จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1211-1215
บทที่ 1211 : ปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ (2)
ไป๋เสี่ยวเฉินใช้มือเล็กๆ ของเขาดึงแขนเสื้อของไป๋หยาน “หม่ามี้ เหตุใดท่านถึงปล่อยหญิงผู้นั้นไป ?”
ครั้นได้ยินเช่นนี้ไป๋หยานก็ลูบศีรษะเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินพร้อมด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “เราต้องปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ หากเราไม่ปล่อยนางไปเราจะจับปลาตัวใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังนางได้อย่างไร ?”
ไป๋เสี่ยวเฉินเข้าใจได้ทันทีพลันรอยยิ้มสดใสก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา “เฉินเอ๋อเข้าใจดี หม่ามี้รอบคอบเสมอ ไว้รอปลาตัวใหญ่โผล่มา เราค่อยจัดการกับนาง !”
คำพูดของสองแม่ลูกทำให้เสี่ยวหลงเอ๋อสับสนนางเงยหน้าขึ้นมองไป๋หยาน ตาไม่กระพริบ
“ท่านแม่ทำไมข้าไม่เข้าใจที่ท่านกับเสด็จพี่พูดเมื่อครู่เลยล่ะ พวกท่านกำลังจะไปตกปลากันจริง ๆ หรือ ? ถ้าต้องการปลาก็ไม่เห็นจำเป็นต้องลำบากขนาดนั้นเลย ข้าจับปลามาให้ก็ได้”
ไป๋หยานยิ้มน้อยๆ นางยกมือขึ้นกอดร่างนุ่มนิ่มของเสี่ยวหลงเอ๋อ รอยยิ้มที่มุมปากนางกว้างขึ้น
”หลงเอ๋อจะเข้าใจเองในภายหลัง”
”อ้อ”เสี่ยวหลงเอ๋อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่หม่ามี้และเสด็จพี่ทำนั้นถูกต้องเสมอ
มีเพียงไป๋หนิงเท่านั้นที่ยังคงครุ่นคิด
หลังจากนั้นไม่นานนางก็กวาดตามามองไป๋หยานอย่างอ่อนโยนพลางขมวดคิ้ว “หยานเอ๋อ เจ้ากำลังวางแผนที่จะ … ”
”ท่านแม่…มีบางเรื่องเมื่อความทรงจำท่านกลับคืนมาท่านก็จะรู้ได้เอง”
”ความทรงจำกลับมา?”
ร่างของไป๋หนิงสั่นสะท้านแววตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ความทรงจำของข้าจะกลับคืนมาได้จริง ๆ หรือ ? แล้วข้าจะจำญาติ ๆ ของข้าได้หรือไม่ ?”
ไป๋หยานพยักหน้ายืนยัน”ข้าจะหาวิธีฟื้นความทรงจำของท่านให้ได้”
การฟื้นความทรงจำไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับไป๋หยานทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้นางไม่มียาในมือ หลังจากได้กินยาเหล่านั้นแล้ว มารดาของนางก็จะสามารถฟื้นฟูความทรงจำเอง
ชั่วขณะนี้หัวใจของไป๋หนิงสั่นสะท้านใบหน้าที่สวยงามของนางแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
หลังจากนั้นไม่นานนางก็ระงับความตื่นเต้นลงได้ นางเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยน
”ก่อนหน้านี้หนิงเยี่ย…บอกข้าว่าข้าสูญเสียความทรงจำเพราะข้าถูกญาติทอดทิ้ง ถูกทำร้ายจิตใจ และบาดเจ็บสาหัส หากแต่ข้ารู้สึกเสมอว่าญาติของข้าจะไม่ทอดทิ้งข้า พวกเขาต้องรอข้าอยู่ที่ไหนสักแห่ง หรืออาจกำลังตามหาข้าอยู่”
แววตาของนางเป็นประกายนางจับจ้องมองไป๋หยานตาไม่กระพริบ ราวกับกำลังรอคำตอบจากไป๋หยาน
อย่างไรก็ตามไป๋หยานก็ไม่ได้ให้คำตอบแก่นาง
นัยน์ตาของไป๋หยานเต็มไปด้วยรอยยิ้มนางยกมือขึ้นโอบกอดไป๋หนิงเบา ๆ
”ไม่ต้องห่วงญาติของท่านจะไม่มีวันทอดทิ้งท่านอย่างแน่นอนพวกเขารักท่านมาก”
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาท่านตาเฝ้าคิดถึงแต่ท่านแม่ส่วนท่านลุงแม้จะได้รับบาดเจ็บ หากแต่เขาก็ยังพยายามตามหานาง กระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังคงเดินทางไปทั่ว เพียงเพื่อตามนางกลับมาให้เร็วที่สุด
ท่านพ่อของข้าก็บ้าคลั่งเพราะเฝ้าคิดถึงแต่ท่านแม่ทว่าตอนนี้เขามีสติแล้ว เขาก็ออกเดินทางติดตามหาท่านแม่เช่นกัน
เพียงแค่ท่านแม่ไม่เคยรู้ก็เท่านั้น…
อย่างไรก็ตามสักวันหนึ่งนางจะรู้ว่าในอีกดินแดนหนึ่งยังมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังตามหานางอยู่
ไป๋หนิงลดสายตาลงยกมุมปากแย้มยิ้ม “ข้าเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ทอดทิ้งข้า ข้าพยายามพัฒนาความแข็งแกร่ง เพื่อจะได้พบกับพวกเขาในสักวันหนึ่ง หยานเอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ข้ามักฝันตลอด ?”
“ในความฝันนั้นข้ากำลังวิ่งหนี ในอ้อมแขนก็อุ้มเด็กทารก เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด ข้ายังจำหน้าตาของเด็กคนนั้นได้ ช่างน่ารักมาก ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นราวกับถูกแกะสลักอย่างสวยงามไม่ยับย่นเหมือนเด็กทารกคนอื่น ๆ เลย”
บทที่ 1212 : ปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ (3)
“เช่นนั้นข้าจึงสงสัยมาตลอดว่า ก่อนที่ข้าจะสูญเสียความทรงจำข้าน่าที่จะมีบุตรสาว ดังนั้นข้าจึงปฏิบัติต่อหนิงเยี่ยราวกับนางเป็นบุตรสาวของข้าเอง ข้าระบายความรู้สึกที่มีต่อบุตรสาวของข้ากับนาง บางทีนางอาจจะรู้สึกเช่นกัน เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับนางเลย”
ไป๋หนิงถอนหายใจเบาๆ นางผิดเองตั้งแต่แรก นางไม่ควรถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อบุตรสาวของนางให้แก่หนิงเยี่ย เพราะนางอาจจะรู้สึกดีขึ้น หากแต่จะเป็นการทำร้ายหนิงเยี่ยไปตลอดชีวิต
ถ้าหากตั้งแต่แรกนางไม่เคยดูแลหนิงเยี่ยไม่เคยให้ความอบอุ่นหนิงเยี่ยเช่นนั้นมาก่อน ตอนนี้หนิงเยี่ยอาจจะไม่ทำผิดพลาดเช่นนี้
”หยานเอ๋อคิดดูแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า หากวันหน้าเจ้าต้องการสังหารนางจริง ๆ ก็อย่าให้นางต้องทรมานนักจะได้หรือไม่ ?”
ไป๋หยานมองใบหน้าที่รู้สึกผิดของไป๋หนิงพลางพยักหน้าเล็กน้อย “ได้ ข้าให้สัญญากับท่าน”
ครั้นได้ยินคำมั่นนี้หัวใจของไป๋หนิงก็รู้สึกโล่ง นัยน์ตาที่สวยงามของนางจับจ้องไป๋หยาน พลางยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาของข้าหรือไม่ ? หากแต่ตลอดเวลาความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าและเฉินเอ๋อนั้นเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ความใกล้ชิดความสนิทสนมเช่นนี้เทียบไม่ได้กับหนิงเยี่ยที่อยู่ข้างกายข้ามานานหลายปี บางที … ข้าหมายถึง บางทีเจ้าอาจจะเป็นบุตรสาวที่หายไปของข้าก็เป็นได้”
ไป๋หยานตัวแข็งทื่อนางเกือบจะกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจออกมา หากแต่ท้ายสุดนางก็ยั้งมันไว้ทัน
”ท่านแม่ยามนี้ข้าก็เป็นบุตรสาวของท่าน ส่วนเฉินเอ๋อก็เป็นหลานชายของท่านเช่นกัน” ไป๋หยานยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม
รอยยิ้มของนางสดใสมากสว่างไสวยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
เรื่องของนางกับไป๋หนิงนั้นไว้รอจนกว่าไป๋หนิงจะฟื้นความทรงจำสำเร็จ เมื่อถึงตอนนั้นไป๋หนิงก็จะรู้ทุกอย่างด้วยตนเอง โดยที่นางไม่ต้องพูดอะไรมาก
ทว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการฟื้นฟูความทรงจำของไป๋หนิง
เอี๊ยดอ๊าด เอี๊ยด อ๊าด !
ในขณะนี้สายลมกระโชกแรงพัดขึ้นด้านนอกประตูภายใต้สายลมกระโชกแรงนี้ ประตูและหน้าต่างที่เป็นสนิมพลันเปิดพึ่บพั่บเสียงลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดไม่หยุด
ไป๋หยานขมวดคิ้วนางหันกลับไปมองข้างหลัง สักพักก็เห็นชายชราคนหนึ่งร่อนลงมาจากความว่างเปล่ามายืนอยู่เบื้องหน้านาง …
ในเวลาเดียวกันยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตามหลังชายชรามาเต็มทั่วทั้งท้องถนน
”หยานเอ๋อ!” หัวใจของไป๋หนิงสั่นสะท้าน นางรีบดึงไป๋หยานมาปกป้องไว้ข้างหลังตนเอง พลางจ้องมองกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง “พวกเจ้าเป็นใคร ?”
ทว่าชายชราเหมือนจะไม่ได้ยินถ้อยคำของไป๋หนิงเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ก่อนจะโค้งคำนับไป๋หยานกับไป๋เสี่ยวเฉิน เอ่ยกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพ “ราชินี องค์ชาย ราชามีรับสั่งให้กระหม่อมมาเข้าเฝ้าราชินี ราชินีนับจากวันที่พระองค์หายตัวไปกระทั่งวันนี้ ราชาไม่เป็นอันกินอันนอนเลยพ่ะย่ะค่ะ … ”
ปัง!
ชายชรายังกล่าวไม่ทันจะจบประโยคจู่ ๆ กระแสลมแรงก็พัดมาจากด้านหน้า เข้ามาปะทะหน้าอกของเขาทันที
ผู้อาวุโสใหญ่เงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจเขามองใบหน้าดุดัน พลันงุนงงในทันที
หญิงผู้นี้เป็นใครกัน? เหตุใดจึงมีใบหน้าคล้ายกับราชินี ?
ทั้งยังแสดงท่าทีราวกับว่า… เขาเป็นคนร้ายด้วย
”เอ่อ… ” ผู้อาวุโสใหญ่หันศีรษะไปมองไป๋หยานอย่างแข็งกร้าว “ราชินี แม่นางผู้นี้เป็นใครกันพ่ะย่ะค่ะ ?”
มุมปากของไป๋หยานกระตุก”นางเป็นมารดาของข้า”
นัยน์ตาของผู้อาวุโสใหญ่เบิกกว้างขึ้นทันทีหญิงผู้นี้เป็นพระมารดาของราชินีกระนั้นรึ ? นี่ข้าไปทำอะไรให้นางขุ่นเคือง นางจึงทุบข้าทันทีที่ได้พบหน้ากัน ?
ในขณะที่ผู้อาวุโสใหญ่กำลังงงงวยอยู่นั้นไป๋หนิงก็หยิบม้านั่งข้าง ๆ ขึ้นมาทุ่มใส่เขาอีก พลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “เจ้ายังกล้ามาหาบุตรสาวของข้าอีกกระนั้นหรือ ?”
ผู้อาวุโสใหญ่มองอย่างตกตะลึง
บทที่ 1213 : ปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ (4)
เขาไม่ควรมาหาราชินีกระนั้นหรือ?
เหตุใดพระมารดาของราชินีจึงโกรธมากถึงเพียงนี้?
“นี่… กระหม่อมทำสิ่งใดผิดไปกระนั้นรึ ?” ผู้อาวุโสใหญ่หันไปมองไป๋หยานด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับความเสียใจในน้ำเสียงของเขา
”ท่านแม่… ” ไป๋หยานพยายามอธิบายบางอย่าง ช่วงเวลาเดียวกันนั้นสายตาของไป๋หนิงก็กวาดโดยรอบ นางตวาดออกมาอย่างทรงอำนาจ
”ไม่ต้องพูดอีกแล้ว…วันนี้ข้าจะไม่ยอมให้คนพวกนี้พรากเจ้าไปเด็ดขาด พวกเจ้าเคยรังแกลูกสาวและหลานชายของข้า ตอนนี้ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่แล้ว จะดูสิว่าผู้ใดจะกล้ารังแกสองแม่ลูกอีก !”
รังแกราชินีกับองค์ชาย?
มุมปากของผู้อาวุโสใหญ่กระตุกสองสามครั้งเป็นความจริงที่ราชาชอบรังแกองค์ชาย หากแต่กับราชินีแล้ว … พระองค์แทบอดพระทัยรอไม่ไหวที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับราชินี พระองค์จะกล้ากลั่นแกล้งรังแกราชินีได้อย่างไร ?
หรือว่า…
พระมารดาของราชินีรู้เรื่องที่ว่ามีคนปลอมเป็นองค์ราชาทำให้ราชินีทรงกริ้วกระทั่งองค์ชายน้อยต้องตกอยู่ในอันตรายด้วยกระนั้นรึ ?
ครั้นนึกถึงสิ่งนี้ผู้อาวุโสก็ปาดเหงื่อ “แม่นางไป๋…นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด ข้าสามารถอธิบายได้ … ”
”อธิบายว่าอย่างไร?” ไป๋หนิงชักดาบยาวออกมาด้วยความโกรธ พลางชี้ปลายดาบไปที่คนของแดนอสูร ใบหน้าของนางเย็นชา นางตวาดออกมาอย่างรุนแรง “ในเมื่อวันนั้นพวกเจ้าละทิ้งเฉินเอ๋อและหยานเอ๋อ ข้าก็จะไม่ให้พวกเขากลับไปอีก ออกไป ! ออกไปจากที่นี่ให้หมด ข้าไม่อยากทำร้ายพวกเจ้าต่อหน้าหยานเอ๋อ หากผู้ใดยังกล้าเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีก ก็อย่าโทษข้าที่หยาบคาย !”
ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นสีเข้มนางรู้ทันทีว่าไป๋เสี่ยวเฉินใส่ร้ายตี้คังเพื่อที่จะได้อยู่เคียงข้างไป๋หนิง
เช่นนั้น…
หลังจากมองผู้อาวุโสใหญ่ที่กำลังงงงวยนางก็หันไปมองไป๋หนิง
”ท่านแม่เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะเฉินเอ๋อพูดไร้สาระ ตี้คังเขา … ”
”หยานเอ๋อข้ารู้ว่าเจ้าไม่สามารถทิ้งชายผู้นั้นได้ เช่นนั้นเจ้าจึงต้องการเอ่ยปากแทนเขา แต่ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้า ! ลูกสาวที่ดีที่สุดของข้า ในอาณาจักรสวรรค์นี้เจ้าสามารถหาคู่ที่ดีกว่านี้ได้มากมาย ! ในเมื่อเขากล้าทำร้ายจิตใจเจ้า ไยเจ้าจึงเฝ้าคิดถึงเขาอีก วันหนึ่งแม่จะช่วยหาผู้ชายดี ๆ ที่สามารถยอมรับเฉินเอ๋อให้เจ้าเอง !”
ลูกเขยของนางอาจจะไม่มีอะไรเลยหรืออาจจะไม่เข้มแข็งพอก็ตาม หากแต่เขาต้องอ่อนโยนรักเดียวใจเดียว คงมั่นเพียงบุตรสาวของนาง !
ทว่าชายผู้นั้นไม่เพียงแต่จะทำให้เฉินเอ๋อต้องหนีออกมาข้างนอกตั้งแต่อายุยังน้อยเขายังทำร้ายจิตใจของหยานเอ๋อ นางจะปล่อยให้หยานเอ๋อยอมรับชายผู้นี้หมดทั้งหัวใจได้อย่างไร ?
”ท่านแม่เฉินเอ๋อพูดไร้สาระจริง ๆ”
สีหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นดำคล้ำนางพยายามปกป้องตี้คัง
”หยานเอ๋อเจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว เฉินเอ๋ออายุเท่าไหร่กันเชียว เขาจะโกหกได้อย่างไร ? ข้าคิดว่าคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อจับกุมเจ้า ไม่ต้องกังวลแม่จะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องเจ็บปวดอีก”
สีหน้าของไป๋หยานเข้มขึ้น
ใบหน้าที่ไร้พิษภัยของเฉินเอ๋อทำให้ทุกคนเชื่อในตัวเขา
เช่นนั้นนางจึงหันไปมองไป๋เสี่ยวเฉินซึ่งกำลังดูการแสดงดีๆ อยู่ “เฉินเอ๋อ อธิบายให้ท่านยายของเจ้าฟังซะ”
”อ้อ”ปากเล็ก ๆ ของไป๋เสี่ยวเฉินรับคำ แม้ว่าในใจของเขาจะไม่เต็มใจก็ตามที หากแต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธไป๋หยานได้ เช่นนั้นเขาจึงมองไป๋หนิงด้วยท่าทางที่ไร้เดียงสาเช่นเคย “ท่านยาย ป๊ะป๋าของเฉินเอ๋อเป็นคนดีมากจริง ๆ แต่เฉินเอ๋อเกลียดเขาที่เขายึดครองหม่ามี้ของเฉินเอ๋อ … แต่ว่าเขาก็จริงใจกับเฉินเอ๋อเสมอ”
“จริงหรือ?” ไป๋หนิงยังคงเคลือบแคลง
เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดไป๋หนิงไป๋เสี่ยวเฉินมักจะใส่ความตี้คังต่อหน้าไป๋หนิง ทำให้ไป๋หนิงรู้สึกไม่ดีกับตี้คัง ทั้งที่ยังไม่เคยเห็นชายคนนั้นเลย
ไป๋เสี่ยวเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง”ที่เฉินเอ๋อทำตัวน่าสงสารมาก ๆ ก็เพื่อจะได้อยู่กับท่านยาย เฉินเอ๋ออยากจะติดตามท่านยายก็แค่นั้น เฉินเอ๋อชอบท่านยายจริง ๆ นะ ท่านยายกับเฉินเอ๋อเป็นคนในครอบครัวเดียวกันได้มั้ย ?”
บทที่ 1214 : ปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ (5)
ครั้นหันหน้าไปทางเด็กชายตัวน้อยที่แสนน่ารักนุ่มนวลและน่าเอ็นดูหัวใจของไป๋หนิงพลันอ่อนยวบลง นางจะปฏิเสธคำขอจากเขาได้เยี่ยงไร ?
”เฉินเอ๋อเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันมานานแล้วนี่ มารดาของเจ้าก็เป็นบุตรสาวของข้า ทั้งเจ้าก็เป็นหลานชายของข้า หากแต่ … ” ไป๋หนิงหรี่ตาลงน้อย ๆ พลันแสงเย็นเยือกก็วาบผ่านดวงตาของนาง “แม้เจ้าจะกล่าวเช่นนั้น หากแต่ข้าก็ยังไม่เชื่อใจเขา ถ้าเขาเป็นห่วงบุตรสาวของข้าจริง เหตุใดเขาไม่มารับด้วยตนเองแทนที่จะส่งคนอื่นมาล่ะ ?”
ผู้อาวุโสใหญ่ตกตะลึงเขาแลดูลังเล “ราชินี พระองค์ต้องเชื่อในองค์ราชานะพ่ะย่ะค่ะ เพราะการหายตัวไปของพระองค์ในวันนั้น ราชาทรงมีรับสั่งให้พวกกระหม่อมออกตามหาพระองค์ทั้งกลางวันกลางคืน ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี่ราชาเองก็ไม่ได้ทรงพักผ่อนอย่างเต็มที่ ราชาทรงเหน็ดเหนื่อยมากเช่นกัน ทันทีที่ทรงทราบว่าพระองค์ออกมาจากใต้ดินแล้ว ราชาก็มีรับสั่งให้พวกกระหม่อมมาที่นี่ หากไม่มีบางสิ่งเกิดขึ้นก่อน พระองค์ก็คงจะเสด็จมาที่นี่ด้วยองค์เองแล้ว”
เกิดอะไรขึ้น?
หัวใจของไป๋หยานพลันเคร่งเครียดนางรีบคว้าแขนเสื้อของผู้อาวุโสใหญ่ไว้พร้อมเอ่ยถามว่า “ตี้คังได้รับบาดเจ็บหรือ ? มีสิ่งใดผิดปกติกระนั้นรึ ?”
จากความเข้าใจของนางเกี่ยวกับตี้คังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มารับนางด้วยตนเอง หากมิใช่เพราะมีเรื่องใดสำคัญ
ด้วยเหตุผลนี้เขาอาจจะกำลังพบกับปัญหาสำคัญอย่างยิ่ง
ผู้อาวุโสใหญ่อยากจะกล่าวบางอย่างหากแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวคำใดออกมานอกจาก “ราชาไม่ได้รับบาดเจ็บพ่ะย่ะค่ะ หากแต่กระหม่อมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ?”
ราชาได้ทรงกำชับเขาแล้วว่าอย่าให้ราชินีทราบเรื่องนี้ เขาจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
แต่…
ครั้นได้ยินว่าตี้คังไม่ได้รับบาดเจ็บ ไป๋หยานก็โล่งใจ “ไม่เป็นไร เพียงเขาสบายดีไม่ได้รับบาดเจ็บใดก็ดีแล้ว … ”
ครั้นไป๋หนิงเห็นทีท่าโล่งใจของบุตรสาวอกของนางก็สั่นสะท้านด้วยความโกรธ นางดึงไป๋หยานมาอยู่ข้างกาย พลางกวาดสายตาดุดันไปมองผู้อาวุโสใหญ่
”หากต้องการรับตัวบุตรสาวข้าก็ให้เขามารับด้วยตนเอง หากไม่มีความจริงใจ ข้าก็จะไม่อนุญาตให้บุตรสาวของข้าไป ! ตอนนี้เจ้าออกไปให้พ้นหน้าข้าได้แล้ว !”
ผู้อาวุโสใหญ่มองไป๋หยานด้วยความลำบากใจ”ราชินี … ”
ท่าทางของไป๋หยานกลับมาสุขุมมุมปากของนางยกโค้งเล็กน้อย
“อาวุโสใหญ่เอาอย่างนี้แล้วกัน ช่วงนี้ข้ายังอยากอยู่กับท่านแม่ของข้า พวกท่านกลับไปก่อนเถิด”
ไป๋หยานกล่าวผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจ พลางกำหมัดแน่น “เช่นนั้น กระหม่อมจะกลับไปทูลถวายรายงานองค์ราชาก่อน หากราชาทรงมีพระประสงค์ให้ราชินีเสด็จกลับ ก็ต้องมารับด้วยองค์เอง”
”ดี…”
ไป๋หยานพยักหน้าเล็กน้อย
นางจะไม่ทิ้งไป๋หนิงจนกว่าไป๋หนิงจะฟื้นความทรงจำ
”อย่างไรเสียฝากบอกตี้คังด้วยว่าหากเขามีเรื่องสำคัญต้องทำ ก็ทำก่อน ภายหลังค่อยมารับข้าก็ได้ ข้าไม่รีบ”
“พ่ะย่ะค่ะราชินี”
หลังจากที่ผู้อาวุโสใหญ่ได้รับคำสั่งเขาก็ถอยออกไป จากนั้นไม่นานผู้คุ้มกันจากแดนอสูรที่ยึดครองท้องถนนต่างก็หายตัวไป ถนนทั้งสายพลันว่างเปล่าอีกครั้ง
”ท่านแม่”
ไป๋หยานหันหน้ากลับไปมองสีหน้าโกรธเคืองของไป๋หนิงพลางหัวเราะ “ตี้คัง ไม่ใช่คนเช่นที่ท่านคิดหรอก”
ไป๋หนิงตะคอก”ก็ดี บุตรสาวของข้าห้ามผู้ใดรังแก ! หากชายผู้นั้นปฏิบัติไม่ดีกับเจ้า แม้ว่าเจ้าจะเกลียดข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่กับเขาเป็นแน่”
ถึงต้องแยกคู่สามีภรรยาแล้วไง? หากชายคนนั้นทำตัวไม่ดี นางก็จะไม่มีวันปล่อยให้หยานเอ๋ออยู่กับเขา
บุตรสาวของนางต้องมีคนรักที่ดีตลอดชีวิต!
ไป๋หยานย่อมรู้ว่าไป๋หนิงผูกพันกับนางมากเช่นนั้นนางจึงไม่ได้กล่าวคำใดที่จะทำร้ายจิตใจมารดาของนางอีก
อย่างไรก็ตามในวันหน้าท่านแม่จะเข้าใจความจริงใจที่ตี้คังมีต่อนาง หากแต่คงต้องใช้เวลา กว่าที่ท่านแม่จะยอมรับในตัวตี้คัง …
บทที่ 1215 : ปล่อยสายเอ็นยาวเพื่อตกปลาใหญ่ (6)
ในเวลาเดียวกัน
ในป่าท่ามกลางภูเขาที่ไม่ไกลออกไปนักฉู่อี้เฟิงกำลังเอนกายพิงต้นไม้ เขาสวมอาภรณ์สีขาว ใบหน้าที่หล่อเหลายากจะหาผู้ใดเทียบของเขาแลดูซีดลงเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
”ขอบคุณ…”
หลังจากนั้นไม่นานน้ำเสียงที่เฉยชาก็ดังขึ้นทำลายความเงียบสงบของป่า
อย่างไรก็ตามชายที่ยืนอยู่ข้างกายฉู่อี้เฟิงก็มักจะไม่แสดงออกใดๆ เขามองฉู่อี้เฟิงซึ่งเอนกายพิงต้นไม้ด้วยสายตาที่ทรงอำนาจ
ครั้นเห็นชายคนนั้นไม่กล่าวคำใดฉู่อี้เฟิงก็ยิ้มอย่างใจเย็นเอ่ยกล่าวต่อว่า “ข้าได้รับบาดเจ็บ หากแต่ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ให้หยานเอ๋อรับรู้เรื่องนี้ … ”
แววตาเย็นชาของตี้คังกวาดมองฉู่อี้เฟิง”ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้โง่ถึงเพียงนั้น เจ้าพยายามช่วยนางกระทั่งได้รับบาดเจ็บ หากนางรู้เรื่องนี้ นางย่อมจะมาดูแลเจ้าอย่างแน่นอน ในฐานะบุรุษข้าย่อมไม่ต้องการให้สตรีของข้าไปดูแลชายอื่น”
ฉู่อี้เฟิงตัวแข็งค้างภายใต้สายลมบางเบาร่างของเขาแลดูค่อนข้างบอบบาง
“หากแต่เจ้าเป็นคนช่วยข้าไว้”
“ที่ข้าช่วยเจ้าไว้ก็เพื่อหยานเอ๋อเท่านั้นหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเจ้า ด้วยนิสัยของหยานเอ๋อ นางจะต้องปวดร้าวใจมากอย่างแน่นอน ข้าไม่ต้องการให้นางต้องเสียน้ำตา”
เขาเพียงต้องการให้นางมีรอยยิ้มไปตลอดชีวิตไม่อยากให้นางต้องเสียน้ำตา
แม้ว่าฉู่อี้เฟิงผู้นี้จะเป็นศัตรูหัวใจของเขาหากแต่เพื่อหยานเอ๋อแล้ว เขาก็ไม่อาจปล่อยให้ฉู่อี้เฟิงตายได้
“ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังช่วยหยานเอ๋อไว้หลายต่อหลายครั้ง ในฐานะสามี ข้าก็สมควรตอบแทน แทนภรรยาของข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า”
ในที่สุดรอยยิ้มเฉยเมยบนใบหน้าหล่อเหลาของฉู่อี้เฟิงก็จางหายไปมันถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ทุกถ้อยคำของชายผู้นั้นราวกับดาบทิ่มแทงหัวใจของเขาอย่างรุนแรง ทำให้ใจของเขาชุ่มโชกไปด้วยเลือดอย่างทรมาน
”หยานเอ๋อแต่งงานกับเจ้าได้ ข้าก็โล่งใจมาก ข้าหวังว่าต่อไปในภายหน้าเจ้าจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีเสมอต้นเสมอปลาย” ฉู่อี้เฟิงระงับความขมขื่นในใจของตน แววตาที่สงบของเขาจับจ้องใบหน้าของตี้คัง “หากเจ้าให้ข้ารู้ว่าเจ้าทำให้นางเสียใจ เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อดึงตัวนางกลับคืนมาจากเจ้า”
เขาเต็มใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปเพียงเพื่อความสุขของนาง
แต่หากนางต้องเจ็บปวดและร้องไห้ เขาก็จะไม่ยอมแพ้ชายผู้นี้อีกต่อไป
”ข้าให้สัญญากับเจ้าชั่วชีวิตนี้ ข้าจะรักนางเท่าชีวิตของข้า ทั้งจะไม่ทำให้นางต้องเสียใจเลย !” น้ำเสียงของตี้คังหนักแน่น นัยน์ตาของเขาทรงอำนาจดั่งราชาผู้ครองโลก
ฉู่อี้เฟิงค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นจากพื้น ร่างของเขาเซเล็กน้อย เขาจำเป็นต้องพิงต้นไม้ที่อยู่ข้างหลัง เพื่อทรงกายให้ร่างของเขามั่นคงขึ้น
“นอกจากนี้เจ้าต้องระวังใครบางคน … ”
ตี้คังเลิกคิ้ว”ใคร ?”
“ดูเหมือนหยานเอ๋อจะได้พบใครบางคนที่หน้าตาคล้ายกับข้ามากเจ้าต้องระวังเขา อย่าปล่อยให้หยานเอ๋อต้องเจ็บปวด”
ถ้อยคำของฉู่อี้เฟิงทำให้ตี้คังหรี่ตาลงเล็กน้อยน้ำเสียงของเขาเย็นชา “นี่เจ้ารู้อะไรมากระนั้นรึ ?”
“เมื่อไม่นานมานี้ข้าเพิ่งรู้อะไรบางอย่าง หากแต่ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถยืนยันได้” ฉู่อี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น “ตี้คัง ข้าขอฝากหยานเอ๋อไว้กับเจ้า เจ้าต้องปกป้องนางให้ดี ตอนนี้ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำ ข้ายังไม่สามารถบอกเจ้าได้ แต่ภายหน้าเจ้าก็จะรู้เอง”
หลังของฉู่อี้เฟิงค่อยๆ ถอยห่างจากต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง เขาก้าวไปข้างหน้า ยังมีอาการเซบ้างเล็กน้อย ก่อนจะจากไปฉู่อี้เฟิงยังหันกลับมามองตี้คัง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในป่าลึก
ร่างของชายผู้นั้นเดินไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งหายลับไปจากสายตาของตี้คัง …
หลังจากที่ฉู่อี้เฟิงหายลับตาไปอย่างสมบูรณ์ ร่างของชายชราก็ร่อนลงมาจากอากาศว่างเปล่า มาคุกเข่าเบื้องหน้าตี้คัง พลางเอ่ยทักทายอย่างเคารพว่า “องค์ราชา”