จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1276-1280
บทที่ 1276 : ตี้คังมาแล้ว (2)
ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเห็นไป๋เสี่ยวเฉินในสภาพเช่นนี้ ครั้งนั้นคราที่คนในแดนอสูรไล่ล่านาง ไป๋เสี่ยวเฉินก็เปลี่ยนไปเช่นนี้ ทว่า … นับจากนั้นมา ไป๋เสี่ยวเฉินก็ยังคงเป็นเด็กคนเดิมที่นางรัก
ทว่าเวลานี้นางไม่สามารถตรวจจับกลิ่นอายของเขาได้อีกต่อไป !
“หวู่หวู่”
จิ้งจอกฟ้ารู้สึกถึงความโศกเศร้าอย่างรุนแรงจากร่างของไป๋หยาน มันส่งเสียงร้องออกมาสองครั้ง ดวงตาขลาดกลัวของมันมองจับจ้องมองเจ้าซาลาเปาน้อยที่เฉยชา พลันร่างกายของมันก็สั่นเล็กน้อย
“เฉินเอ๋อ … ”
ไป๋หยานยื่นมือออกไปหวังที่จะลูบไล้ใบหน้านั้น ทว่าไป๋เสี่ยวเฉินเพียงแค่เหลือบมองนางก่อนจะหลับตาลง เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาที่กระหายเลือดของเขาจับจ้องไปยังกลุ่มศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าไม่วางตา
เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ?
ไหนตี้คังบอกว่าสิ่งที่ครอบครองร่างของไป๋เสี่ยวเฉินเป็นเพียงสัมผัสแห่งความเคืองแค้น มันไม่สามารถแทนที่เฉินเอ๋อได้ มันต้องอยู่โดยการยึดติดกับเฉินเอ๋อเท่านั้นไง ?
เหตุใด … เฉินเอ๋อถึงหายตัวไปแล้วล่ะ ?
“ผู้เฒ่าเสิ่น ก็เพียงเด็กคนหนึ่ง ท่านรีบฆ่าเขาซะ” เสิ่นเทียนหยูขมวดคิ้วอย่างรำคาญขณะเอ่ยกล่าว
ชายชรายังไม่ลงมือ เขาจ้องมองเจ้าซาลาเปาน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานิ่ง
ด้วยเหตุผลบางประการ เขารู้สึกได้ถึงพลังที่สะเทือนฟ้าดินจากเจ้าซาลาเปาน้อย …
คนอื่น ๆ ก็ไม่อยากลงมือรุนแรงนัก เพราะอีกฝ่ายยังเป็นเพียงเด็กน้อย หากแต่ศัตรูก็คือศัตรูพวกเขาจะเลือกอะไรได้ ?
ดังนั้นทันทีที่ได้ยินถ้อยคำของเสิ่นเทียนหยู พวกเขาก็พุ่งเข้าจู่โจมไป๋เสี่ยวเฉิน
หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าใส่เด็กน้อยอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาอาวุธในมือของเขาก็ฟาดฟันลงต่อหน้าไป๋เสี่ยวเฉิน …
ไป๋เสี่ยวเฉินเงยหน้ามองชายผู้นี้ด้วยสายตาว่างเปล่า ชั่วขณะนั้นร่างของชายผู้นี้ก็ดูเหมือนจะแข็งค้าง ราวกับกลายเป็นหินไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อยู่กลางอากาศ
ดาบยาวในมือของเขาหยุดห่างจากไป๋เสี่ยวเฉินไม่ถึงหนึ่งชุ่น (1 ชุ่น = 1นิ้ว)
ในขณะที่ดวงตาของชายคนผู้นี้กำลังเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง กลิ่นอายหนัก ๆ ก็ประดังออกมาจากทุกทิศทางราวกับว่าภูเขาขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนเคลื่อนที่เข้ามาอัดเขาและเขาก็อยู่ใจกลางภูเขาขนาดใหญ่เหล่านั้น …
ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงเห็นว่าร่างของชายผู้นี้ถูกบีบอัด และดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างกำลังกดดันจากรอบ ๆ ตัวเขา ท้ายสุดเขาก็กระอักเลือดออกมา และกลายเป็นเนื้อสับก่อนจะร่วงลงสู่พื้น
ชั่วขณะนี้ทั่วทั้งเทือกเขาเงียบสงัด ทุกคนต่างก็จ้องมองเด็กน้อยที่มีดวงตาสีแดงเลือดด้วยความหวาดกลัว ความหนาวเหน็บแล่นจากฝ่าเท้าเข้าสู่หัวใจ
“หนีเร็ว !”
ชายชราในชุดเสื้อคลุมสีเทามีปฏิกิริยาก่อนใคร ใบหน้าแก่ ๆ ของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารีบวิ่งลงเขาอย่างรวดเร็ว
ทว่าเจ้าตัวเล็กไม่ต่างจากอสูรร้ายกระหายเลือด เขาจะปล่อยคนกลุ่มนี้ไปได้เยี่ยงไร ? ร่างเล็ก ๆ ของเขากระพริบขึ้นวาบหนึ่ง เพียงพริบตาเขาก็ปรากฏกายอยู่ข้างหลังชายชราเสื้อคลุมสีเทา จากนั้นก็ยกมือขึ้น กดไหล่ของผู้เฒ่าแน่น
กรงเล็บของเขาจิกลงบนไหล่ของผู้อาวุโส เนื้อบริเวณหัวไหล่ของชายชราถูกฉีกขาด โลหิตพุ่งกระฉูด
ชายชราร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เขาคว้าคน ๆ หนึ่งโยนใส่ไป๋เสี่ยวเฉินเพื่อซื้อเวลาให้ตนเอง จากนั้นก็รีบหนีไปที่ตีนเขา
โชคดีที่ชายชรายังไม่ลืมเสิ่นเทียนหยู เขารีบคว้าตัวนางที่กำลังตกใจจนทรุดนั่งนิ่ง พลางรีบหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้
คนอื่น ๆ ไม่รวดเร็วเท่าเขา เช่นนั้นภายในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ คนเหล่านั้นต่างก็ร่วงลงไปกองบนพื้นหิมะ
โลหิตไหลนองพื้นหิมะสีขาว กระทั่งบริเวณที่เต็มไปด้วยหิมะถูกย้อมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน
ไป๋เสี่ยวเฉินค่อย ๆ หันหน้าไปมองไป๋หยาน ยามนี้นัยน์ตาของเขาเป็นสีแดงเลือด
บทที่ 1277 : ตี้คังมาแล้ว (3)
ในแววตาของเด็กน้อยไม่มีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่เลย ทั้งหมดมีเพียงความต้องการฆ่า
หลังจากที่เห็นไป๋เสี่ยวเฉินมองมา ใบหน้าที่งดงามของไป๋หยานก็เผยรอยยิ้ม นางเหยียดแขนออกไปทางไป๋เสี่ยวเฉินพร้อมสายตาที่อ่อนโยน
“แม่รู้ว่าเจ้าอยากให้แม่กอดเจ้ามาก แม่อยู่ที่นี่แล้ว ตอนนี้เจ้าสามารถเข้ามากอดแม่ได้เลย อย่างไรเสียทั้งเจ้า ทั้งน้องชายของเจ้าต่างก็เป็นลูกของแม่ทั้งคู่ เจ้าเองก็เป็นเด็กน้อยใจดี บอกแม่ได้หรือไม่ว่า น้อยชายของเจ้าเขาไปที่ใด ?”
ตี้คังบอกนางว่าเฉินเอ๋อน่าที่จะกลับชาติมาเกิด และเด็กคนนี้ก็คือเด็กที่นางไม่ได้ให้กำเนิดเมื่อชาติภพก่อน เขามาเกิดใหม่กับนางก็เพื่อเสริมสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก
และสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านางก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าสัมผัสแห่งความแค้น
ทว่าสัมผัสที่เกิดจากความแค้นนี้มีบุคลิกที่แตกต่างจากเฉินเอ๋อ หากแต่ในสายตาของนางพวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นลูกของนาง
ไป๋เสี่ยวเฉินก้าวเข้าไปหาไป๋หยานอย่างช้า ๆ สีหน้าของเขาไร้สิ้นซึ่งความรู้สึก การแสดงออกของเขามืดมน และเย็นชา นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแสงกระหายเลือด
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินตรงมาหาไป๋หยาน
ไป๋หยานยกยิ้ม ในขณะที่มือของนางกำลังจะกอดเด็กน้อยที่ร่างโชลมไปด้วยเลือดนั้น จู่ ๆ แสงสีแดงก็สว่างวาบขึ้นทางด้านหน้า เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เด็กน้อยกำลังจะซุกเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น
ร่างของบุรุษผมสีเงินพลันร่อนลงมา ร่างนั้นอยู่ท่ามกลางหิมะที่กำลังโปรยปราย แลดูงดงามจับตา กระทั่งทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตะลึงงัน
“หวู !”
ทันทีที่จิ้งจอกฟ้าแลเห็นรูปลักษณ์ของชายผู้นั้น ขนทั้งตัวของมันก็ลุกตั้งชันขึ้น มันไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง จิ้งจอกฟ้าวิ่งหนีเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะพร้อมกับเสียงดังฟิ้ว ! เพียงพริบตามันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย …
อย่างไรก็ตาม ยามนี้ไป๋หยานไม่สนใจการจากไปของจิ้งจอกฟ้าแล้ว ร่างของนางในอ้อมแขนของชายหนุ่มแข็งขืนขึ้นเล็กน้อย นางเอ่ยถามว่า “ตี้คัง เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ได้ ?”
“หากข้าไม่มาที่นี่ ผู้ใดจะดูแลเจ้าเล่า ? ตอนนี้เขาไม่ใช่ลูกของเราอีกต่อไปแล้ว ข้าบอกแล้วไงว่า ทันทีที่ความแค้นนั่นครอบครองร่างของเฉินเอ๋อได้ เฉินเอ๋อก็จะหมดสิ้นซึ่งความรู้สึกทั้งมวล !”
ไป๋หยานสะดุ้ง นางรู้ว่าตี้คังพูดกับนาง แต่หากเขาต้องการให้นางเลิกสนใจลูกของตนเองนั้น นางทำไม่ได้ !
“ข้ารู้ว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร !” นางยกมือขึ้นผลักตี้คังออก พลางจ้องมองเด็กน้อยที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาที่อ่อนโยน พร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก “ลูกรักอย่าได้กลัวเลย มาอยู่เคียงข้างแม่ แม่จะปกป้องเจ้าเอง”
ไป๋เสี่ยวเฉินจับจ้องมองตี้คังไม่วางตา เจตนาสังหารของเขาค่อย ๆ เผยออกมา เขาก้าวเข้าไปหาตี้คัง มือเล็ก ๆ ของเขาพร้อมกับกระแสลมรุนแรงกระแทกลงบนหน้าอกของตี้คัง
เขาต้องการฆ่า !
ฆ่าทุกคน !
สีหน้าของตี้คังเคร่งขรึม ขณะประสานสายตากับดวงตาที่แดงฉานนั้น เขาหลบเลี่ยงการโจมตี ร่างของเขากระพริบก่อนจะโผล่ขึ้นด้านหลังของเด็กน้อยอย่างรวดเร็ว
“ตี้คัง !”
ใบหน้าของไป๋หยานซีดเซียว ครั้นเห็นไป๋เสี่ยวเฉินวิ่งเข้าหาตี้คังอีกครั้ง นางก็พุ่งเข้าขวางอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ …
ปัง !
ฝ่ามือหนักหน่วงฟาดลงบนร่างของนางอย่างแรง เลือดไหลออกมาจากปากของนาง ใบหน้าของนางซีดเผือด
“หยานเอ๋อ !” ตี้คังหน้าซีดด้วยความตกใจ เขารีบก้าวไปข้างหน้า พลางคว้าร่างที่ล้มลงของไป๋หยานไว้ เอ่ยกล่าวด้วยความทุกข์ใจ “เหตุใดเจ้าจึงต้องเข้ามาขวางด้วย ? เจ้าเด็กน้อยนั่นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า !”
ไป๋หยานเช็ดเลือดออกจากมุมปากของตน นางไอแห้ง ๆ มีเลือดไหลออกมาจากปากอีกครั้ง จากนั้นนางก็หยัดกายลุกขึ้นยืน
“ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง”
นางไม่ต้องการให้ทั้งสองคนต่อสู้กัน …
สายตากระหายเลือดของไป๋เสี่ยวเฉินเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย เขาก้มลงมองมือเล็ก ๆ ของตนเอง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าซีด ๆ ของไป๋หยาน หัวใจดวงน้อยดูเหมือนจะถูกชกกระทั่งเจ็บปวดและอึดอัด
บทที่ 1278 : ตี้คังมาแล้ว (4)
เหตุใด…?
เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ ?
เขาสังหารผู้คนมากมายโดยไม่รู้สึกอะไร ทว่าเหตุใดเพียงแค่ชกนาง เขาถึงได้รู้สึกอึดอัด ?
ราวกับว่า … เขาลืมอะไรบางอย่างไป …
“ห้ามรังแกหม่ามี้เด็ดขาดนะ !”
ชั่วขณะนั้น จู่ ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในความคิดของเขา ทำให้เขารีบหมอบลงกับพื้น
“ข้าเต็มใจที่จะมอบอำนาจการควบคุมร่างกายนี้ให้แก่เจ้าตลอดไป แต่มีเงื่อนไขว่าเจ้าจะต้องปกป้องหม่ามี้ หาก… หากเจ้ากล้าทำร้ายหม่ามี้ ข้าก็จะทำลายวิญญาณของข้าซะ และจะปล่อยให้เจ้าตายไปพร้อมกับข้า !”
เสียงที่ยังอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวดังขึ้นในหัวของเขาอีกครั้ง
“หุบปาก เจ้าหุบปากนะ ข้า !” เขากุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด เสียงนั้นรบกวนหัวใจของเขา ทำให้หัวใจของเขาดูเหมือนจะถูกกระชากอย่างรุนแรง
“นางเป็นแม่ของเรา เป็นคนที่ข้ารักที่สุด สิ่งที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้ถูกต้องแล้ว ข้าอ่อนแอ ทั้งอ่อนแอเกินกว่าที่จะปกป้องแม่ของข้า ข้าจึงยอมให้เจ้าออกมาปกป้องแม่ของข้า แล้วเจ้าทำร้ายนางได้อย่างไร ?”
“อ๊า ! อ๊า !”
เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขาร้องตะโกนเสียงที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมออกมา เสียงของเขาเสียดแทงหัวใจดังก้องไปในหมู่เมฆ
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนจากพื้นอีกครั้ง นัยน์ตาที่กระหายเลือดของเขาจับจ้องมองตี้คังและไป๋หยานอีกครั้ง
“ข้าอยากฆ่า อยากฆ่าทุกคน !”
ในใจของเขามีเสียงหนึ่งคอยบอกเขาอยู่เสมอว่า เขาจะต้องเข่นฆ่าทุกผู้คนบนโลก และให้ผู้คนเหล่านั้นฝังดินไปพร้อมกับเขาด้วย !
เช่นนั้นเขาจึงต้องไม่ปล่อยให้ผู้ใดมาชี้นำ !
“ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าทำร้ายหม่ามี้ !”
ฟุ่บ !
เด็กน้อยเดินเข้าหาตี้คัง และไป๋หยานอย่างรวดเร็ว และในเวลาเดียวกันนั้นก็มีเปลวไฟลุกท่วมร่างของเขา ทว่าเขากลับเพิกเฉยต่อเปลวไฟที่รุนแรงนั้น ร่างเล็ก ๆ ของเขาราวกับสายลมกระโชกแรงพุ่งเข้าหาไป๋หยาน
“เฉินเอ๋อ !!!”
ไป๋หยานตกใจมาก กระทั่งเกือบจะสูญเสียจิตวิญญาณ นางผลักตี้คังออกจากอ้อมแขน พลางรั้งเด็กน้อยที่วิ่งมาหาเข้าสู่อ้อมแขนโอบกอดแนบแน่น
เปลวไฟดูเหมือนจะลุกโชนขึ้น ทว่ากลับไม่ได้ทำร้ายไป๋หยาน หากแต่อุณหภูมิร้อนแรงจากเปลวไฟก็ทำให้หัวใจของไป๋หยานสั่นสะท้าน
“เฉินเอ๋อ…แม่รู้ว่าเจ้ายังอยู่ เจ้าอยู่ที่นี่มาตลอด … เจ้าสังหารผู้คนพวกนั้นเพื่อแม่ เช่นนั้นเจ้าจึงปล่อยให้เขาควบคุมร่างกายของเจ้า และปิดผนึกตนเองใช่หรือไม่ ?”
มีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะให้พลังแค้นสามารถควบคุมร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุดังกล่าวก่อนหน้านี้เฉินเอ๋อจึงพูดเช่นนั้น
มือของไป๋หยานสั่นระริก ขณะกอดไป๋เสี่ยวเฉินแนบแน่น หยาดน้ำตาของนางไหลออกมาจากดวงตาหยดลงบนไหล่ของไป๋เสี่ยวเฉิน
ร่างของเด็กน้อยแข็งค้าง
เหตุใดอุณหภูมิของอ้อมกอดนี้จึงอบอุ่นเสียเหลือเกิน … อบอุ่นจนเขารู้สึกโหยหา…
“เฉินเอ๋อ…เจ้ายอมสละอิสรภาพทั้งชีวิตเพื่อแม่ เหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้ ? เจ้าต้องการให้แม่สูญเสียเจ้า และเสียใจไปตลอดชีวิตงั้นหรือ ?”
ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินเห็นว่าเจ้าพลังแค้นนี้ต้องการทำร้ายนาง เขาก็เลือกที่จะสละเผาวิญญาณของตนเองตายไปพร้อมกับพลังแค้น !
ท้ายสุดแล้ว หากวิญญาณของไป๋เสี่ยวเฉินหายไปอย่างสมบูรณ์ พลังแค้นก็จะหายไปจากโลกนี้ด้วยเช่นกัน …
หากแต่วิญญาณของไป๋เสี่ยวเฉินจะแตกกระจัดกระจาย นั่นหมายความว่าเขาจะไม่มีโอกาสกลับชาติมาเกิดอีก !
“เฉินเอ๋อแม่ไม่ต้องการให้เขาหายไป เช่นนั้นแม่จึงต้องตามหาโลหิตจิ้งจอกฟ้า ทว่าสิ่งที่แม่ไม่ต้องการที่สุดก็คือการสูญเสียเจ้า เจ้าคือชีวิตจิตใจของแม่ เจ้าคือสายเลือดที่แม่อุ้มท้องมานับสิบเดือนกว่าจะคลอดออกมา หากไม่มีเจ้าแม่ก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ !”
บทที่ 1279 : ตี้คังมาแล้ว (5)
ไม่รู้ว่าถ้อยคำของไป๋หยานได้ผลหรือไม่อย่างไร ? ทว่ากลิ่นอายสังหารบนร่างของเขาก็ค่อย ๆ มลายหายไป พร้อมกับที่เปลวไฟซึ่งกำลังแผดเผาวิญญาณก็ค่อย ๆ สงบลง …
อย่างไรก็ตาม ไป๋หยานยังคงกอดร่างนุ่ม ๆ ไว้ในอ้อมแขนของนางแนบแน่น หยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากนัยน์ตาดำขลับของนางหยดลงบนไหล่ของเด็กน้อยอีกครั้ง …
“หยานเอ๋อ”
สายตาของตี้คังจับจ้องมองเด็กน้อยตลอดเวลา เพราะเกรงว่าเด็กน้อยจะทำร้ายไป๋หยาน แม้ว่าเจตนาสังหารของเด็กน้อยจะหายไป ทว่าเขาก็ยังไม่กล้าที่จะคลายใจ
“เจ้าหลีกไป ข้าจะกำจัดเจ้าความแค้นนี้ก่อน วิญญาณของเฉินเอ๋อถูกปิดผนึกไว้ในร่างของเขา มันจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับเขามากนัก เพียงแต่เขาจะหลับไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ข้าจะหาทางทำลายผนึกให้เขา”
ร่างของไป๋หยานแข็งค้าง นางหลับตาลงเล็กน้อย แววตาที่เศร้าหม่นหมองของเด็กชายในชุดสีม่วงพลันปรากฏขึ้นในใจของนางอีกครั้ง
ท่าทางเช่นนั้นของเขา ราวกับหนามทิ่มแทงหัวใจของนางอย่างรุนแรง กระทั่งหัวใจของนางรู้สึกเจ็บปวด
หลังจากนั้นเพียงไม่นานนางก็ลืมตาขึ้น “ตี้คัง ข้าขอลองอีกครั้ง … “
“เขาจำเจ้าไม่ได้ และเขาไม่ใช่มนุษย์ เจ้าต้องเข้าใจเรื่องนี้ !” ตี้คังขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไป๋หยานไม่ตอบตี้คัง นางหันไปมองเด็กน้อย
ร่างของเด็กน้อยแข็งค้าง ดวงตาสีแดงเลือดของเขาแสดงออกถึงความว่างเปล่าราวกับลูกแกะหลงทาง เด็กน้อยจับจ้องมองสตรีงดงามไร้ที่เปรียบที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษนะ ที่ตอนนั้นแม่ไม่สามารถปกป้องเจ้าได้ เจ้าคงอยากเกิดมาในโลกนี้จริง ๆ และเจ้าคงต้องการให้แม่กอดเจ้าจริง ๆ”
ร่างของเด็กน้อยสั่นสะท้าน เขาปล่อยให้ไป๋หยานโอบอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน ความอบอุ่นที่ทำให้เขาหายใจไม่ออกนี้ ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่เขาแสวงหามาเนิ่นนาน …
“ไม่ต้องห่วง แม่จะไม่ปล่อยคนที่ทำให้เราสองแม่ลูกต้องแยกจากกันไว้แน่ !” ดวงตาของไป๋หยานฉายประกายมุ่งมั่น นางลดสายตาลงพลางกดจูบเบา ๆ ลงที่หว่างคิ้วของเด็กน้อย “และแม่ แม่จะพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้เจ้าและเฉินเอ๋อเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ แม่จะไม่ทำให้เจ้าต้องหายไปอีก !”
เขาเป็นชาติก่อนของเฉินเอ๋อ หากแต่เขาตายก่อนที่จะทันได้ถือกำเนิด วิญญาณของเขากลับชาติมาเกิด ทว่าความเกลียดชังนั้นยังคงอยู่ตลอดมา ซึ่งนั่นส่งผลให้เฉินเอ๋อกลายเป็นเช่นนี้
ความว่างเปล่าในดวงตาของเด็กน้อยค่อย ๆ มลายหายไป หยาดน้ำตาเอ่อขึ้นในดวงตาที่กระหายเลือดของเขา น้ำเสียงของเขามืดมน และแหบแห้งทว่าก็ยังคงอ่อนเยาว์เฉกเช่นเคย
“ท่านแม่…”
คำว่า ‘ท่านแม่’ นี้ กว่าที่เขาจะได้เอื้อนเอ่ยก็ต้องข้ามภพข้ามชาติ ทว่าที่สุดเขาก็ได้เรียกแล้วในวันนี้ วันที่ซึ่งรอคอยยาวนานถึงหนึ่งพันปีเลยทีเดียว
หัวใจของไป๋หยานสั่นสะท้าน ภายใต้เสียงเรียกที่แผ่วเบานี้ นางกอดเจ้าเด็กน้อยแน่นขึ้นทันที หยาดน้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาของนางเป็นสายไม่จบสิ้น หยาดน้ำตาเหล่านั้นหลั่งรินรดลงบนไหล่ของเด็กชาย
ตี้คังยืนนิ่งจับจ้องมองไป๋หยานอย่างเงียบ ๆ มีประกายแสงแปลก ๆ แวบเข้ามาในดวงตาของเขา
แม่ลูกผูกพันกระนั้นรึ ?
เช่นนั้นแม้แต่สัมผัสแค้นก็ยังเกิดความรู้สึก ? ก็แล้วเขาล่ะ เด็กน้อยไม่เคยลืมไป๋หยาน ทว่าเหตุใดกลับไม่เคยจดจำเขาได้เลย ?
ก็เขาเป็นบิดาของเด็กนี่ชัด ๆ เหตุใดเด็กนี่ถึงโจมตีเขาทันทีที่ได้เห็น ?
เหตุใดจึงแตกต่างกันเสียเหลือเกิน ? สองมาตรฐานชัด ๆ
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่าน … ”
เด็กชายตัวน้อยดึงแขนเสื้อของไป๋หยานแน่นพร้อมหยาดน้ำตาในดวงตาสีแดงเลือดของเขา เขาค่อย ๆ หลุบตาลงทีละน้อย ก่อนจะหยุดลงที่หน้าอกของไป๋หยาน
“ข้าขอโทษ…”
เขาไม่ควร…ไม่ควรลืมนาง …
และเขาก็ไม่ควรทำร้ายนาง !
“ไม่…แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษเจ้า แม่ไม่ได้ดูแลเจ้าให้ดี หากแต่ในชาตินี้ แม่จะปกป้องเฉินเอ๋ออย่างดีแน่นอน เจ้าไม่ต้องกังวล”
บทที่ 1280 : ตี้คังมาแล้ว (6)
รอยยิ้มสดใสกระจายไปทั่วใบหน้าของเด็กน้อย
ไป๋หยานถึงกับผงะ
ภาพจำในใจนาง เด็กน้อยในชุดสีม่วงที่นางเห็นมักจะมีสีหน้าอมทุกข์
ไม่คาดคิดว่าจะมีช่วงเวลาที่รอยยิ้มของเขาสดใสเช่นนี้ …
“ท่านแม่ ข้าได้กอดท่านเช่นนี้ ได้แค่นี้ก็ … พอใจแล้ว”
ความคับแค้นใจของเขายังคงอยู่ตลอดหลายปี หนึ่งคือเขาถูกฆ่าตายก่อนเขาจะทันได้ถือกำเนิด และอีกอย่างก็คือ ในที่สุดเขาก็เติบโตมาในครรภ์ของแม่ หากแต่แม่ก็ยังไม่ยอมกอดเขา
เพราะความไม่พอใจนี้ เขาจึงแอบซ่อนอยู่ในร่างของไป๋เสี่ยวเฉินกระทั่งถึงตอนนี้ …
“แต่ท่านแม่ ข้ากับเขาท่านชอบใคร ?” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้น ปรากฏความหวังในดวงตาสีแดงเลือดของเขา
“ถ้าต้องเลือกระหว่างข้ากับเขา ท่านแม่จะเลือกใคร ?”
ไป๋หยานตกตะลึง นางไม่อาจตอบคำถามของเด็กน้อยอยู่เป็นนาน
เด็กน้อยหรี่ตาลง “ข้าไม่ใช่มนุษย์ ข้าเป็นเพียงสัมผัสของความคับแค้นใจที่เกิดขึ้นมานานมาก กระทั่งก่อเกิดความคิดของตนเอง เป็นธรรมดาที่ท่านแม่ย่อมต้องเลือกเขา บางทีข้าอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่จำเป็น”
ไป๋หยานกอดร่างนุ่มนิ่มของเด็กชายอีกครั้งพลางขมวดคิ้ว“ อย่าพูดอะไรโง่ ๆ ! ตอนนี้เจ้ามีความคิดของตนเองแล้ว ก็นับว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ! เจ้าและเขาต่างเป็นลูกของแม่ทั้งคู่ และตอนนี้เจ้ามีโลหิตจิ้งจอกฟ้าแล้ว เจ้าทั้งสองก็สามารถอยู่ร่วมกันตลอดไป”
เด็กน้อยส่ายศีรษะ “ไม่…ข้ารู้สึกได้ถึงพลังจากโลหิตจิ้งจอกฟ้า พลังนี้สามารถถ่ายโอนความแข็งแกร่งทั้งหมดของข้าไปยังร่างของไป๋เสี่ยวเฉิน เช่นนั้น … หากไป๋เสี่ยวเฉินดื่มเลือดของจิ้งจอกฟ้า ข้าก็ย่อมจะหายไป”
กระไรนะ ?
ไป๋หยานตัวแข็งค้าง
หากไป๋เสี่ยวเฉินดื่มเลือดของจิ้งจอกฟ้า เด็กผู้นี้ก็จะหายไปกระนั้นรึ ?
เช่นนั้นเฟิงลี่เฉินก็หลอกนางกระนั้นสิ ?
“ท่านแม่ ข้าเคยไปหาท่านในฝัน ทว่าข้าไม่อยากอยู่กับท่าน… เพราะแม้ข้าจะอยู่ข้างกายท่าน ท่านก็ไม่เคยกอดข้าเลย ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าท่านรักข้าเสมอมา ข้าสุขใจยิ่งนัก…”
แท้จริงแล้ว เขาอาศัยอยู่ในร่างของไป๋เสี่ยวเฉินมาโดยตลอด เขารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับโลกภายนอก เขาย่อมรู้ดีว่าสาเหตุที่ไป๋หยานต้องฝ่าฟันอันตราย เพื่อตามหาโลหิตจิ้งจอกฟ้าก็เพียงเพื่อให้เขาอยู่ร่วมกับไป๋เสี่ยวเฉินได้ !
ทว่าน่าเสียดาย ทันทีที่เขาครอบครองร่างกายนี้ เขาก็ได้รับผลกระทบจากโลกภายนอก ทำให้ความทรงจำที่เคยมีก่อนหน้านี้มลายหายไปสิ้น กระทั่งลงมือทำร้ายคนที่เขาไม่ต้องการทำร้ายมาตลอดชีวิต …
“แม่บอกแล้วว่า แม่จะหาวิธีทำให้พวกเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน เจ้าต้องเชื่อแม่ !” ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน นางรีบกดไหล่ของเด็กน้อยพร้อมกับกล่าว
เด็กน้อยเม้มปาก “จริง ๆ แล้ว ที่ชายคนนั้นพูดมาก็ไม่ผิด เมื่อพบโลหิตจิ้งจอกฟ้า ไป๋เสี่ยวเฉินและข้าก็จะสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ เพราะเขาคือข้า และข้าก็เป็นเพียงความคับแค้นใจของเขา และเมื่อเขาไม่มีความคับแค้นใจอย่างข้า เขาก็จะเป็นคนที่ใจดีและน่ารักตลอดไป เช่นนั้น … ข้าก็เป็นหนึ่งเดียวกับเขา และข้าก็จะยังมีชีวิตอยู่โดยการรวมเข้ากับจิตวิญญาณของเขา”
หากไป๋เสี่ยวเฉินไม่มีความแค้นฝังในจิตวิญญาณ บางทีไป๋เสี่ยวเฉินก็อาจจะไม่น่ารักน่ากอดถึงเพียงนี้ก็เป็นได้ เพราะทั้งหมดทั้งมวลที่ไป๋เสี่ยวเฉินเป็นก็มีพลังแค้นนี้อยู่ร่วมด้วยเสมอมา เช่นนั้นนางจึงไม่อยากให้ความคับแค้นใจหายไป
ไป๋หยานหันหน้าไปมองตี้คังอย่างแข็งกร้าว “ตี้คัง สิ่งที่เขาพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ ? เฟิงลี่เฉินหลอกข้าใช่หรือไม่ ?”
ตี้คังเงยหน้าขึ้นมองไป๋หยาน ก่อนจะพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ “ที่ข้าไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่เจ้า เป็นเพราะ … วิธีนี้จะทำให้เขาหายไปอย่างสมบูรณ์”
เปรี้ยง !
ราวสายฟ้าฟาดจากท้องฟ้าลงบนร่างของนาง ไป๋หยานตัวแข็งทื่อขยับตัวไม่ได้ นางกำหมัดแน่น หายใจไม่ออกด้วยความปวดร้าว …