จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 851-855
บทที่ 851 : นางคือผู้ตัดสินลึกลับ (3)
ฉู่อีอี้เท้าสะโพกมองลงไปที่หลินย่าหานซึ่งล้มอยู่กับพื้นพลางบ่นว่า ก่อนนี้ไป๋หยานเคยบอกให้อาวุโสเจิ้งฉีสังคายนาครั้งหนึ่งแล้ว ข้าไม่คิดว่าจะยังมีหนอนเน่า ๆ แบบนี้หลงเหลืออยู่ พวกเรามีความยุติธรรมอย่างยิ่ง ทั้งไม่อนุญาตให้เล่นพรรคเล่นพวก !
“พี่สาวฉู่”ไป๋เสี่ยวเฉินก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวพร้อมกับรอยยิ้มสดใสในแววตา “หลินย่าหานคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านป้านิสัยเสีย และ … ท่านป้านิสัยเสียเคยทะเลาะกับเฉินเอ๋อตอนอยู่นอกประตูแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาก่อน เฉินเอ๋อสงสัยว่านางจะเป็นคนวางแผน”
เขาเชิดคางเล็กๆ ของเขาขึ้น พลางชี้ไปที่ฮั่วหยุน ใบหน้าเล็ก ๆ แก้มยุ้ยเป็นพวงอมชมพู หากแต่ท่าทีที่ปรากฏกลับทรงอำนาจ
ใบหน้าของฮั่วหยุนเปลี่ยนเป็นขาวซีดนางก้าวถอยหลังไปสองก้าว แววตาตื่นตระหนก นางรีบมองไปทางหลินย่าหานเพื่อขอความช่วยเหลือ นัยน์ตาของนางเต็มไปหยาดด้วยน้ำตา
“ไม่…ลูกพี่ลูกน้องของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลย”หลินย่าหานกล่าว “น้องหยุนเป็นผู้บริสุทธิ์ ทุกอย่างล้วนเป็นความคิดของข้า ข้าสมรู้ร่วมคิดกับสาวใช้ของนาง ! ข้าเพียงอยากจะแก้แค้นให้ลูกพี่ลูกน้องของข้า เลยไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง ข้าหวังว่าองค์หญิงน้อยจะให้โอกาสข้า ”
เขาคิดว่าการลงโทษเขาอย่างแรงที่สุดก็คือการขับไล่ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตาม หากเปิดเผยว่าลูกพี่ลูกน้องของเขามีส่วนร่วม แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้ทำอะไรนาง หากแต่หลังจากกลับไปถึงพรรคฮั่วหยัน บิดาของนางย่อมจะไม่ปล่อยนางไว้แน่ !
ละเมิดดินแดนศักดิ์สิทธิ์พรรคฮั่วหยันคงจะจบสิ้นแล้ว !
ฟุ่บ!
สาวใช้คุกเข่าพลางกระแทกศีรษะลงอย่างแรงจนเกิดรอยสีดำอมเขียวที่หน้าผากของนาง ทั้งเลือดก็ไหลจากหน้าผากถึงพื้น
”ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่นายน้อยตกลงกับข้า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณหนูข้าเลย โปรดละเว้นคุณหนูข้าเถิด นางไม่รู้เรื่องอะไรจริง ๆ … ”
สาวใช้น้ำตาเอ่อคลอใบหน้าซีดเผือด ทว่าก็ยังเลือกหนทางที่มีแต่ความตายเช่นนี้
หากนางรับความผิดนี้ไว้ทั้งหมดอย่างมากนางก็แค่ตาย แต่ถ้าคุณหนูถูกดึงมาลงโคลนด้วย น้องชายของนางในพรรคฮั่วหยันก็จะตายตามไปด้วย
เช่นนั้นนางต้องไม่ซัดทอดถึงคุณหนู
เมื่อเห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองรับผิดเองทั้งหมด ฮั่วหยุนก็ถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ นางกัดฟันก้าวไปข้างหน้าคุกเข่าให้กับไป๋หยาน ก่อนจะคำนับไป๋หยานทั้งน้ำตา
”แม่นางข้ารู้ตัวว่า เข้าใจท่านผิดไปอย่างมาก ครั้งนี้ข้าไม่ได้สั่งสอนสาวใช้ของข้าให้ดี ส่วนลูกพี่ลูกน้องของข้า เขารักข้ามากกระทั่งทำเรื่องเช่นนี้ หากแต่ฮั่วหยุนเองก็เป็นคนตรง ๆ ข้าจะไม่ยอมรับในสิ่งที่ข้ายังไม่ได้ทำ ข้าหวังว่าแม่นางไป๋ จะเลิกให้บุตรชายของท่านใส่ร้ายข้า …
ถ้อยคำของนางฟังดูจริงจังทั้งแววตาของนางก็เหมือนจะเว้าวอน ราวกับว่านางถูกใส่ร้ายจริง ๆ
ฉู่อีอี้หันหน้าไปมองไป๋หยานบอกตามตรง นางเชื่อไป๋เสี่ยวเฉิน มากกว่าหญิงผู้นี้
”เจ้าอยากจะอยู่เพื่อเข้าแข่งขันต่อกระนั้นรึ?” ริมฝีปากของไป๋หยาน กระตุกเล็กน้อย จากนั้นนางก็ยิ้มให้เด็กสาวที่คุกเข่าเบื้องหน้านาง “ใช่หรือไม่ ?”
ใบหน้าของฮั่วหยุนเปลี่ยนเป็นขาวซีดลูกพี่ลูกน้องของนางวางหมากไว้แล้ว หากนางได้อยู่ต่อผลลัพธ์ของการแข่งขันครั้งนี้ก็น่าที่จะพอคาดเดาได้
ทว่าตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นางไม่อาจวางใจได้
”ใช่”
“อืม”ไป๋หยานพยักหน้าน้อย ๆ “เช่นนั้นก็ถอดหยกที่คอของเจ้าออก แล้วข้าจะให้เจ้าร่วมแข่งขันต่อ”
ว่าไงนะ?
นัยน์ตาของฮั่วหยุนเบิกกว้างใบหน้าของนางขาวซีดราวกับหิมะแววตาของนางยิ่งตื่นตระหนก
นาง… นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ?
”แม่นางไป๋…นี่คือสิ่งที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ก่อนตาย”ฮั่วหยุนก้มศีรษะลง เพื่อปกปิดความตื่นตระหนกในแววตา นางกัดริมฝีปากพลางกล่าวต่อว่า “ท่านแม่เคยขอไว้ว่าไม่ให้ข้าถอดจี้หยกนี้ตลอดชีวิต มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นการไม่ให้เกียรตินาง แม่นางไป๋ยังต้องการบังคับข้าอีกกระนั้นหรือ ?”
***จบบทนางคือผู้ตัดสินลึกลับ (3)***
บทที่ 852 : นางคือผู้ตัดสินลึกลับ (4)
แม้ว่าศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะแอบเล่นพรรคเล่นพวกและโกงกันอยู่บ้าง ทว่าพวกเขาก็ลอบทำไม่เปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณะ และหากจับได้ก็จะถูกลงโทษกันเป็นการภายใน หากแต่ตอนนี้อยู่ท่ามกลางฝูงชนขนาดใหญ่ หญิงผู้นี้คงไม่กล้าบังคับให้นางถอดหยกออกหรอก เพราะมันจะทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสียไปด้วย ฮั่วหยุนคิด
เช่นนั้นนี่คือเหตุผลที่ฮั่วหยุนกล้าที่จะเพิกเฉย
ทว่าน่าเสียดายที่นางลืมไปว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้านางเป็นองค์หญิงน้อยของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คนอื่นอาจจะกลัวเสียหน้า หากแต่ไม่ใช่องค์หญิงน้อย
เช่นนั้นหลังจากฮั่วหยุนกล่าวจบฉู่อีอี้ก็เดินไปข้างหน้า นางยกมือขึ้นดึงจี้หยกบนคอของฮั่วหยุนโยนลงบนพื้น
”ไป๋หยานให้เจ้าถอดจี้หยกเจ้าก็ถอดสิ พูดจาไร้สาระอะไรอยู่ได้ ?”
นางจ้องเขม็งไปที่ฮั่วหยุนเอ่ยกล่าวอย่างโกรธเคือง
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับพฤติกรรมของฉู่อีอี้ทุกสายตามองไปที่ฮั่วหยุนอย่างเห็นอกเห็นใจ
เนื่องจากฐานะของฉู่อีอี้ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะต่อต้าน
ทว่า…
ฮั่วหยุนก็บอกไปแล้วว่าจี้หยกนี้เป็นของต่างหน้ามารดาของนาง เพื่อระลึกถึงมารดาของนาง อย่างไรก็ตามองค์หญิงน้อยแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ช่างโหดร้ายเสียเหลือเกินที่กระชากจี้หยกของนางตรง ๆ เช่นนี้
ครั้นเห็นใบหน้าของฮั่วหยุนที่เปลี่ยนเป็นซีดขาวสีหน้าทุกคนก็เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ในความเป็นจริงที่ฮั่วหยุนหน้าซีดไม่ใช่เป็นเพราะความโศกเศร้าหากแต่เป็นเพราะความหวาดกลัว นางมองจี้หยกซึ่งถูกเขวี้ยงลงบนพื้นด้วยสายตาว่างเปล่า มีความตื่นตระหนกในแววตาของนาง
จบแล้วเวลานี้ นางจบสิ้นแล้ว …
“ข้าได้ยินมาว่าฮั่วหยุน คุณหนูของพรรคฮั่วหยันได้มาถึงระดับหวังเจี่ยแล้ว นอกเหนือจากคนของสำนักใหญ่ นางถือเป็นคนมีความสามารถมากที่สุดในโลกนี้ เหตุใดตอนนี้ความแข็งแกร่งของนางจึงลดลงเหลือเพียงระดับกลางของตี้เจี่ยได้ล่ะ ? ”
แท้จริงความสามารถของระดับตี้เจี่ยนั้นไม่สูงนักทว่าก็ไม่ถึงกับต่ำต้อยในเวลานั้นหนานกงอี้ องค์ชายของอาณาจักรหลิวฮั่วก็ทะลุผ่านมาถึงระดับนี้เช่นกัน ทั้งเขาก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะของอาณาจักรหลิวฮั่วคนหนึ่งเลย
ทว่า…
นั่นก็เป็นเพราะหนานกงอี้เป็นองค์ชายแห่งอาณาจักรหลิวฮั่ว เป็นบุตรชายของฮ่องเต้ การฝึกฝนย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบกับพรรคระดับสองได้ เช่นนั้น ความสามารถของฮั่วหยุนจึงไม่ถือว่าเป็นอัจฉริยะอีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้นพรรคฮั่วหยันยังพยายามอย่างหนักในการส่งเสริมความสามารถของฮั่วหยุน เพื่อให้นางได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ
แน่นอนว่าหากนางสามารถบุกเข้าสู่ระดับหวังเจี่ยตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนั้นจริง ก็ย่อมถือเป็นอัจฉริยะ …
ทว่าตอนนี้นางเป็นแค่อัจฉริยะจอมปลอม !
”อีอี้”ไป๋หยานเอ่ยเบา ๆ “เท่าที่ข้ารู้ ผู้ที่เข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีความแข็งแกร่งและตำแหน่งอย่างน้อยที่สุด คือ ตี้เจี่ย ! นี่นางยังไม่ถึงระดับนั้นแล้วจะเข้าแข่งขันได้อย่างไร ?”
แม้ว่าเจิ้งฉีจะส่งบัตรเชิญไปยังสำนักหลักๆ ทุกแห่ง หากแต่ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผู้ใดมาก็ได้ เพราะหากต้องการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะต้องผ่านระดับตี้เจี่ยเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์ได้รับเชิญเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
คนที่ระดับไม่ถึงตี้เจี่ยซึ่งเป็นระดับขั้นต่ำที่จะเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเข้าแข่งขันได้อย่างไร? นี่เป็นปัญหาที่ทุกคนต้องพิจารณาเอง
”ชิงหงเกิดอะไรขึ้นหรือ ?”
ครั้นเห็นว่าไป๋หยานตั้งคำถามนางฉู่อีอี้ก็โยนคำถามนี้ไปให้อาวุโสทั้งสองคนที่ตามมา ดวงตาของนางเบิกกว้าง มือของนางเท้าสะเอว น้ำเสียงของนางดุดัน
ชิงหงปาดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผาก “ผู้ที่ทำหน้าที่ส่งเทียบเชิญไปตามสำนักต่าง ๆ เพื่อคัดกรองก่อนหน้านี้ก็คือผู้อาวุโสหลินหยู”
“หลินหยูคือใคร? เขาเป็นใคร ?” ฉู่อีอี้เอ่ยถามด้วยความโกรธ
”เอ่อ…” ชิงหงกวาดตาไปมองหลินย่าหานผู้ซึ่งยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้น “เขาคืออาจารย์ของหลินย่าหาน”
ฝูงชนตกอยู่ในความโกลาหลสายตาที่รวมกันอยู่ที่ฮั่วหยุนหันไปมองหลินย่าหานแทน
หลินย่าหานตัวสั่นเทาเขาเข้าใจแล้วว่า คราวนี้ทั้งเขาทั้งอาจารย์ต่างก็หนีไม่พ้น !
***จบบทนางคือผู้ตัดสินลึกลับ (4)***
บทที่ 853 : นางคือผู้ตัดสินลึกลับ (5)
”ให้เขามาพบข้า!” ฉู่อีอี้ขมวดคิ้ว การแสดงออกของนางเห็นได้ชัดว่าไม่พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคนที่อยู่ข้าง ๆ นางกำลังจะผละจากไป นางก็รีบกล่าวขึ้นว่า “ช้าก่อน ไม่ต้องให้เขามาพบข้า ! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขา เจ้าส่งเขาไปหาอาวุโสเจิ้งฉี ให้จัดการกับเขาแทน”
”ขอรับองค์หญิงน้อย”
ผู้คุ้มกันรับคำสั่งก่อนจะถอยจากไปคำกล่าวของนางย่อมยืนยันถึงชะตากรรมเลวร้ายของอาจารย์หลินย่าหานแน่แท้ …
”เจ้า”ฉู่อีอี้ชี้ไปที่ผู้คุ้มกันอีกคนข้างกายนาง พลางเชิดหน้าขึ้น “เจ้าลากหลิวฮันและหลินย่าหานไปรอรับการลงโทษ ! พวกเจ้ากล้าหาญนัก กล้าใส่ร้ายไป๋หยาน ยังคิดว่าจะรอดอีกงั้นรึ ?
หลินย่าหานตัวอ่อนกระทั่งทรุดตัวลงกับพื้นเขาหลับตาชั่วครู่ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองใบหน้าซีด ๆ ของฮั่วหยุน พลางยิ้มอย่างท้อแท้
เขาเกรงว่าถึงเวลานี้แล้ว เขาคงจะช่วยลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่ได้อีกแล้ว
”องค์หญิงน้อยแม่นางไป๋หยาน”
หลิวฮันก้าวไปข้างหน้าด้วยอาการตื่นตระหนกก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าพวกนางพลางโขกศีรษะอย่างแรงอีกครั้ง
ราวกับเขาไม่กลัวว่าหัวจะแตก
”ข้ารู้ว่าข้ากระทำผิด ข้าสำนึกแล้วจริง ๆ โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าจะไม่ทำผิดเช่นนี้อีกแล้ว”
”ให้อภัยงั้นหรือ?” ไป๋หยานมองชายหนุ่มผู้ซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยท่าทางเย้ยเยาะ เอ่ยกล่าวด้วยสีหน้าว่างเปล่า “หากข้าไม่ใช่ผู้ตัดสินในการแข่งขันครั้งนี้ แผนการของเจ้าก็จะประสบความสำเร็จใช่หรือไม่ ?”
หลิวฮันตกตะลึงแน่นอนว่าหากไป๋หยานไม่ใช่ผู้ตัดสิน แต่เป็นเพียงผู้สมัครธรรมดา ๆ บางทีนางคงถูกเขาขับไล่ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว และนางก็จะไม่เหลือโอกาสใด ๆ เลย …
”เช่นนั้นถ้าหากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นจะเกิดอะไรขึ้น ? เจ้าคงไม่บอกว่าเจ้าสำนึกผิดใช่หรือไม่ ?” เท้าของไป๋หยานเหยียบลงบนหัวของหลิวฮันอย่างแรง กระทั่งหัวของเขาติดแนบพื้น เสียงของนางเย็นเยือกบาดลึก “และแน่นอนว่าเพราะการกระทำผิดของพวกเจ้า เราต้องสูญเสียศิษย์ดี ๆ ไปกี่คนแล้ว พวกเขาไม่อาจเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้เพราะเราจับไม่ได้ แล้วเจ้าจะชดใช้ให้คนเหล่านั้นอย่างไร ?”
ไม่ว่าจะเป็นตำหนักเซียนพยัพหมอกสำนักเวชโอสถ หรือแม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสามแห่งนี้นับเป็นบ้านของนาง
นางไม่อนุญาตให้ผู้ใดมากลั่นแกล้งผู้อื่นในที่ของนางไหนเลยนางจะยอมให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องพลาดอัจฉริยะเหล่านั้น เพราะการกระทำของคนพวกนี้
วันนี้นางกำลังจะเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อฟื้นฟูความสงบของดินแดนศักดิ์สิทธิ์นับจากนี้ไป !
บูม!
ไป๋หยานเตะหัวของหลิวฮันเพียงไม่ช้าร่างของหลิวฮันก็ลอยละลิ่วไปกระแทกเข้ากับเสาศิลา เขากระอักเลือดออกมาคำโต ใบหน้าของเขาซีด ราวกับไร้ชีวิต
ม่านตาของเขาขยายออกด้วยอาการตื่นตระหนกเขามองสตรีชุดแดงที่จู่โจมเขาซึ่ง ๆ หน้า ทว่าเขากลับไม่อาจปกป้องตนเองได้
พุฟ!
นิ้วมือของไป๋หยานจิกแขนของหลิวฮันพลางบีบอย่างแรง ฝูงชนได้ยินเพียงเสียงดังเปร๊าะกระดูกเขาหักเลือดสีแดงสดพุ่งออกมาอีกครั้งในทันที เสียงกรีดร้องดังก้องฟ้าน่าขนพองสยองเกล้า
”ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของข้านั้นบริสุทธิ์ยุติธรรมเสมอทั้งจะไม่ยอมให้เกิดการเล่นพรรคเล่นพวกใด ๆ ขึ้นที่นี่ !” สายตาของไป๋หยานกวาดมองทุกผู้คนที่อยู่ร่วมกันที่นั่น เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “หากข้ารู้ว่ามีผู้ใดกล้าทำเช่นนี้อีก พวกเจ้าก็จะพบจุดจบเช่นเดียวกับเขา”
ไป๋หยานขยับตัวปล่อยพลังแสงพุ่งออกไปจากฝ่ามือของนางราวกับดาบคมลำแสงนั้นพุ่งไปยังจุดตันเถียนของหลิวฮัน ธาตุไฟของเขาแตกซ่าน ร่างของเขาทรุดร่วงลงกับพื้นทันที
ก่อนหน้านี้แม้ว่าอาจารย์ทั้งสามจะได้สังคายนาดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี่ไปแล้ว ทว่าน่าเสียดายที่ยังไม่เพียงพอที่จะกำราบเหล่าผู้ฝ่าฝืนกฎ เช่นนั้นบางคนก็ยังกล้าที่จะเสี่ยง ! เพื่อความมั่งคั่งและสมบัติพัสถาน พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะรับสินบนเล่นพรรคเล่นพวกอีก
***จบบทนางคือผู้ตัดสินลึกลับ (5)***
บทที่ 854 : นางคือผู้ตัดสินลึกลับ (5)
เช่นนั้นไป๋หยานจึงตั้งใจจัดการกับหลิวฮันต่อหน้าสายตาประชาชน เพื่อกำราบคนของนาง ว่าในครั้งต่อไปหากผู้ใดกล้ากระทำผิดอีก การลงโทษจะไม่ง่าย ๆ เพียงการขับไล่จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ !
ทุกผู้คนต่างหวาดกลัวมากเพราะไม่คิดว่าไป๋หยานจะลงมือหนักถึงเพียงนี้
”แม่… แม่นางไป๋” หนึ่งในฝูงชนยกมือขึ้นพลางเอ่ยเบา ๆ “จะเกิดอะไรขึ้นหากมีใครบางคนหาผลประโยชน์ใส่ตัวทว่าไม่มีผู้ใดรู้ล่วง ?”
“ดีมาก!” ไป๋หยานยกยิ้มเล็กน้อย “คำถามนี้เป็นคำถามที่ดี เวลานี้ข้าเป็นผู้ตัดสินการแข่งขัน ดังนั้นข้าจะไม่ปล่อยให้มีการเล่นพรรคเล่นพวกใด ๆ ทว่าในครั้งต่อไป เมื่อข้าไม่ได้เป็นผู้ตัดสินแล้ว หากเจ้าพบว่ามีสิ่งใดไม่ยุติธรรมในการแข่งขัน เจ้าสามารถแจ้งผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ! หากผู้ใดกล้ากระทำเช่นนั้น และถูกพบในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ บทลงโทษก็จะไม่ต่างกับหลิวฮัน !”
แน่นอนว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นจะต้องถูกพิสูจน์เสียก่อน ว่าผู้ที่โดนกล่าวหานั้นได้กระทำการทุจริตจริงหรือไม่ ? โดยดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะส่งคนไปสืบสวนให้แน่ชัด หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ผู้ที่ได้รับสินบนจะถูกลงโทษและถูกทำลายความแข็งแกร่ง ก่อนจะถูกขับไล่ออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ในกรณีที่รุนแรงกว่านั้นพวกเขาจะถูกคร่าชีวิต !
ศิษย์ทั้งหมดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตัวสั่นเทาพวกเขาต่างก็จดจำคำพูดของไป๋หยานไว้ในใจ หากวันหน้าพวกเขาได้รับมอบหมายงาน พวกเขาจะต้องจัดการด้วยความซื่อสัตย์ หาไม่พวกเขาก็จะโดนเหมือนหลิวฮัว
”ชิงหง”ไป๋หยานหันไปมองชิงหง น้ำเสียงของนางดุดัน “เจ้าควรตรวจสอบคนของเจ้าให้ละเอียด ครั้งนี้ข้าจะให้อภัยเจ้า ทว่าต่อไปข้าจะลงโทษเจ้าด้วยเช่นกัน”
อย่างไรเสียหลิวฮันก็อยู่ในสังกัดของชิงหง และงานของเขาก็ได้รับมอบหมายจากชิงหง ท้ายที่สุดก็เป็นเพราะชิงหงมองคนไม่ทะลุ
“ขอรับแม่นางไป๋” ชิงหงป้องกำปั้นของเขาอย่างเคารพ ทว่าเหงื่อเย็น ๆ ไหลซึมออกมาจากแผ่นหลังของเขา “เรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
”อืม”ไป๋หยานเอ่ยตอบเบา ๆ พลางกวาดตาไปมองฮั่วหยุนกับสาวใช้ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “คุณหนูใหญ่พรรคฮั่วหยันกับสาวใช้ล่ะ ?”
ร่างของฮั่วหยุนอ่อนยวบกระทั่งเกือบจะล้มลงกับพื้น นางใช้มือเกาะสาวใช้ข้าง ๆ เพื่อที่จะพยุงร่างไว้
”จากนี้ไป…ข้าไม่ต้องการเห็นคนของพรรคฮั่วหยันที่นี่อีก และทุกงานของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คนพรรคฮั่วหยันไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม !”
ถ้อยคำของไป๋หยานชี้ชะตากรรมน่าเศร้าของพรรคฮั่วหยันแล้ว
ครั้งนี้มีสำนักต่างๆ มากมายมาเข้าร่วมการแข่งขัน หลังจากคนเหล่านี้กลับไป พวกเขาย่อมจะกระจายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างแน่นอน และเพื่อไม่ให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์รังเกียจพวกเขา สำนักต่าง ๆ ย่อมจะอยู่ห่างจากพรรคฮั่วหยันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮั่วหยุน ก็ยิ่งตื่นตระหนก นางคุกเข่าลงต่อหน้าไป๋หยานอีกครั้งพร้อมด้วยน้ำตา “แม่นางไป๋ แม้ว่าข้าจะใช้วิธีการบางอย่างเพื่อเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ทว่าข้าก็ไม่ได้ทำผิดอะไรมากมาย ท่านโปรดยกโทษให้ข้าหน่อยจะได้หรือไม่ ?”
หากนางให้บิดาของนางรู้เรื่องนี้ชีวิตของนางที่เหลือเมื่อกลับไปถึงพรรคฮั่วหยันก็สรุปได้ว่า น่าสังเวช
“เรื่องการใส่ร้ายข้าเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ กระนั้นหรือ ?” ไป๋หยานเห็นผู้คนโดยรอบ แสดงท่าทีเห็นอกเห็นใจฮั่วหยุน นางก็ยิ้มน้อย ๆ “สาวใช้ของเจ้าพยายามปกป้องเจ้า เพราะครอบครัวของนางอาศัยอยู่ในพรรคฮั่วหยัน ด้วยอำนาจของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่ยากที่จะค้นหาครอบครัวของนาง … ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในพรรคฮั่วหยันหรือไม่ พวกเขาก็สามารถออกจากพรรคนั่นเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้”
***จบบทนางคือผู้ตัดสินลึกลับ (5)***
บทที่ 855 : รับท่านน้าข้าไปเถอะ (1)
สาวใช้คนนั้นตัวสั่นสีหน้าของนางตื่นตกใจ นางคุกเข่าลงด้วยความตื่นตระหนก “แม่นางไป๋ ได้โปรดไว้ชีวิตข้า ข้าจะบอกความจริงท่านทุกอย่าง คุณหนูสั่งให้ข้าใส่ร้ายแม่นางไป๋ เนื่องจากน้องชายของข้ายังอยู่ในพรรคฮั่วหยัน ข้าจึงไม่มีทางเลือก ข้าจำต้องยอมรับผิดเองทุกอย่าง เพื่อให้คุณหนูปล่อยน้องชายของข้า ”
”เจ้า…หุบปากนะ!”
ฮั่วหยุนโกรธจนตัวสั่นนางรีบเดินเข้าไปหาสาวใช้ จากนั้นก็ตบใบหน้าขาว ๆ ของสาวใช้ “หากเจ้ากล้าพูดออกมาอีกคำเดียว เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้เลย ?”
สาวใช้เนื้อตัวสั่นเทานางก้มศีรษะลง ยิ่งเผชิญกับสายตาที่จ้องมองมาของฮั่วหยุนด้วยแล้ว ความตื่นตระหนกในใจของนางก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่าครานี้นางต้องไม่ยอมแพ้ อำนาจของดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นทรงพลังมาก หากนางไม่กล่าวความจริง ก็อาจจะลากน้องชายของนางลงนรกไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ …
เช่นนั้นนางจำต้องหักหลังคุณหนู!
ครั้นนึกได้เช่นนี้นางจึงเงยหน้าขึ้น เอ่ยกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ข้าไม่ได้โกหก เพราะคุณหนูพยายามแสร้งว่าตนเองมีพรสวรรค์แข็งแกร่ง เช่นนั้นศิษย์ของพรรคฮั่วหยุนที่มีพรสวรรค์มากกว่าคุณหนู จึงถูกคุณหนูลอบสังหารอย่างลับ ๆ เสียทั้งหมด เช่นนั้นท่านหัวหน้าพรรคจึงต้องส่งคุณหนูเข้าแข่งขันอย่างเลี่ยงไม่ได้ !”
ศิษย์ของสำนักต่างๆ ทั้งหมดต่างก็ตะลึงไปกับถ้อยคำของสาวใช้ พวกเขาหันไปทางฮั่วหยุนด้วยความประหลาดใจ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
หลังจากเปิดเผยความแข็งแกร่งของฮั่วหยุนแล้วพวกเขาต่างก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหัวหน้าพรรคฮั่วหยันซึ่งรู้ว่านางเป็นอัจฉริยะปลอม ๆ ถึงต้องส่งนางเข้าร่วมการแข่งขัน ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่า…นั่นเป็นเพราะอัจฉริยะแท้จริงของพรรคฮั่วหยันเสียชีวิตไปหมดแล้วใช่หรือไม่ ?
เช่นนี้อีกไม่นานพรรคฮั่วหยุนคงจะไม่อาจเกรียงไกรได้อีกต่อไปแล้วล่ะสิ?
”หากเจ้ากล้าพล่ามเรื่องไร้สาระอีกระวังข้าจะฉีกปากของเจ้า !”
ฮั่วหยุนที่ถูกเปิดโปงครั้งแล้วครั้งเล่ายกมือขึ้นหมายจะฉีกหน้าของสาวใช้ ทว่าก่อนที่นางจะทันได้แตะต้องสาวใช้
จู่ๆ น้ำเสียงที่เย้ยหยันของฉู่อีอี้ก็ดังขึ้น “เจ้าจะโกรธอะไรขนาดนั้น ? หรือว่าเรื่องที่สาวใช้กล่าวมาเป็นความจริง ? เจ้าเลยไม่อาจทนรับฟังจนจบได้ ?
ครั้นกล่าวจบฉู่อีอี้ก็หันไปทางหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่กับพื้นพลางเอ่ยอย่างเย็นชา “เจ้าพูดทุกสิ่งที่ไป๋หยานต้องการรู้ ส่วนน้องชายของเจ้า เจ้ามั่นใจได้เลย องค์หญิงคนนี้จะส่งคนไปที่พรรคฮั่วหยันเพื่อรับเขามาเอง !”
ครั้นได้ยินถ้อยคำดังกล่าวใบหน้าของหญิงสาวก็เต็มไปด้วยความสุขใจ หัวใจของนางที่เคยตกไปอยู่ที่ตาตุ่มก็กลับขึ้นมาอยู่บนอกเหมือนเดิมแล้ว
คนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีพลังอำนาจมากยิ่งไปกว่านั้น ฉู่อีอี้ก็เป็นถึงองค์หญิงน้อยของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่นางกล่าว นางต้องทำได้อย่างแน่นอน
ขอเพียงน้องชายปลอดภัยต่อให้ต้องตายด้วยน้ำมือของฮั่วหยุน นางก็ยินดีตายโดยไม่นึกเสียใจเลย !
”เจ้าค่ะองค์หญิงน้อย” หญิงสาวถอนหายใจอย่างช้า ๆ ด้วยความโล่งอก เอ่ยกล่าวต่อว่า “คุณหนูต้องการใส่ร้ายแม่นางไป๋ เพียงเพราะแม่นางไป๋ขวางทางนางที่หน้าประตูทางเข้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และคุณชายไป๋น้อยกล่าวดูหมิ่นนาง นางจึงไม่พอใจ เช่นนั้นนางกับหลินย่าหานจึงร่วมมือกันสร้างเรื่องทำให้แม่นางไป๋เสื่อมเสีย !
”คุณหนูทำเรื่องเช่นนี้มามากมายตั้งแต่นางยังเด็ก ทว่านางเป็นบุตรสาวคนเดียวของหัวหน้าพรรค เขาจึงช่วยปกปิดความผิดให้นางเสมอ … และ … ” หญิงสาวมองดูฮั่วหยุน “คุณหนูเองก็เคยมีน้องชาย แต่เพียงเพราะน้องชายของนางมีพรสวรรค์มาตั้งแต่อายุยังน้อย นางจึงรู้สึกอิจฉาและสังหารนายน้อยเสีย”
***จบบทรับท่านน้าข้าไปเถอะ (1)***