ฉันนี่แหละจ้าวนรก - บทที่ 184 การต่อสู้ของเหล่ายมทูต (1)
บทที่ 184: การต่อสู้ของเหล่ายมทูต (1)
ตูม!!
อาคารทั้งหลังพังทลายลงมา และสิ่งเดียวที่ยังคงสภาพเดิมอยู่ก็คือโลงศพของกู่ชิงที่มีศาสตราจารย์คนอื่น ๆ อยู่รอบ ๆ ยมทูตนอกอาณาเขตตนที่กำลังดึงหยกตรึงวิญญาณออกมาจากปากของศพกรีดร้องอย่างตกตะลึงกับการแสดงพลังที่ยิ่งใหญ่ของโจวเซียนหลง มือทั้งสองข้างของเขาสั่นเทา และในวินาทีแห่งความตกตะลึง เขาก็ไม่สามารถดึงหยกออกมาได้สำเร็จ
“บังอาจนัก!” โจวเซียนหลงตะโกนออกมาจากด้านบน เขาลอยอยู่กลางอากาศและค่อยๆเดินมาที่พื้นราวกับกำลังเดินบนบันไดที่มองไม่เห็น มองยมทูตนอกอาณาเขตทั้งหมดด้วยสายตาดุร้ายขณะที่กัดฟันกรอด “โง่เง่าสิ้นดี…พวกแกกล้าดีอย่างไรถึงมาสร้างความวุ่นวายในสำนักฝึกตนแห่งแรกและทำให้เราทั้งหมดต้องขายหน้า”
เขายกมือขึ้นช้า ๆ และทันใดนั้น สายฝนที่ตกลงมาก็ก่อตัวกันเป็นมือขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขา “ไม่ต้องกังวล…ฉันจะไม่ให้พวกแกตายง่าย ๆ แน่”
สิ้นเสียงพูด มือยักษ์ พร้อมกับสายฟ้านับพันก็โจมตีไปที่โถงไว้อาลัยทันที!
มันคือมือขนาดมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นจากน้ำฝน มันมีความกว้างประมาณ 100 เมตร และสายฟ้าก็วิ่งผ่านมันและกระจายไปรอบ ๆ เหล่านักเรียนที่ตัวเปียกโชกจากน้ำฝนจ้องมองภาพที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง
นี่คือพลังของขั้นตุลาการนรก
นี่คือพลังที่สามารถที่ควบคุมได้ทั้งสวรรค์และปฐพี!!
………………………….
กลับมาที่ห้องโถงหลัก
ฉินเย่อ้าปากค้างอย่างเหลือเชื่อ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้ตกใจเท่านักเรียนและอาจารย์คนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบ เพราะอย่างไรเขาก็เคยเห็นการแสดงพลังของอาร์ทิสเมืองชิงซีมาแล้ว และอีกฝ่ายยังพูดอีกว่าโจวเซียนหลงนั้นแข็งแกร่งกว่าตน
แต่ความแข็งแกร่งของโจวเซียนหลงก็ยังเหนือความคาดหมายของเขาอยู่ดี
การปรากฏตัวของหัวหน้าสาขาผู้นี้ทำให้เกิดความเงียบไปชั่วขณะ
สายฝนยังคงตกกระหน่ำ มือขนาดใหญ่ตบลงไปที่กลุ่มหมอกดำด้านล่าง จากนั้น พร้อมกับการสั่นสะเทือนของโลก มันตบลงไปบนพื้นอย่างแรง ส่งผลให้เศษฝุ่นและดินฟุ้งไปทั่ว เทพแห่งความตายที่ก่อตัวขึ้นจากกลุ่มก้อนพลังหยินถูกระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ทันที
“ให้ตายเถอะ!!”
“เขาแข็งแกร่งเกินไป! เราเกือบทำสำเร็จแล้ว…เกือบแล้วแท้ ๆ!”
“รอก่อน…รอก่อน!!!”
ยมทูตนอกอาณาเขตต่างถูกซัดกระเด็นไปด้านหลังจากการโจมตีเมื่อครู่ ในความเป็นจริง พวกเขาสามตนต่างกลายเป็นเพียงกลุ่มก้อนพลังหยินในทันที นี่คือความแตกต่างของพลัง ขั้นนักล่าวิญญาณ 12 ตนพร้อมกับวัตถุหยินขั้นยมทูตขาวดำไม่สามารถต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังของขั้นตุลาการนรกได้
พรึ่บ!! เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที ในวินาทีนั้นเอง แสงสีทองก็เปล่งประกายออกมาจากจุดที่ยมทูตนอกอาณาเขตแดนไปรวมตัวกัน!
“เตรียมตัวให้พร้อม!!” อาร์ทิสลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและเอ่ยออกมา
ฉินเย่ตัวสั่นและผงะไปเล็กน้อย…
ตอนนี้เนี่ยนะ?
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลการต่อสู้จะออกมาเป็นอย่างไร แล้วทำไมท่านถึงบอกให้ข้าเตรียมตัวให้พร้อมกัน?
“นั่นคือธนูยาวของเทพแห่งความตาย เนอร์กัล….[1]” อาร์ทิสจ้องหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“มันคือสมบัติแห่งนรกของจริง…วัตถุหยินสมบูรณ์ที่ได้รับพลังจากเทพของพวกมัน เนอร์กัล! ระดับมันก็แตกต่างจากพวกวัตถุหยินที่เคยปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง!”
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันจะนำของแบบนั้นมาด้วย…ทุกอย่างจะชัดเจนภายในไม่ถึง 15 วินาทีนี้แน่!”
พรึ่บ…กลุ่มก้อนพลังหยินค่อย ๆ สลายไป จากนั้น ขณะที่ทัศนวิสัยเริ่มชัดเจนขึ้น รูม่านตาของโจวเซียนหลงก็หดตัวด้วยความตกตะลึง
นักเรียนหญิงคนหนึ่งยืนอยู่ที่ใจกลางของกลุ่มก้อนพลังหยินนั้น
ร่างของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและคุกเข่าข้างหน้าลงกับพื้น ยมทูตนอกอาณาเขตตนอื่นได้ร่วมพลังกัน เพื่อป้องกันเธอจากการโจมตีจากฝ่ามืออันทรงพลังของโจวเซียนหลง
และ ณ ตรงนั้น ที่ซึ่งใจกลางของพลังหยินได้สลายตัวไป แสงสีทองเปล่งประกายออกมาราวกับรัศมีของสวรรค์ที่แผ่ออกมาท่ามกลางความมืดมิด
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งลง โจวเซียนหลงมองเห็นอย่างชัดเจนว่ามันคืออะไร มันคือธนูยาวที่แกะสลักจากกระดูกสีขาวซีด มีความยาวประมาณห้าเมตร และลูกศรที่อยู่บนนั้นก็มีสีแดงเข้ม เขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นลูกศรที่ถูกทำมาจากเลือด นอกจากนี้…เจ้าของเลือดพวกนั้นก็จะต้องอยู่ขั้นตุลาการนรกอย่างแน่นอน!
พรึ่บ…กลุ่มก้านพลังหยินที่อยู่โดยรอบค่อย ๆ จางหายไป ในขณะที่ส่วนที่เหลืออยู่พุ่งตรงเข้าไปในร่างของเด็กหญิงที่ยังคงคุกเข่าอยู่ดังเดิม ผิวหนังของเธอเริ่มแตกและฉีกออกจากกัน ในขณะที่ผมบนศีรษะปลิวไปมาโดยพายุขนาดใหญ่ที่เริ่มก่อตัวขึ้นรอบ ๆ เธอก็อดทนต่อความทรมานที่เกิดขึ้น จากการที่พลังมหาศาลฉีกเนื้อหนังของเธอไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเหลือเพียงโครงกระดูก จากนั้นจึงกรีดร้องออกมา “ด้วยคำพิพากษาจากนรก…เหล่าวิญญาณทั้งปวง…”
ตูม!!!
ลูกศรถูกปล่อยออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยจบ และในวินาทีนั้น เธอก็กลายร่างเป็นพลังหยินและหายไป
ครืดดดดด….ทั่ววิทยาเขตสั่นสะเทือนอย่างแรงทันทีที่ลูกศรถูกปล่อยออกมา ลำแสงสีทองพุ่งผ่านกลุ่มก้อนพลังหยินที่อยู่โดยรอบและพุ่งเข้าหาโจวเซียนหลงอย่างรวดเร็ว มันราวกับว่าดวงอาทิตย์ได้ปรากฏขึ้นในนรก ถึงแม้ว่าทุกสิ่งรอบข้างจะถูกปกคลุมด้วยพลังหยินที่หนาแน่น ราวกับบางสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ได้จุติลงมาบนที่ราบ
แรงลมจากลูกธนูมาถึงก่อนที่มันจะมาถึงเสียอีก โจวเซียนหลงยืนมองลูกศรที่พุ่งผ่านกลุ่มก้อนพลังหยินนิ่ง ๆ จากมุมมองของเขา ลูกธนูได้กลายร่างเป็นผู้หญิงผมยาวที่ตาและปากถูกเย็บ และอ้าแขนกว้างเพื่อที่จะโอบกอดเขาอีกด้วย
นี่คือการโจมตีโดยใช้พลังของตุลาการนรก!
อย่างไรก็ตาม วิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้เขากลับมาได้สติ โจวเซียนหลงประกบมือเข้าด้วยก่อนจะประสานอินอย่างรวดเร็ว จากนั้นสายฝนที่ตกกระหน่ำก็หยุดตก
ไม่ แทนที่จะบอกว่ามันหยุดตก ต้องบอกว่าสายฝนที่กำลังตกลงมาหยุดค้างอยู่กลางอากาศถึงจะถูก!
ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก แต่กลับไม่มีสักหยดเลยที่ตกลงมายังที่ซึ่งโจวเซียนหลงยืนอยู่ หยดน้ำฝนนับล้านที่ตกลงมาลอยค้างอยู่กลางอากาศ เกิดเป็นภาพที่น่าตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้อยู่นานนัก วินาทีต่อมาหยดน้ำฝนก็ตกลงมาที่พื้นอีกครั้ง เสื้อคลุมของโจวเซียนหลงกระพืออย่างแรงและร่างอวตารของพระพุทธรูปทองคำก็ปรากฏขึ้นบนฟ้า ส่งฝ่ามืออันทรงพลังมาปะทะกับลูกธนูที่เพิ่งถูกยิงมา
ตูม!!!
ทุกอย่างดูราวกับเป็นภาพลวงตาและไม่มีอยู่จริง แต่ผลจากการโจมตีกลับทำให้เกิดเสียงดังก้องไปทั่ว
ประกายแสงสีแดงเลือดปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ตามมาด้วยรอยแยกขนาดใหญ่ราวกับว่าอากาศถูกฉีกกระชากออกจากกันโดยการปะทะที่รุนแรงนั้น เสี้ยววินาทีต่อมา เกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้งพร้อมกับการระเบิดของแสงสว่าง พลังหยินและพลังปราณห่อหุ้มร่างของโจวเซียนหลง ในลักษณะของพายุหมุนขนาดใหญ่ที่มีความกว้างสิบเมตร
ขณะที่ทุกคนกำลังจ้องมองไปที่การระเบิดบนท้องฟ้า “หึ” โจวเซียนหลงส่งเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชา หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ามือสีทองก็แหวกพายุหมุนออก และโจวเซียนหลงก็ก้าวออกมา ร่างของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดงและทองเต็มไปหมด
“กายาทองคำไร้รูป” อาร์ทิสอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง “ตาแก่นี่…”
โจวเซียนหลงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะเงยหน้ามองเหล่ายมทูตนอกอาณาเขต ยมทูตทั้งหมดรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
นั่นมันบ้าไปแล้ว…
ตุลาการนรกผู้นี้…แข็งแกร่งกว่าตุลาการนรกที่พวกเขาเคยเจอมาในอดีต! แม้แต่วัตถุหยินที่ได้รับพลังจากเทพแห่งโลกใต้พิภพก็ไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้!
ทันใดนั้นเองเสียงถอนหายใจที่น่าขนลุกก็ดังขึ้น
มันแผ่วเบา แต่ทุกตนก็หันไปมองที่ต้นกำเนิดเสียงทันที
“ข้า…ที่นี่ที่ไหน?” วิญญาณของกู่ชิงลุกขึ้นนั่งจากโลงศพและจ้องมองมือตัวเอง “นี่ข้า…ตายแล้วใช่หรือไม่?”
รูม่านตาของโจวเซียนหลงหดตัวทันที ฉินเย่อ้าปากค้าง เขาเริ่มหมุนเวียนพลังหยินที่อยู่ภายในกายอย่างรวดเร็ว เวลาของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว
มันออกมาแล้ว…
ย้อนกลับไปที่โลงศพซึ่งมีร่างของกู่ชิงนอนอยู่ หยกสีเขียวชิ้นหนึ่งตกอยู่ด้านข้างศีรษะของศพ ยมทูตนอกอาณาเขตทั้งหมดต่างหันไปมองร่างกู่ชิงราวกับหุ่นยนต์ สายตาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ สิ้นหวัง และเสียใจในก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยความหวังทันที
“ด้วยคำพิพากษาจากนรก….เหล่าวิญญาณทั้งปวงจงสูญสิ้น…” นักเรียนชายคนหนึ่งที่จ้องมองไปที่โลงศพเอ่ยออกมา และกายเนื้อของเขาก็ระเบิดออก! คลื่นพลังหยินที่ทรงพลังกว่าก่อนหน้านี้แพร่กระจายไปทั่ว!
วี๊ดดดดดด…เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวดังก้องไปทั่วขณะที่สายลมนรกพัดอย่างรุนแรง และหายไปในอากาศ ในเวลาเดียวกัน เงาดำบนพื้นก็พุ่งไปที่โลงศพราวกับมีชีวิต!
ร่างที่แท้จริงของยมทูต!
ในที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็เผยร่างจริงออกมาแล้ว!
ในที่สุด…ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดนี้!
ยมทูตนอกอาณาเขตหลายตนต้องตายไป และวัตถุหยินหลายชิ้นต้องเสียเปล่า ยมทูตบางตนถึงขั้นยอมสละชีวิตเพื่อยิงธนูของเนอร์กัล ในขณะที่ตนอื่น ๆ ก็ถูกกำจัดไปโดยฝีมือของศาสตราจารย์คนอื่น ๆ แต่ตอนนี้…ทุกอย่างถือว่าคุ้มค่าแล้ว!
นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด มันเป็นสัญญาณที่บอกว่ายมโลกของจีนกำลังล่มสลาย จะมีผู้ใดกล้ายืนยันอีกว่ายมโลกของจีนนั้นแข็งแกร่งที่สุด? ในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่สามารถปกป้องวิญญาณระดับ A+ ได้ด้วยซ้ำ?!
แย่งวิญญาณของกู่ชิงมาและส่งมันให้กับสภาผู้อาวุโส เพื่อที่พวกเขาจะได้ขจัดความหวาดกลัวที่มีต่อยมโลกของจีน และถึงเวลาที่พวกเขาจะได้ส่งกองกำลังไปทำสงครามกับฝ่ายตรงข้ามเสียที! วันที่กองกำลังวิญญาณ 100 ล้านตนเดินทางมาที่นี่อยู่ใกล้แค่เอื้อม! นี่คือรุ่งอรุณของยุคสมัยใหม่!
“ด้วยคำพิพากษาจากนรก เหล่าวิญญาณทั้งปวงจงสูญสิ้น! ฮ่า ๆๆๆๆ”
“ว่ะ…ฮ่า ๆ…ฮ่า! ด้วยคำพิพากษาจากนรก เหล่าวิญญาณทั้งปวงจงสูญสิ้น!”
“ด้วยคำพิพากษาจากนรก เหล่าวิญญาณทั้งปวงจงสูญสิ้น! ถึงทีของเราแล้ว…ฮ่า ๆๆๆ”
พรึ่บ… พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
พลังยินมหาศาลปะทุออกมาติดต่อกัน ขณะที่ยมทูตทั้งหมดฉีกกระชากกายเนื้อของพวกเขา
………………………….
กลับมาที่ห้องโถงหลัก
อาร์ทิสตะโกนออกมาเสียงดัง “ถึงเวลา…!!”
ตูม!!
ไม่ต้องรอคำบอกกล่าว พลังหยินที่อยู่โดยรอบก็พุ่งเข้ามาใส่ร่างของฉินเย่ราวกับกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ก่อนที่นางจะเอ่ยจบด้วยซ้ำ กระบี่ปีศาจส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกับเปลวไฟนรกสีเขียวที่ลุกโชติช่วง และฉินเย่ก็ก้าวออกมาจากกระแสน้ำวนอย่างยิ่งใหญ่
เส้นผมสีขาว ม่านตาสีดำ หมวกทรงจีนฉลุไม่มีขอบสีดำ และเสื้อคลุมยาวที่ปักเป็นรูปของตี้ทิง ตราประจำตัวที่มีคำว่า ‘นักล่าวิญญาณ’ ห้อยอยู่บริเวณข้างเอว ปลิวไปมาเบา ๆท่ามกลางสายลมนรกที่พัดกระโชกแรง
ยมทูตแห่งแผ่นดินจีนเข้าร่วมการต่อสู้ในที่สุด!
“เช่นนั้น…ก็มาเริ่มกันเลยเถอะ” ฉินเย่หัวเราะเสียงเย็นขณะที่เริ่มใช้ศาสตร์ตามคำชี้แนะของอาร์ทิส
การต่อสู้ของเหล่ามนุษย์ได้จบลงแล้ว
ต่อไป มันถึงเวลาของการต่อสู้ระหว่างยมทูตและยมทูตแล้ว!
จะไม่มียมทูตตนใดสามารถหนีจากเงื้อมมือของเขาได้!
………………………….
กลับมาที่โถงไว้อาลัย โจวเซียนหลงตกตะลึง เมื่อเขาพบว่าตัวเองไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจจับได้ถึงตำแหน่งของวิญญาณที่หายไปได้เลยสักตน!
สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ก็คือกลุ่มก้อนพลังหยินที่ค่อย ๆ ลอยไปพร้อมกับสายลม นอกเหนือจากนั้น นักเรียน 8-9 คนที่เพิ่งยืนอยู่รอบ ๆ ต่างหายตัวไปด้วยเช่นกัน!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติมากมาย แต่โจวเซียนหลงก็พบว่าตัวเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม สติของเขาก็กลับมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะตะโกนสุดเสียง “นักเรียนทุกคนอยู่กับที่ของตัวเอง! อาจารย์และศาสตราจารย์ทุกท่านปิดล้อมสถานที่! ห้ามทุกคนเข้าออกในรัศมี 1,000 เมตรโดยเด็ดขาด!”
ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เขาเอ่ยต่อ “ฆ่าทุกคนที่ไม่ยอมปฏิบัติตาม! ผมจะรับผิดชอบเอง!”
อาจารย์และศาสตราจารย์ทั้งหมดไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบรับคำสั่ง ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงกระจายตัวไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว
เกิดความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับนาฬิกาที่ตายอย่างกะทันหัน จากนั้น ขณะที่ทุกคนเริ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ใครบางคนก็ถามขึ้นอย่างวิตกกังวลว่า “มีใคร…ได้ยินอะไรไหม?”
“นั่นสิ ฉันนึกว่าหูฝาดเสียอีก” “นั่นมันเสียงอะไรน่ะ?” “เกิดอะไรขึ้น?”
โจวเซียนหลงเงยหน้าขึ้นทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ…พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ…ลำแสงสีทองอ่อน ๆ ปรากฏขึ้นตามขอบรอบนอกของหอบรรพบุรุษที่ห่างออกไป 500 เมตร ไม่ใช่แค่หนึ่ง…ไม่ใช่แค่สิบ…แต่มีลำแสงสีทองนับร้อยที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า ก่อตัวครอบหอบรรพบุรุษไว้ราวกับถังขนาดมหึมา!
………………………….
“ตาข่ายเพลิง….สำหรับเก้าวิญญาณนรก ขอให้สนุก” กลับไปที่หอพัก ฉินเย่ถอนหายใจออกมาขณะที่ลดมือลงในที่สุด จากนั้นจึงหยิบกระบี่ปีศาจของตนขึ้นมาและพุ่งตัวออกจากห้อง!
มันจะมีผลอยู่แค่สิบวินาทีเท่านั้น
โจวเซียนหลงไม่สามารถกำจัดพวกมันทั้งหมดได้ทันเวลา เพราะสุดท้ายแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็มีวัตถุหยินสมบูรณ์ที่ได้รับพลังจากเทพแห่งยมโลกของตัวเอง
แต่… ไม่เป็นไร
เขาจะได้รับแต้มกุศลเป็นสองเท่าสำหรับกำจัดยมทูตนอกอาณาเขต แม้ว่าโจวเซียนหลงจะจัดการกับยมทูตที่เหลือไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เขาเลื่อนไปขั้นยมทูตขาวดำได้อยู่ดี
ยิ่งกว่านั้น ยมทูตนอกอาณาเขตที่มีดวงวิญญาณของกู่ชิงอยู่กับตัวจะหนีไปก่อน ในขณะที่ส่วนที่เหลือเลือกที่จะเผชิญหน้ากับโจวเซียนหลง เพื่อป้องกันไม่ให้ชายสูงวัยตามกลุ่มของตนไปได้ ซึ่งนั่นจะเป็นวินาทีที่เหมาะสมที่เขาจะปลดปล่อยกระบี่และโจมตีไปที่หัวใจของพวกมัน!
โถงไว้อาลัยในเวลานี้ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ
เมื่ออาณาเขตเวทก่อตัวขึ้น ร่างเงาเก้าร่างก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
แววตาของโจวเซียนหลงสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนที่มันจะถูกแทนที่ด้วยความเคร่งขรึมอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพุ่งขึ้นไปบนฟ้าและหัวเราะออกมาอย่างน่ากลัว
“เป็นไปได้อย่างไร…” ยมทูตญี่ปุ่นที่สวมหมวกทรงกรวยที่ได้ดวงวิญญาณของกู่ชิงไปหันไปมองรอบ ๆ อย่างตกตะลึง ดวงตาของเขาแดงก่ำและกรีดร้องออกมา “ใคร..ใครมันเป็นคนทำ?!!”
“อาณาเขตเวทที่เผยให้เห็นร่างของยมทูต…ที่ยมโลกของพวกเราไม่มีอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ แล้วที่แห่งนี้มีมันได้อย่างไร?!”
“อย่าเพิ่งตื่นตระหนก! อาณาเขตเวทนี้ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น! มันจะมีผลเพียงแค่สิบวินาทีเท่านั้น! พวกเจ้าต้องทน…อีกสิบวินาทีสุดท้ายเท่านั้น! มันยังมีความหวังอยู่!”
“สิบวินาที…แต่ฝ่ายตรงข้ามที่เรากำลังพูดถึงคือขั้นตุลาการนรก! เจ้ายังมีวัตถุหยินเหลืออยู่อีกกี่ชิ้นกัน?!”
ขณะที่ยมทูตนอกอาณาเขตทั้งหมดสบตากันอย่างหวาดหวั่น โจวเซียนหลงก็หยุดหัวเราะ เขาจ้องมองร่างในอากาศที่ไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือวิญญาณอย่างดุดัน
มีทั้งครึ่งมนุษย์ครึ่งแมงมุม ชายที่มีส่วนศีรษะเป็นหมาป่าซึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสไตล์อียิปต์ นักรบญี่ปุ่นที่สวมหมวกไม้ไผ่ทรงกรวย…วินาทีนั้นเขาก็เข้าใจทันที
“ยมทูต” เขายกมือขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ยมทูตนอกอาณาเขต”
“ผู้ที่กล้าก้าวเท้าขึ้นมาเหยียบบนแผ่นดินจีนจะต้องถูกกำจัดอย่างไร้ความปรานี!”
ตูม!
เมื่อเขายกมือขึ้น ร่างอวตารของพระพุทธรูปทองคำก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของเขาและยกมือของมันขึ้นพร้อมกัน จากนั้น พร้อมกับเสียงตะโกนและกรีดร้องที่ดังขึ้น เขาก็กดมือลง!
มือขาวซีดที่เกิดขึ้นจากพลังปราณกดลงไปบนยมทูตที่เหลืออยู่ราวกับพวกเขาคือนกที่อยู่ในกรง ในแววตาของเหล่ายมทูตทั้งหมดฉายให้เห็นถึงหวาดกลัวและความสิ้นหวังขณะที่มองดูแรงมหาศาลที่กดลงมาจากท้องฟ้า!
[1] เทพสุเมเรียนผู้ปกครองโลกใต้พิภพที่ได้รับการบูชาโดยชาวเมโสโปเตเมียโบราณ