จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ - บทที่ 921-925
บทที่ 921 : คำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (8)
ตี้คังยิ้มน้อยๆ พลางลูบศีรษะไป๋หยาน “ข้าเคยรับปากแล้วไงว่า ข้าจะไม่ปิดบังอะไรเจ้าอีก ข้าต้องทำตามที่พูดอย่างแน่นอน ทว่าข้าก็ยังไม่เข้าใจอีกหลายอย่าง หลังจากที่ข้ากระจ่างแล้ว ข้าจะบอกเจ้าอีกที ตกลงหรือไม่ ?”
”อืม”
ไป๋หยานยิ้มหวาน
หลังจากนางจบคำตี้คังก็กดท้ายทอยของนางพลางจูบริมฝีปากสีแดงของนางอย่างดูดดื่ม …
*****
วันเกิดของจุนเทียนเยว่สิ้นสุดลงแล้วแขกทุกคนต่างก็เดินทางกลับ
เช้าตรู่…หลิวชิงหยูและลุงจุนยืนรออยู่นอกประตู พวกเขาต่างก็หน้าแดง เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากในบ้าน
แม้แต่คนมากประสบการณ์อย่างลุงจุนก็ยังรู้สึกอายนับประสาอะไรกับหลิวชิงหยูเด็กสาวที่ยังไม่เคยออกมาพบโลกภายนอก ?
ทว่า…เพื่อที่จะทักทายไป๋หยานยามเช้า พวกเขาก็อดทนรออยู่หน้าประตู
กระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นประตูห้องก็เปิดออก หลิวชิงหยูรีบเงยหน้าขึ้นทันทีนางเห็นบุรุษในอาภรณ์สีม่วงโอบกอดไป๋หยานพาก้าวข้ามธรณีประตูออกมา
เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนไป๋หยานได้รับการเติมเต็มจนอิ่มเอิบ ผิวของนางมีสีแดงอมชมพูแลดูมีเลือดฝาด ภายใต้อาภรณ์สีแดง นางยิ่งงดงามอ่อนหวาน งามยิ่งกว่าดอกท้อบาน
”มีอะไรกระนั้นรึ?”
ไป๋หยานเหลือบมองคนทั้งสองที่ยืนรออยู่พลางเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา
หลิวชิงหยูยิ้มอย่างเคอะเขิน”ข้ามาที่นี่ เพื่อคารวะนายหญิง”
”เจ้าไม่จำเป็นต้องมาคารวะข้าแต่เจ้าจงบอกให้ชายชราข้าง ๆ เจ้ากินยาเม็ดนี้ซะ” ไป๋หยานยื่นยาเม็ดให้หลิวชิงหยูโดยสีหน้าไร้ซึ่งการแสดงออกใด ๆ
หลิวชิงหยูเคยบอกกับลุงจุนแล้วว่าไป๋หยานให้ยาพิษแก่นาง ริมฝีปากลุงจุนเพียงแค่กระตุก ทว่าเขาก็ยอมรับมันแต่โดยดี
จุนห่าวรับยาไปกินไม่ต่างจากภาษิตนักรบตัดข้อมือ (ทำอะไรไม่ลังเล ตัดสินใจฉับไว) จากนั้นเขาก็มองไป๋หยานพร้อมรอยยิ้มประจบประแจง
”นายหญิงเรียกข้าว่าจุนห่าวก็ได้ขอรับ”
“เอาล่ะพวกเจ้าไปขอขมาทุกคนได้แล้ว เสร็จแล้วก็กลับอาณาจักรวิญญาณได้”
“กลับอาณาจักรวิญญาณกระนั้นรึ?” หลิวชิงหยูตกใจใบหน้าซีดเซียว “นายหญิง ก่อนที่ท่านพ่อของข้าจะมาที่นี่ เขาจะต้องส่งคนมาสืบข่าวก่อนอย่างแน่นอน หากเขาพบว่าข้าเคยอยู่ที่นี่ เขาย่อมไม่ปล่อยข้าไว้เป็นแน่ ได้โปรด อย่าขับไล่ข้าจะได้หรือไม่ ?”
หากนางสามารถบรรลุเป็นเทพเจ้าบางทีบิดาของนางอาจยอมปล่อยนาง เพื่อใช้ประโยชน์จากนาง ทว่าตอนนี้ นางไม่ได้สิ่งใดกลับไปเลย นางต้องกลับไปมือเปล่าเช่นนี้ หากเขารู้นางไม่รอดอย่างแน่นอน
”ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถเอาตัวรอดได้ แต่หากเจ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ ข้าจะให้เจ้าอยู่เคียงข้างข้าเพื่ออะไรล่ะ ? เสียเวลาจริงหรือไม่ ?”
ไป๋หยานเอ่ยถามพร้อมกับหัวเราะเยาะ
ใบหน้าของหลิวชิงหยูซีดลง”นายหญิง ข้ามีประโยชน์มากนะ ข้าแข็งแกร่งมาก ทั้งยังสามารถต่อสู้แทนท่านได้ นอกจากนี้ข้าก็มีคนที่แข็งแกร่งอย่างลุงจุนที่จะสามารถปกป้องท่านได้”
”โอ้!” น้ำเสียงของไป๋หยานสงบ “เรื่องปกป้องข้า สามีของข้าคนเดียวก็พอแล้ว เพิ่มเจ้าอีกสองคนดูเหมือนจะมากเกินไป”
ตี้คังขมวดคิ้วเล็กน้อยเขามองคนทั้งสองด้วยสายตาหงุดหงิด “พวกเจ้าไม่พอใจกับการตัดสินใจของภรรยาข้ากระนั้นหรือ ?”
ในตอนนี้ทั้งหลิวชิงหยู ทั้งจุนห่าว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเทาราวกับคนตายภารกิจที่ไป๋หยานมอบให้พวกเขานั้น เป็นเรื่องยากเกินไปจริงๆ …
ที่สุดหลิวชิงหยูก็กัดฟัน คุกเข่าลง “ชิงหยูรับคำสั่งนายหญิง”
”ตามนั้น”สีหน้าของไป๋หยานผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางหยิบยาสองขวดออกมาจากแขนเสื้อ “นี่เป็นยาแก้พิษสำหรับเจ้าตลอดเวลาหนึ่งปี หลังจากผ่านไปหนึ่งปี เจ้าค่อยกลับมาหาข้าอีกครั้ง แต่หากเจ้าเคลือบแคลงในพิษนี้ เจ้าก็ลองพิสูจน์ดูได้”
***จบบทคำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (8)***
บทที่ 922 : คำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (9)
จุนห่าวรีบยิ้มประจบประแจงพร้อมกล่าวว่า”เชื่อใจพวกเราเถอะ เราย่อมเชื่อฟังนายหญิงเสมอ ที่นายหญิงให้เรากลับไปยังอาณาจักรวิญญาณ … คงจะมีภารกิจให้เราทำใช่หรือไม่ ?”
”มีภารกิจให้เจ้าทำแน่ทว่ายังไม่ใช่ตอนนี้ แต่หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นในอาณาจักรวิญญาณ เจ้าจะต้องรีบรายงานข้าทันที !”
”รายงานหรือ?” จุนห่าวตกตะลึง “พวกเราจะรายงานท่านได้ยังไง ?”
”อาณาจักรวิญญาณอยู่ติดกับอาณาจักรอสูรหากเกิดอะไรขึ้นเจ้าก็ไปที่อาณาจักรอสูรตามหาสัตว์อสูรสักตัว แล้วสั่งความให้มันมาแจ้งแก่ข้า หากข้าพบว่าเจ้าไม่รายงานเหตุการณ์ใดให้ข้าทราบ เจ้าจะไม่ได้รับยาถอนพิษอีกต่อไป”
ครั้นนึกถึงฤทธิ์ของยาพิษไส้เน่าจุนห่าวก็ตัวสั่น เขารีบให้สัญญาทันที
”นายหญิงไม่ต้องกังวลเราจะรายงานให้ท่านทราบทุกสิ่ง ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นข้าจะจงรักภักดีต่อท่านอย่างแน่นอน”
”ประจบพอหรือยัง?” ไป๋หยานเหลือบมองจุนห่าวอย่างไม่แยแส “หากพอแล้ว ก็รีบออกไปหาคนที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัว เจ้าต้องแสดงความจริงใจอย่างเต็มที่เพื่อขมาพวกเขา หากพวกเขาปฏิเสธที่จะให้อภัยเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายตัวเอง หรือใช้สมบัติเพื่อซื้อใจพวกเขา เจ้าก็ต้องทำให้เขาอภัยให้เจ้าให้ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเจ้าเอง”
หลิวชิงหยูและจุนห่าวหันมองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มเหยเก
พวกเขารู้สึกว่าหนทางยังอีกยาวไกลทั้งถนนสายนี้ก็ยากลำบากมาก …
”ตี้คังไปพบท่านอาจารย์ และท่านตากัน พวกเขาอาจจะยังไม่ออกเดินทาง” ไป๋หยานยืดตัวอย่างเกียจคร้านพลางกล่าว
”หม่ามี้”
ชั่วขณะนี้เด็กชายตัวน้อยก็พุ่งมาจากด้านหน้าเข้าสู่อ้อมแขนของไป๋หยาน ทำเอานางเซถอยหลังไปสองสามก้าว
ไป๋เสี่ยวเฉินดึงแขนเสื้อของไป๋หยานอย่างน่าสงสารนัยน์ตากลมโตของเขามีน้ำตาเอ่อคลอ “หม่ามี้..เมื่อคืนนี้ป๊ะป๋ารังแกหม่ามี้หรือเปล่า ? เฉินเอ๋อได้ยินหม่ามี้กรีดร้องโหยหวน แต่ทั้งท่านปู่ท่านย่า และท่านตาท่านยายต่างก็ไม่ยอมให้เฉินเอ๋อเข้าไปช่วยหม่ามี้ … ”
กรีดร้องโหยหวน?
ใบหน้าของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นดำคล้ำนางทำคอแข็งขณะหันไปมองตี้คัง “เมื่อคืนนี้ ข้าร้องโหยหวน … หรือ ?”
ตี้คังพยักหน้า
ใบหน้าของไป๋หยานหดลงเหลือไม่ถึงสองนิ้วเช่นนั้นทั้งตำหนักเซียนพยับหมอกก็คงได้ยินกันหมดล่ะสิ …
นี่… นางจะเอาหน้าที่ไหนพบท่านตา และคนอื่น ๆ ?
”ช่างเถอะข้ากลับไปนอนต่อดีกว่า”
ไป๋หยานหันหลังกลับนางต้องการที่จะเดินกลับเข้าห้อง
”หม่ามี้ไม่ต้องการเฉินเอ๋อแล้วหรือ?” ครั้นไป๋เสี่ยวเฉินเห็นไป๋หยานหันหลังกลับ และกำลังจะผละจากไปก็เลยคิดว่าที่ไป๋หยานทำเช่นนั้นเป็นเพราะเห็นหน้าเขา ใบหน้าเล็ก ๆ รู้สึกผิดหวัง
ครั้นไป๋หยานหันหน้ากลับมามองนางก็เห็นเด็กชายตัวน้อยกำลังเสียใจ อีกทั้งมีสีหน้าไม่ดีนัก หัวใจของนางพลันอ่อนยวบ “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ? ทำไมแม่จะไม่ต้องการเจ้า ไม่มีเวลาใดที่แม่ไม่ต้องการเจ้าเลย ?”
“แล้วทำไมหม่ามี้ไม่อยากพบเฉินเอ๋อล่ะ?”
“แม่ไม่ใช่ไม่อยากเจอลูกแต่ … ”
ทันทีที่คำพูดนั้นมาจ่อถึงปากไป๋หยานก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ นางมองตี้คังด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ นัยน์ตาดำขลับของนางเปล่งประกายเว้าวอน
”เฉินเอ๋ออย่ากวนแม่ของเจ้า”ตี้คังกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ในเมื่อนางกำลังจะไปพบท่านตาทวด เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยพยุงนางไปสิ”
”อืม”
ไป๋เสี่ยวเฉินเดินไปหยุดข้างกายไป๋หยานอย่างเชื่อฟังเขาพยุงแขนของนาง โดยมีตี้คังช่วยพยุงอีกข้างประกบทั้งซ้ายและขวา
ครั้นเห็นว่าตนเองถูกทั้งคนโตและเด็กน้อยประกบซ้ายขวาใบหน้าซีด ๆ ของไป๋หยานก็เปลี่ยนเป็นดำคล้ำ “นี่พวกเจ้ากำลังทำอะไรกัน ? ข้าเดินเองไม่ได้งั้นรึ ?”
”ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วบางทีหลังจากผ่านพ้นเมื่อคืนนี้ อีกไม่ช้าเฉินเอ๋ออาจจะมีน้องสาว เจ้าจะต้องระมัดระวังในทุกฝีก้าว … ”
น้องสาว?
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของไป๋เสี่ยวเฉินนิ่งงันก่อนจะเปลี่ยนเป็นความปิติยินดี
***จบบทคำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (9)***
บทที่ 923 : คำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (10)
ไป๋เสี่ยวเฉินรีบดึงแขนเสื้อของมารดาเอ่ยกล่าวอย่างมีความสุขว่า “หม่ามี้…ที่ป๊ะป๋าวายร้ายพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม ? อีกไม่ช้าเฉินเอ๋อก็จะมีน้องสาวจริงรึเปล่า? ต้องเป็นน้องสาวที่น่ารัก และสวยด้วยใช่ไหม ?”
”ใช่…สวยและน่ารักเหมือนแม่ของเจ้า” ตี้คังบีบจมูกไป๋เสี่ยวเฉิน จากนั้นเขาก็มองไป๋หยานด้วยแววตาลุ่มหลง
ไป๋เสี่ยวเฉินเลิกเศร้าเขากระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข “หากเฉินเอ๋อมีน้องสาวที่สวยและน่ารักขนาดนั้นนะ เฉินเอ๋อจะอุ้มไว้ในอ้อมแขน ไม่ปล่อยให้ใครมารังแกน้องสาวของเฉินเอ๋อ ใครกล้ารังแกนาง เฉินเอ๋อจะหักขามันซะ !”
มุมปากของไป๋หยานกระตุกนางยกมือขึ้นดีดหน้าผากของไป๋เสี่ยวเฉิน “เฉินเอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเหมือนอะไร ?”
”เหมือนอะไร?” ไป๋เสี่ยวเฉินกระพริบนัยน์ตากลมโตมองตอบราวกับเด็กน้อยที่อยากรู้อยากเห็น
”ที่บ้านเกิดของแม่สิ่งที่เจ้าทำเรียกว่า พวกหลงน้องสาว”
”หลงน้องสาวคืออะไร?” นัยน์ตากลมโตของไป๋เสี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้
”หลงน้องสาวหมายความว่าเจ้าจะทำให้น้องสาวของเจ้าเสียนิสัย เพราะเจ้าจะเอาอกเอาใจนางราวกับนางเป็นเจ้าหญิง ทั้งเจ้าจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่มีเจตนาร้ายเข้ามาวอแวนาง”
“หม่ามี้ผิดแล้วไม่ใช่ว่าเฉินเอ๋อเอาใจน้องสาวราวกับนางเป็นเจ้าหญิงจนเสียนิสัย แต่นางเป็นเจ้าหญิงอยู่แล้วต่างหาก ก็นางเป็นเจ้าหญิงแห่งแดนอสูรของเรา ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเอ๋อก็ไม่อยากมีภรรยา เฉินเอ๋อจะคอยปกป้องน้องสาวไม่ให้คนเลวคนไหนมารังแกนาง”
รอยยิ้มของไป๋เสี่ยวเฉินนั้นไร้เดียงสาและน่ารักน่าหลงใหลมาก และนั่นก็ทำให้อารมณ์ของไป๋หยานสงบลง
“น่าเสียดายที่น้องสาวของเจ้ายังไม่เกิด”
”ไม่! น้องสาวของเฉินเอ๋อจะปรากฏตัวในไม่ช้านี้” ใบหน้าเล็ก ๆ ของ ไป๋เสี่ยวเฉินแน่วแน่ “เมื่อคืนเฉินเอ๋อฝันถึงน้องสาว บางทีน้องสาวของเฉินเอ๋ออาจจะกำลังมาเกิด ตอนนี้เฉินเอ๋อยังไม่พบนาง แต่อีกไม่นานนางจะต้องมาพบเฉินเอ๋อแน่ … ”
ครั้นเห็นใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นของไป๋เสี่ยวเฉินไป๋หยานก็พูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง
เด็กคนนี้อยากได้น้องสาวจนเสียสติไปแล้วเขาต้องการน้องสาวจนเก็บไปฝัน ก็แค่ความฝัน น้องสาวของเขาจะออกมาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ?
”ป๊ะป๋า…อย่าลืมท่านสัญญากับข้าว่า ท่านจะมีน้องชายอีกคน เพื่อดูแลจัดการแดนอสูรแทนท่าน” ไป๋เสี่ยวเฉินเม้มปากเล็ก ๆ ที่น่ารักของตน “หากมีน้องชายเป็นราชาอสูรคนต่อไป เฉินเอ๋อก็สามารถอยู่กับน้องสาวได้นาน ๆ เราสองพี่น้องจะเดินทางไปด้วยกันทุกที่”
แม้ว่าไป๋เสี่ยวเฉินจะยังเด็กหากแต่เขาก็รู้ว่าเขามีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบสืบต่อการเป็นราชาอสูรแล้ว เช่นนั้นเพื่อจะได้อิสรภาพในอนาคต เขาจึงคิดจะมอบหมายภาระนี้ให้แก่น้องชายที่ยังไม่ทันได้เกิดอย่างไร้ความปราณี …
”หยานเอ๋อดูเหมือนว่าเราคงจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้เฉินเอ๋อมีน้องชายอีกสักคน เจ้าว่ามั้ย ?” ริมฝีปากสีแดงของตี้คังเคลื่อนไปที่ริมหูของไป๋หยาน มุมปากของเขายกสูงขึ้น อุณหภูมิที่ร้อนจัดกระทบใบหน้าของนาง
ใบหน้าของไป๋หยานแดงก่ำนางจ้องตี้คังพลางสะบัดหน้าหนี และไม่มองเขาอีกเลย
บุตรสาวยังไม่เกิดพ่อลูกก็คุยเรื่องน้องชายในอนาคตกันแล้วหรือ ? นี่ … มันจะเกินไปหน่อยมั้ย ?
”ตี้คังไปพบท่านปู่กับคนอื่น ๆ กันเถอะ” ไป๋หยานถอนหายใจออกช้า ๆ ก่อนจะพูด
”เจ้ากลัวงั้นหรือ?” ตี้คัง กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ไป๋หยานแลดูลำบากใจเล็กน้อยเมื่อหวนนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ “อย่างไรเสีย ข้าก็ยังอยากพบท่านตาและคนอื่น ๆ ก่อนจะออกจากตำหนักเซียนพยับหมอก ข้ามีบางอย่างจะให้พวกเขา”
”เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลการสร้างเด็ก เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ พวกเขาทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เข้าใจดี”
ธรรมชาติของมนุษย์?
สร้างเด็ก?
คิ้วของไป๋หยานกระตุกสองสามครั้งเช่นเคยตี้คังมักจะกล่าวถ้อยคำที่ทำให้คนสำลักตายได้เสมอ
กล่าวจบแล้วพวกเขาก็หายตัวไป
หลิวชิงหยูมองภาพครอบครัวสามคนจากไปด้วยความอิจฉา”นี่คือภาพที่ทุกครอบครัวควรจะเป็น เมื่อก่อนข้าก็เคยหวังว่าท่านพ่อท่านแม่ของข้าจะสนิทสนมกลมเกลียวกันเช่นนี้บ้าง … ”
ทว่าน่าเสียดายที่เรื่องเช่นนี้เป็นเพียงความฝันในวัยเด็กของนางทั้งยังเป็นเพียงความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของนางอีกด้วย
***จบบทคำแก้ตัวของหลิวชิงหยู (10)***
บทที่ 924 : ผู้คุ้มกันระดับเทพ (1)
น่าเสียดายที่นั่นเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงสำหรับนาง…
*****
ในห้องโถงบรรยากาศค่อนข้างเก้อเขินเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ไป๋หยานและตี้คังเดินเข้ามา ความรู้สึกอึดอัดใจก็ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ
เหวินหยุนเฟิงกำหมัดแน่นสายตาที่เขาจับจ้องมองตี้คังราวกับมองศัตรู
สำหรับเขาแล้วตี้คังคือศัตรูที่ขโมยตัวบุตรสาวของเขาไป !
จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร?
หากมิใช่เพราะจุนเทียนเยว่พึงพอใจในตัวหลานเขยผู้นี้มากเขาคงไม่อาจยอมรับชายผู้นี้ได้เร็วนัก …
ครั้นเห็นสายตาของทุกคนในที่นี้สีหน้าของไป๋หยานก็มีร่องรอยเคอะเขินเล็กน้อย “อาจารย์ทั้งห้า ท่านปู่ ท่านย่า ท่านตา ท่านพ่อ เมื่อคืนพวกท่านหลับสบายหรือไม่ ?”
นางต้องการเบี่ยงเบนประเด็นแต่เมื่อเอ่ยกล่าวออกไป นางก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง
แน่นอนว่าสีหน้าของเหวินหยุนเฟิงยิ่งมืดมนแววตาของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ขณะหันไปมองตี้คัง “มีคนขโมยบุตรสาวของข้า ข้าจะหลับสบายได้อย่างไร ?”
เมื่อคืน…เขาไม่อาจข่มตาหลับได้เลยทันทีที่เขาหลับตา เขาก็จะนึกถึงบุตรสาวที่เพิ่งพบเจอกัน แต่กลับถูกไอ้เด็กหนุ่มตัวเหม็นคนนี้ขโมยไป
ภายใต้ความเศร้าโศกเช่นนี้ย่อมเป็นเรื่องแปลก หากเขาจะหลับได้อย่างสบายใจ
ใบหน้าของไป๋หยานแดงระเรื่อนางจ้องตี้คังอย่างดุเดือด หากเมื่อคืนนี้ไม่ใช่เพราะเขารบเร้านางมากเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งของนาง ย่อมจะไม่ทำให้ทุกคนรู้ได้เป็นแน่
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญกับความขุ่นเคืองของพ่อตาและยังการกล่าวโทษของไป๋หยาน ตี้คังกลับยังคงสงบนิ่งอารมณ์เขาไม่แปรปรวนแม้แต่น้อย ทีท่าของเขาราวกับเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา ๆ
เขาไม่รู้สึกละอายใจเลยสำหรับเรื่องนี้
”ท่านพ่อตาหยานเอ๋อกับข้ามีเฉินเอ๋อแล้ว หากท่านจะกล่าวว่าข้าลักพาตัวนาง ข้าก็ลักพาตัวนางตั้งแต่เมื่อหกปีก่อนแล้ว สายเกินไปแล้วที่ท่านจะกล่าวเช่นนี้”
ใบหน้าของเหวินหยุนเฟิงแข็งค้างเขารู้สึกกรุ่นโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่าความโกรธนี้ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ไป๋หยานหรือตี้คัง ทว่าเขากำลังโกรธตนเอง
หากตอนนั้นเขาไม่ถูกส่งตัวกลับตำหนักเซียนพยับหมอก ไป๋หยานก็คงไม่ต้องไปเติบโตในบ้านสกุลไป๋ ได้รับอันตรายจากไอ้สารเลวบ้านสกุลไป๋ กระทั่งต้องตั้งครรภ์ก่อนแต่ง
หากนางไม่ตั้งครรภ์ก่อนแต่งก็จะไม่มีความสัมพันธ์กับตี้คัง
ในทำนองเดียวกันหากนางไม่ได้ตั้งครรภ์ เขาก็คงไม่มีหลานชายที่น่ารักเช่นเฉินเอ๋อ …
ใบหน้าของเหวินหยุนเฟิงเต็มไปด้วยความคับแค้นทว่าเมื่อมองไป๋เสี่ยวเฉิน เขาก็รู้สึกสับสน เขาไม่อาจยอมรับตี้คัง หากแต่ … เขากลับไม่ลังเลเลยที่จะรับหลานชายคนนี้
ลืมไปเลยไม่ว่าเจ้าจะคิดถึงเรื่องนี้มากเพียงใดก็ไม่มีประโยชน์ ทุกอย่างผ่านไปหมดแล้ว
”ตี้คังข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้ามีฐานะใด หากแต่ข้ามีบุตรสาวที่มีค่าคนนี้แค่เพียงคนเดียว เจ้าต้องปฏิบัติต่อนางอย่างดี ทั้งจะต้องไม่ทำร้ายจิตใจของนาง เจ้าต้องปฏิบัติตามกฎของตำหนักเซียนพยับหมอกของเรา”
ชั่วขณะนั้นแววตาของเหวินหยุนเฟิงพลันดุร้ายสีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึม
ตี้คังยิ้มน้อยๆ “ท่านพ่อตา ท่านกล่าวมาเถิด”
”ประการแรก…ไม่อนุญาตให้เจ้ามีนางสนมกฎของตำหนักเซียนพยับหมอกของข้า จะต้องเป็นคู่ผัวเดียวเมียเดียวตลอดชีวิต หากเจ้าทำไม่ได้ข้าจะให้บุตรสาวของข้าเลิกกับเจ้า แม้ว่าจะทำให้หยานเอ๋อเกลียดข้าไปตลอดชีวิต ข้าก็จะแยกพวกเจ้าจากกัน !”
”ท่านพ่อตามั่นใจได้เลย ชั่วชีวิตนี้ข้าจะมีไป๋หยานแต่เพียงผู้เดียว ทั้งข้าจะไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามาแทรกแซงระหว่างเรา หากผู้ใดมีความคิดอยากเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา ข้าจะลงมือจัดการเอง ภรรยาของข้าไม่จำเป็นต้องลงมือ”
เหวินหยุนเฟิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ”ประการที่สอง นางบอกให้เจ้าไปทางตะวันออก เจ้าก็ห้ามไปทางตะวันตก ไม่เพียงแต่ เจ้าจะต้องไม่ห้ามนาง หากแต่เจ้าต้องสนับสนุนนางโดยไม่มีเงื่อนไข !”
เขาเข้าใจดีว่าไป๋หยานและตี้คังจะไม่อยู่ในสถานที่แห่งนี้นานนัก ก่อนที่ทั้งคู่จะจากไป เขาจำเป็นต้องบอกกฎทั้งหมดให้ตี้คังรับทราบ หากตี้คังฝ่าฝืนกฎ เขายินดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้บุตรสาวของเขาไป !
***จบบทผู้คุ้มกันระดับเทพ (1)***
บทที่ 925 : ผู้คุ้มกันระดับเทพ (2)
”อะแฮ่ม!” เหวินซุนฮวนไอแห้ง ๆ “พี่ใหญ่…เมื่อไหร่กันที่เรามี… ”
กฎเช่นนี้?
ก่อนที่เขาจะทันกล่าวจบสายตาที่เย็นชาของเหวินหยุนเฟิงก็กวาดไปที่เหวินซุนฮวน นัยน์ตาที่คมกริบราวกับคมมีดของเขา ทำให้เหวินซุนฮวนหวาดผวา กระทั่งปิดปากสนิททันที
เหวินหวู่เหว่ยยิ้มกริ่มอยู่ข้างๆ เมื่อมีคนสั่งสอนหลานเขยของเขา เข้าไปขัด ก็เท่ากับรนหาที่ตาย ?
โชคดีที่ตี้คังไม่ได้ใส่ใจกับถ้อยคำของเหวินซุนฮวนนัยน์ตาเรียวคมของเขายังคงแน่วแน่ “ยกเว้นเรื่องที่นางปราถนาในตัวชายอื่น นอกนั้นข้ายอมรับข้อเสนอทั้งหมดของนางได้ ต่อให้นางต้องการเข่นฆ่าผู้ใด ไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลหรือความถูกผิด ข้าก็จะยื่นมีดให้นางได้เข่นฆ่า ส่วนผู้ใดที่นางปรารถนาปกป้อง ต่อให้เป็นคนชั่วช้าที่สุดในโลก ข้าก็พร้อมที่จะปกป้องนาง”
ใบหน้าของเหวินหยุนเฟิงค่อยๆ ผ่อนคลายลง ที่สุดสายตาของเขาก็ไม่ได้เป็นศัตรูเช่นที่ผ่านมาอีกต่อไป
”ประการที่สามไม่ว่าอนาคตของหยานเอ๋อจะเป็นเช่นไร ? เจ้าจะต้องอยู่เคียงข้างนาง หากเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำตามสิ่งที่ข้ากล่าวมาทั้งหมดนี้ได้ ข้าก็จะยินดีมอบหยานเอ๋อให้แก่เจ้า แต่เจ้าต้องสาบานต่อสวรรค์ว่าเจ้าจะทำตามข้อตกลงทุกอย่าง เจ้ายินดีหรือไม่ ?”
ในแผ่นดินนี้ผู้คนยังคงเชื่อถือในคำสาบาน และเมื่อสาบานแล้ว ก็มักจะไม่มีผู้ใดกล้าผิดคำสาบาน หาไม่พวกเขาจะต้องเผชิญกับการลงโทษของฟ้าดินอย่างแน่นอน
“ท่านพ่อ!” ไป๋หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย นางพยายามทัดทานเหวินหยุนเฟิง
ชั่วขณะนั้นตี้คังก็ปล่อยมือจากไป๋หยาน เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ “ข้า…ตี้คังขอสาบานในนามของราชาอสูร นับจากนี้ไป ข้าจะไม่มีนางสนมอีกแม้แต่คนเดียว ทั้งข้าจะคอยอยู่เคียงข้างหยานเอ๋อชั่วชีวิต … ข้าจะเชื่อทุกคำที่นางพูด นอกจากนี้ข้ายังจะช่วยสนับสนุนทุกการกระทำของนาง”
”หากข้าละเมิดคำสัตย์สาบานนี้ข้ายินดีที่จะตกนรกชั่วกัปชั่วกัลป์ ต้องทนทุกข์ทรมานจากไฟนรกหมกไหม้ ทั้งไม่มีวันสงบสุขตลอดกาล !”
เสียงของชายหนุ่มทรงพลังอีกทั้งมีอำนาจเหนือทุกผู้คน ชั่วขณะนั้นหัวใจของไป๋หยานแทบหล่นหาย
ราวกับรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของสตรีที่อยู่ด้านหลังตี้คังหันกลับไปมอง พร้อมกับจับมือของนางอีกครั้ง “หยานเอ๋อ ไม่ต้องกังวล หากข้าไม่ผิดคำสาบานย่อมจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ตามมา เช่นนั้นคำสาบานนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับข้าแม้แต่น้อย”
แท้ที่จริง…ถ้อยสาบานนั้นอาจจะน่ากลัวทว่าหากไม่ผิดคำสาบาน มันก็จะเป็นเพียงประโยคบอกเล่าธรรมดา ๆ …
“ลูกเขยของข้ากล่าวได้ถูกต้องตราบใดที่เขาไม่ผิดคำสาบาน ต่อให้คำสาบานร้ายกาจเพียงใด ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขา” เหวินหยุนเฟิงหัวเราะร่า เขาไม่ได้มีสีหน้าเคร่งขรึมเช่นเดิมอีกต่อไป “เมื่อเขากล้าให้สัตย์สาบานทั้งสามข้อนี้ต่อหน้าข้า ข้า…เหวินหยุนเฟิงก็ยอมรับเขาในฐานะลูกเขยของข้า หยานเอ๋อ เจ้าโชคดีกว่าแม่ของเจ้ามากนัก เขากล้าหาญ ทั้งทรงอำนาจแตกต่างจากพ่อที่โง่เขลาจนเกินอภัย”
ในครั้งนั้นเขาถูกหลอกให้กลับมาที่ตำหนักเซียนพยับหมอกกระทั่งขาดการติดต่อกับหนิงเอ๋อ เขานึกภาพออกเลยว่าในเวลานั้นหนิงเอ๋อจะสิ้นหวัง และตื่นตระหนกเพียงใด
เมื่อเขาหวนนึกถึงภาพในอดีตเหวินหยุนเฟิงก็รู้สึกเป็นทุกข์ทุกครั้ง ทุกครั้งที่เขาหลับตาลง เขาก็มักจะเห็นไป๋หนิงที่ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือดกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเขา …
”หยุนเฟิง… ” ครั้นเห็นการแสดงออกที่เจ็บปวดของเหวินหยุนเฟิง เหวินหวู่เหว่ยก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ บนใบหน้าชราของเขาปรากฏรอยยิ้มเหยเก “ข้าขอโทษเจ้าด้วย…”
“ท่านพ่อมิใช่ความผิดของท่าน ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ในเวลานั้นข้าไม่ควรกลับมาที่ตำหนักเซียนพยับหมอก หาไม่ภรรยาและบุตรสาวของข้าคงไม่ต้องรับทุกข์ทรมานมากถึงเพียงนี้”
เหตุที่เขาบังคับให้ตี้คังสาบานก็เพราะเขาไม่ต้องการให้ไป๋หยานต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดเช่นเดียวกับหนิงเอ๋อ เขาจะทนให้บุตรสาวที่เขาเพิ่งพบหน้าโดนทำร้ายจิตใจได้เยี่ยงไร ?
หาก… ตี้คังผิดสัญญาจริง ๆ ต่อให้สวรรค์ไม่ลงโทษ เขาก็จะให้ชายคนนี้ต้องชดใช้อย่างสาสม !
***จบบทผู้คุ้มกันระดับเทพ (2)***