จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 1281-1285
บทที่ 1281 : เลือดต้องล้างด้วยเลือด (1)
“หยานเอ๋อ !”
ครั้นเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของไป๋หยาน ตี้คังก็รีบกอดไหล่ของนาง “เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพราะ… เขากับเฉินเอ๋อจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน เขาจะไม่หายไปไหน จะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป”
ไป๋หยานกัดริมฝีปากของนางแน่น “นอกจากวิธีนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วหรือ ?”
เป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะให้นางละทิ้งเด็กชายตัวน้อยคนนี้ !
ตี้คังส่ายศีรษะ ในเวลานั้น เขายังไม่ได้ยืนยันคำตอบแก่ไป๋หยาน เพราะวิธีนี้เป็นเรื่องยากเกินไป…
ไหล่ของไป๋หยานสั่นระริก นางเอื้อมมือไปกอดเด็กน้อยอีกครั้ง นางหลับตาลงช้า ๆ ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“ตี้คัง…เฉินเอ๋ออยู่ในสภาพเช่นนี้จะมีอันตรายหรือไม่ ?”
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
ตี้คังส่ายศีรษะเอ่ยกล่าวว่า “ไม่…หากวิญญาณของเฉินเอ๋อถูกทำลาย เจ้าตัวเล็กนี่ก็จะไม่มีตัวตนอีกต่อไป ตอนนี้เฉินเอ๋อเพียงปิดผนึกในร่างกายของตนเองเพื่อให้เจ้าตัวเล็กนี่สามารถควบคุมร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เฉินเอ๋อไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายแต่อย่างใด”
ไป๋หยานลดสายตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง
เฉินเอ๋อ…หากเป็นเจ้า เจ้าก็คงจะเลือกทางนี้ใช่หรือไม่ ?
บางทีเจ้าอาจเต็มใจที่จะ … ให้โอกาสเขา !
“ตี้คัง ให้ข้าหาทางอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าจะต้องมีสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาทั้งสองคน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถอยู่รอดในร่างของเฉินเอ๋อได้ ทว่าก็ยังมีสิ่งอื่นที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ !”
ครั้นตี้คังเห็นว่าไป๋หยานยืนกรานที่จะทำสิ่งนี้ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อย “ตกลง หากเจ้าต้องการเก็บเขาไว้ ข้าก็จะช่วยเจ้าเช่นกัน”
ครั้นเด็กน้อยได้ยินถ้อยคำของไป๋หยาน รอยยิ้มสดใสพลันปรากฏบนใบหน้าสีชมพูของเขา
แม้ว่าดวงตาของเขาจะยังคงมีรังสีกระหายเลือด ทว่ายามนี้ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสดใส และไม่เต็มใจที่จะจากไป …
แววตาโหยหาของเขาจับจ้องมองไป๋หยานราวกับต้องการที่จะสลักคนซึ่งอยู่เบื้องหน้าให้ฝังลึกลงไปในจิตใจของเขา
ช่วงเวลานี้ ไป๋หยานกำลังคิดว่าจะรักษาเด็กชายตัวน้อยคนนี้ไว้ได้อย่างไร? นางจึงไม่ทันสังเกตเห็นแววตาโหยหาอาวรณ์นี้ …
ขณะเดียวกันเด็กน้อยก็ผละออกจากอ้อมกอดของไป๋หยานอย่างเงียบ ๆ เขาหยิบขวดโลหิตจิ้งจอกฟ้าที่ไป๋เสี่ยวเฉินซ่อนไว้ขึ้นมา
ครั้นไป๋หยานรู้ตัว ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว นางรีบวิ่งเข้าไปหาเด็กน้อยด้วยความตื่นตกใจ นางทันเพียงเห็นเขาดื่มเลือดในขวดสีแดงสด …
“อย่า !”
เสียงของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเสียดแทงใจ หยาดน้ำตาในดวงตาของนางไหลรินลงมาอย่างต่อเนื่องปกคลุมใบหน้าที่งดงามนั้น
ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นซีดเผือด สายตาของนางค่อย ๆ เลื่อนลงตามขวดที่ร่วงหล่นลงมา หัวใจของนางเต้นแรง ชั่วขณะนั้นนางรู้สึกอึดอัดกระทั่งหายใจไม่ออก และนางเกือบจะลืมหายใจ
เด็กน้อยเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปาก พลางเงยหน้าขึ้น ประกายแสงสีเลือดในดวงตาของเขาค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน
“หากมิใช่เพราะท่านแม่ บางทีข้าก็อาจจะยังเป็นคนที่ต้องการเพียงฆ่า ฆ่า และฆ่า หากแต่เป็นเพราะท่านแม่ใจดีมาก ท่านพยายามสู้สุดชีวิตเพื่อช่วยแดนอสูร ในฐานะลูกชายของท่านแม่ ข้าไม่ต้องการทำให้ท่านแม่ต้องเสียชื่อเสียง เช่นนั้นข้าโชคดีมากที่อ้อมกอดของท่านแม่ช่วยปลุกจิตสำนึกของข้าขึ้นมาได้”
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าเสียใจและคับแค้นใจเป็นอย่างมาก หัวใจของข้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ทว่าอ้อมกอด และจูบจากท่านแม่ทำให้ข้าเข้าใจว่า ท่านแม่ไม่เคยลืมข้า … “
“ข้ารู้สึกขอบคุณท่านแม่มากที่ไม่ยอมรามือเรื่องของข้า หากแต่แม้ว่าข้าจะไม่สามารถอยู่กับท่านแม่ได้ตลอดไปเฉกเช่นเขา ทว่าอย่างน้อยข้าก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้ …
บทที่ 1282 : เลือดต้องล้างด้วยเลือด (2)
ข้าล้มเลิกความหวังในการมีชีวิตอยู่ ขอเพียงแค่ได้ปกป้องท่านก็พอ
เพราะท่านแม่คือความอาวรณ์เดียวของข้าในโลกนี้
“ท่านแม่ … จูบข้าหน่อยได้หรือไม่ ?”
ร่างของเด็กน้อยถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงอ่อน น้ำเสียงของเขาอ่อนลง ฟังดูอ่อนแรง ราวกับจะสูญสลายหายไปได้ทุกเมื่อ
ไป๋หยานเดินโซเซไปข้างหน้า นางรั้งตัวเด็กน้อยเข้ามากอดแนบแน่น จากนั้นก็พรมจูบลงบนใบหน้าเย็นชาของเขาพร้อมหยาดน้ำตา …
เด็กน้อยยิ้ม
เด็กน้อยค่อย ๆ เบนสายตาไปมองตี้คัง มีร่องรอยของการขอโทษในน้ำเสียงที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมของเขา
“ท่านพ่อ ข้าไม่ได้อยากทำร้ายท่าน หากแต่ข้าลืมท่านจนสิ้น … จากนี้ไปท่านต้องช่วยปกป้องท่านแม่ด้วย อย่าให้นางโดนทำร้าย และอย่าให้เสี่ยวเฉินต้องไม่มีแม่”
การไม่มีแม่เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก เขาไม่ต้องการให้ไป๋เสี่ยวเฉินต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้อีกครั้ง
ตี้คังจับมือเย็น ๆ ของเด็กชายอย่างเงียบ ๆ “ไม่ต้องห่วงพ่อจะดูแลแม่ของเจ้าเอง”
หยาดน้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาของเด็กน้อย ทว่ารอยยิ้มของเขากลับสดใสมาก ไม่ต่างจากแสงแดดที่ส่องกระทบร่างของไป๋หยาน
หากแต่ลำแสงของแดดอันอบอุ่นนี้ ไม่อาจสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกายที่เย็นเยือกของไป๋หยานได้
นางทรุดกายลงนั่งกับพื้น สองแขนโอบอุ้มร่างของเด็กน้อยนิ่ง ราวกับนางได้กลายเป็นหินไปแล้ว นางไร้สิ้นซึ่งการเคลื่อนไหวใด ๆ อยู่เป็นเวลานาน …
ตี้คังอยู่เคียงข้างนางอย่างเงียบ ๆ เขาหวังว่าอ้อมกอดของเขาจะให้ความอบอุ่นแก่นางได้บ้าง
“ตี้คัง … ”
เสียงของไป๋หยานแหบแห้งเล็กน้อย “ท่านว่าคนในเทวาคารพวกนั้นสมควรตายหรือไม่ ?”
ตี้คังโอบกระชับไหล่ของนางแน่นขึ้น “สมควร…”
“ท่านว่าทุกคนที่ทำร้ายครอบครัวของเราสมควรตายใช่หรือไม่ ?”
“ใช่…”
ไป๋หยานหัวเราะ
เสียงหัวเราะของนางฟังดูบ้าคลั่งขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้อารมณ์ของตี้คังตึงเครียดมากขึ้น
“หยานเอ๋อ … ”
“ตี้คัง ข้าสบายดีไม่ต้องเป็นกังวล” ไป๋หยานอุ้มร่างของไป๋เสี่ยวเฉิน ก่อนจะค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นยืนจากพื้น “ในช่วงเวลานี้ ข้าวางแผนที่จะอยู่ในเทียนซาน สถานที่นี้เหมาะสำหรับการฝึกฝนของข้ามาก”
ตี้คังสะดุ้ง เขาหันหน้าไปจ้องมองใบหน้าที่งดงามของสตรีที่อยู่ข้างกาย “หากเจ้าตัดสินใจเช่นนั้น ข้าก็พร้อมสนับสนุนเจ้า”
ไป๋หยานลดสายตาลง พลางกำหมัดแน่น
วันใดที่นางออกจากเทือกเขาเทียนซาน วันนั้นเทวาคารต้องอาบไปด้วยเลือด ! นางจะไม่ปล่อยคนพวกนั้นไป … หนี้ ! เลือด ! ต้อง ! จ่าย ! ด้วย ! เลือด !
“ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”
ไป๋หยานเม้มริมฝีปาก ไม่เอ่ยกล่าวคำใด นางลดสายตาลงจับจ้องมองเจ้าซาลาเปาน้อยในอ้อมแขน หลังจากเงียบไปนาน นางก็เอ่ยถามว่า “เฉินเอ๋อจะตื่นเมื่อไหร่ ?”
“เขาได้รับโลหิตจิ้งจอกฟ้าแล้ว จะไม่ตื่นขึ้นมาในเวลาอันใกล้นี้ ยิ่งไปกว่านั้นวิญญาณในร่างของเขาถูกปิดผนึก จะเป็นการดีกว่า หากเขาจะเป็นผู้ทำลายผนึกด้วยตนเอง เช่นนั้นจึงคาดว่าคงต้องใช้เวลาสักพัก … “
ไป๋หยานพยักหน้าเล็กน้อย “ท่านกลับไปก่อนเถิด ข้าจะเรียกจิ้งจอกฟ้าออกมา มันคุ้นเคยกับภูเขาเทียนซานนี้มากกว่าข้า ทั้งยังเป็นการสะดวกกว่าที่จะมีมันอยู่ด้วย”
ใบหน้าของตี้คังเปลี่ยนเป็นสีเข้ม หากแต่เขาก็รู้ว่าถ้าเขายังอยู่ที่นี่ จิ้งจอกฟ้าก็จะไม่ปรากฏตัว เช่นนั้นเขาจึงถอยกลับลงจากภูเขาไปอย่างว่าง่าย
หลังจากที่ตี้คังเดินไปได้เพียงครึ่งทาง ไป๋หยานก็กวาดตามองโดยรอบ “จิ้งจอกฟ้า เขาไปแล้วเจ้าออกมาได้แล้ว”
จิ้งจอกฟ้าเกลียดผู้ชาย ไม่สิ ต้องบอกว่ามันขยะแขยงผู้ชายมากกว่า ไม่ว่า ตี้คังจะมีฐานะเช่นไร ตราบใดที่เขายังคงอยู่ที่นี่ จิ้งจอกฟ้าก็จะซ่อนตัวไม่ออกมาอย่างแน่นอน
และแน่นอนว่า ทันทีที่ตี้คังจากไป หัวเล็ก ๆ ของจิ้งจอกฟ้าก็โผล่ออกมาจากใต้ต้นไม้ มันค่อย ๆ ก้าวออกมาอย่างระแวดระวัง
บทที่ 1283 : เลือดต้องล้างด้วยเลือด (3)
เมื่อมันไม่เห็นร่างของตี้คัง ความรังเกียจอย่างหนักในดวงตาของจิ้งจอกฟ้าก็หายไป มันร้องออกมาสองครั้ง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาไป๋หยานตรงเข้าสู่อ้อมแขนของนาง
“เจ้าตัวน้อย เจ้าเคยคิดที่จะทำร้ายข้ามาก่อนไม่ใช่หรือ ?” ไป๋หยานเขกหัวของจิ้งจอกฟ้าอย่างอดไม่ได้พลางกล่าว
จิ้งจอกฟ้าร้องครางสองครั้ง
ก็มนุษย์มักจะชั่วร้ายใจดำอำมหิตชอบทำร้ายมัน เช่นนั้นมันจึงต้องโจมตีมนุษย์ก่อนสิ ?
มันเองก็เสียใจ
ทว่า…
ในขณะที่จิ้งจอกฟ้ากำลังทำตัวราวกับเด็กทารก ถูไถหัวของมันกับร่างของไป๋หยานอย่างเพลิดเพลินอยู่นั้น จู่ ๆ กลิ่นอายของชายน่าขยะแขยงผู้นั้นก็ลอยมาจากด้านหลัง ทำให้ขนของมันลุกชันไปทั่วร่าง มันลุกขึ้นอย่างตระหนกตกใจพร้อมด้วยเสียงครวญคราง มันอยากจะกระโดดออกจากอ้อมแขนของไป๋หยานทันที
ทว่าน่าเสียดาย…
ก่อนที่มันจะทันได้ผละจากไป มันก็ถูกตี้คังคว้าคอไว้ได้ ตี้คังเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่มืดมน “หากมิใช่เพราะเจ้าเกลียดผู้ชาย ชายาของข้าก็คงไม่ต้องมาที่นี่โดยปราศจากข้า และหากมิใช่เพราะเจ้าดึงดูดบรรดาคนเหล่านั้นมาที่นี่ ภรรยาและลูก ๆ ของข้าก็คงจะไม่ต้องได้รับบาดเจ็บ ข้าจะคิดบัญชีนี้กับเจ้าอย่างไรดี ?”
แท้ที่จริงแล้ว จิ้งจอกฟ้าก็มิใช่คู่ต่อสู้ของไป๋หยาน เพราะนอกเหนือจากความรวดเร็วแล้ว มันก็ยังไม่แข็งแกร่งมากนัก ทว่าเป็นเพราะมันดึงดูดผู้คนเหล่านั้นมา จึงทำให้ไป๋หยานและเฉินเอ๋อได้รับบาดเจ็บ
ด้วยเหตุนี้ ตี้คังจึงโยนความผิดนี้โหมะหัวเจ้าจิ้งจอกฟ้า
“หวู่หวู่ !”
จิ้งจอกฟ้าออกแรงดิ้นรนต่อสู้อย่างเต็มที่ มันจ้องมองตี้คังด้วยสายตาขุ่นเคือง ดวงตาสีฟ้ากลมโตของมันแสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด
ตี้คังหรี่ตา “หยานเอ๋อ วันนี้เรากินจิ้งจอกย่างกันจะดีหรือไม่ ?”
ประโยคนี้ ทำให้จิ้งจอกฟ้ากลัวมาก กระทั่งไม่กล้าขยับเขยื้อนอีกต่อไป ดวงตาของมันเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ทว่าความรังเกียจในดวงตาของมันก็ยังไม่จางหาย
โอ้…เจ้าผู้ชายน่าเกลียดคนนี้ อย่าลืมสิว่า เขาเองก็เป็นสุนัขจิ้งจอกเช่นกัน ยังจะอยากกินเนื้อของมันอีก !
น่ากลัวเหลือเกิน…
แน่นอนว่า ผู้ชายย่อมไม่มีดีสักคน !
“ตี้คัง เจ้าตัวน้อยนี่ช่วยข้าไว้ อย่าทำให้มันตกใจสิ” ไป๋หยานกอดไป๋เสี่ยวเฉินไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็คว้าจิ้งจอกฟ้าออกจากมือของตี้คัง พร้อมกับขมวดคิ้ว “จิ้งจอกฟ้า…แปลกจัง ไยเจ้าถึงได้เกลียดผู้ชายมากนัก พวกเขาทำอะไรเลวร้ายนักกระนั้นหรือ ? “
จิ้งจอกฟ้าตกตะลึง แววตาของมันเต็มไปด้วยความงุนงง
ไยมันถึงได้เกลียดผู้ชายมากนักกระนั้นรึ ?
แท้ที่จริง มันเองก็ยังไม่เข้าใจกระจ่างชัดนัก …
มันมักจะรู้สึกเสมอว่า มีผู้ชายคนหนึ่งกระทำบางอย่างที่ทำให้มันเสียใจ …
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว จิ้งจอกฟ้าก็ส่ายหัว มันเบิกตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา พลางดึงกระโปรงของไป๋หยานอย่างน่าเวทนา
หากมันรู้ว่าจะมีชายมาปรากฏตัวในเทียนซาน มันจะไม่มีวันปรากฏตัวออกมาอย่างแน่นอน !
“จิ้งจอกฟ้า ไม่ต้องกังวล เขาเป็นสามีของข้า เขาจะไม่ทำร้ายเจ้าอย่างแน่นอน ทว่าเมื่อครู่เฉินเอ๋อซ่อนลูกทั้งสองของข้าไว้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาอยู่ที่ใด ?”
ดวงตาของจิ้งจอกฟ้าสว่างวาบขึ้น มันกระโดดลงจากอ้อมแขนของไป๋หยานพลางวิ่งไปข้างหน้า มันไม่ลืมที่จะหันกลับมาร้องเรียกไป๋หยานซึ่งอยู่ข้างหลังให้ตามมันไป
ทันทีที่ไป๋หยานได้รับสัญญาณจากจิ้งจอกฟ้า นางก็รีบเดินตามจิ้งจอกฟ้าอย่างรวดเร็ว
ตี้คังติดตามอย่างใกล้ชิด เขามองไป๋หยานที่ไว้ใจจิ้งจอกฟ้าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
ทว่า…
เขาก็ติดตามนางไปโดยไม่กล่าวคำใดแม้สักคำ มีเพียงสายตายามมองจิ้งจอกฟ้าที่ยังคงเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
…
ในส่วนลึกของยอดเขาเทียนซาน มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ที่ซึ่งมีต้นไม้รายล้อมหลายพันต้น
ไป๋หยานย่อมเห็นค่ายกลที่วางอยู่ภายนอกสถานที่แห่งนี้ เช่นนั้นนางจึงเดินตามรอยเท้าของจิ้งจอกฟ้าเพื่อเข้าไปในที่ซ่อน
ไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจำนวนมากที่หลั่งไหลมายังเทียนซานไม่สามารถหาที่อยู่ของจิ้งจอกฟ้าพบ นั่นเป็นเพราะค่ายกลนี้นี่เอง
บทที่ 1284 : เลือดต้องล้างด้วยเลือด (4)
หาไม่ นางก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการให้กำเนิดลูก ๆ เพื่อล่อมันออกมาหรอก …
ไป๋หยานหยุดกะทันหัน
เพราะที่นอนอยู่เบื้องหน้านาง คือเด็กทารกสองคนกำลังโบกมือล้อเลียนสัตว์อสูรที่อยู่รายรอบ พวกเขาพากันหัวเราะกันคิกคัก
จิ้งจอกขาวทำหน้าที่เป็นที่นอนสำหรับทารกทั้งสอง เพื่อให้ร่างกายของทั้งคู่อบอุ่น
“เหตุใดหลิงเอ๋อกับเทียนเทียนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ? เฉินเอ๋อพบสถานที่นี้ได้อย่างไร ?” ไป๋หยานเอ่ยถามด้วยประหลาดใจ
จิ้งจอกฟ้าร้องครางออกมา
“เจ้าว่าเมื่อครู่เป็นสัตว์อสูรพวกนั้น พาเด็กทั้งสองมาซ่อนไว้ที่นี่งั้นหรือ ?” ไป๋หยานเข้าใจสิ่งที่จิ้งจอกฟ้าพูด พลางหันไปถาม
จิ้งจอกฟ้ารีบพยักหน้ารับ
ข้างนอกไม่ปลอดภัย อีกทั้งเหน็บหนาวเกินไป เช่นนั้นเมื่อไป๋เสี่ยวเฉินซ่อนเด็กทั้งสองไว้ในถ้ำ พวกสัตว์อสูรบนภูเขาเทียนซานก็ลากเด็กน้อยทั้งสองมาที่นี่
ครั้นเห็นว่าจิ้งจอกฟ้าไม่ได้หลอกลวงไป๋หยาน ท่าทีของตี้คังก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขายกมือขึ้นอุ้มเด็กชายน้อยในอ้อมแขนของไป๋หยาน
“หยานเอ๋อ เจ้าเหนื่อยมากแล้ว ให้ข้าดูแลเฉินเอ๋อแทนเถิด”
“ไม่” ไป๋หยานกอดเด็กน้อยในอ้อมแขนแน่น “ข้าอยากจะอุ้มเขาให้นานกว่านี้ อีกทั้งข้าก็จะเริ่มฝึกฝนแล้ว ข้าเกรงว่าจะไม่มีเวลาอยู่กับพวกเขามากนัก”
สถานที่แห่งนี้มีพลังลมปราณแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเทียนซานด้านนอก ยามนี้ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการฝึกฝนอย่างแท้จริง !
ครานี้นางจะไม่ออกจากที่นี่จนกว่าจะเข้าถึงเทพเจ้าขั้นสูง !
ครั้นตี้คังเห็นเช่นนั้น เขาก็ไม่ได้บังคับไป๋หยานอีก เขาหันไปมองเด็กสองคนที่กำลังเล่นกับสัตว์อสูรสองตัวที่อยู่เบื้องหน้า พลันความรู้สึกทุกข์ใจก็ปรากฏในดวงตาเรียวคมของเขา “หยานเอ๋อ ครานี้ลำบากเจ้าอีกแล้ว”
ทุกครั้งที่นางให้กำเนิดลูก ๆ เขาไม่เคยได้อยู่เคียงข้างนาง ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
ไป๋หยานส่ายศีรษะ “ตี้คัง ลูกสาวของเราเฉินเอ๋อตั้งชื่อให้ว่าตี้หลิงเอ๋อ ส่วนลูกชายของเราชื่อตี้จินเทียน” (เทียนเทียนเป็นชื่อเล่น)
ทันทีที่เด็กน้อยทั้งสองรู้ว่าไป๋หยานเรียกชื่อของตน พวกเขาก็กลิ้งตัวออกจากอ้อมแขนของจิ้งจอกขาว
จิ้งจอกขาวรีบใช้อุ้งเท้าคว้าตัวหลิงเอ๋อน้อย หากแต่กลับคว้าตัวเทียนเทียนไว้ไม่ทัน จากนั้นไม่นาน เทียนเทียนก็กลิ้งตัวลงจากอ้อมแขนของมันร่วงลงบนพื้นเสียงดังโครม ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกสีเงินตัวน้อยน่ารัก
จิ้งจอกเงินตัวน้อยสะบัดหัว พลางตะกายขึ้นจากพื้น คลานเข้าไปหาไป๋หยาน
เสียงของเขานุ่มนวล อ่อนหวาน และน่ารักมาก “หม่ามี้ หม่ามี้ … กอด ๆ … “
ด้วยเหตุที่ก่อนหน้านี้ไป๋เสี่ยวเฉินก็พูดกับไป๋หยานได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามหลังจากที่เขาถือกำเนิด เช่นนั้นไป๋หยานจึงไม่ตกใจเหมือนครั้งแรกที่นางให้กำเนิดไป๋เสี่ยวเฉิน
ไป๋หยานย่อตัวลง “เวลานี้ แม่กำลังกอดพี่ชายของเจ้า ยังไม่สามารถกอดเจ้าได้ เจ้าต้องรู้จักเกรงใจพี่ชายของเจ้า”
เกรงใจคืออะไร ?
นัยน์ตากลมโตของเทียนเทียนน้อยว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร ? เขารู้เพียงว่าแม่ของเขาไม่ต้องการกอดเขา
เช่นนั้น เขาจึงเบะปาก เขาเอียงหน้าเล็กน้อยหันไปมองตี้คัง
หัวใจของตี้คังอ่อนยวบทันที ที่สุดลูกชายก็เต็มใจที่จะยอมรับว่าเขามีตัวตนแล้ว เขาเอื้อมมือไปหวังจะอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา
ผู้ใดจะรู้ว่า เด็กน้อยกลับเบือนหน้าหนี ดวงตากลมโตของเขามองตรงไปที่ไป๋หยาน ขณะเดียวกันก็ยื่นอุ้งเท้าเล็ก ๆ ทั้งสองข้างออก
“หม่ามี้ กอด ๆ … ”
ใบหน้าของตี้คังเปลี่ยนเป็นสีเข้ม “หยานเอ๋อ เขาเป็นผู้ชายปล่อยให้เขาคลานเล่นเองไปเลย”
มุมปากของไป๋หยานกระตุก เรียกเด็กแรกเกิดว่า…ผู้ชายเนี่ยนะ ?
เขาดูเหมือน…ผู้ชาย…ที่ตรงไหน ?
ไป๋หยานอุ้มไป๋เสี่ยวเฉินไว้ในมือข้างหนึ่ง จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างอุ้มจิ้งจอกเงินตัวน้อยขึ้นมาจากพื้น พลางลูบหัวเล็ก ๆ ที่น่ารักของเจ้าจิ้งจอกน้อย
บทที่ 1285 : เลือดต้องล้างด้วยเลือด (5)
“หม่ามี้หิว จากินนม … ”
จิ้งจอกเงินตัวน้อยกระพริบนัยน์ตากลมโต พลางมองไป๋หยานอย่างน่าสงสาร
ไป๋หยานเงียบไปชั่วขณะ เด็กน้อยทั้งสองคงหิวมาก เช่นนั้นนางจึงส่งไป๋เสี่ยวเฉินในอ้อมแขนให้กับตี้คัง
“ตี้คัง ท่านช่วยข้าดูแลเฉินเอ๋อก่อน ข้าจะป้อนนมให้พวกเขา”
หลิงเอ๋อน้อยคลานจากด้านหน้ามายังด้านข้างของไป๋หยาน นางไม่ได้กลายร่าง แก้มเล็ก ๆ ของนางเป็นสีชมพู อ่อนนุ่มไม่เหี่ยวย่นเหมือนทารกแรกเกิดทั่วไป นางงดงามมาก กระทั่งทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้เพียงแรกเห็น
“หยานเอ๋อ…ช้าก่อน”
ครั้นเห็นว่าไป๋หยานกำลังจะปลดเสื้อผ้าของนาง ตี้คังก็กล่าวยับยั้ง
ไป๋หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตี้คังจ้องมองกลุ่มสัตว์อสูรด้วยแววตาที่วาววับดุดัน น้ำเสียงของเขาฟังดูเย็นชาเล็กน้อย ทว่ากลับเต็มไปด้วยความสง่าผ่าเผย “ยังไม่ออกไปให้พ้นหน้าข้าอีก !”
ด้วยพลังกดดันของตี้คังที่แพร่กระจายออกมา แววตาที่หยิ่งผยองของเขาราวกับครอบครองโลกทั้งใบ เช่นนั้นทันทีที่เขากล่าวจบลง เหล่าสัตว์อสูรก็ดูเหมือนจะตกใจกันมาก พวกมันต่างกรีดร้อง ก่อนจะวิ่งหนีเตลิดไป
“หยานเอ๋อ ครั้งที่เจ้าให้นมเฉินเอ๋อ คราครั้งนั้น เจ้าได้หลบเลี่ยงสายตาของสัตว์อสูรเหล่านี้หรือไม่ ?” ตี้คังหรี่ตา พลางเอ่ยถาม
ไป๋หยานตะคอก “ดูเหมือนว่าในสายตาของข้าแล้ว สัตว์อสูรเหล่านี้ก็ไม่ต่างจากแมว และสุนัข”
ครั้งแรกที่นางมาเยือนทวีปนี้ ในสายตาของนางสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่อาจแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ เช่นนั้นนางจึงแยกไม่ออกว่าสัตว์อสูรเหล่านี้ต่างจากแมวและสุนัขตรงไหน เช่นนี้แล้วนางยังจะต้องหลีกเลี่ยงแมวและสุนัขที่บ้านเวลาให้นมลูกกระนั้นหรือ ?
ตี้คังก้าวเข้าไปหาไป๋หยานอีกสองก้าว “เช่นนั้นในใจของหยานเอ๋อแล้ว ข้าเองก็ไม่ต่างกับแมวและสุนัขพวกนั้นกระนั้นหรือ ?
ไป๋หยานนิ่ง นางลืมไปได้อย่างไรว่า ผู้ที่อยู่ตรงหน้านางก็เป็นสัตว์อสูรเฉกเช่นเดียวกัน ?
การอ้างว่าสัตว์อสูรไม่ต่างจากแมวหรือสุนัข เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเห็นเขาเป็นแมวหรือสุนัขด้วยกระนั้นสิ ?
“เอ่อ… ” ไป๋หยานครุ่นคิดเพียงครู่ ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านไม่เหมือนกับแมวหรือสุนัข เพราะท่านดูดีกว่าพวกเขามาก”
ตี้คังเคยเกลียดการที่คนยกยอปอปั้นรูปโฉมเขามากที่สุด เพราะเขาเองไม่ได้อยากมีรูปโฉมเช่นนี้
เพียงทว่า… เมื่อถ้อยคำเหล่านี้หลุดออกจากปากของไป๋หยาน ความรู้สึกกลับแตกต่างไป เขารู้สึกมีความสุขมาก
“หยานเอ๋อ…มีสัตว์อสูรกลัดมันเป็นจำนวนมาก อย่าคิดว่าพวกมันเป็นเพียงแมวและสุนัข เจ้าพวกนั้นแทบจะกลืนกินเจ้าได้แล้ว เจ้าไม่เห็นสายตาของสัตว์อสูรพวกนั้นที่มองมายังเจ้ากระนั้นรึ ?”
ตี้คังหรี่ตาลง ปรากฏแสงเย็นวาบวับ เมื่อหวนนึกถึงแววตาของสัตว์อสูรเมื่อครู่ ยิ่งคิดถึงว่า ไป๋หยานไม่ได้หลบเลี่ยงสัตว์อสูรเหล่านั้น ยามที่นางให้นมไป๋เสี่ยวเฉิน หัวใจของเขาก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว
เขาอยากจะควักลูกตาของสัตว์อสูรเหล่านั้นออกมาเสียให้ได้ เพื่อที่พวกมันจะได้ไม่สามารถจ้องมองหยานเอ๋อได้อีกตลอดกาล !
“ข้าจะระวังให้มากขึ้น … ”
หากตี้คังไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ ไป๋หยานเองก็คิดไม่ถึงจริง ๆ หลังจากเห็นสัตว์อสูรล่าถอยไป นางก็ปลดกระดุมเสื้อออก จากนั้นก็ค่อย ๆ หย่อนกายลงนั่งบนพื้น
หลิงเอ๋อน้อย และเทียนเทียนน้อย หิวโหยมาก เช่นนั้นทั้งคู่จึงคว้าจับเต้านมของนาง และเริ่มต้นดูดกิน
ความอยากอาหารของเทียนเทียนน้อย มีมากกว่าหลิงเอ๋อน้อยมากนัก หลังจากที่หลิงเอ๋อน้อยดูดนมมากพอ นางก็นอนหลับปุ๋ยในอ้อมแขนของไป๋หยาน ขณะที่เทียนเทียนน้อยยังคงดูดต่อไม่หยุด
ไป๋หยานเริ่มหน้ามืดเล็กน้อย เพราะความตะกละตะกรามของเทียนเทียนน้อย
โชคดีที่หลังจากผ่านไปประมาณ 1 เค่อ (15 นาที) เทียนเทียนน้อยก็หยุดดูดนม เขาเรอออกมาอย่างพึงพอใจในที่สุด จากนั้นร่างของเขาก็กลับกลายเป็นเด็กทารกตัวอ้วนกลมอีกครั้ง
“จิ้งจอกฟ้า เจ้าออกมาได้แล้ว”
หลังจากที่หลิงเอ๋อและเทียนเทียนอิ่มด้วยกันทั้งคู่ ไป๋หยานก็ตะโกนเรียกไปยังหุบเขาที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
หลังจากนั้นไม่นานบรรดาสัตว์อสูรก็ออกมาปรากฏตัวต่อหน้าไป๋หยานอย่างระแวดระวัง