ยวนี้ ! ”
“เสด็จแม่” ไป๋รั่วรีบคว้าพระหัตถ์ของฮองเฮาพร้อมกับส่าย
ศีรษะ “ที่พี่สาวของหม่อมฉันทาลงไป เพียงเพราะนางไม่
พอใจหม่อมฉันที่แย่งตาแหน่งของนาง เช่นนั้นนางจึงไม่
ต้องการเข้าเฝ้าพระองค์ นางไม่ได้ต้องการขัดพระทัย
พระองค์จริง ๆ หรอกเพคะ โปรดเว้นโทษนางด้วย”
จากนั้น ไป๋รั่วก็หันมาขยิบตาให้ไป๋หยานเหมือนพยายามส่ง
สัญญาณ “พี่รีบขอประทานอภัยฮองเฮาเถอะ ที่พระองค์มี
พระราชเสาวนีย์ให้พี่เข้าเฝ้าที่พระตาหนักก็เพียงเพื่อจะแจ้ง
ข่าวดีให้พี่ทราบ”
“ข่าวดีกระนั้นหรือ ?” ไป๋หยานเลิกคิ้ว รอยยิ้มของนางยังคง
ไม่เปลี่ยนแปลง “หรือว่าฮองเฮาจะทรงอภิเษกสมรสอีกครั้ง
?”