จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1151 -1155
บทที่ 1151 : ขุดถึงแกนโลก ก็จะหาเจ้าให้พบ (3)
สายตาของสัตว์อสูรกวาดขึ้นลงพลันนัยน์ตาที่แหลมคมของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อย” แม่นางน้อย เจ้ามีกลิ่นอายของมังกรหลังกระโดงโบราณ หากข้าเดาไม่ผิด เจ้ากระดูกเดือยของมังกรหลังกระโดง นั่นเป็นลูกน้องของข้า เช่นนั้นเจ้าควรจะรู้ว่าข้าเป็นใคร ?”
ไป๋หยานสะดุ้ง
กระดูกเดือยของมังกรหลังกระโดงเป็นอาวุธที่นางได้รับมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แท้สัตว์อสูรตัวนี้เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่านางมีกระดูกเดือยอยู่ในมือ ?
หลังจากนั้นสัตว์อสูรก็หันมาจ้องมองเสี่ยวหลงเอ๋อ
เสี่ยวหลงเอ๋อตัวสั่นนางรีบไปหลบซ่อนตัวอยู่หลังไป๋หยาน ก่อนจะลอบมองสัตว์อสูรตัวนั้นด้วยท่าทางขลาดกลัว
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดกลิ่นอายของสัตว์อสูรตัวนี้จึงทำให้นางรู้สึกกลัว…
ความกลัวนี้ดูเหมือนจะมาจากสัญชาตญาน
”เด็กหญิงผู้นี้เป็นลูกหลานของชายผู้นั้นหรือนี่? ทว่าความแข็งแกร่งของนางยังใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ ” สัตว์อสูรขมวดคิ้วจากนั้นก็หันไปจับจ้องมองไป๋หยาน “เอาล่ะ หากเจ้าปล่อยข้า ข้าจะช่วยนางพัฒนาความแข็งแกร่งดีหรือไม่ ?”
ชายคนนั้น?
สัตว์อสูรมองเสี่ยวหลงเอ๋อแล้วก็เงียบไป
เสี่ยวหลงเอ๋อเป็นบุตรสาวของอดีตหัวหน้าเผ่ามังกรทว่าชายที่สัตว์อสูรพูดถึงนั้นเป็นใครกัน ?
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเสี่ยวหลงเอ๋อจะถูกเหัวหน้าเผ่าคนก่อนเก็บมาชุบเลี้ยง? หรือว่าเสี่ยวหลงเอ๋อเป็นเช่นนาง มีชีวิตชาติก่อน และชาติปัจจุบันด้วย ?
ดูเหมือนว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะต้องรู้หลายเรื่อง! แต่หากนางถาม สัตว์อสูรก็จะโยกโย้งัดเล่ห์เหลี่ยมขึ้นมาใช้ นางจึงยังไม่ถามยังคงวางเชิงไว้ก่อน
นอกจากนี้ยังมีสัตว์อสูรอีกตัวอยู่ใกล้ๆ ด้วย…
ยามนี้นางยังไม่อยากเสี่ยง!
”ข้าไม่เคยพบเจ้าทั้งข้าก็ไม่เชื่อคำสัญญาใด ๆ ของเจ้า หากข้าช่วยเจ้าแล้ว เกิดเจ้าแว้งกลับมาสังหารข้า ข้าจะคุ้มหรือไม่ล่ะ ?”
ไป๋หยานยกยิ้มพลางเอ่ยถาม
สัตว์อสูรรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย”ข้ายอมให้สัญญากับเจ้าแล้ว เจ้ายังต้องการอะไรอีก ? หากเจ้าไม่ปล่อยข้า วันใดที่ข้าเป็นอิสระ เจ้าจะเป็นคนแรกที่ข้าตามเอาชีวิต !”
ไป๋หยานยักไหล่”ก็เจ้าคิดแต่จะทำร้าย คิดแต่จะเอาชีวิตข้า เช่นนี้แล้วจะให้ข้ากล้าปล่อยเจ้าได้ไง ? เสียใจด้วยนะ ข้ายังใช้ชีวิตไม่คุ้มค่าเลย ดังนั้นข้ายังไม่อยากมาตายที่นี่ง่าย ๆ”
”เจ้า… ” สัตว์อสูรเนื้อตัวสั่นสะท้าน มันจ้องมองไป๋หยานด้วยแววตาที่เศร้าหมอง เจตนาสังหารในดวงตาไม่อาจซ่อนเร้นได้อีกต่อไป มันแผ่กระจายรังสีอำมหิตออกมาโดยตรง
ชั่วขณะนั้น…เสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังลอยมา
ครั้นเสียงนี้ดังขึ้นไป๋หยานก็รู้สึกราวกับถูกอสรพิษรัดร่างอีกครั้ง เส้นขนทั่วร่างของนางลุกชูชัน ประกายเย็นวาบปรากฏในดวงตาของนาง
”ใครน่ะ?”
ซวบซาบซวบซาบ ซวบซาบ !
ร่างๆ หนึ่งเลื้อยผ่านกอหญ้าออกมา
ครั้นไป๋หยานมองตามต้นเสียงนางก็พบงูเขียวตัวหนึ่ง
งูเขียวส่งเสียงขู่ฟ่อแม้ร่างของงูเขียวจะเล็กมาก ทว่ากลับทำให้ไป๋หยาน รู้สึกอึดอัดอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานงูเขียวก็เลื้อยเข้ามาหาไป๋หยานพลันร่างของนางก็ค่อย ๆ ยืดออก ชั่วขณะนั้นเองสตรีในชุดสีเขียวอมฟ้าก็ปรากฏตัวต่อหน้าไป๋หยาน
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของหญิงสาวถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดงูสีฟ้าใสราวกับหน้ากากปิดบังครึ่งหน้า
ใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของนางงดงามน่าทึ่งรอยยิ้มบนริมฝีปากของนางแลดูสวยทว่าเศร้าหมอง
”สาวน้อยสิ่งที่ชายผู้นี้พูดเชื่อไม่ได้จริง ๆ เพราะหากเจ้าปล่อยเขาให้เป็นอิสระ เขาจะสังหารเจ้าทันที”
”ป้านชิงเฉิง…เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไร?” ใบหน้าของสัตว์อสูรที่อยู่บนแท่นบูชาดำคล้ำ เขาตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าเป็นถึงเทพมังกรผู้สง่างาม ข้าจะโกหกได้กระนั้นหรือ ? สาวน้อย…เจ้ารีบปล่อยข้าเร็ว ๆ เข้า หญิงผู้นี้ร้ายกาจมากนัก นางเจ้าเล่ห์อีกทั้งชั่วร้าย ประเดี๋ยวนางก็จะสังหารเจ้า ! ไม่ว่าใคร หากมาถึงที่นี่ล้วนถูกนางสังหารสิ้น !”
บทที่ 1152 : ขุดถึงแกนโลก ก็จะหาเจ้าให้พบ (4)
”เชอะ”ป้านชิงเฉิงยกยิ้มเย็นชา “หลงหยัน …เจ้าหลอกลวงสาวน้อยอีกแล้ว เจ้าทำเช่นนี้ทุกครั้งเลย ทุกครั้งที่มีใครมาที่นี่ เจ้าเป็นต้องโกหกหลอกลวงพวกเขา หากมิใช่เพราะข้าอยู่ใกล้ ๆ ละแวกนี้ เจ้าคงได้ฆ่านางไปนานแล้ว”
หลังจากป้านชิงเฉิงกล่าวจบนางก็หันไปมองไป๋หยาน
ม่านตาของนางก็เขียวเฉกเช่นกันทว่ากลับทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
“แม่นางน้อย…ถ้อยคำของหลงหยันไม่น่าเชื่อถือเจ้าอย่าได้เชื่อเขานะ”
ไป๋หยานยิ้มเยาะ“ทว่า … ข้าก็ไม่เชื่อคำพูดของงูเช่นกัน”
ใบหน้าของป้านชิงเฉิงที่สามารถเห็นได้เพียงครึ่งแข็งค้างจากนั้นเพียงไม่นาน นางก็กลับไปเป็นเช่นเดิม ปิดปากหัวเราะคิกคัก
”แม่นางน้อยพูดได้ดีช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริง ๆ ว่าแต่สมาชิกของเผ่าอสรพิษของข้าเคยหลอกลวงกระนั้นรึ ?”
”ขอโทษข้าไม่เคยชอบงูเลย”
นางไม่เคยลืมว่าชนเผ่าอสรพิษนั้นใผ่ฝันถึงตี้คังเพียงไร อีกทั้งคนเหล่านั้นทำร้ายนาง และเฉินเอ๋อเช่นไร ?
จากประเด็นเหล่านี้ย่อมเป็นธรรมดาที่นางย่อมไม่ประทับใจในเผ่าพันธุ์อสรพิษ
”ฮ่าฮ่าฮ่า!”
ครั้นเห็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ของป้านชิงเฉิงหลงหยันก็หัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า ป้านชิงเฉิง เจ้าได้ยินหรือไม่ว่า นางหนูนี่ ไม่เชื่อเจ้า ข้าน่าเชื่อถือมากกว่า !”
หลังจากที่เขากล่าวเหน็บแนมเสร็จเขาก็หันมาสบตาไป๋หยาน พลางพยายามทำน้ำเสียงให้อ่อนโยนลง
”แม่นางน้อยหากเจ้าจะปล่อยข้าไป ข้าจะให้ผลประโยชน์ดี ๆ แก่เจ้าแน่นอน”
ไป๋หยานกวาดตาไปมองหลงหยัน”เจ้าสองคน ข้าไม่เชื่อสักคนเลย”
ใบหน้าของหลงหยันพลันแข็งค้างความโกรธในใจของเขาลุกโชนขึ้นอีกครั้ง แต่เพื่อให้ไป๋หยานช่วยเขา ที่สุดเขาก็เก็บกดความโกรธไว้เพียงภายในใจ
ไป๋เสี่ยวเฉินดึงแขนเสื้อของไป๋หยานจากนั้นก็ย้ายนัยน์ตากลมโตของเขาไปที่ ป้านชิงเฉิง
“ในเมื่อเจ้าและเขาต่างก็เกลียดชังกันมากถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าไม่จัดการเขาเองเลยล่ะ ?”
ป้านชิงเฉิงเงยหน้าขึ้นเย้ยหยัน”หากข้าสามารถจัดการเองได้ ข้าคงจะสังหารคนผู้นี้ไปเสียนานแล้ว แต่เมื่อเจ้ามาอยู่ที่นี่ ก็ดีแล้ว เจ้าก็ช่วยสังหารเขาเพื่อข้าหน่อยสิ”
นางกลอกตาหันไปจับจ้องดาบยักษ์ข้างแท่นบูชา
ด้ามดาบเล่มนี้สนิมเขรอะมันอาจจะอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ทว่าคมดาบยังส่งประกายวาววับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าดาบเล่มนี้ไม่ธรรมดาอย่างมากเป็นแน่
”เจ้าเคยเห็นดาบนี่หรือไม่? เจ้าหยิบดาบขึ้นมาแทงที่หน้าอกเขา ก็จะปลิดชีวิตเขาได้ ขอเพียงเจ้าช่วยข้าสังหารเขา ข้าก็จะส่งเจ้าออกไปจากสถานที่แห่งนี้ !”
“แล้วทำไมเจ้าไม่ทำเองล่ะ?” ไป๋เสี่ยวเฉินเอ่ยถามด้วยเสียงเด็ก ๆ ไม่ต่างกับเด็กน้อยที่อยากรู้อยากเห็น
ป้านชิงเฉิงยิ้มพลางกล่าวว่า “สัตว์อสูรไม่สามารถเข้าใกล้ดาบเล่มนี้ได้ มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถหยิบมันขึ้นมาได้ หัวใจของเจ้าแก่นี่แข็งแกร่งมาก มีเพียงดาบนี่เท่านั้นที่สามารถเอาชีวิตเขาได้”
”งั้นรึ?” ไป๋เสี่ยวเฉินนึกอะไรบางอย่างได้ เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองไป๋หยาน “หม่ามี้ไปหยิบดาบเล่มนั้นมา”
ไป๋หยานรู้ทันทีว่าไป๋เสี่ยวเฉินกำลังคิดอะไรอยู่นางยิ้มพร้อมกับพยักหน้า หลังจากนั้นนางก็ก้าวเข้าไปหาดาบยักษ์ข้างแท่นบูชาอย่างแช่มช้า
ครั้นเห็นการเคลื่อนไหวของไป๋หยานป้านชิงเฉิงก็ดีใจมากใบหน้าของนางปรากฏความภาคภูมิใจขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“แม่นางน้อย…เจ้าอย่าได้ฟังหญิงผู้นี้นะ”หลงหยันกระวนกระวาย นัยน์ตาของเขาเป็นสีแดง ขณะเอ่ยกล่าวอย่างกังวล “หากเจ้าสังหารข้า คนต่อไปที่จะต้องตายก็คือเจ้า หากเจ้าไม่สังหารข้า นางแพศยานั่นก็ไม่กล้าทำอะไรเจ้า !”
ไป๋หยานไม่ฟังคำพูดของหลงหยันนางก้าวไปยืนข้างดาบยักษ์ ออกแรงเพียงเล็กน้อย นางก็ยกดาบยักษ์ที่มีน้ำหนักหนึ่งพันจินขึ้นมาได้
บทที่ 1153 : ขุดถึงแกนโลก ก็จะหาเจ้าให้พบ (5)
”ดาบเล่มนี้… สามารถสังหารสัตว์อสูรงูหัวแกะนี่ได้ ก็ย่อมสามารถสังหารเจ้าได้เช่นกัน เพราะเจ้าก็เป็นสัตว์อสูรด้วยใช่หรือไม่ ?”
ไป๋หยานแกว่งดาบยักษ์ในมือเล่นพลางมองป้านชิงเฉิงพร้อมรอยยิ้ม
ใบหน้าที่เห็นเพียงครึ่งของป้านชิงเฉิงแข็งค้าง”เจ้าหมายถึงอะไร ?”
“หากข้าเดาไม่ผิดเดิมทีเจ้ามีความแข็งแกร่งมาก เช่นนั้นร่างของเจ้าจึงแกร่งมากเช่นกัน อาวุธธรรมดาคงไม่สามารถจัดการกับเจ้าได้ หากแต่ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ความแข็งแกร่งของเจ้าถึงได้ลดลงอย่างมาก แม้ว่าร่างกายของเจ้าจะยังคงแกร่งอยู่ในระดับสูงสุด ทว่าพลังความแข็งแกร่งของเจ้ากลับมิใช่”
รอยยิ้มของไป๋หยานยิ่งเลวร้ายลงอีก”เจ้าบอกเองว่าดาบเล่มนี้สามารถแทงทะลุหัวใจของเขาได้ เช่นนั้นมันย่อมใช้กับเจ้าได้ด้วยเช่นกัน”
”เจ้า… ” ใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ที่เห็นเพียงครึ่งนั้นซีดลงทันที
ยัยตัวเหม็นคนนี้บังอาจทำให้นางอับอาย!
หากหญิงสาผู้นี้แสดงเจตนาที่จะสังหารนางตั้งแต่แรกนางก็คงไม่ให้โอกาสหญิงผู้นี้เข้าใกล้ดาบ ทว่าการแสดงออกของหญิงสาวเมื่อครู่นี้ ทำให้นางเห็นชัดเจนว่าหญิงสาวเต็มใจที่จะช่วยนาง
นั่นคือเหตุที่ทำให้นางยอมให้เด็กสาวผู้นี้มีโอกาสสัมผัสดาบ
”ข้าคิดว่าคนในเผ่าอสรพิษร้ายกาจมากข้าไม่คาดว่าเจ้าจะเชื่อข้าง่าย ๆ ข้าบอกเจ้าแล้วไง ว่าข้าเกลียดเผ่าอสรพิษมาก แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะช่วยเจ้าอีกงั้นหรือ ?” ไป๋หยานยักไหล่ พลางเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
จากถ้อยคำของไป๋หยานส่งผลให้หัวใจของหลงหยันที่ขมวดแน่นพลันผ่อนคลายลง
เขาสังเกตเห็นใบหน้าซีดขาวของป้านชิงเฉิงในหัวใจของเขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
”คาดไม่ถึงเลยว่าสาวน้อยคนนี้ช่างรู้ใจข้าเสียจริง นางตัวแสบอย่างป้านชิงเฉิงต้องเจออย่างนี้ ฮ่า ๆ ๆ !”
ฮะ
ทันทีที่ถ้อยคำของเขาจบลงดาบในมือของไป๋หยานก็ขยับ จังหวะนั้นก็บาดผิวหนังของเขา กระทั่งเลือดไหลซึมออกมา ร่างกายที่แข็งกระด้างซึ่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรกลับกลายเป็นสีแดง
”เจ้าต้องการทำอะไร?” หลงหยันสะดุ้ง เขาร้องตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
ไป๋หยานยกดาบยักษ์ขึ้นเช็ดเลือดเอ่ยกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงลองดาบนี้เล่น”
หลงหยันแทบจะกระอักเลือดออกมา
นางเพียงลองพลังของดาบยักษ์หากแต่กลับทำให้เขาหวาดกลัวแทบตาย
เขาเองยังสงสัยว่าอาจทำอะไรพลาดไปกระทั่งทำให้หญิงสาวผู้นี้ขุ่นเคือง นางจึงใช้เขาทดลองดาบโดยไม่ถามความสมัครใจของเขาเลย ?
”แม่สาวน้อย”ลูกนัยน์ตาของหลงหยันกลอกไปมาสองสามครั้ง เขาใช้น้ำเสียงอ่อนโยนเพื่อเกลี้ยกล่อมนาง “แล้วเจ้าจะสังหารหญิงผู้นี้ให้ข้าได้หรือไม่ ? หากเจ้าสังหารนาง ข้ารับปากจะยอมทำงานให้เจ้าสามอย่าง”
ไป๋หยานลูบคางราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งมากและผู้ที่มีพลังถึงเพียงนี้ นางไม่อาจควบคุมได้แน่
”เจ้าถูกมัดอยู่เจ้าจะช่วยข้าได้อย่างไร ?”
”เอ่อ… ” หลงหยันขมวดคิ้ว “ปล่อยข้าก่อนจะดีหรือไม่ ? ไม่ต้องห่วง ข้า…หลงหยันเป็นคนกตัญญู ข้าไม่มีวันทรยศต่อผู้ที่ช่วยชีวิตข้าอย่างแน่นอน”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเจ้าเลย”
นางไม่เคยเชื่อใจคนแปลกหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของสัตว์อสูรเหล่านี้ ทำให้นางอึดอัดมาก
ความรู้สึกอึดอัดบางอย่างทำให้นางรู้สึกเสมอว่าสัตว์อสูรตัวนี้ไม่ใชผู้ที่รักษาคำพูด !
”แล้ว… ” ไป๋หยานกระพริบตาสองสามครั้ง ก่อนจะเอ่ยถาม “เช่นนั้นมาทำพันธะสัญญากับข้าดีหรือไม่ ? หากเจ้าทำพันธะสัญญากับข้า ข้าก็จะปล่อยเจ้าให้เป็นอิสระ”
ใบหน้าของหลงหยันแข็งค้างทันทีนางเด็กน้อยนี่กล้าขอให้เขาทำพันธะสัญญากับนางเชียวหรือ ?
สวย!
เขาเป็นถึงเทพมังกรต้องมาถูกบังคับให้ทำพันธะสัญญากับสาวน้อยนี่กระนั้นรึ?
“สาวน้อย…ข้าจะทำงานให้เจ้าสามอย่างอย่าคิดเรื่องทำพันธะสัญญาเลย”
บทที่ 1154 : ขุดถึงแกนโลก ก็จะหาเจ้าให้พบ (6)
”เช่นนั้นก็…ไม่มีทางเลือกอื่น”
ไป๋หยานยักไหล่พลางยิ้ม“เพราะข้าไม่ค่อยชอบงู นางดูร้ายกาจมากกว่าเจ้า ดังนั้นข้าจึงเลือกที่จะให้เจ้าทำพันธะสัญญากับข้าก่อน แต่หากนางงูสาวเต็มใจที่จะทำพันธะสัญญากับข้า ข้าก็คงเลือกที่จะช่วยนางกำจัดเจ้าแทน”
ใบหน้าครึ่งซีกที่เห็นได้ของป้านชิงเฉิงแลดูน่าเกลียดมากนางกลัวว่าหลงหยัน จะยอมทำตามข้อเรียกร้องของไป๋หยานจริง ๆ นางจึงรีบกัดฟัน เอ่ยกล่าวว่า “หลงหยัน…ข้าไม่ยอมทำพันธะสัญญากับสาวน้อยคนนี้หรอก !”
นางตั้งใจจะบอกว่าข้าไม่มีวันทำสัญญากับนางแน่ ๆ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำ
แน่นอนว่าหลงหยันที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่พลันรู้สึกโล่งใจทันที เมื่อได้ยินสิ่งที่ป้านชิงเฉิงพูด เขาหัวเราะ “แม่สาวน้อย…เจ้าไม่สามารถใช้วิธีนี้ข่มขู่ข้าได้หรอก ข้าจะทำพันธะสัญญากับมนุษย์ได้อย่างไร ?”
ไป๋หยานไม่ได้เร่งเร้าหรือร้อนใจนางหาสถานที่เหมาะ ๆ ก่อนจะเอนหลังพิงต้นไม้โบราณ มือข้างหนึ่งของนางกอดไป๋เสี่ยวเฉิน ส่วนมืออีกข้างก็กอดร่างนุ่มนิ่มของเสี่ยวหลงเอ๋อ ใบหน้าที่งดงามของนางแย้มยิ้มสดใส
“ข้าให้เวลาเจ้าไตร่ตรองเจ้าเลือกได้ว่าจะอยู่ในสถานที่เน่า ๆ นี่ไปตลอดชีวิต หรือเลือกที่จะทำพันธะสัญญากับข้าและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา ?”
หลังจากที่นางกล่าวจบนางก็หลับตาลง นางรอการตัดสินใจของหลงหยันอย่างเงียบ ๆ …
…
ณเมืองสัตว์อสูร
สัตว์อสูรทั้งหมดต่างคุกเข่าลงบนพื้นเนื้อตัวสั่นสะท้านภายใต้แรงกดดันที่แข็งแกร่งของชายหนุ่ม พวกเขาไม่กล้าแม้จะเงยหน้าขึ้น
ห้องโถงทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายมืดมนพวกเขาต่างหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจ
“นี่ก็นานกว่าครึ่งเดือนแล้วเหตุใดยังหาราชินีไม่พบ?” น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชาและทรงพลัง นัยน์ตาเรียวคมของเขาจ้องมองคนที่อยู่ด้านล่าง
ไม่มีผู้ใดกล้าปริปากทว่าที่สุดผู้อาวุโสใหญ่ก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้า เอ่ยกล่าวเสียงสั่น ๆ ว่า “ทูลองค์ราชา พวกเราขุดลงไปร้อยฉื่อแล้ว ทว่าก็ยังหาราชินีไม่พบเลย … ราชินีอาจไม่ได้ประทับอยู่ที่นั่นแล้วก็เป็นได้ ?”
“ความรู้สึกของข้าจะผิดได้เช่นไร?” กลิ่นอายมืดมนของตี้คังโอบล้อมทุกคน “ ขุดหาต่อไป หากเจ้าไม่พบราชินีห้ามกลับมาพบข้าอีก !”
ผู้อาวุโสใหญ่ก้มศีรษะลง”พ่ะย่ะค่ะ องค์ราชา”
รับคำสั่งของตี้คังแล้วทุกคนในห้องโถงต่างก็ถอยกลับไป
ตี้คังเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่ในห้องโถงที่เคยแออัด
หลังจากที่ทุกคนหายตัวไปที่สุดตี้คังก็ไม่อาจหยัดยืนได้อีก เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า
“หยานเอ๋อ…หากชีวิตของข้าไม่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเช่นนั้นชีวิตของข้าจะมีความหมายใด ?”
“ข้าเคยบอกไว้แล้วว่าไม่ว่าเจ้าจะไปไกลจนถึงสุดขอบโลก จะขึ้นสวรรค์ หรือลงนรกข้าก็จะต้องหาตัวเจ้าพบอย่างแน่นอน !”
ตลอดชีวิตนี้ข้าจะไม่มีวันยอมแพ้ !
…
ยามนี้ไป๋หยานยังคงอยู่ข้างแท่นบูชา แน่นอน นางย่อมไม่ทราบว่าภายหลังที่นางจากไป เกิดความวุ่นวายเพียงใดในเมืองสัตว์อสูร
นางยังคงนั่งอยู่บนพื้นเงียบๆ รอการตัดสินใจของหลงหยัน
หลงหยัน…มองไป๋หยานขณะเดียวกันก็จ่อมจมอยู่ในห้วงคิดของตนเอง
เป็นเวลานานกว่าเสียงแหบแห้งชราภาพของเขาจะหลุดออกมาช้า ๆ
“ตกลงข้ายอมผูกพันธะสัญญา”
เวลานี้เขาแสร้งยอมผูกพันธะสัญญากับหญิงผู้นี้ทว่ารอจนเขาเป็นอิสระก่อนเถิด ถึงตอนนั้นเขาจะใช้โอกาสฟื้นฟูการมองเห็นของตน และหลังจากความแข็งแกร่งของเขากลับคืนมา เขาจะจัดการกับนางเด็กน้อยคนนี้ !
ไป๋หยานเหลือบมองหลงหยันเห็นได้ชัดว่าเขาคิดอะไรอยู่ พลันมุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เขาต้องการรอให้ตนเองฟื้นตัวแข็งแกร่งเช่นเดิมเสียก่อนจากนั้นก็จะฝ่าฝืนไม่ทำสัญญากับนาง ? และชำระบัญชีกับนางด้วยใช่หรือไม่ ?
เช่นนั้น…นางก็อยากดูเหมือนกันว่าความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรจะฟื้นตัวเร็วกว่าหรือนางจะพัฒนาความแข็งแกร่งได้เร็วกว่ากันแน่ !
“ตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้าไม่อาจเทียบเท่าเจ้า หากเจ้าบิดพริ้วเพียงเล็กน้อย สัญญาก็จะล้มเหลว และเมื่อนั้นชีวิตของข้าก็คงจะดับดิ้น เช่นนั้น … ”
บทที่ 1155 : ขุดถึงแกนโลก ก็จะหาเจ้าให้พบ (7)
ไป๋หยานหรี่ตาประกายแสงเย็นวาบผ่านนัยน์ตาของนาง
”เฉินเอ๋อ…แม่จะวางดาบไว้ตรงนี้เมื่อถึงเวลา หากชายผู้นี้แสดงท่าทีต่อต้าน เจ้าจงสังหารเขาทันที !”
สัตว์อสูรรู้ถึงตัวตนของเสี่ยวหลงเอ๋อหากแต่ไม่รู้ว่าเฉินเอ๋อก็เป็นจิ้งจอกน้อย เช่นนั้นนี่จึงเป็นเหตุที่นางแกล้งบอกกับไป๋เสี่ยวเฉิน
เพราะดาบนี้มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถใช้ได้
”ได้”
ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้าอย่างว่าง่าย”หม่ามี้…ไม่ต้องกังวล หากเขากล้าบิดพริ้วเฉินเอ๋อจะฆ่าเขาทันที !”
ไป๋หยานยิ้มน้อยๆ นางหลับตาลงช้า ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ แผ่พลังจิตของนางออกไป…
“ไม่ดีแล้ว!”
ใบหน้าของป้านชิงเฉิงเปลี่ยนไปอย่างมากนางอยากจะรีบหยุดไป๋หยาน ทว่าสายตาของนางก็ยังคงจับจ้องดาบยักษ์ที่วางอยู่ข้างกายไป๋เสี่ยวเฉิน นางเกิดความลังเล กระทั่งชะงักไปชั่วขณะ ระหว่างที่กำลังลังเลใจอยู่นั้น พันธะสัญญาของไป๋หยานกับหลงหยันก็เสร็จสมบูรณ์ ชั่วขณะนั้นเองใบหน้าของป้านชิงเฉิงก็ขาวซีด ความตื่นตระหนกปรากฏในดวงตาของนาง
“ผูกพันธะสัญญาเรียบร้อยแล้วข้าจะทำตามที่ได้รับปากไว้ ข้าจะปล่อยเจ้า”
ไป๋หยานยื่นมือออกไปพร้อมกับดาบยักษ์ที่ปรากฏในมือนางรูดดาบลงบนโซ่ ฉับพลันนางก็ตัดโซ่ขาด โซ่ตกลงกับพื้น
ครั้นหลงหยันได้รับอิสระแทนที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้น ในดวงตาของเขากลับมีความประหลาดใจปรากฏ
หลังจากประหลาดใจเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาพุ่งเข้าหาไป๋หยานด้วยความโมโหโกรธา
“เจ้า! นางสารเลว เจ้ากักขังข้าไว้ที่นี่ ข้าจะฆ่าเจ้า !”
ปัง!
ก่อนที่ร่างของเขาจะทันได้เข้าใกล้ไป๋หยานพลังที่มองไม่เห็นก็ผลักร่างของเขาให้กระเด้งถอยหลัง เขากระดอนถอยกลับหลังหลายตลบก่อนที่จะหยุด
นี่คือข้อจำกัดของพันธะสัญญาเนื่องจากพันธะสัญญานี้ ในฐานะผู้เป็นนาย หลงหยันจะไม่สามารถทำร้ายเจ้านายของตนได้
ไป๋หยานมองหลงหยันด้วยนัยน์ตาแดงก่ำนางเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของข้าจะถูกต้อง เจ้าต้องการสังหารข้าจริง ๆ โชคดีที่ข้าได้ผูกพันธะสัญญากับเจ้าแล้ว เจ้าไม่มีทางสังหารข้าได้ “
นัยน์ตาของหลงหยันเต็มไปด้วยความโกรธ“เจ้ายังกล้าพูดจาเช่นนี้อีก หากมิใช่เพราะเจ้า ข้าคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานในสถานที่เปล่าเปลี่ยวร้างไร้ผู้คนเช่นนี้ หากรู้ว่าแท้จริงแล้วเจ้าคือนางสารเลวคนนั้น ข้าขออยู่ที่นี่ชั่วชีวิตดีกว่าที่จะผูกพันธะสัญญากับเจ้า”
ทันทีที่ไป๋หยานได้ยินสิ่งที่หลงหยันพูดนางก็อดไม่ได้ที่จะตะลึง
“เจ้ารู้จักข้าด้วยกระนั้นรึ?”
“เจ้ายังกล้าเสแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกหรือเจ้าคิดรึว่าข้าจะจำเจ้าไม่ได้ ต่อให้เจ้าถลกหนังเปลี่ยนใบหน้าข้าก็จดจำเจ้าได้ เดิมทีข้ายังจำเจ้าไม่ได้ ทว่าหลังจากผูกพันธะสัญญากัน ข้าก็จำเจ้าได้อย่างแม่นยำ เพราะข้ารับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณของเจ้า ความรู้สึกคุ้นเคยนี้ไม่มีทางผิดแน่นอน !”
ไป๋หยานตกตะลึง
สัตว์อสูรตัวนี้รู้จักนางจริงๆ กระนั้นหรือ ? จากคำพูดของเขา ดูเหมือนว่านางจะเป็นผู้กักขังเขาไว้ในนี้ด้วยใช่หรือไม่ ?
หลงหยันชี้ไปยังหอกที่ปักบนตัวของเขา“เจ้าใช้หอกพวกนี้ผนึกพลังของข้าไว้ แม้ว่าเจ้าจะสลายกลายเป็นขี้เถ้า ข้าก็จดจำเจ้าได้อย่างแน่นอน นางสารเลว”
“เอ่อ…“ ไป๋หยานถูจมูกของนาง พลางยิ้มอย่างมีความสุข “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าพูดเรื่องใด ข้าเพิ่งมาถึงแดนสวรรค์ ทั้งข้าก็ไม่เคยพบเจ้ามาก่อน ข้าอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่าแดนมนุษย์”
หลงหยันตกตะลึงทว่าความโกรธในดวงตาของเขายังไม่จางหาย แต่กระนั้นสีหน้าของเขาก็ปรากฏความสับสนด้วย
“แดนมนุษย์สถานที่นั้นคืออะไร? แล้วแดนสวรรค์คืออะไร ? ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก โลกใบนี้มีเพียงใบเดียว เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้ากระนั้นรึ ?”
ไป๋หยานยักไหล่“จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า ข้าไม่เคยพบเจ้าจริง ๆ ทั้งข้าก็บังเอิญตกลงมาในสถานที่แห่งนี้ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะออกไปยังไง ?”