จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1176 -1180
บทที่ 1176 : ความริษยาของหนิงเยี่ย (3)
แม้พวกเขาจะไม่เข้าใจว่าไป๋เสี่ยวเฉินต้องการสิ่งใดทว่าพวกเขาก็หยุดการเคลื่อนไหว พวกเขาหยุดยืนอยู่นอกประตู สายตาที่พวกเขาจับจ้องมองหนิงเยี่ยเต็มไปด้วยความเย็นชาอีกทั้งระแวดระวัง
”เยี่ยเอ๋อ…เจ้ามาทำอะไรที่นี่? ไปซื้อขนมเค้กหอมหมื่นลี้ ไยจึงกลับมาเร็วจัง”
ในขณะที่หนิงเยี่ยกำลังงงงวยอยู่นั้นน้ำเสียงที่เฉยชาพลันดังมาจากด้านหลัง ส่งผลให้ใบหน้าของนางซีดเผือด
นางกลอกตาไปมาสองสามครั้งพลางกัดริมฝีปากพลันหยาดน้ำตาก็ร่วงเผาะ นางหันหน้ากลับไปมองอย่างน่าสงสาร ใบหน้าสวยของนางเต็มไปด้วยความคับข้องใจ
”ท่านอาหนิงข้าขอโทษ… เมื่อครู่ข้าขี้เกียจแทนที่จะไปที่ถนนตะวันออก ข้ากลับซื้อขนมเค้กหอมหมื่นลี้กล่องนี้มาจากร้านใกล้ ๆ นี่ ทำให้เฉินเอ๋อโกรธ เขาก็เลยทำเช่นนั้นด้วยความโมโห”
ไป๋หนิงขมวดคิ้วเล็กน้อยนางมองโต๊ะที่ล้มคว่ำ จากนั้นก็มองหนิงเยี่ยผู้ซึ่งมีน้ำตาพรั่งพรู คิ้วของนางย่นด้วยความไม่พอใจ
”เยี่ยเอ๋อหากเจ้าไม่ต้องการที่จะออกไปซื้อให้ เหตุใดเจ้าไม่บอกตรง ๆ ไยต้องหลอกลวงกันเช่นนี้ ครั้งที่เจ้ายังเด็ก ข้าเคยสั่งสอนเจ้าเช่นไร เจ้าต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ต้องเชื่อถือได้ เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้ ?”
ใบหน้าของหนิงเยี่ยแข็งทื่อ
ประเด็นก็คือ? ประเด็นคือไป๋เสี่ยวเฉินไม่ควรล้มโต๊ะไม่ใช่รึ?
ท่านอาหนิงลำเอียงมากเกินไปแล้ว
”เฉินเอ๋อ”ไป๋หนิงถอนหายใจ นางเงยหน้าขึ้นมองไป๋เสี่ยวเฉินพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอึดอัด “หากเจ้าไม่ชอบเค้กหมอหมื่นลี้นี่ ก็ให้นางกลับไปซื้อมาใหม่ ไยเจ้าจึงต้องทำเช่นนี้ ? เหตุใดต้องทำร้ายตัวเองด้วย ?”
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินแดงก่ำยามนี้นัยน์ตาดำขลับของเขาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
เขาจับมือเสี่ยวหลงเอ๋อจากนั้นก็โค้งคำนับให้ไป๋หนิงด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
”ท่านยายคนสวยข้าขอโทษด้วย น้องหลงเอ๋อและข้าต้องไปจากที่นี่แล้ว”
ไป๋หนิงถึงกับผงะในแววตาของนางปรากฏร่องรอยวิตกกังวล “เฉินเอ๋อ…เมื่อครู่นี้ยายไม่ได้ตำหนิเจ้า อย่าโกรธยายเลย ยายเพียงเกรงว่า หากเจ้าทำเช่นนั้น เจ้าอาจได้รับบาดเจ็บ หากเจ้าไปแล้วคนเลวพวกนั้นมาหาเจ้าอีกล่ะ…”
“เฉินเอ๋อไม่กลัวเฉินเอ๋อกับน้องสาวสามารถเอาตัวรอดมาได้ตลอดทาง เช่นนั้นพวกเราก็ย่อมเดินทางต่อไปได้” ใบหน้าเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินดื้อดึง น้ำตาเกือบจะไหลพรากจากนัยน์ตาสีดำของเขา เพียงเขากัดริมฝีปากกลั้นหยาดน้ำตาไว้ไม่ให้ร่วงหล่น
หนิงเยี่ยมองใบหน้าเล็กๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินอย่างสะใจ นางเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
แม้ว่าท่านอาหนิงจะเอ็นดูเด็กชายคนนี้มากทว่าหากเขาถูกขับออกไปได้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วที่จะให้ท่านอาหนิงดุนาง
เสี่ยวหลงเอ๋อเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆ นางมองไป๋เสี่ยวเฉินด้วยความรู้สึกสับสน
เสด็จพี่ยังไม่แน่ใจกระนั้นหรือว่านางเป็นท่านยาย? เหตุใดเขาถึงยอมจากไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ?
ในขณะที่แววตาของเสี่ยวหลงเอ๋อกำลังเต็มไปด้วยความสงสัยนั้นจู่ ๆ นางก็เห็นสายตาไป๋เสี่ยวเฉินจับจ้องมองมา ทันใดนั้นนางก็รู้สึกตื่นตัว นางรีบตอบสนองทันที นางกอดไป๋เสี่ยวเฉินพลางร้องไห้แงออกมาอย่างขมขื่น
”พี่ชายหลงเอ๋อไม่อยากไป พวกคนเลวนั่นต้องการจับหลงเอ๋อไปเลี้ยงต้อย หลงเอ๋อกลัวมาก … ”
ครั้นหลงหยันผู้ซึ่งอยู่นอกประตูแลเห็นเด็กน้อยทั้งสองเล่นละครร่ำไห้น้ำตาท่วมก็ให้รู้สึกงุนงง
และ‘เลี้ยงต้อย’ เด็กหญิงคนนี้ไปเรียนรู้ถ้อยคำนี้มาจากที่ใดกันนะ ?
“หลงเอ๋อไม่ต้องกลัวพี่ชายจะปกป้องหลงเอ๋อเอง” ไป๋เสี่ยวเฉินกอดเสี่ยวหลงเอ๋อแน่น นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความดื้อดึง “นอกจากนี้ ไม่ว่าเราจะต้องผจญอันตรายเพียงใด ก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่แล้วถูกหาว่าเป็นขอทาน”
”ฮือๆ แต่หลงเอ๋อชอบท่านยายคนสวยมากนี่” เสี่ยวหลงเอ๋อเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า นางถลาไปยืนหน้าไป๋หนิง พลางร้องไห้ทั้งน้ำตาและน้ำมูกไหลย้อย “ท่านยาย…อย่าขับไล่ข้าและพี่ชายไปเลยนะ พวกเราจะเชื่อฟังท่าน พวกเราจะช่วยดูแลลูก ๆ ของท่านที่จะถือกำเนิดในวันหน้า อีกทั้งจะไม่ทำให้ท่านโกรธอีก”
***จบบทความริษยาของหนิงเยี่ย (3)***
บทที่ 1177 : ความริษยาของหนิงเยี่ย (4)
ไป๋หนิงกำลังตกตะลึงกับถ้อยคำที่ไป๋เสี่ยวเฉินกล่าวว่าขอทานพลันเสียงอ้อนวอนอันอ่อนโยนของเสี่ยวหลงเอ๋อก็ดังเข้าหูนางอีก
นางรู้สึกสับสนไปหมด”ลูก… ลูกคนไหนกันที่พวกเจ้าจะช่วยข้าเลี้ยง ?”
เสี่ยวหลงเอ๋อหันไปมองหนิงเยี่ยด้วยทีท่าขลาดกลัวนางเม้มปากเล็ก ๆ ของนางเอ่ยกล่าวด้วยความเสียใจ “เมื่อครู่นี้ท่านป้าบอกว่า ท่านจะแต่งงานกับบิดาของนาง จากนั้นท่านก็จะกลายเป็นมารดาของนาง นางบอกด้วยซ้ำว่า พี่ชายและข้าควรจะออกไปไว ๆ นางไม่อยากให้พวกเราติดตามท่าน แต่ … หลงเอ๋อกลัวมาก ท่านยาย ท่านอย่าขับไล่หลงเอ๋อ และพี่ชายจะได้มั้ย ?”
นัยน์ตาของไป๋เสี่ยวเฉินเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาเขาเอื้อมมือมาคว้ามือเสี่ยวหลงเอ๋อ พลางกล้ำกลืนหยาดน้ำตา
”หลงเอ๋อพวกเราไปกันเถอะ มีเพียงหม่ามี้คนเดียวเท่านั้นที่รักเรา ในโลกนี้มีเพียงหม่ามี้เท่านั้นที่รักเราจริง”
”แง…”
เสี่ยวหลงเอ๋อร้องไห้อย่างขมขื่นในอ้อมแขนของไป๋เสี่ยวเฉิน”พี่ชาย หลงเอ๋อ คิดถึงท่านแม่มากเลย แต่ข้างนอกนั่นเต็มไปด้วยคนเลวมากมาย ไม่รู้ว่าเราจะอยู่รอดจนได้พบท่านแม่มั้ย …? ”
ไป๋หนิงจ้องมองเด็กน้อยทั้งสองด้วยสายตาว่างเปล่านางไม่สามารถตอบสนองอะไรได้ชั่วขณะ
เพียง…
เห็นไป๋เสี่ยวเฉินพยายามดึงมือเสี่ยวหลงเอ๋อเพื่อที่จะจากไป ความโกรธในใจของนางพลันปะทุขึ้นมาทันที นางหันไปมองหนิงเยี่ยด้วยสายตาเย็นชา
”หนิงเยี่ย…ข้าบอกเมื่อไหร่กันว่าข้าจะแต่งงานกับบิดาของเจ้า? ข้าปฏิเสธเขาไปแล้วอย่างชัดเจน ทว่าเจ้ากลับยังมีความคิดเช่นนี้อยู่อีก ข้าเป็นผู้พาเด็กทั้งสองคนนี้กลับมาเอง พวกเขาไม่ใช่ขอทาน ! เจ้าไม่มีสิทธิ์ขับไล่พวกเขาไปจากข้า”
ใบหน้าของหนิงเยี่ยเปลี่ยนเป็นซีดเผือดนางก้าวถอยหลังทันที “ข้า … ข้าเปล่า ท่านอาหนิง ข้าเปล่านะ … ”
“เปล่ากระนั้นรึ? เจ้าหมายความว่าเด็กทั้งสองคนนี้กำลังโกหกใช่หรือไม่ ?” ไป๋หนิงยิ้มเยาะ ทว่าแววตาของนางกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง
นางไม่เคยคิดเลยว่าเด็กสาวที่นางรักและเอ็นดูมาตั้งแต่เด็กจะเป็นคนเช่นนี้!
จะไม่ให้นางโกรธจนตัวสั่นได้เช่นไร?
จะไม่ให้นางผิดหวังมากมายได้เช่นไร?
พลันแววตาของหนิงเยี่ยก็สว่างไสวขึ้นนางกัดริมฝีปากเอ่ยกล่าวว่า “ท่านอาหนิง ใช่แล้ว เป็นพวกเขาที่โกหก ข้าเป็นคนที่ท่านเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนมากับมือ ไหนเลยข้าจะทำกับเด็กน้อยที่แสนน่ารักทั้งสองเช่นนั้นได้ ? ”
อย่างไรก็ตามไป๋หนิงเพิ่งมาถึง นางย่อมไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดเรื่องใดขึ้น เช่นนั้นนางจำต้องปฏิเสธไว้ก่อน
มุมปากไป๋หนิงยกเย้ยประชดประชัน”หนิงเยี่ย เอ๊ย ! หนิงเยี่ย เจ้ารู้จักข้ามานานหลายปีแล้ว, เจ้าคิดว่าข้าโง่กระนั้นหรือ ? หากเจ้ายอมรับตรง ๆ บางที … ข้าอาจจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ทว่า … เจ้ากลับบอกว่าเด็กทั้งสองคนนี้โกหก ?”
นางสูดลมหายใจเข้าลึกในแววตาของนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“มีโอกาสน้อยที่สุดที่เด็กๆ จะโกหก นับประสาอะไรกับพวกเขาที่ไม่มีความคับข้องหมองใจใดกับเจ้า เหตุใดพวกเขาถึงต้องใส่ร้ายเจ้าด้วย ?
“ข้า… ” ร่างของหนิงเยี่ยสั่นสะท้านรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่สุดแล้วนางประเมินเด็กทั้งสองต่ำเกินไป
ไม่คิดเลยว่าเด็กสองคนนี้จะมีความสามารถทำให้ท่านอาหนิงเอ็นดูพวกเขาได้มากถึงเพียงนี้
หนิงเยี่ยกำหมัดแน่นนางคุกเข่าลงกับพื้นทันที หยาดน้ำตาไหลพรั่งพรู นางร่ำไห้คร่ำครวญ
”ท่านอาหนิงข้าผิดไปแล้ว เยี่ยเอ๋อ…รู้ตัวแล้วว่าผิด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เยี่ยเอ๋อถือว่าท่านอาหนิงเป็นคนใกล้ชิดมาโดยตลอด ตอนนี้เยี่ยเอ๋อเห็นคนอื่นมายุ่มย่ามข้างกายท่าน สิ่งนี้กระตุ้นความอิจฉาของเยี่ยเอ๋อ เพราะเยี่ยเอ๋อรักท่านอาหนิงมากจริง ๆ แม้ว่าท่านอาหนิงจะไม่ได้แต่งงานกับท่านพ่อ ทว่าฐานะของท่านอาหนิงในใจของเยี่ยเอ๋อนั้นก็เทียบเท่ากับท่านแม่เลยทีเดียว”
หัวใจของไป๋หนิงสั่นสะท้านนางลดสายตาลงมองหนิงเยี่ยที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า นางถึงกับเงียบไป
***จบบทความริษยาของหนิงเยี่ย (4)***
บทที่ 1178 : ความริษยาของหนิงเยี่ย (5)
”ท่านอาหนิง”หนิงเยี่ยยกมือขึ้นจับมือไป๋หนิงแน่น “ก่อนหน้านี้เยี่ยเอ๋อรู้สึกอิจฉา เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท่านอาหนิงเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเยี่ยเอ๋อ จู่ ๆ ก็มีเด็กแปลกหน้ามาเพิ่มอีกสองคน เยี่ยเอ๋อเห็นท่านดีกับพวกเขามาก เช่นนั้นเยี่ยเอ๋อก็แค่อยากให้พวกเขาจากไปก็เท่านั้น เยี่ยเอ๋อรู้ตัวแล้วจริง ๆ ว่าเยี่ยเอ๋อทำผิด ท่านอาหนิงจะยกโทษให้เยี่ยเอ๋อได้มั้ย ?”
ไป๋หนิงมองหนิงเยี่ยที่แสนน่าสงสารหัวใจของนางอ่อนยวบลงทันที เด็กคนนี้ช่างน่าสงสารนัก นางสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังเล็ก นั่นเป็นเหตุที่ว่าไยนางถึงได้รักข้ามากมายเช่นนี้
ไม่คาดคิดเลยว่าเด็กที่น่ารักน่าชังเช่นนางเมื่อเติบใหญ่จะกลายเป็นคนขี้อิจฉาไปได้
ไป๋หนิงถอนหายใจหากแต่ท้ายสุดนางก็พยายามทำใจแข็ง “เยี่ยเอ๋อ เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากเหลือเกิน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะกลายเป็นเด็กเช่นนี้ เจ้าควรกลับไปก่อน ให้เฉินเอ๋อกับหลงเอ๋ออยู่เป็นเพื่อนข้าที่นี่สักพัก รอให้ข้าผ่อนคลายขึ้นกว่านี้แล้วค่อยว่ากัน”
หนิงเยี่ยตื่นตระหนกนางรู้ดีว่าหากนางจากไป ในภายหน้านางจะไม่มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับไป๋หนิงอีก
บางทีตำแหน่งของนางในใจของไป๋หนิงอาจจะถูกเด็กน้อยสองคนนี้แทนที่อย่างสิ้นเชิง
“ท่านอาหนิงข้ารู้ตัวแล้วจริง ๆ ว่า ข้าทำผิด หากท่านให้ข้าอยู่ที่นี่ต่อ ข้าจะช่วยดูแลเด็กทั้งสองคนนี้ให้”
”ดูแลพวกเขางั้นหรือ?” ไป๋หนิงยิ้มเยาะ “เจ้าอยากให้พวกเขาจากไป มิใช่รึ ?”
“ท่านอาหนิงข้าจะไม่ทำเช่นนั้นอีก ข้าสัญญา”
หนิงเยี่ยตื่นตระหนกแล้วจริงๆ นางดึงแขนเสื้อของไป๋หนิงแน่น พลางกล่าวอย่างน่าสงสาร
ไป๋เสี่ยวเฉินเหลือบมองหนิงเยี่ยเขาเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “ท่านยายคนสวย ในเมื่อนางอยากอยู่นักก็ให้นางอยู่เถอะ”
ไป๋หนิงนิ่งอึ้งนางก้มศีรษะลง พลางลูบศีรษะเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉิน
“เฉินเอ๋อ…เจ้าไม่โกรธนางแล้วหรือ?”
”เฉินเอ๋อไม่เคยโกรธเลยท่านยาย ท่านให้นางอยู่เถอะ” ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบตาสองสามครั้ง พลางยิ้มอย่างไร้เดียงสา
ไป๋หนิงหัวเราะ”ดี ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ก็ทำตามที่เจ้าว่าแล้วกัน”
นางไม่อาจปฏิเสธคำขอของเด็กชายคนนี้ได้เลย
ดังนั้นเมื่อคำกล่าวของไป๋เสี่ยวเฉินจบลงไป๋หนิงก็ส่งสายตาไปมองหนิงเยี่ย น้ำเสียงของนางเย็นชา “เฉินเอ๋อขอร้องแทนเจ้าแล้ว ข้าจะอนุญาตให้เจ้าอยู่ต่ออีกสักครั้ง หากเจ้าทำผิดซ้ำสอง เจ้าจะต้องไปจากที่นี่ทันที ทั้งข้าจะไม่ขอพบเจ้าอีกชั่วชีวิต !”
“ท่าอาหนิงข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทำอีกแล้ว”
หนิงเยี่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงความรัก และการตามใจที่ไป๋หนิงมีต่อไป๋เสี่ยวเฉินแล้ว นางก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางถูกมดกัด กระทั่งนางเจ็บปวดจนแทบทนไม่ได้
”เจ้าไปก่อนเถอะอย่ารบกวนเฉินเอ๋อ และคนของเขาอีกเลย” ไป๋หนิงกล่าว นางลูบศีรษะของไป๋เสี่ยวเฉินเบา ๆ “ยายจะออกไปก่อน หากนางกล้ารังแกเจ้าอีกก็ไปบอกยายนะ ยายจะแก้แค้นให้เจ้าเองดีหรือไม่ ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้าพลางกระพริบนัยน์ตากลมโต เขาแย้มยิ้มอย่างสดใสไร้เดียงสา “ท่านยายคนสวย หากท่านเป็นยายแท้ ๆ ของเฉินเอ๋อจริงก็คงดี”
ไป๋หนิงยิ้ม”ในเมื่อเจ้าเรียกข้าว่ายาย ข้าก็ไม่ต่างจากยายของเจ้าแล้วมิใช่หรือ ?”
ไม่แตกต่างกระนั้นรึ? มันแตกต่างอย่างมากเลยแหละ
ไป๋เสี่ยวเฉินทำปากจู๋ในใจให้นึกสงสัยว่าท่านตาของเขาจะหดหู่เช่นไร หากรู้ว่าเขาเรียกคนอื่นว่าท่านยาย ?
ไป๋หนิงไม่อยากรบกวนเด็กน้อยทั้งสองหลังจากเหลือบไปมองหนิงเยี่ย นางก็เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ ?”
หนิงเยี่ยลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างกระตือรือร้นนางหลุบตาลง จากนั้นก็เดินออกจากห้องโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
ภายหลังที่หนิงเยี่ยจากไปแล้วไป๋หนิงก็ก้าวข้ามธรณีประตูออกไป นางไม่ลืมที่จะปิดประตูให้เด็กน้อยทั้งสองด้วย
”เสด็จพี่เหตุใดท่านถึงปล่อยนางจากไปล่ะ ?” สีหน้าของเสี่ยวหลงเอ๋อเปลี่ยนไปทันที คราบน้ำตาพลันถูกเช็ดออกไปด้วย นัยน์ตาที่เคยมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอของนางจับจ้องมองไป๋เสี่ยวเฉิน พลางเอ่ยถามถึงสิ่งซึ่งนางไม่เข้าใจ
***จบบทความริษยาของหนิงเยี่ย (5)***
บทที่ 1179 : ความริษยาของหนิงเยี่ย (6)
”ยายโง่!” ไป๋เสี่ยวเฉินเขกหัวเสี่ยวหลงเอ๋อ “ยายของข้าเลี้ยงดูนางมานานหลายปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีความรู้สึกใด ๆ กับนางเลย ต่อไปนางและบิดาของนางจะต้องเป็นหอกข้างแคร่ของเราอย่างแน่นอน ทว่าข้าจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดมาแย่งท่านยายของข้าไปเป็นแน่”
ท่านยายเป็นของท่านตาเพื่อความรักของท่านตาเขาก็ต้องปกป้องท่านยายไว้ให้ได้ !
ขนตาของเสี่ยวหลงเอ๋อกระพือขึ้นลงเล็กน้อยแววตาของนางเต็มไปด้วยอาการงวยงง
”ดังนั้น… ” ไป๋เสี่ยวเฉินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “หากนางอยู่ที่นี่ นางย่อมไม่สามารถอดกลั้นไม่ทำอะไรพวกเราได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นท่านยายของข้าย่อมจะต้องผิดหวังในตัวนาง และหอกข้างแคร่นี้ก็จะถูกกำจัดออกไปเอง”
แววตาของเสี่ยวหลงเอ๋อพลันสว่างไสวขึ้นนัยน์ตาของนางแพรวพราวราวดวงดารา นางจับจ้องมองไป๋เสี่ยวเฉินตาไม่กระพริบ สายตาของนางเต็มไปด้วยความยกย่องบูชาในตัวเขา
“เสด็จพี่ฉลาดจังเลย”
“แน่นอน…ข้าเป็นลูกของหม่ามี้ข้าย่อมจะไม่เหมือนคนโง่พวกนั้นอย่างแน่นอน”
ในขณะที่กล่าวเช่นนี้มุมปากของไป๋เสี่ยวเฉินพลันยกขึ้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
หม่ามี้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้นในฐานะลูกของนาง เขาจะเป็นตัวถ่วงนางได้อย่างไร ?
”หลงเอ๋อ…พยายามเรียนรู้จากข้าไว้โชคดีที่ครานี้เจ้าตอบสนองไว เลยสามารถผสมโรงกับข้าได้ อย่างเดียวที่ข้าไม่สบายใจ ก็คือหลอกใช้ท่านยายของข้า”
เขาใช้ประโยชน์จากความรักของท่านยายที่มีต่อเขาเพื่อให้ได้เปรียบในครั้งนี้
ไป๋เสี่ยวเฉินก้มหน้าลงพลันความภาคภูมิใจบนใบหน้าของเขาก็มลายหายไป กลับกลายเป็นความรู้สึกผิดแทนที่
”หลงเอ๋อครั้งนี้เราใช้ประโยชน์จากความรักของท่านยายที่มีต่อเราเช่นนั้นต่อไปเราต้องดีกับท่านยายให้มาก ๆ นะ” ไป๋เสี่ยวเฉินเม้มริมฝีปาก แววตาของเขาแน่วแน่ “หากแต่ตอนนี้เพื่อความสุขของท่านตาแล้ว เราไม่เหลือทางเลือกอื่น เราต้องกำจัดตัวสร้างความรำคาญรอบ ๆ ตัวท่านยายไปเสียก่อน !”
เสี่ยวหลงเอ๋อมองไป๋เสี่ยวเฉินนางกลั้นใจอยู่เป็นนาน กว่าจะถอนหายใจเอ่ยกล่าวออกมาว่า “หากองค์ราชาทรงได้ยิน พระองค์คงเศร้ามาก … ”
ก็เสด็จพี่เพียงเพื่อท่านตาแล้ว เขาถึงขั้นจะขับไล่ชายที่คอยรบกวนท่านยาย หากแต่เขา … ไม่เคยช่วยองค์ราชาตามตื๊อราชินีเลย
นางยังได้ยินมาว่าในอดีตเสด็จพี่ของนางยังเคยอยากได้คนอื่นมาเป็นพ่อบุญธรรมของเขาด้วยซ้ำทั้งยังกันท่าองค์ราชาตลอดเวลา
ตอนนี้หากองค์ราชาทรงทราบว่าเสด็จพี่กำลังพยายามทำอะไรพระองค์คงจะเสียพระทัยมากเป็นแน่ …
”มันต่างกัน”ไป๋เสี่ยวเฉินจู๋ริมฝีปากสีชมพูของเขาเบา ๆ แววตาของเขาสว่างไสวราวกับดวงดารา “ท่านตาเป็นคนที่หม่ามี้รัก และข้าย่อมรักคนที่หม่ามี้รักด้วย ข้าเลยต้องช่วยท่านตา”
ความหมายก็คือก่อนหน้านี้ไป๋หยานไม่ชอบตี้คัง … เช่นนั้นแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้มารดาของเขาไม่มีความสุข
“หลงเอ๋อตอนนี้เจ้าก็นับเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของข้าแล้ว เจ้าต้องจำไว้อย่างหนึ่งว่า ครอบครัวของเรา หม่ามี้เป็นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คำพูดทุกคำของหม่ามี้ถือว่าถูก ส่วนคนที่ทำไม่ดีกับหม่ามี้ ทั้งหมดคือคนเลว !”
ไป๋เสี่ยวเฉินหันหน้าไปพูดกับเสี่ยวหลงเอ๋ออย่างจริงจังและเคร่งขรึม
เสี่ยวหลงเอ๋อพยักหน้าอย่างงงๆ “แล้ว ราชาเป็นอันดับสองหรือ ?
“ไม่อันดับสองคือน้องสาวที่ยังไม่เกิด ส่วนป๊ะป๋าวายร้ายเขานับเป็นที่สาม … ”
มุมปากของเสี่ยวหลงเอ๋อโค้งงอ”ไม่เอา เสด็จพี่ต้องเป็นอันดับสาม เพราะหลงเอ๋อชอบเสด็จพี่มากกว่า”
โชคดีที่ตี้คังไม่ได้อยู่ที่นี่ในยามนี้หาไม่หากเขารู้ว่า เขาเป็นอันดับท้ายสุดในใจของเด็กน้อยทั้งสอง เขาคงจะหน้าดำคล้ำด้วยความโกรธ
”เยี่ยมไปเลย”
ไป๋เสี่ยวเฉินลูบศีรษะของเสี่ยวหลงเอ๋อราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย จากนั้นนัยน์ตาทรงอำนาจของเขาก็กวาดไปมองหลงหยันและป้านชิงเฉิง
***จบบบทความริษยาของหนิงเยี่ย (6)***
บทที่ 1180 : ชายที่รักไป๋หนิง (1)
“หากรู้สึกสัมผัสถึงท่านแม่ได้ก็รีบบอกให้ข้ารู้ทันที”
น้ำเสียงของเขาออกคำสั่งอย่างเคร่งขรึมเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงอำนาจ ปราศจากความไร้เดียงสาเฉกเช่นในอดีต
มุมปากของหลงหยันกระตุกแม้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะไม่บอกเขา แต่หากเขารับรู้ได้ถึงเบาะแสของหญิงผู้นั้น เขาก็ต้องมาแจ้งให้เด็กชายคนนี้ทราบอย่างแน่นอน
”ไปได้”ไป๋เสี่ยวเฉินเลิกคิ้ว จากนั้นเขาก็หันไปมองเสี่ยวหลงเอ๋อ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส “น้องหลงเอ๋อ เจ้าก็ไปพักผ่อนเถอะ อีกไม่นานหม่ามี้จะต้องมาหาเราแน่”
”อืม…”
เสี่ยวหลงเอ๋อพยักหน้าอย่างว่าง่ายนางลุกขึ้นยืนข้าง ๆ ไป๋เสี่ยวเฉิน จ้องมองเขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหันหลังผละออกจากห้องไป
…
ขณะเดียวกันนี้นั้นหนิงเยี่ยก็ก้าวเข้าไปในห้องของโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ นางอยากจะหยิบถ้วยน้ำชาบนโต๊ะขึ้นมาขว้าง หากแต่นางก็กลัวว่าจะเป็นการรบกวนไป๋หนิง นางจึงโยนถ้วยชากลับไปบนโต๊ะอย่างแรง
“เจ้าเด็กชั่วนั่นบังอาจให้ร้ายข้า !”
นางกัดฟันอย่างแรงสายตาของนางเต็มไปด้วยความดุร้าย
”ในเมื่อเขากล้าฉกท่านอาหนิงไปจากข้าข้าก็จะไม่ปล่อยเด็กบ้าคนนี้ลอยนวลเป็นแน่ !”
เด็กนั่นอย่างไรเสียก็แค่เด็กไม่ว่าจะมีแผนการล้ำลึกเพียงใด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพละกำลังแข็งแกร่ง เมื่อถึงเวลาที่ท่านอาหนิงเผลอ ข้าก็จะสังหารเด็กคนนั้นซะ !
อย่างไรก็ตามทันทีที่ความคิดของหนิงเยี่ยหยุดลงประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก นางตกใจมาก จึงรีบเงยหน้าขึ้นมอง สตรีในอาภรณ์สีน้ำเงินก้าวผ่านประตูเข้ามา
“ท่านอาหนิงเหตุใดถึงมาที่นี่ได้ ?”
ไป๋หนิงขมวดคิ้วพลางจ้องมองหนิงเยี่ย
บรรยากาศทั่วทั้งห้องเงียบลงทันทียามนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแปลก ๆ
สุดท้ายไป๋หนิงก็ถอนหายใจเบา ๆ
เสียงถอนหายใจของนางทำลายความสงบในเวลานี้
”เยี่ยเอ๋อ…ข้าคิดเสมอว่าเจ้าเป็นเด็กดีหากแต่พฤติกรรมของเจ้าในวันนี้กลับทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ หากเฉินเอ๋อไม่บอกให้ข้าเก็บเจ้าไว้ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าอยู่ข้างกายข้าอีก”
ไป๋หนิงมองหนิงเยี่ยด้วยสายตาเคร่งขรึมแววตาของนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง
หนิงเยี่ยตื่นตระหนกนางรีบก้าวไปข้างหน้า ฉวยคว้าแขนเสื้อของไป๋หนิงพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า
”ท่านอาหนิงข้ารู้แล้วจริง ๆ ว่าข้าทำผิดไป ข้ารักท่านมากเกินไป ท่านก็รู้ดีว่าข้าไม่มีแม่มาตั้งแต่ข้ายังเล็ก ท่านเลี้ยงดูข้ามา ข้าเพียง … ข้าไม่ต้องการให้ใครมาแย่งท่านไป”
ไป๋หนิงยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายศีรษะ: “หากเจ้าไม่ใช่คนที่ข้าเลี้ยงดูมา ตอนนี้ข้าคงจะไม่ยืนอยู่ที่นี่ และพูดคุยกับเจ้า น่าเสียดายที่แม้ว่าข้าจะเลี้ยงดูเจ้า ทว่าข้าก็ไม่ได้อบรมเจ้าดีพอ จึงทำให้เจ้ากลายเป็นคนใจแคบเช่นนี้”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานางเอาแต่ยุ่งวุ่นวายตลอดเวลา ส่วนหนิงเยี่ยก็เติบโตขึ้นมาข้างกายหนิงหยวน เช่นนั้นนางจึงไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนหนิงเยี่ยมากนัก กระทั่งทำให้หนิงเยี่ยกลายเป็นเด็กใจคอคับแคบเช่นนี้
หนิงเยี่ยหลุบตาลงหัวใจของนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ร่างของนางสั่นสะท้านเล็กน้อย
นางกลัว…นางกลัวเหลือเกินว่าหลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไป ท่านอาหนิงจะเมินเฉยต่อนางโดยสิ้นเชิง หากเป็นเช่นนี้นางคงจะไม่มีทางยอมรับได้
”เยี่ยเอ๋อ…เฉินเอ๋อเด็กน้อยคนนั้นน่าสงสารมาก ข้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไม นับแต่ครั้งแรกที่ข้าเห็นเขา ข้าก็รู้สึกชอบเด็กคนนี้มาก เช่นนั้นข้าจึงไม่อยากให้เจ้ารังแกเขา มิเช่นนั้นไม่ว่าครั้งหน้าผู้ใดจะขอร้องข้า ข้าก็จะไม่มีวันให้อภัยเจ้าอีก !”
หลังจากทิ้งคำกล่าวเตือนไว้ไป๋หนิงก็สะบัดแขนเสื้อ จากนั้นก็หันหลังเดินออกจากประตูไป
หลังจากร่างของไป๋หนิงลับตาไปแล้วขาของหนิงเยี่ยก็อ่อนแรง นางถึงขั้นทรุดลงกับพื้น
***จบบทชายที่รักไป๋หนิง (1)***