จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 786-790
บทที่ 786 โม่เฟยลี่ปรากฏตัว
”คนอื่นอาจตายได้ยกเว้นไอ้เวรนี่ เขาไม่มีวันตาย ! อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ เขาพยายามหาทางหนีเอาตัวรอดเพียงลำพัง !” หลงเทียนเยาะเย้ย “เหตุใดเจ้าสำนักมังกรฟ้าคนเก่า ๆ ของเจ้าจึงมีอายุไม่ถึง 60 ปี ก็เป็นเพราะไอ้เฒ่านั่นใช้พลังชีวิตของคนพวกนั้นมาหล่อเลี้ยงตนเอง ด้วยวิธีนี้เขาก็สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตของเขาไว้ เพื่อฝึกฝนให้แข็งแกร่ง ก่อนที่จะออกมาอีกครั้ง”
สำหรับผู้ฝึกฝนนั้นหากยังไม่สามารถฝึกถึงขั้นสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ การมีอายุยืนยาวมาก ๆ นั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เช่นนั้นบางคนจึงพยายามใช้วิธีพิสดาร และหาวิธีอื่น ๆ ทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองมีอายุยืนยาว …
“เอาล่ะเขาจะยอมออกมาดี ๆ หรือไม่ ?” ปากของหลงเทียนเหยียดเยาะยิ่งกว่าเดิม “หาไม่วันนี้ข้าก็คว่ำสำนักมังกรฟ้าให้ราบคาบ ข้าอยากจะรู้นักว่า ครานี้เขาเต็มใจที่จะออกมาดี ๆ หรือไม่ ?”
กรรรรรรร!
เสียงมังกรคำรามลั่นออกมาจากปากของหลงเทียนเว้นแต่เหวินหยุนเฟิงผู้ซึ่งได้รับการปกป้องจากเขาแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกได้ถึงการกดขี่ หัวใจของพวกเขาอึดอัดจนแทบจะระเบิดได้ทุกช่วงเวลา
เสียงคำรามของหลงเทียนราวกับพลังคลื่นกระแทกเป็นระลอก ๆ กระทั่งพื้นดินสั่นสะเทือน
หวู่เฮ่ากุมหัวใจตนเองแน่นใบหน้าชราภาพของเขาซีด เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจ้าวมังกรฟ้าหลงเทียน เหตุใดคนผู้นี้จึงอยากพบคนที่ตายไปตั้งหลายปีแล้ว ก็ปรมาจารย์ของเขาเสียชีวิตไปแล้ว จะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร ?
ขณะที่ในใจของหวู่เฮ่ากำลังนึกเย้ยหยันร่างแปลก ๆ ก็พุ่งมาจากด้านหลังเขาสำนักมังกรฟ้า จนทำให้หวู่เฮ่ามีสีหน้าตื่นตระหนก พลันร่างของผู้มาใหม่ที่เล็กเหมือนลิง ก็พุ่งเข้ามาที่นั่นอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นชั่วอึดใจร่างของชายผู้นั้นก็เด่นชัดในสายตาของทุกคน …
เขาเป็นชายร่างเล็กผอมกระทั่งไม่สามารถบอกอายุของเขาได้จากใบหน้า อาจเป็นเพราะเขาไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์มานานหลายปี ใบหน้าของเขาจึงค่อนข้างซีดกระทั่งไร้สีเลือด เสื้อคลุมขาดวิ่นมอมแมม ราวกับใส่เพื่อคลุมส่วนสำคัญของร่างกายไว้เท่านั้น
ทันทีที่ชายผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นคนของสำนักมังกรฟ้าพลันเงียบกริบ ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง มีบางคนร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น
การที่โม่เฟยลี่แก้ไขประวัติของสำนักมังกรฟ้าย่อมสามารถเข้าใจได้ว่าบุคคลผู้นี้จะต้องหยิ่งยโสมาก ๆ หลายร้อยปีที่ผ่านมา สิ่งแรกที่ศิษย์สำนักมังกรฟ้าต้องทำทุกเช้าคือการเคารพบูชาภาพวาดของเขา
เช่นนั้นภาพของเขาจึงจารึกอยู่ในใจของศิษย์ทุกคนในสำนักมังกรฟ้า
ทว่า…
ชายที่ยืนอยู่สูงเหนือพวกเขาต่อหน้ากรงเล็บมังกร คือคนที่พวกเขาเคารพกราบกรานมาตลอดหลายปีที่ผ่านมากระนั้นรึ ?
เหตุใดจึงดูไม่เหมือนภาพนั้นเลย…
หากไม่ใช่เพราะใบหน้าที่แลดูคุ้นเคยแล้วคงไม่มีผู้ใดสามารถเชื่อมโยงชายที่อยู่เบื้องหน้าเขากับปรมาจารย์เจ้าสำนักคนแรกของสำนักมังกรฟ้าได้เป็นแน่
”ท่านโม่ท่านตายไปแล้วมิใช่หรือ ?” หวู่เฮ่าจ้องมองชายผู้ซึ่งเพิ่งแสดงตัวออกมา
ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรเขาก็คิดไม่ออก ว่าเหตุใดโม่เฟยลี่ถึงยังมีชีวิตอยู่ ?
แม้แต่เล่งชิงชางที่อยู่ท่ามกลางเปลวไฟก็ลืมที่จะกรีดเสียงร้องเพราะดวงตาทั้งคู่ของนางมัวแต่จับจ้องมองไปที่โม่เฟยลี่ ความตกใจของพวกเขาไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด
ยิ่งไปกว่านั้นการที่โม่เฟยลี่ออกมาปรากฏตัวครั้งนี้ นางก็หวังว่าเขาจะช่วยนางให้หลุดพ้นจากสภาพเลวร้ายเช่นนี้เสียที …
ทว่าน่าเสียดายที่โม่เฟยลี่ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาเลยเขากำลังมองชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยอาการตื่นตะลึงเนื้อตัวสั่นเทา “จ้าวมังกร … หลงเทียน นี่ท่านยังมีชีวิตอยู่อีกกระนั้นหรือ ?”
สัตว์อสูรย่อมมีอายุขัยที่ยาวนานกว่ามนุษย์แต่จะยาวนานเพียงใด อย่างไรเสียสักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องตาย
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะฝึกฝนจนก้าวหน้าต่อไปเรื่อย ๆ เขาก็จะสามารถเพิ่มอายุขัยของตนได้ หากแต่หลงเทียนยังสามารถยืนอยู่ที่นี่ ด้วยรูปลักษณ์เดิม เช่นเดียวกันกับเมื่อหลายร้อยปีก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา … ได้บุกทะลุถึงจุดที่โม่เฟยลี่ต้องเกรงกลัว
”เจ้ายังไม่ตายข้าจะตายได้อย่างไร ?” หลงเทียนเย้ยหยัน “อีกอย่าง หากข้าตาย ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าทำอะไรลับหลังข้าบ้าง”
***จบบทโม่เฟยลี่ปรากฏตัว***
บทที่ 787 : หายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (1)
โม่เฟยลี่รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากแข้งขาของเขาอ่อนยวบ หากเขาไม่ได้อยู่ต่อหน้าสานุศิษย์ของตน เขาคงจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน
ถึงกระนั้นกลุ่มสำนักมังกรฟ้าก็ตระหนักได้ถึงความหวาดกลัวของโม่เฟยลี่
”จ้าวมังกรฟ้า…ท่านเทียนหลงข้าเพียงสร้างเรื่องตลก ๆ เล่น ไม่ได้จริงจังอะไร” ใบหน้าของโม่เฟยลี่แสดงรอยยิ้มแหย ๆ ทว่าแสยะน่าเกลียดกว่าการร้องไห้เสียอีก เขาไม่รู้ว่ายามนี้เกิดอะไรขึ้น และควรทำเช่นไรต่อไปดี
ถ้อยคำดังกล่าวราวกับก้อนหินกระทบน้ำในทะเลสาบอันเงียบสงบก่อให้เกิดความโกลาหลภายในสำนักมังกรฟ้าทั้งหมด
จ้าวมังกรฟ้ากระนั้นรึ?
เขาเรียกชายผู้นี้ว่าจ้าวมังกรฟ้าหลงเทียน ฉายาที่เป็นดั่งตำนานของสำนักมังกรฟ้างั้นรึ ?
ทว่าจ้าวมังกรฟ้าถูกปรมาจารย์โม่เฟยลี่พิชิตนี่เหตุใดจึงกลายเป็นว่าปรมาจารย์มองเขาด้วยความหวาดกลัว … เช่นนี้ได้?
ทุกคนต่างตกตะลึงในหัวใจทั้งยังไม่ลืมว่ามังกรตัวนี้มาที่นี่ เพราะสตรีที่ชื่อไป๋หยาน และไป๋หยานก็เป็นคนจัดการเล่งชิงชางขั้นเด็ดขาด…
”เฮอะ!” หลงเทียนตะคอกอย่างเยือกเย็นมุมปากของเขายกโค้งขึ้นอย่างประชดประชัน “เรื่องตลกกระนั้นรึ ? หากเป็นเรื่องตลก สำนักมังกรฟ้าจะบันทึกไว้เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของสำนักกระนั้นหรือ ?”
เรื่องตลก?
ขอบคุณที่ไอ้เฮงซวยนั่นพูดออกมาได้!
”ข้าไม่เชื่อว่านี่เป็นเพียงเรื่องตลก!” เหวินหยุนเฟิงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ พลางยิ้มน้อย ๆ “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าได้ยินมาว่าสำนักมังกรฟ้าสร้างชื่อเสียงมาจากการปราบมังกรโดยเฉพาะในประวัติศาสตร์ของสำนักมังกรฟ้าบันทึกไว้ว่า โม่เฟยลี่เผชิญหน้ากับผู้นำเผ่ามังกร ฉายาจ้าวมังกรฟ้าอย่างอาจหาญ และสามารถกำราบมังกรได้ จึงตั้งชื่อสำนักว่า สำนักมังกรฟ้า ในครานั้นมีมังกรนับหมื่นโจมตีสำนักมังกรฟ้า ทว่าโม่เฟยลี่ก็สามารถเอาชนะได้ทั้งหมด กระทั่งแม้แต่ผู้นำมังกร หลงเทียน ก็ยังต้องกลายมาเป็นข้ารับใช้เขา”
หลงเทียนมองด้วยสายตาดุดันขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องมองโม่เฟยลี่ผู้ซึ่งกำลังเหงื่อออกท่วมตัวอย่างเย็นชา พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
”โม่เฟยลี่ข้าไม่รู้ว่าเผ่ามังกรของข้ามาล้อมพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อใด เจ้าต่างหากที่เป็นคนศิโรราบให้แก่เผ่ามังกร ยอมลดตัวมาเป็นทาสของข้า แค่บังเอิญว่าข้ากลับไปแดนอสูร และไม่ได้กลับมาที่นี่นานหลายปี ข้าเลยถูกเจ้าใส่ร้ายบิดเบือนเรื่องราวไปหมดกระนั้นรึ ?”
เสียงของหลงเทียนนั้นแข็งแกร่งมากทั้งน้ำเสียงของเขาก็ดูมีอำนาจทุก ๆ คำ
โม่เฟยลี่รู้สึกเพียงว่าภูเขายักษ์กำลังกดทับเขาทั้งเขาก็อึดอัดเกินกว่าจะหายใจได้สะดวก หัวของเขาพลันก้มต่ำลงเรื่อย ๆ ไม่เหลือแม้พลังในการเงยหน้าขึ้น …
”เมื่อในวันนี้สำนักมังกรฟ้ากลับมากดขี่ข่มเหงข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อไปแล้ว”
หลงเทียนโบกแขนเสื้อขึ้นพลันเปลวไฟจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปะทุขึ้นโดยรอบในทันทีชั่วขณะนั้นทั่วทั้งสำนักมังกรฟ้าก็ตกอยู่ในทะเลเพลิง
”อย่างไรก็ตามข้าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์อย่างไม่แยกแยะ เว้นแต่โม่เฟยลี่และเล่งชิงชางแล้ว คนที่เหลือสามารถไปได้ หากแต่นับจากนี้ไป พวกเจ้าต้องไม่เรียกตนเองว่าเป็นศิษย์ของสำนักมังกรฟ้าอีก และ…ต้องเผยแพร่ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของสำนักมังกรฟ้าต่อไป”
เผ่ามังกรนั้นเป็นพวกรักหน้ารักศักดิ์ศรีตนเองมากบัดนี้มาได้ยินมาว่าโม่เฟยลี่กดเขาลงเช่นนี้ หลงเทียนจะทนได้อย่างไร ?
เขาจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้กดหัวอันเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีอันยิ่งใหญ่ของเขา!
“ไม่นะ!” เล่งชิงชางตะโกนออกมาด้วยอาการตื่นตระหนก คลื่นความร้อนพัดมาอีกครั้ง โดยโหมเข้าสู่ร่างของนางกระทั่งล้มลงกับพื้น
นางมองไปที่เหล่าศิษย์ของสำนักมังกรฟ้าที่กำลังตื่นตระหนกระส่ำระสายพลางพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง”พวกเจ้าอย่าเพิ่งไป หากพวกเจ้าจะไปก็พาข้าไปด้วย ! ข้าเป็นเจ้าสำนักมังกรฟ้า พวกเจ้าไม่ควรทิ้งข้า !”
น่าเสียดายที่สานุศิษย์เหล่านั้นไม่มีเวลาสนใจสิ่งใดแล้วจึงไม่มีผู้ใดใส่ใจเล่งชิงชางเลยแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุด…
ผู้คนทั้งสำนักมังกรฟ้าก็จากไปจนสิ้นจะเหลือก็เพียงสองคนที่หลงเทียนบอกไว้ และหวู่เฮ่าอีกคนหนึ่งเท่านั้น
***จบบทหายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (1)***
บทที่ 788 : หายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (2)
”จ้าวมังกรหลงเทียน”ใบหน้าของโม่เฟยลี่แลดูร้อนรนเป็นอย่างมาก “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากบิดเบือนเรื่องของท่านแล้ว ข้าก็ไม่ได้กระทำสิ่งใดที่จะเป็นภัยต่อเผ่ามังกรเลย ท่านช่วยถือว่าข้ารู้เท่าไม่ถึงการ โปรดปล่อยข้าไปจะได้หรือไม่ ?”
ประโยคสุดท้ายเขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งด้วยเกรงว่าเขาจะทำหลงเทียนโมโหโดยไม่ตั้งใจ
”โมเฟยลี่! ก่อนหน้านี้ข้าเคยให้โอกาสเจ้าแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่รักษาให้ดีเอง เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ควรตำหนิข้า !” หลงเทียนตำหนิ “ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ลูกหลานของเจ้าทำให้ราชินีแห่งแดนอสูรของข้าต้องขุ่นเคือง ! หากมิใช่เพราะคำพูดชุ่ย ๆ ของเจ้า ลูกหลานของเจ้าคงจะไม่กล้ากระทำเรื่องผิดเช่นนี้ ดังนั้น … เจ้าทั้งคู่ต้องตาย !”
หากมิใช่เพราะมีการดัดแปลงแก้ไขประวัติศาสตร์ของสำนักมังกรฟ้าคนของสำนักมังกรฟ้าก็จะไม่คิดว่าพวกตนสามารถปราบมังกรได้ หากเล่งชิงชางไม่คิดนำมังกรน้อยกลับมา นางก็จะไม่มีโอกาสได้คุกคามราชินี
เช่นนั้นหลงเทียนจึงไม่อาจปล่อยผู้กระทำผิดไว้ได้ …
อาจเป็นเพราะข้อสรุปของหลงเทียนนั้นไม่อาจโต้แย้งได้จริงๆ โม่เฟยลี่จึงทำได้เพียงรีบวิ่งไปยังด้านหลังเขา หากแต่วิ่งไปได้ไม่ไกลนักกรงเล็บขนาดยักษ์ก็ตะปบลงมาจากท้องฟ้า ตบร่างเขาอย่างแรง
และเมื่อหลงเทียนถอนกรงเล็บขึ้นร่างบนพื้นดินนั้นก็กลายเป็นพายเนื้อเละ ๆ ไปแล้ว หมดสิ้นโอกาสที่จะลุกขึ้นมาได้อีกต่อไป …
”ท่านเจ้าตำหนักน้อยข้าน้อยจัดการเรื่องทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้ข้าน้อยต้องไปพบราชินีแล้ว”
หลงเทียนหันกลับไปมองเหวินหยุนเฟิงด้วยนัยน์ตาที่มีรอยยิ้ม
เหวินหยุนเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย”ท่านไปเถิด”
”แล้วคราหน้าหากข้าว่าง ข้าจะไปเยี่ยมเจ้าตำหนักน้อยอีกครั้ง”
หลงเทียนหันหน้าชั่วพริบตาก็เหาะหายไปภายใต้ท้องฟ้า
เขาจากตำหนักเซียนพยับหมอกไปนานหลายปีบัดนี้เขาได้กลับมาแล้ว เช่นนั้นเขาน่าจะไปที่เผ่ามังกร เพื่อพบกับลูกหลานของเขาบ้าง …
เหวินหยุนเฟิงมองไปยังทิศทางที่หลงเทียนหายไปในหมู่เมฆหมอก
เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่มังกรผู้ซึ่งมีชื่อเสียง และทรงอำนาจในประวัติศาสตร์ของเผ่ามังกรจะมาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขา เอ่ยกล่าวกับเขาด้วยความเคารพนบนอบ …
”เจ้าตำหนักน้อย…”หวู่เฮ่าเอ่ยด้วยสายตาระแวดระวัง เพราะเกรงว่าเหวินหยุนเฟิงจะคิดบัญชีกับเขาด้วย
เหวินหยุนเฟิงถอนสายตาของเขาอย่างรวดเร็วสายตาเย็นชาของเขาจับจ้องมองเล่งชิงชางผู้ซึ่งยามนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยเปลวไฟ พลางเอ่ยปากว่า “นับแต่นี้สำนักมังกรฟ้าก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว !”
สำนักมังกรฟ้าแต่เดิมก็เป็นเพียงสำนักระดับสองไม่แตกต่างจากสำนักสัตว์อสูร ทว่าสำนักที่แข็งแกร่งเช่นนี้กลับถูกทำลายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น …
หลังจากเอ่ยประโยคนี้แล้วเหวินหยุนเฟิงพลันสะบัดแขนเสื้อของเขา และหันหลังเดินกลับไปอย่างช้า ๆ ร่างสูงของเขาก็ค่อย ๆ หายไปราวกับสายลมบางเบา
ดวงอาทิตย์ส่องแสงเปลวไฟสีแดงเผาผลาญสำนักมังกรฟ้ากินพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่เป็นเวลานานหลายวันก่อนที่จะสงบลง ยามนี้สำนักมังกรฟ้าและเล่งชิงชางกลายเป็นเถ้าธุลี และล่องลอยไปกับสายลมกระจายไปทุกส่วนของตำหนักเซียนพยับหมอก …
*****
เผ่ามังกรมีฐานที่ตั้งอยู่ในทะเลเหนือของตำหนักเซียนพยับหมอก ในทะเลที่มีคลื่นความร้อนสาดซัดลูกแล้วลูกเล่าไม่สิ้นสุด
ในทะเลลึกของทะเลเหนือมีหุบเขาลึกทอดยาวหลายพันจ้าง หุบเขาลึกนี้เรียงราย และซุกซ่อนอยู่ท่ามกลางภูเขาสูงชัน อีกทั้งมีคาถาเวทโอบล้อม เช่นนั้นผู้คนในโลกนี้จึงไม่ทราบว่ามีเผ่ามังกรซ่อนตัวอยู่ในทะเลลึก
อย่างไรก็ตาม… นอกเหนือจากการซุกซ่อนอยู่ในหุบเขา คาถานี้ยังสามารถแยกน้ำทะเลได้ด้วย แม้ว่าธรรมชาติของเผ่ามังกรจะไม่กลัวน้ำ แต่การอาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
เช่นนั้นชนเผ่ามังกรที่อาศัยอยู่ในทะเลลึกจะใช้คาถาแยกน้ำ เพื่อสร้างกำแพงเวทป้องกันน้ำทะเล
***จบบทหายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (2)***
บทที่ 789 : หายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (3)
ยามนี้ภายในถ้ำมืด ๆ ในภูเขาหลงซาน เด็กหญิงแสนน่ารักและบอบบางคนหนึ่งถูกผูกติดอยู่กับเสา ดวงตากลมโตของนางดื้อรั้น และโกรธเคือง นางหันไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวเบื้องหน้าที่พยายามเชิญชวนนาง พลางกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่กล่าวแม้คำ
”เด็กน้อยข้าไม่ได้ใจร้ายกับเจ้านะ แท้ที่จริงเป็นเพราะท่านอาจารย์ของข้าคิดถึงหลานสาวมานานหลายปี และที่สุดข้าก็พบนาง แต่เป็นเพราะเจ้าทำให้นางหนีไปได้ เช่นนั้นเจ้าต้องรับผิดชอบเรื่องนี้”
หลงเอ๋อก้มหัวของนางลงมือของนางกำแน่น แล้วนางก็เงยหน้าขึ้น เผชิญหน้ากับหญิงผู้นั้นพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ
“เจ้าบอกว่าเจ้าจะไม่ทำอันตรายข้า เหตุใดเจ้าต้องมัดข้าไว้ด้วยล่ะ และผู้ที่เจ้าให้มาจับไต้ไต้ ก็เห็นได้ชัดว่าเจตนาไม่ดี ข้าไม่เชื่อเจ้า เจ้าปล่อยข้าไปไว ๆ หาไม่แล้ว หากราชินีมาพบเข้า นางจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
หญิงผู้นั้นหัวเราะเยาะพลางยกมือขึ้นจับคางของหลงเอ๋อ เอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก “ราชินีกระนั้นรึ ? เจ้าน่าจะพูดถึงราชินีของมนุษย์บนแผ่นดินใหญ่นั่นล่ะสิ ? กะแค่ราชินีตัวเล็ก ๆ จะทำอะไรเผ่ามังกรของเราได้ ? แม่หนูน้อย เจ้าช่างไร้เดียงสาเสียจริง”
ในเผ่าสัตว์อสูรนั้นไม่มีผู้ใดเรียกผู้นำว่าราชาหรือราชินี ทุกคนจะถูกเรียกว่าเป็นหัวหน้าเผ่าต่าง ๆ นางจึงเข้าใจว่า ราชินีที่หลงเอ๋อกล่าว เป็นราชินีของมนุษย์ธรรมดา ๆ
และถึงแม้ว่าราชวงศ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีสถานะสูงส่งทว่าก็ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขา เพราะทักษะการต่อสู้ของมนุษย์พวกนั้นอย่างไรเสียก็ต่ำต้อยกว่าเผ่ามังกรมาก ยังกล้ามาสร้างปัญหาให้กับเผ่ามังกรอีกกระนั้นรึ ?
เด็กน้อยคนนี้ช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ…
หลงเอ๋อนิ่งเงียบไปเพียงครู่นางจ้องมองหญิงผู้นั้นอย่างงง ๆ “ราชินีและองค์ชายน้อยนั้นทรงพลังมาก พวกเขาจะต้องมาช่วยข้าอย่างแน่นอน”
ราชินีกระนั้นรึ?
รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงผู้นั้นแย่ยิ่งกว่าเดิมมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่เรียกเช่นนี้
เผ่าอสูรอย่างเราไม่เรียกกันเช่นนี้หรอก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หญิงผู้นี้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเพราะแดนอสูรถูกผนึกมาเป็นเวลานานหลายพันปี หากแต่ดูไปแล้วอายุของนางก็ไม่น่าจะเกินพันปีด้วยซ้ำ
”เด็กน้อย…ข้าไม่ต้องการทำร้ายเจ้าหากเจ้าเชื่อฟังข้า ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้าไม่ฟังคำสั่งของข้า ข้าก็จะสังหารเจ้า และไปตามหาหลงไต้ไต้ด้วยตนเอง”
หญิงผู้นั้นดึงมีดสั้นออกมาจ่อคอข่มขู่หลงเอ๋อ
หลงเอ๋อตกตะลึงนางไม่กลัวความตาย ทว่า … หากนางตาย หญิงผู้นี้ก็จะออกไปตามหาหลงไต้ไต้อีก และด้วยความแข็งแกร่งของหลงไต้ไต้ นางจะต้องถูกเผ่ามังกรจับตัวมาอีกเป็นแน่
หลังจากคิดเพียงครู่นางก็กัดริมฝีปากพลางเอ่ยถามว่า “เจ้าอยากให้ข้าทำสิ่งใด ?”
”ง่ายมากอาจารย์ของข้าเอาแต่พูดถึงหลานสาวของเขามาเป็นเวลานานแล้ว ทว่าเขาก็ไม่เคยพบเด็กบ้า…หลงไต้ไต้…นั่นเลย ข้าเพียงต้องการให้เจ้าปลอมเป็นนาง เจ้าไม่ต้องกังวลใด ๆ ข้าจะช่วยจัดการปลอมแปลงเจ้าเอง”
ประกายแสงวาบส่องเข้ามาในดวงตาของหญิงผู้นั้นนางไม่ควรใจอ่อนเลย ในครานั้น นางไม่น่าปล่อยหลงไต้ไต้ นางน่าจะรัดคอเด็กคนนั้นให้ตายเสียตั้งแต่เกิด !
ถึงกระนั้นในครานั้นนางก็เอาเด็กที่ตายแล้วมาหลอกลวงทุกคน จากนั้นนางก็โยนหลงไต้ไต้ซึ่งยังเป็นทารกลงไปยังหุบเขาที่มีแต่สัตว์ร้ายที่แสนอันตรายเป็นที่สุด
ไม่คาดคิดว่าหลงไต้ไต้จะสามารถมีชีวิตรอดจากหุบเขาสัตว์ร้ายนั้นมาได้ ทั้งชายชราก็รู้ว่าหลงไต้ไต้ยังไม่ตาย เช่นนั้นนางจึงต้องเริ่มออกตามหาหลงไต้ไต้โดยหวังว่าจะได้พบหลงไต้ไต้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่นางจะได้ควบคุมหลงไต้ไต้ได้
ทว่า…
เพราะเด็กคนนี้หลงไต้ไต้จึงหนีไปได้ ! เรื่องที่หลงไต้ไต้หนีไป หาใช่เรื่องสำคัญไม่ เพราะสำหรับนางแล้ว นางไม่ต้องการให้หลงไต้ไต้กลับมาที่เผ่ามังกรมากกว่า
หลงเอ๋อเงยหน้าขึ้น”หากข้าช่วยเจ้า เจ้าจะปล่อยไต้ไต้ไปใช่หรือไม่ ?”
”แน่นอน”หญิงผู้นั้นเชิดริมฝีปากของนางพลางยิ้ม “ข้า…หลงหยู…พูดคำไหนคำนั้น ตราบเท่าที่เจ้าแกล้งเป็นหลงไต้ไต้ ข้าก็จะไม่บังคับให้นางกลับมาที่เผ่ามังกร”
***จบบทหายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (3)***
บทที่ 790 : หายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (4)
ที่นางไม่บังคับให้หลงไต้ไต้กลับคืนสู่เผ่ามังกรก็เป็นเพราะ… เมื่อมีตัวปลอม หลงไต้ไต้ก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่
น่าเสียดายที่หลงเอ๋อมองไม่เห็นความร้ายกาจในแววตาของหญิงผู้นั้นนางคิดถึงแต่ความปลอดภัยของหลงไต้ไต้เท่านั้น ดังนั้นเมื่อหญิงผู้นั้นให้ความมั่นใจ นางก็พยักหน้าน้อย ๆ “ได้สิ ข้ายอมรับ หากแต่เจ้าต้องปล่อยไต้ไต้จริง ๆ นะ”
อย่างไรก็ตามเรื่องที่นางสัญญาก็เป็นเพียงภารกิจชั่วคราวเท่านั้น เพราะหลังจากที่ราชินีรู้ว่านางอยู่ที่ใด ราชินีจะต้องมาช่วยนางอย่างแน่นอน
“แต่…”หลงเอ๋อขมวดคิ้วอย่างน่ารัก “เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่า ก่อนหน้านี้เจ้าใช้อะไรจัดการกับข้า ?”
เดิมทีคนพวกนี้ไม่อาจจับนางได้อยู่แล้ว ทว่าในช่วงเวลาวิกฤต หลงหยู ได้นำของบางอย่างออกมา เพื่อกักขังร่างของนาง เช่นนั้น … นางจึงถูกหลงหยูจับได้
”ที่จริงข้าได้ของสิ่งนี้มาจากแท่นบูชาของเผ่ามังกรโดยไม่ได้ตั้งใจ” หลงหยูกล่าว พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย “มันน่าที่จะเป็นสมบัติล้ำค่าของเผ่ามังกร นั่นก็คือ โลหิตธาตุ !”
โลหิตธาตุงั้นหรือ?
หลงเอ๋อเบิกตาที่ไร้เดียงสาของนางกว้างด้วยความสงสัยนางมองหลงหยูอย่างงงงวย
”ข้าเองก็ไม่ทราบที่มาของโลหิตธาตุนี้คาดกันว่าอาจจะเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเผ่ามังกรเหลือทิ้งไว้”
”ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่? … ”
หลงเอ๋อลังเลชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถาม
อาจเป็นเพราะหลงเอ๋อรับปากทำงานให้นางหลงหยูเลยอารมณ์ดี นางจึงหยิบขวดขึ้นมาแล้วค่อย ๆ เปิดฝาอย่างระมัดระวัง ทันใดนั้นเอง ก็มีแรงผลักดันหลั่งไหลท่วมท้นออกมา ทำให้ร่างของหลงเอ๋อแข็งค้างอีกครั้ง
เดิมทีหลงหยูอยู่ห่างไกลจากนาง เช่นนั้นนางจึงไม่เห็นโลหิตธาตุนี้ ตอนนี้เมื่อได้เห็นโลหิตธาตุในขวด ความรู้สึกซับซ้อนพลันปรากฏขึ้นในหัวใจของนาง
แท้จริงที่โลหิตธาตุทำให้นางหยุดชะงักตัวแข็งค้าง ไม่ใช่เกิดจากอำนาจของโลหิตธาตุนั่นหรอก ทว่าโลหิตธาตุทำให้ความรู้สึกหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของนางจนท่วมท้นนับไม่ถ้วน
เป็นความเคารพบูชา และ … หวาดกลัว
เป็นความรู้สึกที่แผ่กระจายออกมาจากโลหิตธาตุราวกับว่าเจ้าของโลหิตธาตุนี้จะมีความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ออกกับนาง
หลงเอ๋อกระพริบตาด้วยสมองเล็ก ๆ ของนางที่เพิ่งเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่นาน ทำให้นางยังไม่เข้าใจเรื่องที่ซับซ้อนเช่นนี้
”เมื่อเจ้าดูจนพอใจแล้วก็กินยานี่ซะ”
หลงหยูเก็บขวดนั้นกลับคืนไปก่อนจะหยิบยาเม็ดออกมา ใส่เข้าไปในปากของหลงเอ๋อพลางกล่าวเยาะ “เด็กน้อย เจ้าคงสงสัยสิว่า ข้าให้เจ้ากินอะไร? นี่เป็นยาพิษที่ข้าได้มาจากมนุษย์เมื่อหลายปีก่อน หากเจ้าเชื่อฟังข้า เมื่อข้าบรรลุเป้าหมาย ข้าก็จะให้ยาถอนพิษแก่เจ้า”
”แต่หากเจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้า… ” หลงหยูหรี่ตาของนางลงเล็กน้อย “เจ้าและหลงไต้ไต้ก็จะมีจุดจบเช่นเดียวกัน นั่นก็คือความตาย !”
เด็กน้อยนี้ไม่ใช่จะจัดการได้ง่ายๆ
นางยังจำได้ว่าครั้งที่นางให้คนเผ่ามังกรโอบล้อมเด็กน้อยไว้ นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่ามังกรตัวใดที่เข้าใกล้เด็กน้อยกลับต้องล้มลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ หากไม่มีโลหิตธาตุนี้ นางก็คงไม่อาจจับเด็กคนนี้ได้
เช่นนั้น…หากนางไม่วางยาพิษเด็กนี่นางก็ไม่อาจวางใจได้
ท่าทีของหลงเอ๋อไม่ได้เปลี่ยนไปมากมายนักในใจของนาง ไป๋หยานเป็นคนที่สามารถแก้ไขได้ทุกอย่าง เมื่อไป๋หยานมาถึง พิษนี้ก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน …
”เจ้าต้องการให้ข้ากระทำสิ่งใดให้เจ้า?” นางกัดริมฝีปากสีชมพูของนาง พลางมองหลงหยูด้วยแววตาดื้อรั้น “หากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าทำร้ายปู่ของไต้ไต้ ข้าไม่ทำแน่นอน ต่อให้เจ้าวางยาข้า ข้าก็ไม่ช่วยเจ้า”
***จบบทหายนะบังเกิดแก่เผ่ามังกรแล้ว (4)***