จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1071 -1075
บทที่ 1071 : ความโกรธของไป๋หยาน (10)
”ทำเช่นไรดี…”หลิวชิงหยูกล่าวด้วยน้ำเสียงว้าวุ่น “หากนางตาย เราทั้งคู่ก็ไม่รอด !”
หลังจากกลับสู่อาณาจักรวิญญาณแล้วมิใช่ว่าหลิวชิงหยูจะไม่พยายามถอนพิษด้วยตนเอง ทว่านางใช้ทุกวิถีทางแล้ว ก็ยังไม่สามารถขจัดพิษในร่างกายได้
นี่ย่อมพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ตราบเท่าที่ไป๋หยานยังมีชีวิตอยู่ หากวันใดไป๋หยานตาย พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
ไม่มีทาง!
นางต้องช่วยตนเอง!
”คุณหนู…ไว้เย็นนี้เราค่อยพยายามหาทางออกจากอาณาจักรวิญญาณอีกครั้งหลังจากไปครั้งนี้แล้ว พวกเราก็จะไม่หวนกลับมาอีก”
จุนห่าวลดสายตาลงพลางถอนหายใจเบา ๆ เอ่ยกล่าว
หากเขาและหญิงสาวหายตัวไปในช่วงเวลาเช่นนี้เจ้าแดนวิญญาณคงคิดว่าพวกเขาเป็นผู้แจ้งเบาะแส และหากกลับมาก็ต้องเผชิญปัญหาใหญ่เป็นแน่ !
เช่นนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถกลับมาที่นี่ได้อีกแล้ว
ร่างของหลิวชิงหยูสั่นไหวนางหลุบตาลงราวกับกำลังไตร่ตรอง
นางไม่มีความรู้สึกอาลัยอาวรณ์อาณาจักรวิญญาณมากนักนอกจากนี้นางเองก็ต้องการเพียงรอดูอาณาจักรวิญญาณล่มสลาย ทว่า …
ในสถานที่แห่งนี้นั้นมีความทรงจำเกี่ยวกับนางและมารดาของนางมากเหลือเกิน
ยามนี้เมื่อจำเป็นต้องจากไปจริงๆ หัวใจของนางรู้สึกราวกับจะไม่เต็มใจนัก
”ลุงจุน”หลิวชิงหยูกล่าวพร้อมรอยยิ้มบิดเบี้ยว “แต่นอกเหนือจากวิธีนี้แล้ว เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีก หากท่านแม่ของข้ายังมีชีวิตอยู่ นางก็คงหวังว่า ข้าจะสามารถหลบหนีออกจากอาณาจักรวิญญาณนี่ได้ จากนั้นข้าก็จะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง และไม่มีอะไรผูกมัดอีกต่อไป”
นางหลับตาลงด้วยสีหน้าเจ็บปวด
”คุณหนู…”สีหน้าของจุนห่าวเจ็บปวดตามไปด้วย “จะไปเคารพสุสานนายหญิงก่อนหรือไม่ ?”
หลิวชิงหยูส่ายศีรษะ”ไม่…หากทำเช่นนั้นมีแต่จะกระตุ้นความสงสัยของตาเฒ่านั่น เราจะออกเดินทางยามวิกาล”
นางแหงนเงยมองท้องฟ้าสีครามนอกบ้าน
บางที…นางอาจไม่มีโอกาสได้เห็นท้องฟ้าของอาณาจักรวิญญาณอีกต่อไป…
ในคืนนั้น…
ยามค่ำคืนที่ชุ่มฉ่ำ
หลิวชิงหยูสวมชุดคลุมอำพรางเพื่อเดินทางกลางคืน นางก้าวย่างอย่างรวดเร็วไปยังลานบ้าน
ติดตามหลังนางมาคือชายชราผมสีดอกเลาในชุดอำพรางยามราตรีสีดำเพื่อที่จะได้กลมกลืนไปกับความมืดมิดเช่นกัน
หลิวชิงหยูมองเห็นยามเฝ้าประตูจากระยะไกลนางขยิบตาให้ลุงจุน ทันทีที่ลุงจุนเห็น ร่างของเขาก็กระพริบวาบ ก่อนจะปรากฏขึ้นเบื้องหน้ายามเหล่านั้น
พร้อมเสียงดังโครมหมัดของเขาก็กระแทกเข้าใส่พวกยามล้มลงกับพื้น ลุงจุนทำเสียงฮึดฮัด พร้อมกับปาดหยาดเหงื่อออกจากหน้าผาก เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะหันไปหาหลิวชิงหยู
ยามนี้คบเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนพลันสว่างขึ้นโดยรอบคบเพลิงนั่นตรงเข้าโอบล้อมคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว
ร่างของหลิวชิงหยูพลันแข็งค้างนางหันศีรษะไปมอง ชั่วขณะนั้นเหอเฟยเสียงก็เดินเข้ามาพร้อมสีหน้าดำมืด ทุกอย่างกระจ่างชัดในดวงตาของนาง
”ท่านพ่อ…”
น้ำเสียงของนางสั่นสะท้านใบหน้าของนางซีดเผือด เสื้อผ้าของนางเปียกโชกไปด้วยหยาดเหงื่อทั้งที่ในยามค่ำอากาศค่อนข้างเย็น
”บุตรสาวที่รักของข้าดึก ๆ ดื่น ๆ เยี่ยงนี้เจ้ายังจะไปที่ใดอีก ?” เหอเฟยเสียงเอ่ยถามอย่างใจเย็น
ริมฝีปากของหลิวชิงหยูกระตุก”เมื่อไม่นานมานี้ข้าเห็นปิ่นปักผมแล้วถูกใจ ทว่าข้านำเงินไปไม่พอ เช่นนั้นข้าจึงไม่ได้ซื้อ เมื่อตอนกลางวันข้าต้องการให้ลุงจุน ออกไปซื้อให้ข้า ผู้ใดจะรู้ว่ายามคนนี้จะไม่ปล่อยข้าออกไป ข้าเพียงอยากจะแอบออกไปซื้อมันตอนกลางคืนเท่านั้น”
”เจ้าจะซื้อปิ่นปักผมหรือออกไปแจ้งให้คนบนแผ่นดินใหญ่ทราบกันแน่ ?” เหอเฟยเสียงเอ่ยถามเยาะ ขณะย่างก้าวเข้าหาหลิวชิงหยู “ข้าพยายามตามหาคนทรยศของอาณาจักรวิญญาณของเรา เพราะอาณาจักรวิญญาณนี้ มิใช่ว่าผู้ใดก็สามารถออกไปข้างนอกได้ เช่นนั้นที่ผ่านมาข้าจึงนึกสงสัยเจ้า”
“ที่ครั้งก่อนข้าไม่ได้กล่าวอะไรเป็นเพราะเจ้าไม่ได้แสดงพิรุธใด ทั้งข้าก็ไม่มีหลักฐานใดที่จะเอาผิดเจ้าด้วย ทว่าวันนี้ข้าตั้งใจจะลองอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าหางของเจ้าจะโผล่ออกมา … ”
บทที่ 1072 : การตายของจุนห่าว (1)
เหอเฟยเสียงหยุดมองหลิวชิงหยูด้วยสายตาผิดหวัง
”ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ใช่คนทำเรื่องนี้ พี่ชายของเจ้าถูกแดนอสูรสังหาร ทั้งน้องสาวของเจ้าก็ถูกแดนอสูรสังหาร เจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของข้าที่เหลือ !”
”ในวันหน้าอาณาจักรวิญญาณทั้งหมดก็จะตกเป็นของเจ้าเจ้าไม่พอใจเรื่องใด ? เหตุใดเจ้าถึงต้องทรยศข้าเพื่อคนต่ำต้อยเหล่านั้นด้วย ?”
หัวใจของเหอเฟยเสียงเต็มไปด้วยความผิดหวังที่ไม่อาจบรรยายได้เมื่อตอนเที่ยงผู้คุ้มกันไปแจ้งเขาว่า หลิวชิงหยูต้องการออกจากคฤหาสน์ หัวใจของเขาพลันหดหู่มาก
แม้ว่าเขาจะทำร้ายจิตใจมารดาของหลิวชิงหยูทั้งไม่เคยสนใจบุตรสาวเช่นนาง หากแต่เขา … ก็ไม่เคยดุด่าหรือทุบตีนางเลย เหตุใดนางถึงทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ได้ ?
ใบหน้าของหลิวชิงหยูผ่อนคลายลงจากอาการที่เคยตึงเกร็งในตอนแรกรอยยิ้มพลันปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง
รอยยิ้มของนางค่อนข้างอ้างว้างและเจ็บปวด
”ท่านลืมไปแล้วหรือว่ามารดาของข้าตายเช่นไร? เป็นท่านที่สังหารนางทั้งเป็น ! หากมิใช่เพราะท่านไร้หัวใจ ทำให้ท่านแม่หดหู่ ท่านแม่คงจะไม่ตาย !”
น้ำเสียงของหลิวชิงหยูเต็มไปด้วยการกล่าวหาน้ำตานางเอ่อคลอ ขณะกล่าวต่อว่า “ตอนที่นางเสียชีวิต ท่านไม่เคยมาเยี่ยมนางเลย และเพราะข้าเป็นบุตรสาวของนาง ท่านจึงไม่อนุญาตให้ข้าใช้แซ่ของท่าน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านแม่ของข้าเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้หน้าตาของนางแลดูน่าเกลียด ท่านจึงปฏิบัติกับนางเช่นนั้น ?”
ใบหน้าของเหอเฟยเสียงแลดูน่าเกลียดมาก
ใช่…เขามองคนที่หน้าตาหากมิใช่เพราะใบหน้าของหญิงผู้นั้นน่าเกลียด เขาคงจะไม่ปฏิบัติต่อนางเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามนางก็น่าเกลียดมาก ทั้งมักจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขา จะไม่ให้เขารังเกียจได้เยี่ยงไร ?
“เช่นนั้นเจ้าจึงคิดทรยศข้าทั้งยังทำให้พี่ชายของเจ้าต้องตายกระนั้นหรือ ?”
เมื่อเขาหวนนึกถึงสิ่งที่เด็กสาวผู้นี้กระทำนางทำร้ายบุตรชายของเขา นัยน์ตาของเหอเฟยเสียงพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ขณะจ้องมองสตรีที่อยู่เบื้องหน้า
หลิวชิงหยูหัวเราะเยาะ”พี่ชายหรือ ? คนเช่นนั้นน่ะหรือจะมาเป็นพี่ชายของข้า ? ตั้งแต่เล็กจนโต เขาดูถูกข้าตลอดเวลา หากมิใช่เพราะข้าไม่อาจต่อสู้กับท่านได้ ข้าคงสังหารพี่ชายคนนี้ไปเสียนานแล้ว !”
เหอเฟยเสียงหลับตาลงช้าๆ จากนั้นไม่นาน เขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาแหลมคมของเขาพลันสบเข้ากับหลิวชิงหยูและจุนห่าว
ดวงตาคู่นั้นดูเหมือนกำลังกรีดเลือดกรีดเนื้อคนทั้งสองออกเป็นชิ้นๆ
”เป็นเจ้าที่เลือกทางนี้เองอย่าได้ตำหนิว่า ข้าเป็นคนโหดเหี้ยม ! พวกเจ้า พาสองคนนี้มากับข้า ข้าจะให้พวกเขาได้ชดใช้การกระทำอย่างสาสม !”
เหอเฟยเสียงกำหมัดแน่นนัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เขายอมรับว่าเขาเองก็ไม่ได้ปฏิบัติกับหลิวชิงหยูดีนักทั้งยังไม่ยอมให้นางใช้แซ่สกุลของตน ! ทว่าเด็กสาวผู้นี้ถึงกับกล้าทรยศอาณาจักรวิญญาณเลยทีเดียว
”นอกจากนี้สาเหตุที่ข้าปฏิบัติต่อมารดาของเจ้าเช่นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรูปลักษณ์ของนาง ทว่าอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะ … ” เหอเฟยเสียงยิ้มอย่างประชดประชัน “หญิงผู้นั้นขี้หึงเกินไป นางสังหารสนมของข้าไปหลายคน เพียงเพราะอิจฉาที่ข้าไม่สนใจนาง แต่กลับไปสนใจสนมสวย ๆ คนอื่น ”
”ที่ไม่ยอมให้เจ้าใช้แซ่สกุลของข้า… นั่นก็เป็นเพราะข้าไม่อยากให้นางอยู่ร่วมในวงศ์ตระกูลของข้า ข้าไม่อยากเชื่อว่าหญิงใจร้ายเช่นนั้นจะให้กำเนิดบุตรสาวที่ดีได้ !”
รอยยิ้มของเหอเฟยเสียงเย็นลงเรื่อยๆ เขามองใบหน้าซีดเซียวของหลิวชิงหยู พลางกล่าวต่อ “แน่นอนว่าลางสังหรณ์ของข้าไม่ผิดเพี้ยนเลย เจ้าทำร้ายได้แม้กระทั่งพี่ชายของเจ้า ยังมีสิ่งใดอีกที่หญิงร้ายกาจเยี่ยงเจ้าจะทำไม่ได้เล่า ?”
หลิวชิงหยูสูดลมหายใจเข้าลึกนางพยายามทำให้ท่าทีของนางสงบลง “ไม่ว่าข้าจะโหดร้ายเพียงใด ข้าก็ไม่อาจอำมหิตไปกว่าท่านได้หรอก เราต่างก็เหมือนกัน จะเป็นอะไรไป หากข้าจะสังหารพี่ชายของข้า ในเมื่อท่านเองก็ฆ่าภรรยาของตนเช่นกัน ข้ากับท่านจะว่าไปแล้วก็ไม่มีใครดีไปกว่าใครนักหรอก…”
บทที่ 1073 : การตายของจุนห่าว (2)
”ฮึ!”
ถ้อยคำของหลิวชิงหยูทำให้ใบหน้าของเหอเฟยเสียงยิ่งมืดหม่นเขาตะคอกอย่างเย็นชา พลางโบกมืออย่างรุนแรง “พวกเจ้ายังมัวยืนงงอะไรอยู่อีก จับตัวนังผู้หญิงตัวเหม็นคนนี้มาให้ข้าเร็วเข้า !”
”ขอรับเจ้าแดนวิญญาณ !”
ทุกคนป้องหมัดตอบคำจากนั้นต่างก็ชักอาวุธของตนขึ้น พร้อมกับก้าวย่างเข้าหา หลิวชิงหยู และจุนห่าว
ท่าทีของจุนห่าวเปลี่ยนไปอย่างมากเขาผลักหลิวชิงหยูออกอย่างรวดเร็วขณะเดียวกันก็ตะโกนขึ้นว่า “คุณหนูรีบหนีไป !”
”ลุงจุน!” ใบหน้าที่งดงามของหลิวชิงหยูเปลี่ยนเป็นซีดลงทันที นางมองจุนห่าวที่ใช้ร่างตนเองเข้ามาขวางหน้าคนเหล่านั้นด้วยอาการตื่นตระหนก พลางกัดริมฝีปากตนเองแน่น หยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากสองตาของนาง
นับแต่มารดาของนางสิ้นบุญลุงจุนก็เปรียบดั่งญาติเพียงคนเดียวของนาง !
”คุณหนูรีบหนีไปอย่าลืมสิว่าท่านต้องล้างแค้นให้ท่านแม่ของท่าน !” ครั้นเห็นหลิวชิงหยูยังคงนิ่งเฉย จุนห่าวก็รีบหันหลังตะโกนบอกนาง
นัยน์ตาของเขาแดงก่ำเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ร่างชราของเขายามนี้ไม่ต่างจากกำแพงที่ช่วยสะกัดกั้นศัตรูทั้งหมดไว้
หลิวชิงหยูตัวสั่นนางเหลือบมองจุนห่าวก่อนจะหันหลังวิ่งไปที่ประตู
”คิดจะหนีงั้นรึ?” เหอเฟยเสียงตะคอก เขากระโจนออกมา กำลังจะไล่ล่าหลิวชิงหยู ก่อนที่นางจะทันหลบหนีไปได้
ทว่า…
จู่ๆ แรงกดดันที่แข็งแกร่งก็พุ่งออกจากร่างของจุนห่าว แรงกดดันนั้นเปรียบดั่งกำแพงที่มองไม่เห็นหยุดเหอเฟยเสียงและคนอื่น ๆ ไว้
”ตราบใดที่ข้ายังอยู่พวกเจ้าไม่มีทางขวางคุณหนูได้”
ย้อนกลับไปในครานั้นนายหญิงได้ช่วยชีวิตเขาจากอาการบาดเจ็บสาหัส นับจากวันนั้นเขาสาบานว่าจะปกป้องนางชั่วชีวิต
ครั้นนางจากโลกนี้ไปคุณหนูก็เปรียบเสมือนตัวแทนของนาง และเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องคุณหนู
เขาไม่มีวันยอมให้คนเหล่านี้ทำร้ายคุณหนูเป็นแน่!
จุนห่าวยืนตัวตรงร่างของเขาดูราวกับเปลวเพลิงที่ร้อนระอุ ทั้งร่างของเขาอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง เขามองกลุ่มคนเบื้องหน้าด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“จุนห่าว…นี่เจ้าบ้าไปแล้วกระนั้นรึ?”
การแสดงออกของเหอเฟยเสียงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน”เจ้าใช้วิธีเผาจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง คุ้มกันแล้วกระนั้นรึ ?”
”เพื่อคุณหนูแล้วทุกอย่างมันคุ้มค่ามาก”
น้ำเสียงของจุนห่าวนั้นหนักแน่นเช่นเดิมไม่แปรเปลี่ยนสีหน้าของเขาดุดันแรงกดดันของเขาพวยพุ่งราวกับดาบน้ำแข็ง
”ฮ่าฮ่าฮ่า!” เหอเฟยเสียงหัวเราะร่า เขามองจุนห่าวที่กำลังลุกโชนในเปลวเพลิง พลันรอยยิ้มประชดประชันก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา “ด้วยพลังของเจ้า เจ้าไม่สามารถทำร้ายพวกเราได้ ต่อให้เจ้าเผาจิตวิญญาณของเจ้าจนมอดไหม้ ก็เพียงสามารถหยุดพวกเราได้ชั่วขณะ เพียงช่วงเวลาแค่นี้เจ้าก็คิดว่าจะช่วยนางได้งั้นรึ ?”
”หากแผ่นดินใหญ่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากราชาอสูรมันก็เป็นเพียงสถานที่ของพวกขยะ! แม้ว่าเจ้าจะหยุดข้าได้ หากแต่เจ้าก็ไม่สามารถช่วยคนพวกนั้นได้ ถึงตอนนั้นนังหลิวชิงหยูตัวแสบก็จะต้องตายตกไปพร้อมกัน !”
เหอเฟยเสียงกัดฟันด้วยความเกลียดชัง
แม้ว่าความแข็งแกร่งของไอ้เฒ่าคนนี้จะด้อยกว่าเขาหากแต่พลังที่ไอ้เฒ่านี่สร้างขึ้นจากการแผดเผาวิญญาณของตนเองนั้นก็ทรงพลังมาก มันสามารถป้องกันไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้ได้ หาไม่เขาจะต้องบาดจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ถึงกระนั้นไอ้เฒ่านี่ก็ทำได้เพียงหยุดพวกเขาไว้ชั่วครู่
อีกไม่นานหรอกหลิวชิงหยูก็จะไม่อาจหนีรอดไปได้อีก !
จุนห่าวกล่าวอย่างไร้ความรู้สึกว่า”ที่สุดอาณาจักรวิญญาณก็จะอยู่บนเส้นทางสู่ความพินาศ น่าเสียดายที่นายหญิงถูกฝังอยู่ในอาณาจักรวิญญาณ หากแต่ข้าเชื่อว่าหลังจากที่อาณาจักรวิญญาณล่มสลายไปแล้ว คุณหนูจะต้องย้ายหลุมฝังศพของนายหญิงออกไปอย่างแน่นอน”
ถ้อยคำเหล่านี้ทำให้จุนห่าวนึกถึงนายหญิงที่สง่างามและสูงส่งพลันมุมปากของเขาก็ยกยิ้มเล็กน้อย
ไม่ว่านางจะเป็นสาวงามคนเดิมที่เคยเห็นหรือเป็นสาวอัปลักษณ์หลังจากป่วยหนัก ในใจของเขานางยังคงเป็นสตรีที่สวยที่สุดในโลกเสมอ
บทที่ 1074 : การตายของจุนห่าว (3)
เหตุผลหนึ่งที่เขาอยู่ปกป้องหลิวชิงหยูก็เพื่อตอบแทนพระคุณของนายหญิงส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ … หลิวชิงหยูเป็นบุตรสาวของนาง
เมื่อนางจากไปแล้วเขาจะปล่อยให้บุตรสาวของนางเดินตามหนทางเดิมที่นางเคยเผชิญได้อย่างไร
”ฝันไปเถอะ!”
เหอเฟยเสียงกำหมัดแน่นนัยน์ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หมัดของเขาลั่นดังเอี๊ยด เส้นเลือดบนใบหน้าของเขาปูดโปนจนเป็นสีม่วงอย่างรวดเร็ว
”อาณาจักรวิญญาณของข้าจะไม่มีวันล่มสลาย!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทันใดนั้นจุนห่าวก็หัวเราะเสียงดังลั่นเสียงหัวเราะของเขาดังก้องฟ้ายามค่ำคืนฟังดูน่าหวาดกลัว
พร้อมรอยยิ้มหยาดน้ำตาไหลออกมาจากเบ้าตาของชายชรา เขาจ้องมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด ราวกับเห็นหญิงสาวที่อ่อนโยน และงดงามอีกครั้ง …
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแลดูมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ เขายื่นมือออกไปพยายามที่จะไขว่คว้าภาพหลอนบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ทว่า…
ก่อนที่มือเหี่ยวๆ ของเขาจะทันสัมผัสร่างของนาง วิญญาณของเขาพลันแตกสลายหายไปพร้อมกับสายลมยามราตรี
ทั้งจะหายไปจากโลกนี้ชั่วนิรันดร์…
ห่างไกลออกไปหลิวชิงหยูผู้ซึ่งกำลังรีบหนี ยามนี้ดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่าง นางหันหน้ากลับไปมองสถานที่ซึ่งนางหนีจากมา
“ลุงจุน!”
น้ำตาไม่หยุดไหลจากนัยน์ตาที่งดงามของนางน้ำเสียงของนางสั่นเครือ นางกัดริมฝีปากแน่น เพราะเกรงว่าเสียงนั้นจะดึงดูดคนกลุ่มนั้นให้หันมาสนใจ
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ทิ้งมือลงข้างกาย พลางกัดริมฝีปากแน่น “ไม่ต้องห่วงลุงจุน สักวันหนึ่งข้าจะล้างแค้นให้ท่าน ทั้งจะทำให้คนที่สังหารท่านต้องแหลกสลายตามไปด้วย !”
นางจ้องมองทิศทางที่สว่างไสวอีกเพียงอึดใจก่อนจะบ่ายหน้าจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง นางวิ่งไปยังทิศทางออกนอกแดนวิญญาณ จากนั้นก็หายลับไปพร้อมความมืดมิดในยามราตรี
หลังจากหลิวชิงหยูจากไปแล้วยอดฝีมือระดับเทพหลายคนก็รีบติดตามมาจากระยะไกล ๆ พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางอากาศที่ว่างเปล่า
“หากเดาไม่ผิดคุณหนูคงหนีไปได้แล้ว เจ้าแดนวิญญาณสั่งไว้ว่า หากพบคุณหนูก็ให้สังหารทันที !”
เสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาสังหารนี้ดังก้องไปในยามราตรีจากนั้นคนเหล่านี้ก็หายตัวไปจากท้องฟ้า พวกเขาต่างก็ไล่ติดตามไปในทิศทางที่หลิวชิงหยูเพิ่งจากไป
ในความมืดมิดหลิวชิงหยูเหาะหนีรวดเร็วมาก ราวกับว่านางสังเกตเห็นรัศมีอันทรงพลังสองสามดวงที่ไล่ติดตามมาจากด้านหลัง เหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาที่หน้าผากของนาง
”อีกไม่ช้าข้าก็จะถึงแดนอสูรแล้ว… ขอเพียงข้าไปถึงแดนอสูร ข้าก็จะรอด !”
เมื่อหวนนึกถึงการตายของจุนห่าวแล้วหลิวชิงหยูก็กำหมัดแน่น นางสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะเดียวกันความเร็วของฝีเท้านางก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
ในขณะที่เห็นว่าอีกเพียงนิดก็จะถึงประตูของแดนอสูรแล้วประกายแสงแห่งความสุขพลันสว่างวาบไปทั่วใบหน้าของหลิวชิงหยู นางหันศีรษะกลับไปมอง ภาพที่นางเห็นทำให้หัวใจของนางตระหนก
เพราะด้านหลังนั้นยอดฝีมือระดับเทพหลายคนกำลังกวดไล่ติดตามนางมา อีกเพียงไม่กี่ก้าวพวกเขาก็จะถึงตัวนางแล้ว
ทว่าในยามนี้หลิวชิงหยูกลับช้าลง เนื่องจากการหันหลังกลับไปมอง ยอดฝีมือระดับเทพเหล่านั้นจึงฉวยโอกาสนี้ไล่ตามนางทัน พวกเขาปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้านาง
หลิวชิงหยูก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวนางมองทางเข้าแดนอสูรที่อยู่ห่างเพียงร้อยก้าวด้วยแววตาตื่นตระหนก
“ผู้อาวุโสทั้งหลายยามที่ข้าอยู่ในแดนวิญญาณ ข้าก็ปฏิบัติต่อพวกท่านเป็นอย่างดี พวกท่านคิดจะทำร้ายข้าเช่นนี้จริง ๆ หรือ ?” หลิวชิงหยูเอ่ยถามด้วยใบหน้าซีดเซียวพร้อมกำหมัดแน่น
”อภัยเถิดคุณหนูพวกเราต้องทำตามคำสั่งเจ้าแดนวิญญาณ ท่านเจ้าแดนมีคำสั่งว่า ท่านต้องตาย !”
ชายชราคนหนึ่งในชุดคลุมสีเทาก้าวออกมาข้างหน้าสองก้าวพลางก้มลงมองหลิวชิงหยูที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของเขาเยือกเย็นและไร้ความปรานี บรรยากาศเต็มไปด้วยไอสังหาร
บทที่ 1075 : การตายของจุนห่าว (4)
หลิวชิงหยูตื่นตระหนก
นางยังไม่ได้แก้แค้นให้คนที่ทรยศมารดาของนางทั้งนางก็ยังไม่ได้แก้แค้นให้ลุงจุนเลย นางจะมาตายที่นี่ได้อย่างไร ?
ปัง!
หลิวชิงหยูเปิดฉากการโจมตีนางก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว กำปั้นสีชมพูของนางราวกับภูเขาขนาดยักษ์ ทว่ากำปั้นของนางกลับถูกชายชราจับไว้แน่น ก่อนที่นางจะทันได้แตะต้องตัวชายชราด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นฝ่ามือนุ่มๆ ก็ตบหน้าอกของหลิวชิงหยู ร่างของนางถลาคว่ำลงลงกับพื้นอย่างน่าอับอาย เลือดไหลออกมาจากปากของนางไม่หยุด
นางพยายามที่จะลุกขึ้นยืนทว่าทันทีที่ขยับตัว ร่างกายของนางก็ดูเหมือนจะแหลกสลายไปแล้ว นางสูดลมหายใจเข้าปอด เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
วันนี้นางจะต้องมาตายที่นี่แล้วงั้นหรือ?
ขนตาของหลิวชิงหยูสั่นระริกแววตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ที่สุดนางก็รวบรวมแรงกำลังทั้งหมดที่มีลุกขึ้นยืนจากพื้น นางเดินโซซัดโซเซเข้าไปหาผู้อาวุโสระดับเทพเหล่านั้น
”วันนี้…แม้ว่าข้า…หลิวชิงหยูจะต้องถูกฝังอยู่ที่นี่หากแต่ข้าก็ขอให้พวกท่านกลับไปบอกตาเฒ่านั่นสักคำ ! เขาจะต้องได้รับผลกรรมแน่ ไม่ช้าก็เร็วฮ่า ๆ ๆ ! เขาจะได้รับผลกรรมแน่ไม่ช้าก็เร็ว”
ครั้นมาถึงประโยคสุดท้ายหลิวชิงหยูก็หัวเราะลั่น เสียงหัวเราะของนางดังก้องไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี กระทั่งทำให้ผู้คนขนลุก !
ภายหลังเสียงหัวเราะดังขึ้นหลิวชิงหยูก็หมดความตั้งใจที่จะหนีอีกต่อไป นางยิ้มเยาะ ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้า ๆ เพื่อรอให้ชายชราเหล่านี้เปิดฉากโจมตี
ยอดฝีมือระดับเทพหลายคนหันมองหน้ากันพลันฝ่ามือของพวกเขาก็ค่อย ๆ ปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียว …
ด้วยความแข็งแกร่งของหลิวชิงหยูนางย่อมไม่อาจต้านรับได้แน่ เช่นนั้นหากนางโดนฝ่ามือของพวกเขา นางย่อมต้องสิ้นใจแน่นอน …
ชั่วขณะนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่เงียบสงบเสียงแหบ ๆ ของชายชราพลันดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าเสียงนี้สงบนิ่งมาก ทว่ากลับทำให้พวกเขารู้สึกคล้ายหูจะหนวก
”ผู้ใดกัน…กล้ามาต่อสู้ที่ประตูแดนอสูรของข้าหากอยากจะสู้กันนักก็ออกไปสู้กันที่อื่น อย่าได้มารบกวนคนในแดนอสูรของข้า”
ทันทีที่เสียงเฉยเมยของชายชราจบลงร่างชราภาพของเขาพลันโผล่ออกมาจากอากาศว่างเปล่า
ยอดฝีมือระดับเทพต่างพากันตกตะลึงไปชั่วขณะพวกเขายืนนิ่งอย่างไม่คาดคิดว่าจะได้พบใครบางคนจากแดนอสูรที่นี่
พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองชายชราที่อยู่กลางอากาศพลางครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องภายในของอาณาจักรวิญญาณเรา โปรดอย่าเข้ามาแทรกแซง !”
ยามนี้อาณาจักรวิญญาณไม่อาจขัดแย้งกับพวกสัตว์อสูรได้โดยตรง แน่นอนว่าไม่สะดวกที่จะลงมือกับชายชราคนนี้อย่างโจ่งแจ้ง
หากเขาเต็มใจที่จะจากไปเองย่อมเป็นการดีกว่า
หลังจากได้ยินคำพูดของชายชราการแสดงออกที่เคยสิ้นหวังของหลิวชิงหยูพลันแปรเปลี่ยน ความหวังถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง นางเงยหน้าขึ้นจ้องชายชราที่ยืนไพล่มือไปข้างหลังด้วยความยินดี พลางรีบตะโกนว่า
”ท่านผู้อาวุโสสัตว์อสูรข้าคือหลิวชิงหยูจากแดนวิญญาณ แม่นางไป๋หยานราชินีแห่งแดนอสูรเป็นนายของข้า ได้โปรดช่วยข้าด้วย !”
ร่างของชายชราที่กำลังจะผละจากไปพลันหยุดชะงักหลังจากได้ยินสิ่งที่หลิวชิงหยูกล่าวออกมา เขาหันศีรษะกลับมามองสตรีที่อยู่เบื้องล่าง คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย
“เจ้าบอกว่าราชินีของเราเป็นเจ้านายของเจ้างั้นรึ?”
หลิวชิงหยูพยักหน้าหงึกๆ “ก่อนหน้านี้ข้ายอมเป็นทาสนาง ราชินีสามารถยืนยันฐานะของข้าได้ โปรดช่วยข้าด้วย คนเหล่านี้ต้องการสังหารข้า !”
ชายผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิวชิงหยูและไป๋หยานจะรู้จักกัน พวกเขาหันมองหน้ากัน ไม่สนใจชายชราบนท้องฟ้าอีกต่อไป พวกเขาพยายามโจมตีหลิวชิงหยูอย่างรวดเร็ว
หากหมัดเหล่านี้ปะทะร่างของหลิวชิงหยูแน่นอนว่านางจะต้องดับอนาถ !
แต่ทว่า…
ขณะที่หลายคนมุ่งทำร้ายหลิวชิงหยูนั้นชายชราที่อยู่กลางอากาศพลันเคลื่อนไหว ร่างของเขากระพริบวาบ ก่อนจะร่อนลงเบื้องหน้าหลิวชิงหยู