จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1221 -1225
บทที่ 1221 : หนิงเยี่ยสิ้นหวัง (4)
ภายใต้สายลมที่กระโชกแรงหนิงเยี่ยยืนอยู่ในพุ่มไม้ สมองของนางว่างเปล่า ขณะมองดูคนทั้งสองเดินจากไป น้ำตารินไหลออกมาจากดวงตาของนาง
”คิดหนีกระนั้นรึ?”
หลงหยันตวาดร่างของเขากระพริบ จากนั้นก็ไล่ติดตามคนทั้งสองทันที
ก่อนที่หนิงหยวนจะทันหนีไปไกลเขาก็ถูกร่างชราขวางไว้ ชั่วขณะนั้นม่านตาของเขาก็หดรัดขึ้น ความโกรธฉายวาบในดวงตาของเขา
”นี่เจ้าทำบ้าอะไร? นังเด็กนั่นต่างหากที่ตั้งใจหาเรื่องไป๋หยาน เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย เจ้ามาตามหานาง เพราะเจ้ามีปัญหากับนาง เช่นนั้นเจ้าก็ให้นางชดใช้ด้วยชีวิตสิ !”
ถ้อยคำเหล่านี้ลอยมาพร้อมกับสายลมเข้าหูของหนิงเยี่ยทำให้นัยน์ตาที่พร่าเลือนของหนิงเยี่ยยิ่งเฉยชา ใบหน้าของนางยิ่งสิ้นหวัง หากแต่ยังคงจับจ้องมองหนิงหยวนซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก
นางไม่คาดคิดว่าบิดาผู้ให้กำเนิดนางจะให้นางชดใช้ด้วยชีวิต?
ทุเรศสิ้นดี!
นี่หรือคือความสัมพันธ์ฉันครอบครัว? ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาความรัก และความห่วงใยของเขาที่มีต่อนางเป็นเพียงของจอมปลอม เพราะเขารักท่านอาหนิงอย่างสุดซึ้ง
ในโลกนี้ผู้ที่รักนางมากที่สุดก็คือท่านอาหนิงทว่าน่าเสียดายที่นางโง่เขลาทำร้ายจิตใจท่านอาหนิงไปแล้ว …
หนิงเยี่ยหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดบางทีความสิ้นหวังในใจ อาจทำให้นางยอมแพ้ กระทั่งไม่เหลือแม้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอด เช่นนั้นแทนที่นางจะวิ่งหนี นางกลับยืนเหม่อลอยอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น
ไม่ไกลออกไปนักหลงหยันยิ้มเยาะ เขามองหนิงหยวนที่อยู่เบื้องล่าง มุมปากของเขาโค้งงอขณะกล่าวคำประชดประชัน
”ข้าจำได้ว่าหญิงผู้นี้เป็นบุตรสาวที่เจ้าให้กำเนิด หากแต่ดูเหมือนว่า ในฐานะมนุษย์ เจ้าช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ แม้แต่เลือดในอกของเจ้าเอง เจ้าก็ยังยอมสละเพื่อเอาตัวรอด ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินคำสั่งของเจ้าเมื่อครู่แล้ว ส่วนเหตุผลที่ข้ายังไม่ปรากฏตัว ก็เพราะข้าต้องการดูว่าเจ้าจะไร้สามัญสำนึกได้สักเพียงใด ?”
เขาเกลียดมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์จำพวกที่ไม่รักครอบครัว เพื่อรักษาชีวิตแม้แต่ญาติพี่น้องก็ยังยอมสละได้ ! คนพวกนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในโลกนี้เลย
หนิงหยวนยิ้มอย่างดูแคลน”เดิมที เจ้าร่วมมือกับชายที่ชื่อฉู่อี้เฟิงทำร้ายข้าอย่างชั่วร้าย ตอนนี้ที่เจ้ากล้าหยิ่งผยอง เป็นเพราะข้ายังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ หาไม่คนเยี่ยงเจ้ามีรึจะสามารถหยุดข้าได้ ?”
”ข้าเป็นคนเหี้ยมโหดและในโลกนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้สึกนัก สำหรับข้าในโลกมีเพียงคนที่ใช้ได้ กับคนที่ใช้ไม่ได้ เจ้าจะโทษข้าไม่ได้ หากจะโทษ เจ้าก็ทำได้เพียงโทษตนเอง ส่วนนางก็ถือซะว่าโชคร้ายที่เกิดมาเป็นบุตรสาวของข้า ?!”
หนิงหยวนมีฝีปากที่แสนเฉียบคม
เขาไม่เคยคิดว่าตนเองผิดที่ต้องยอมสละหนิงเยี่ย สำหรับหนิงเยี่ยนั้น นางโชคร้ายที่เกิดมาเป็นบุตรสาวของเขาทั้งหมดนี่ไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
”เช่นนั้นไป๋หนิงล่ะ”หลงหยันเอ่ยถามด้วยเสียงเยาะหยัน
หนิงหยวนตกตะลึง
เขาไม่ได้ตอบโต้คำใดอยู่เป็นเวลานาน…
ในโลกนี้เขาใช้คนเพื่อหาประโยชน์ให้กับตนเองมากมาย หากแต่สำหรับไป๋หนิงนั้นเขากลับยอมให้นางตั้งแต่แรก เขาชอบนาง ชอบโดยไม่มีสิ่งใดเคลือบแฝง
และบางทีไป๋หนิงก็อาจเป็นเพียงคนเดียวที่เขาจริงใจด้วย…
”หนิงเอ๋อแตกต่างจากทุกคน นางเป็นคนใจดี งดงาม และเป็นคนที่ข้ารู้สึกไม่อยากทำร้ายมากที่สุดเช่นกัน หลายปีที่ผ่านมา นางพยายามตีจากข้าเสมอ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากนาง ข้าจึงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมารดาของหนิงเยี่ย นั่นทำให้ข้าเสียใจตลอดมา และผู้ใดจะรู้ว่ามารดาของหนิงเยี่ยจะเกิดตั้งครรภ์ ขึ้นมา… ”
”เดิมทีข้าเองก็ไม่ต้องการเก็บเด็กคนนี้ไว้หากแต่หนิงเอ๋อพยายามชี้นำข้าเสมอ ครั้นเห็นว่านางชอบเด็กนี่มาก ข้าจึงพรากเยี่ยเอ๋อมา และเยี่ยเอ๋อควรมีแม่แค่คนเดียวเท่านั้น”
นัยน์ตาของหนิงเยี่ยหดลงอย่างกะทันหันยามนี้หัวใจของนางเกือบจะหยุดเต้นแล้ว
บทที่ 1222 : หนิงเยี่ยสิ้นหวัง (5)
ก็เยี่ยเอ๋อต้องการแม่และแม่ของนางก็ต้องเป็นหนิงเอ๋อเท่านั้น เช่นนั้นข้าจึงฆ่าแม่แท้ ๆ ของเยี่ยเอ๋อซะ !
นั่นคือสาเหตุที่ข้าสังหารมารดาผู้ให้กำเนิดหนิงเยี่ย…
คำพูดประโยคสุดท้ายนี้ยังคงก้องอยู่ในใจของหนิงเยี่ยยามนี้สมองของนางแทบจะระเบิด
ชั่วขณะนั้นนางก็ย่อตัวลงเกาะกุมศีรษะแน่น พลางส่งเสียงร้องดังด้วยความเจ็บปวด
เสียงนั้นดังก้องไปทั่วท้องฟ้าและคงอยู่เป็นเวลานาน …
นางคิดเสมอว่ามารดาของนางเสียชีวิตเพราะให้กำเนิดนาง บิดาของนางกรอกหูอยู่ตลอดว่ามารดาของนางมีสถานะต่ำต้อย มารดาของนางพยายามทำทุกวิถีทางที่จะปีนขึ้นเตียงของเขา พยายามสร้างสะพานเพื่อเป็นพญาหงส์
เช่นนั้นนางจึงคิดว่าหญิงผู้นั้นไม่สมควรเป็นมารดาของนาง
หากแต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือหนิงหยวนจงใจหลอกล่อมารดาของนางเพื่อเรียกร้องความสนใจจากท่านอาหนิง มารดาของนางไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อปีนเตียงเขา
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นมารดาไม่ได้เสียชีวิตจากการให้กำเนิดนาง หากแต่…ถูกสังหารด้วยน้ำมือของเขา
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขารักท่านอาหนิงมากเกินไป
หนิงเยี่ยกัดริมฝีปากนางขดตัวงอเป็นลูกบอล ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างบาง ๆ ของนางยิ่งแลดูอ่อนแอ ภายใต้สายลมแรง …
“เฮ้!” หลงหยันเม้มริมฝีปากแดกดัน “ดูเหมือนว่ามนุษย์จะไร้ความรู้สึกมากกว่าที่ข้าคิด ในความคิดของข้า เจ้าไม่ได้รักไป๋หนิงอย่างแท้จริงหรอก เจ้าเพียงชอบในความงาม และความสามารถของนาง หากนางเป็นเพียงสตรีหน้าตาขี้ริ้ว ไร้ซึ่งพรสวรรค์ เจ้ายังจะชอบนางอีกหรือไม่ ?”
ร่างของหนิงหยวนแข็งค้าง
หากไป๋หนิงขี้ริ้วไร้ซึ่งพรสวรรค์แล้วเขาจะยังชอบนางอยู่หรือไม่ ?
”เจ้าพล่ามอะไรอยู่ได้!” เขาเงยหน้าขึ้นอย่างโกรธจัด กัดฟันอย่างดุร้าย “หนิงเอ๋อของข้า นางทั้งแสนดี ทั้งงดงามมาก สิ่งที่เจ้าพูดมานั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ข้ารักนางด้วยความจริงใจอย่างไรเสีย ข้าก็จะให้นางเป็นผู้หญิงของข้า !”
ถูกต้อง…เป็นไปไม่ได้สิ่งที่ชายผู้นี้พูดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เขาจะไม่ชอบหนิงเอ๋อของเขาได้อย่างไร ?
ก็แค่…
หนิงหยวนนึกไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไรหากไป๋หนิงไม่มีใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติ อีกทั้งไม่มีพรสวรรค์ที่เป็นเลิศแล้ว
เช่นนั้นหนิงหยวนจึงหยุดคิดถึงเรื่องของไป๋หนิง เพราะในสายตาของเขา ไป๋หนิงคือสตรีที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล
”เจ้ากำลังรอให้ไป๋หยานมาใช่หรือไม่?”
หนิงหยวนเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าหลงหยันด้วยสายตาเย็นชาชั่วขณะนั้นเขาก็พบเจตนาแท้จริงของชายชรา ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขากัดฟัน
หลงหยันยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า”ที่ไป๋หนิงความจำเสื่อมก็เป็นเพราะเจ้าสินะ ? นางเพียงต้องการคำยืนยันในเรื่องนี้”
”ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลงหยันเงยหน้าขึ้น หัวเราะอย่างดุเดือด เสียงหัวเราะของเขาฟังดูบ้าคลั่ง “ข้าทำแล้วไง ? หากข้าไม่ทำเช่นนั้น นางจะอยู่เคียงข้างข้าได้ยังไง ? แต่ถึงข้าจะทำเช่นนั้น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร นางก็ยังคงคิดถึงสามี และบุตรสาวของนางเสมอ !”
หนิงหยวนหลับตาลงช้าๆ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และความแค้นเคือง
“ข้าไม่มีวันลืมว่าตอนที่ข้าเห็นนางเป็นครั้งแรกนั้น นางเพิ่งสูญเสียบุตรสาว ร่างของนางชุ่มโชกไปด้วยเลือด หากแต่นางก็เอาแต่พร่ำพูดว่า อยากกลับไปหาลูกสาวและสามีของนาง ข้าอยากจะเก็บนางไว้ ข้าเลยต้องทำเช่นนี้ !”
ดังนั้นเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเขาก็แค่รักนางมากเกินไป
มือของหนิงเยี่ยที่เกาะกุมศีรษะตนเองค่อยๆ คลายออก นางยืนขึ้นเงยหน้ามองชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก หัวใจของนางดูเหมือนจะถูกสายฟ้าฟาด จิตใจของนางว่างเปล่า
บทที่ 1223 : หนิงเยี่ยสิ้นหวัง (6)
“ที่ท่านอาหนิงความจำเสื่อมมิใช่เพราะนางสูญเสียความทรงจำหรือเพราะถูกสามีและบุตรสาวทอดทิ้ง ท่านพ่อ..บอกข้าทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้คือเรื่องจริงกระนั้นหรือ ?”
เสียงของนางสั่นอาจเป็นเพราะในใจนั้นกลัวคำตอบ
ในใจของนางรู้เพียงว่าท่านพ่อของนางรักท่านอาหนิงมาก เช่นนั้นเขาจะทำร้ายอาหนิงได้อย่างไร ?
นางไม่เชื่อและไม่อยากจะเชื่อจริงๆ
หนิงหยวนตวาดออกมาอย่างเย็นชาพร้อมสายตาดูแคลน “ใช่สิ่งที่ข้าพูดทั้งหมดเป็นความจริง ก็แล้วยังไงล่ะ ? ไม่ว่าข้าจะทำอะไร ล้วนเป็นเพราะข้ารักนาง ข้าไม่คิดว่ามีอะไรผิด”
ตูม!
ราวกับถูกสายฟ้าฟาดลงมาอีกครั้งยามนี้ความศรัทธาที่มีในหัวใจของหนิงเยี่ยพลันพังทลายสิ้น
นางกุมใบหน้าตนเองแน่นน้ำตาร่วงหล่นราวกับไข่มุก ใบหน้าซีดเซียวของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เป็นไปได้อย่างไร?
ที่ท่านอาหนิงสูญเสียความทรงจำมิใช่เป็นเพราะโดนสามีและบุตรสาวทุบตีกระนั้นรึ ? หากแต่เป็นเพราะท่านพ่อรักท่านอาหนิงมากจนเกินไป จึงทำทุกหนทางเพื่อให้นางลืมอดีต ?
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี่นางทำลงไป ? คอยติดตามท่านอาหนิง เพื่อชายชั่วคนนี้น่ะหรือ ?
“ท่านพ่อ… ท่านทำเช่นนั้นกับท่านอาหนิงได้ยังไง ?”
หนิงเยี่ยกัดริมฝีปากเอ่ยถามเสียงสั่นๆ
นางคิดเสมอว่าหลายปีที่ผ่านมานางอยู่กับท่านอาหนิงเพราะท่านอาหนิงน่าสงสาร ท่านอาหนิงขาดความรัก นางจึงมอบความรักให้ท่านอาหนิงอย่างเต็มที่ นางถือว่าท่านอาหนิงเป็นหนี้ความรักที่นางมีให้ เช่นนั้นนางจึงโกรธที่ท่านอาหนิงไม่เต็มใจที่จะรับนางเป็นบุตรสาว อีกทั้งไม่มอบสัตว์อสูรลึกลับตัวนั้นให้กับนาง ให้นางได้เป็นเจ้านายของสัตว์อสูร
หากแต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือถ้ามิใช่เพราะท่านอาหนิง นางก็คงไม่อาจอยู่ดูโลกนี้ได้ นับประสาอะไรกับการดูแลและความรักที่นางได้รับตลอดสิบปีที่ผ่านมา
เช่นนั้นมิใช่ท่านอาหนิงติดค้างนางแต่เป็นนางต่างหากที่ติดค้างท่านอาหนิง
”สิ่งใดที่ควรพูดข้าก็พูดไปหมดแล้ว… ” หนิงหยวนเม้มริมฝีปากอย่างแดกดัน “ทว่าพวกเจ้าก็อย่าคิดว่าจะรอดไปได้”
นัยน์ตาของหลงหยันหรี่ลงเล็กน้อยมีแสงเย็นวาบผ่านนัยน์ตาของเขา “เจ้าหมายความว่าไง ?”
”ฮ่าฮ่าหมายความว่าไงงั้นรึ ? ในขณะที่เจ้ากำลังถ่วงเวลาข้า ข้าเองก็กำลังรอคนมาสบทบเช่นกัน หาไม่เหตุใดข้าจึงต้องพูดเรื่องไร้สาระกับเจ้าด้วยเล่า ? ข้าบอกเจ้าแล้วไง ว่า พวกปรมาจารย์จากเทวาคารนั่นเคยสัญญากับข้าว่า หากข้าช่วยพวกเขาตามหาหนิงเอ๋อ และให้หนิงเอ๋อยอมส่งมอบสัตว์อสูรเทพลึกลับตัวนั้นให้พวกเขา พวกเขาจะช่วยให้ข้าได้แต่งงานกับหนิงเอ๋อ !”
ในตอนนี้ดวงตาของหนิงหยวนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งเห็นได้ชัดว่า เพื่อที่จะได้ไป๋หนิงแล้ว เขากลายเป็นคนวิปลาสไปแล้ว เขาเพิกเฉยต่อทุกสิ่ง เพียงเพื่อให้ได้นางมาเท่านั้น !
”ท่านบ้าไปแล้ว!” สีหน้าของหนิงเยี่ยเปลี่ยนไปอย่างมาก “ท่านพ่อ ท่านกำลังจะฆ่าท่านอาหนิง ! คนพวกนั้นเกลียดท่านอาหนิงเป็นที่สุด หากพวกเขาได้พบท่านอาหนิง ท่านอาหนิงจะต้องลำบากแน่ !”
แม้ว่าไป๋หนิงจะไม่อยากดูแลนางอีกต่อไปหากแต่ … หลายปีที่ผ่านมาไป๋หนิงก็เติมเต็มความรักของมารดาที่นางไม่เคยสัมผัสให้แก่นางมานานหลายปี
นางอาจจะอยากได้สัตว์อสูรของไป๋หนิงมาไว้ในมือทว่าความรักที่นางมีต่อไป๋หนิงนั่นก็เป็นความจริงเช่นกัน …
”เจ้าคิดว่าหลังจากที่ไป๋หยานมาปรากฏตัวข้างกายไป๋หนิงแล้ว ข้าจะยังสามารถอยู่เคียงข้างนางได้อย่างราบรื่นอีกหรือ หนิงเอ๋อแข็งแกร่งมากเว้นแต่พวกปรมาจารย์เหล่านั้นลงมือ ก็คงไม่มีผู้ใดรับมือนางได้ เช่นนั้นข้าจึงไม่เหลือทางเลือกอื่น หากมีใครสามารถช่วยให้ข้าได้สมหวังกับนาง … ข้าก็ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
หนิงหยวนหลับตาลงเล็กน้อย
เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกับการตัดสินใจในครั้งนี้
หาก… เยี่ยเอ๋อทำตามแผนเขาได้สำเร็จตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ตัดสินใจทำเช่นนี้ ทันทีที่รู้ว่านางทำไม่สำเร็จ เขาก็ปล่อยนกพิราบสื่อสารของคนเหล่านั้นกลับสู่พระราชวังสวรรค์ และนี่คือไพ่ใบสุดท้ายของเขา
”ไม่ดีแล้ว!”
ดูเหมือนหลงหยันจะรู้สึกถึงบางอย่างสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก สายตาของเขาปรากฏแววหวาดหวั่นพรั่นพรึง ทันใดนั้นเองร่างในชุดสีเทาก็สะท้อนเข้ามาในคลองสายตาของเขา …
บทที่ 1224 : หนิงเยี่ยสิ้นหวัง (7)
ชายชราท่าทางหยิ่งผยองแลดูมืดมนและดุร้ายยืนอยู่กลางอากาศมือข้างหนึ่งของเขาไพล่หลัง เขาก้มลงมองทุกคนที่อยู่ด้านล่าง
”ไป๋หนิงอยู่ที่ใด?”
เสียงของเขาทุ้มต่ำทว่าทรงพลังราวกับเสียงฟ้าร้อง หนิงเยี่ย และเล่อซินไม่สามารถต้านทานพลังนั้นได้ เลือดไหลออกจากปากของหญิงสาวทั้งสอง ใบหน้าของพวกนางซีดมาก ทั้งไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง
”ปรมาจารย์หลิงเพียงไม่ช้าไป๋หนิงก็จะมาถึงที่นี่แล้ว โปรดรอสักครู่”
ยอดฝีมือระดับเทพที่สูงกว่าระดับเทพขั้นต้นกระทั่งได้พื้นที่ปกครองเรียกว่า เจ้าเมือง ส่วนที่ระดับสูงขึ้นไปอีกก็เรียกว่าปรมาจารย์
เช่นนั้นทันทีที่ชายชราผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นหลงหยันพลันรู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลขึ้นมาจากลำคอ ทว่าเขาก็กลืนมันกลับลงไป เขาหรี่ตาจ้องมองชายชราที่อยู่ในอากาศว่างเปล่า
“ท่านพ่อ!” ความตื่นตระหนกปรากฏในดวงตาของหนิงเยี่ย นางกัดริมฝีปากเอ่ยกล่าวว่า “ทำเช่นนี้ ก็ไม่ต่างจากสังหารท่านอาหนิง !”
”หุบปาก!”
หนิงหยวนตวาดออกมาด้วยความโกรธ”เจ้าไม่ต้องมาแส่เรื่องของข้า ! คนอย่างเจ้าไม่คู่ควร !”
‘ไม่คู่ควร’ถ้อยคำนี้ ราวกับมีดกรีดลงบนหัวใจของหนิงเยี่ย ร่างของนางซวนเซ ก่อนจะทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
ปรมาจารย์หลิงกวาดนัยน์ตาที่แหลมคมของเขาไปมองใบหน้าซีดเซียวของหนิงเยี่ย
”หญิงผู้นี้เป็นบุตรสาวของเจ้างั้นหรือ?”
หนิงหยวนยิ้มประจบพลางพยักหน้า “ใช่แล้ว ไม่ทราบท่านปรมาจารย์หลิงมีสิ่งใดจะแนะนำกระนั้นรึ ?”
”ไม่มีอะไรข้าเพียงอยากรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับไป๋หนิง ? เพราะหากนางเป็น … ” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย พลันแสงเย็นยะเยือกก็กระพริบวาบทั่วดวงตาของเขา
คราวนี้โดยไม่ต้องรอให้หนิงหยวนพูดเล่อซินที่อยู่ด้านข้างก็เหมือนตื่นจากภวังค์ นางรีบกล่าวออกมาทันที “เรียนปรมาจารย์หลิง ท่านเข้าใจผิดแล้ว เยี่ยเอ๋อกับไป๋หนิงไม่ถูกกัน นางเพิ่งถูกไป๋หนิงขับไล่มา พวกนางมีข้อพิพาทกัน”
สำหรับหนิงเยี่ยนางเกลียดทุกคนที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างนางกับไป๋หนิง เช่นนั้นเมื่อได้ยินถ้อยคำของเล่อซิน ความโกรธเล็ก ๆ พลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของนาง
”เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร? ในใจของข้าท่านอาหนิงเปรียบดั่งมารดาของข้าตลอดมา แม้ว่านางจะขับไล่ข้า ข้าก็จะหาโอกาสกลับไปอยู่ข้างกายนาง ! ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งนาง !”
”เยี่ยเอ๋อ!” เล่อซินเหงื่อออกท่วมร่าง นางพยายามขยิบตาให้หญิงสาวตลอดเวลา
หนิงเยี่ยเย้ยหยันกล่าวต่อว่า “เจ้าก็เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อย เหตุใดต้องมาเป็นห่วงข้า ? ข้าชอบท่านอาหนิง มีเพียงนางเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นมารดาของข้าได้ ตอนนี้บิดาของข้าก็ไม่ต้องการข้าอีกต่อไป เจ้าเองก็ไม่ต้องมาพยายามเอาอกเอาใจข้าแล้ว อย่างไรเสียข้าก็ไม่ยอมรับความเมตตาจากเจ้า !”
ใบหน้าของเล่อซินซีดนางรู้สึกได้ถึงอากาศเย็นที่ค่อย ๆ แผ่กระจายออกมาจากรอบกายปรมาจารย์หลิง นางรีบก้าวเข้าไปพยุงหนิงเยี่ยขึ้นจากพื้น
”เจ้าออกไปอย่ามาอวดรู้ ทิ้งข้าไว้นี่แหละ ออกไปนะ !” หนิงเยี่ยพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผลักเล่อซินออก นางหยัดกายขึ้นจากพื้น พลางเม้มริมฝีปากอย่างเย้ยหยัน “หากมิใช่เพราะท่านพ่อโกหกข้า หากเขาไม่ทำให้ข้าเข้าใจผิดว่าท่านอาหนิงถูกบุตรสาวของตนเองทอดทิ้ง ข้าก็คงจะไม่ถูกท่านอาหนิงขับไล่ออกมา … ”
”แต่ไม่เป็นไรท่านอาหนิงเป็นคนใจอ่อน หลังจากนี้นางก็อาจจะยอมรับข้าอีกครั้ง และข้าจะพยายามเป็นบุตรสาวที่ดีของท่านอาหนิง”
เล่อซินรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างนางมองหนิงเยี่ยที่ยืนอยู่เบื้องหน้านางด้วยความตื่นตระหนก
หญิงผู้นี้… อยากตายกระนั้นรึ ?
ใช่…เดิมทีนางถูกไป๋หนิงทอดทิ้งนางทั้งอับอาย ทั้งหวาดกลัว ตอนนั้นนางออกจะกลัวตายเสียด้วยซ้ำ นางจึงหนีกลับมา
ทว่า…
ความจริงที่นางได้รับรู้นั้นช่างโหดร้ายมากเหลือเกินราวกับฟางเส้นสุดท้ายที่นางคว้าไว้หลุดลอย ทำให้หัวใจดวงน้อยของนางไม่อาจทนทานได้อีกต่อไป
เช่นนั้นนางจึงจงใจกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมาเพื่อให้ปรามาจารย์หลิงเดือดดาล
บทที่ 1225 : หนิงเยี่ยสิ้นหวัง (8)
“ในโลกนี้ไม่มีผู้ใดที่รักข้าจริงแต่เดิมมีเพียงท่านอาหนิงคนเดียวที่รักข้า ขณะที่ท่านพ่อก็เพียงต้องการหลอกใช้ข้า”
ในเมื่อคนที่รักนางที่สุดยังทอดทิ้งนางเช่นนั้นนางจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
“ข้าอยากเป็นบุตรสาวของท่านอาหนิงสัตว์อสูรระดับเทพก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แท้จริง ข้าแค่ไม่พอใจที่เหตุใดข้าซึ่งอยู่ข้างกายนางมานานหลายปี กลับต้องยอมปล่อยให้ผู้อื่นฉกนางไป ข้าคิดเสมอว่าท่านอาหนิงเป็นหนี้ความรักของข้า หากแต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่า เป็นข้าต่างหากที่ติดค้างท่านอาหนิง”
นางหลับตาเล็กน้อยมีหยาดน้ำตาไหลออกมาจากหางตาทำให้นางแลดูเศร้า และสิ้นหวัง
หากเป็นแต่ก่อนท่านอาหนิงจะต้องออกมาปกป้องความปลอดภัยให้แก่นาง ทว่าตอนนี้กลับเหลือนางเพียงลำพัง …
เล่อซินดูแลนางเพียงเพราะนางเป็นบุตรสาวของหนิงหยวนในเมื่อหนิงหยวนไม่ต้องการนาง เล่อซินก็ไม่จำเป็นต้องสนใจนาง
“หากอยากตายข้าก็จะให้เจ้าได้สมหวัง !”
เจตนาสังหารปรากฏในดวงตาของปรมาจารย์หลิงเขาสะบัดแขนเสื้อ พลันแสงที่คล้ายดาบก็พุ่งตรงไปที่หนิงเยี่ย
บางทีอาจเป็นเพราะนางยังคงมีความรักตัวกลัวตายอยู่ร่างของหนิงเยี่ยจึงสั่นสะท้าน เมื่ออยู่ท่ามกลางสายลม ใบหน้าของนางซีดเผือดไร้สี ด้วยนางไร้สิ้นทางออก และไร้ซึ่งทางหลบหนี
ทว่ารออยู่นาน… ความเจ็บปวดก็ยังมาไม่ถึง
หนิงเยี่ยลืมตาขึ้นเล็กน้อยชั่วขณะนั้นก็เห็นร่างผอมบางร่างหนึ่งมายืนขวางอยู่เบื้องหน้านาง
ร่างของหญิงสาวตรงหน้าถูกลำแสงดาบแทงทะลุเรือนผมดำขลับดุจผ้าไหมสะบัดพลิ้วไปตามสายลม นางทรุดลงกับพื้นอย่างแรงต่อหน้าต่อตาหนิงเยี่ย ราวกับหิมะหล่นร่วงนางล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงดังโครม
หัวใจของหนิงเยี่ยแทบหยุดเต้น…
นางจ้องมองร่างที่ทรุดลงไปกองกับพื้นด้วยสมองอันว่างเปล่าพร้อมกับเอ่ยกล่าวด้วยความงุนงง “เล่อซิน..เจ้า … ”
ร่างของเล่อซินตกลงไปในพุ่มไม้ทว่าใบหน้าของนางกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มงดงาม หากแต่แสนเศร้า ราวกับดอกกุหลาบงามที่เหี่ยวเฉา
“เยี่ยเอ๋อ…ข้าไม่ได้หลอกลวงเจ้าความรู้สึกของข้าที่มีต่อเจ้านั้นมิใช่เพราะท่านพี่หนิงเท่านั้น เขาอาจมีส่วน แต่มิใช่ทั้งหมด … กว่าสิบปีที่เจ้าอยู่กับไป๋หนิง ส่วนข้าก็เป็นได้เพียงเงา หากแต่หลังจากอยู่กับเจ้ามาเนิ่นนาน ต่อให้เป็นคนไร้หัวใจเพียงใดก็คงอดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึก”
เล่อซินยิ้มนางหันไปมองหนิงหยวนอย่างอ่อนโยน “ท่านพี่หนิง หากเยี่ยเอ๋อ ตายไป…สักวันหนึ่งท่านจะต้องรู้สึกเสียใจ เช่นนั้น…ให้เล่อซินทำสิ่งสุดท้ายให้ท่านเถิด”
ถ้อยคำของนางขาดเป็นช่วงๆ น้ำเสียงของนางอ่อนแรงมาก ทว่าหลังจากกล่าวจบ นัยน์ตาคู่สวยของนางก็ค่อย ๆ ปิดลง นางค่อย ๆ หมดลมหายใจ …
ความเสียใจความเจ็บปวด และความรู้สึกผิด อารมณ์นับไม่ถ้วนพลันท่วมท้นเข้ามาในหัวใจของหนิงเยี่ย นางจ้องมองสตรีที่จมกองเลือดด้วยความหมองมัว ความโกรธพลันปะทุขึ้นจากใจของนาง ยามนี้นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความขุ่นเคือง สายตาของนางจับจ้องมองหนิงหยวนเขม็ง
”นางรนหาที่ตายเองไม่สามารถโทษผู้ใดได้”
หนิงหยวนรู้สึกประหลาดใจทว่าจากนั้นก็กลับมาไร้ความรู้สึกเช่นเดิม เขายิ้มเยาะ
ก็แค่ของเล่นที่เขาไม่เคยใส่ใจอยู่แล้วไม่ว่าเล่อซินจะทำอะไร มันก็ไม่มีผลใดกับเขา
หนิงเยี่ยถอนสายตานางคุกเข่าลงกอดร่างของเล่อซินอย่างเบามือ น้ำตาหยดลงบนใบหน้าของเล่อซิน …
“ขอโทษท่านอาเล่อ”
นางไม่เคยมองว่าเล่อซินเป็นญาติกลับกันนางมองว่าเล่อซินเป็นเพียงทาสและสาวใช้ ทว่าในช่วงเวลาวิกฤติ สตรีที่ไม่เคยอยู่ในสายตานางกลับเป็นผู้ช่วยชีวิตนาง …
ขณะที่ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าญาติ กลับต้องการเอาชีวิตนาง !