ฉันนี่แหละจ้าวนรก - บทที่ 353 การเปิดตัวยุทโธปกรณ์ชิ้นแรก (5)
บทที่ 353: การเปิดตัวยุทโธปกรณ์ชิ้นแรก (5)
ฉินเย่หรี่ตาลง ยมทูตขาวดำ…เขากวาดตาไปรอบ ๆ และพบว่าราชทูตแต่ละคนมีผู้ช่วยส่วนตัวติดตามตนมาด้วยประมาณ 2-3 คน และตัวเขาเองก็ไม่สามารถสัมผัสถึงพลังหยินของอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่น้อย หากทั้งหมดนี้อยู่ขั้นยมทูตขาวดำ เช่นนั้น…ไม่ใช่ว่านี่หมายความว่าภายในหอประชุมนี้มีวิญญาณขั้นยมทูตขาวดำอยู่ 20 กว่าตนเลยอย่างนั้นหรือ ?
ช่างเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งจริง ๆ…
“แม่ทัพต่าวไห่ ภายใต้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าศักดินาแห่งฮันยาง เจ้าหนู…ระวังอย่างให้ตัวเองเจ็บตัว” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ จ้าวฉีที่ได้ยินเช่นนั้นก็สูดหายใจเข้าช้า ๆ และปรับท่ายืนให้มั่นคง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอย่างอื่น คลื่นพลังหยินก็พุ่งออกจากร่างของต่าวไห่ เปลี่ยนร่างเป็นฝ่ามือที่เหี่ยวแห้งและผอมบางที่กระแทกเข้ากับชุดเกราะจนเกิดเสียงดังสนั่น !
“อึก !” จ้าวฉีครางออกมาเบา ๆ จากนั้น…ภายใต้สายตาที่จับจ้องมาของผู้ชมทั้งหมด ร่างของเขากระเด็นถอยหลังกลับไปไม่ถึงห้าเมตรเท่านั้น !
ขั้นนักล่าวิญญาณที่ได้รับการโจมตีที่รุนแรงจากขั้นยมทูตขาวดำ แต่กลับรอดชีวิต !
นี่…
ชุดเกราะนี้สามารถต้านทานการโจมตีของขั้นยมทูตขาวดำได้จริง ๆ?!
ความจริงของเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป แต่นี่เป็นเพียงแต่ส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น
“แมลงแห่งหายนะ ?!” แม่ทัพต่าวไห่ถอยกลับไปสองสามเมตรขณะที่เขามองจ้าวฉีและเอ่ยด้วยเสียงแหลมสูง “นะ นี่มัน… แมลงแห่งหายนะ ?! ชุดเกราะนี่ถูกทำขึ้นจากกระดองของแมลงแห่งหายนะอย่างนั้นหรือ ?!”
ราชทูตทั้งหมดที่เพิ่งนั่งลงลุกยืนขึ้นด้วยความตกตะลึงและจ้องไปที่จ้าวฉี
ราวกับมีหลอดไฟปรากฏขึ้นภายในหัว พวกเขาเข้าใจถึงที่มาของคุณสมบัติที่เบาและมีพลังป้องกันสูงของมันได้ทันที !
“แมลงแห่งหายนะ…ใช่แล้ว การล่มสลายของยมโลกแห่งเก่าย่อมทำให้เกิดการวางไข่ของแมลงแห่งหายนะจำนวนนับไม่ถ้วน และผู้ที่สามารถเข้าไปที่นั่นได้ก็คือผู้สืบทอดบัลลังก์ ทางเลือกเดียวของพวกเรามีเพียงการส่งขนนกทมิฬไปที่นั่น… ไม่แปลงใจเลยว่าเหตุใดพลังป้องกันของชุดเกราะตรงหน้านี้ถึงน่าอัศจรรย์นัก แถมมันยังมีน้ำหนักที่เบามากอีกด้วย…” ชากันอาจเป็นคนที่ไม่ได้มีการศึกษาที่ดีนัก แต่ความเข้าใจการทหารของเขานั้นอยู่อันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย หากพูดกันตามจริง เขายังสามารถคาดเดาข้อมูลเพิ่มเติมจากชิ้นส่วนข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่ถูกมอบให้ได้อีกด้วย !
“นี่เจ้ากำลังจะบอกว่ากองกำลังของยมโลกแห่งใหม่สามารถโจมตีฐานที่มั่นของแมลงแห่งหายนะนับหมื่นได้แล้วอย่างนั้นหรือ ? เป็นการพัฒนาทางการทหารที่น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ… ทั้ง ๆ ที่นั่นควรจะเป็นเรื่องของอนาคตแท้ ๆ!”
ความรู้สึกจากบทเพลงแห่งสงครามก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง อารมณ์ภายในของพวกเขาปั่นปวนไปหมด ทว่าฉินเย่ก็ไม่ให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวแต่อย่างใด ตอนนี้ภายในหัวของคนทั้งหมดมีเพียงความคิดเดียว
พวกเขาจะต้องได้มันมาให้ได้ !
ชุดเกราะนี้คือสิ่งที่ 3,000 ปีจะปรากฏขึ้นสักครั้ง มันคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้การมาบรรจบกันของตัวแปรหลาย ๆ อย่าง ไม่คิดเลยว่ามันจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของพวกเขาในวันนี้ ! หากพวกเขาไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ พวกเขาทุกคนจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต !
ไม่ใช่เพียงชากันเท่านั้น แต่ข้าราชการศักดินาทั้งหมดต่างจ้องมองไปที่จ้าวฉีด้วยแววตาที่ลุกโชน หากนี่คือชุดเกราะที่ถูกทำขึ้นจากแมลงแห่งหายนะ…เช่นนั้นกำลังผลิตของมันก็จะต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้หากปราศจากการล่มสลายของยมโลกแห่งเก่า ! การป้องกันที่แข็งแกร่งและน้ำหนักเบา… หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง หม่าฝูโปวก็สูดหายใจเข้าช้า ๆ และนั่งลงอีกครั้ง ภายนอกเขาอาจจะดูสงบนิ่ง แต่เปลวไฟที่ลุกโชนภายในดวงตาของเขากลับทรยศต่อรูปลักษณ์ที่เขาพยายามจะรักษาไว้อย่างสิ้นเชิง เขาเอ่ยออกมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง “เหล่าหลี่ บอกราคามาได้เลย”
หลี่ซุ่นไจ๋โค้งคำนับก่อนจะเอ่ยออกไป “ทุกท่านโปรดใจเย็นและดูนี่ก่อนเถิด”
พลังหยินโดยรอบก่อตัวขึ้นเป็นจอแสงขนาดใหญ่ เผยให้เห็นภาพของสายการผลิตของชุดเกราะสีดำสนิทที่มีลักษณะคล้ายกัน รวมถึงแม่พิมพ์ฉีดสีดำและเชือกสีแทน คนทั้งหมดสามารถบอกได้ทันทีว่านี่คือสายการผลิตของเกราะพยัคฆาใหม่ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าทัพเกราะทมิฬนับพันได้ชักดาบของตนออกมาและตั้งท่าราวกับกำลังรอรับคำสั่งบางอย่าง
พรึ่บ…เปลวไฟในดวงตาของคนทั้งหมดลุกโชนสูงขึ้นอีกระดับ ! ในลักษณะเดียวกัน อวี๋เชียนและหยางจีเย่กัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
บ้าไปแล้ว… นี่มันบ้าเกินไปแล้ว !~
ยมโลกยอมขายสิ่ง ๆ นี้ได้อย่างไร ?! นอกจากนี้…มันจำเป็นจริง ๆ น่ะหรือที่จะต้องทำลายสายการผลิตทั้งหมด ?! นี่คือยุทโธปกรณ์ของชาติ ! แถมยังประมูลมันออกไปทั้ง ๆ ที่เพิ่งผลิตได้เพียง 10,000 ชุดเท่านั้นเนี่ยนะ ?!
“นี่มัน…บ้าไปแล้ว !” อวี๋เชียนกัดฟันกรอดและจับพนักวางแขนแน่นกว่าเดิม
แต่นอกจากอวี๋เชียนและหยางจีเย่ ข้าราชการศักดินาทั้งหมดต่างนั่งตัวตรง ลางสังหรณ์ที่แปลกประหลาดบางอย่างปรากฏขึ้นภายในใจของเขา แต่คนทั้งหมดเพียงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเท่านั้น…เพราะไม่มีใครเคยเห็นสิ่งเหล่านี้มาก่อน !
“นี่คือ ?” ฮั่นฉินหูเอ่ยถาม
หลี่ซุ่นไจ๋แย้มยิ้มบาง “นี่คือยุทโธปกรณ์ชุดแรกที่ถูกผลิตขึ้นโดยยมโลกแห่งใหม่ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ยุทโธปกรณ์ทั้งหมดที่ถูกผลิตขึ้นมาจะถูกนำมาประมูลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
ตูม! พลังหยินขั้นตุลาการนรกปะทุออกมาพร้อมกันจากความตกตะลึงนี้ แม้แต่ฉินเย่ก็ส่งเสียงครางออกมาเบา ๆ อย่างห้ามไม่ได้จากแรงกดดันของการระเบิดพลังนี้
ของจำนวนจำกัด !
“เราจะทำลายสายการผลิตและแม่พิมพ์ทั้งหมดทันทีหลังจากที่จบการประมูล สินค้าเหล่านี้จะไม่ถูกนำมาขายอีกเป็นครั้งที่สอง โดยราคาเปิดประมูลสำหรับชุดเกราะพยัคฆารูปแบบใหม่ 10,000 ชุดเริ่มต้นที่ 800 หินวิญญาณ”
ตึ่ง…ตึ่งตึ้งตึงตึ้งตึ่ง… เพลง ‘Victory’ เริ่มถูกบรรเลงขึ้นเป็นพื้นหลังอีกครั้ง ท่วงทำนองที่หนักหน่วงของกลองไม่ต่างอะไรกับเสียงแตรสงครามที่ทุกคนคุ้นเคยกันอย่างดี เสียงแตรถูกเป่าออกมาพร้อมกับธงผืนใหญ่ที่โบกสะบัดไปมาในอากาศ หัวใจของคนทั้งหมดพลุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกมากมาย
นี่คือชุดเกราะพิเศษ ชุดเกราะแมลงแห่งหายนะ !
พวกเขารู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้งทันที
ความคิดเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ทำให้หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นและพึงพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกทิ้งให้ลอยเคว้งอยู่หลังจากมหกรรมดนตรีที่ยิ่งใหญ่โดยไม่มีช่องทางให้ระบายอารมณ์ ไม่มีทั้งการปลดปล่อยทางกามารมณ์หรือการต่อสู้ ดังนั้นตัวเลือกที่ดีที่สุดรองลงมาก็คือการทุ่มซื้อยุทโธปกรณ์ล้ำค่าสำหรับการต่อสู้ !
มันเป็นเหมือนกับยาพิษที่รุนแรง หรือหยดน้ำหนึ่งหยดเมื่อความหิวกระหายพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด
ในมือของเหล่าผู้ช่วยในเวลานี้มีแผ่นป้ายที่ถูกทำขึ้นจากไม้อยู่คนละแผ่น หลี่ซุ่นไจ๋แย้มยิ้ม โค้งคำนับคนทั้งหมดและก้าวถอยหลังเล็กน้อย แสงไฟที่อยู่โดยรอบพลันดับลง เสียงท่วงทำนองที่ไพเราะดังขึ้น พร้อมกับทัศนวิสัยที่ลดลงของคนทั้งหมด มีเพียงลำแสงเดียวที่ส่องสว่างอยู่กลางเวที ในขณะที่หน้าจอพลังหยินเผยให้เห็นถูกจำนวนเริ่มต้นสำหรับการประมูล
“ผู้ที่ต้องการเสนอราคากรุณายกป้ายที่แสดงเปลวไฟนรกขึ้น หากนับสามแล้วยังไม่มีผู้ใดเสนอราคา สินค้าทั้งหมดจะถูกมอบให้กับผู้ที่เสนอราคาเป็นคนสุดท้ายทันที และการเพิ่มราคาประมูลแต่ละครั้งจะต้องไม่ต่ำกว่า 10 ล้านหินวิญญาณ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา…เริ่มการประมูลได้ !”
“1 พันล้าน” หลิวอวี้เป็นคนแรกที่เสนอราคาออกมา แต่ยังไม่ทันทีที่เขาจะได้วางป้ายลง เสียงอื่น ๆ ก็ดังขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน!
“1,050 ล้าน !” “1,100 ล้าน !” “1,130 ล้าน !” “1,150 ล้าน !” “1,200 ล้าน !” “1,300 ล้าน !”
ตัวเลขบนหน้าจอกะพริบและเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วินาที ตัวเลขก็พุ่งไปถึง 1,500 ล้าน !
แต่คนทั้งหมดก็รู้ดีว่าสินค้าที่ถูกนำมาประมูลนี้…มีค่ามากกว่านั้นมาก !
อย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านหินวิญญาณ !
หลิวอวี้ชะงักไป เมื่อเขาได้ยินว่าตัวเลขพุ่งขึ้นไปถึง 1,600 ล้าน เส้นเลือดบริเวณขมับของเขาก็เต้นตุบ ๆ อย่างรุนแรง
มันมักจะมีพวกดื้อด้านที่พยายามแย่งในสิ่งที่สมควรจะเป็นของเขาอยู่เสมอ… ด้วยเหตุผลที่แปลกประหลาด เขารู้สึกว่าคืนนี้ตัวเองหุนหันพลันแล่นมากกว่าปกติ เขาคว้าป้ายที่ผู้ช่วยของตัวเองถืออยู่และยกสูงขึ้น เอ่ยออกมาเสียงดังลั่น “2 พันล้าน”
ทั้งสถานที่ถูกปกคลุมด้วยความเงียบในฉับพลัน
ไม่มีใครในที่นี้ที่เป็นคนโง่ แน่นอนว่ามันคุ้มค่าที่จะยอมเสียหินวิญญาณ 2 พันล้านก้อนเพื่อซื้อชุดเกราะทั้งหมดนี้ หากพูดกันตามความจริง มันยังสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่านี้อีก แต่ราคาสุดท้ายอาจจะอยู่ราว ๆ 2,500 ล้านหินจิตวิญญาณ จักรพรรดิหวู่แห่งซ่งเพียงเอ่ยเสนอราคาสูงเพื่อทดสอบคู่แข่งของเขาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของหลิวอวี้เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
เยี่ยมมาก !
เลือดที่เดือดพล่านภายในใจของเขารู้สึกสงบลงทันทีที่เขาเอ่ยราคาประมูลออกไป การระบายอารมณ์นั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินทางกามารมณ์ การฆ่า การกิน และแม้แต่การพูดคุยกับผู้ที่ไว้ใจ แต่การใช้เงินจำนวนมหาศาลคือวิธีที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมันทำให้เกิดวินาทีแห่งความเงียบขึ้น
ร่างกายของเขารู้สึกร้อนรุ่มไปหมด
เพลง ‘Victory’ ยังคงถูกบรรเลงอย่างต่อเนื่อง ราวกับกระตุ้นการตัดสินใจของข้าราชการศักดินาทั้งหมดอย่างเงียบ ๆ เสียงกลองที่ดุดันช่วยพัดเปลวไฟภายในใจของพวกเขาให้โหมกระพือมากกว่าเดิม หลังจากผ่านไปประมาณสามวินาที เสียงของชากันก็ดังขึ้น “2,200 ล้าน !”
ย้อนกลับมาบนเวที ฉินเย่มองดูภาพทั้งหมดด้วยลมหายใจที่ติดขัด จากการคำนวณของเขา ชุดเกราะ 10,000 ชุดนี่จะขายได้ในราคาประมาณ 2,800 ล้านหินจิตวิญญาณ เขาอยู่ห่างจากเป้าหมายอีกเพียงไม่มากเท่านั้น
แต่ทันทีที่เสียงของชากันดังขึ้น ทั่วทั้งหอประชุมก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มันเงียบจนเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง
มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ…มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ! นี่เรากำลังพูดถึงชุดเกราะที่ทำมาจากกระดองของแมลงแห่งหายนะ การปรากฏตัวของแมลงแห่งหายนะในระดับที่มากเช่นนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วง 3,000 ปีที่ผ่านมา ! มันอาจจะไม่ได้มีจำนวนมากนัก แต่มูลค่าของมันนั้นสูงกว่า 2,200 ล้านอย่างแน่นอน !
“2,200 ล้านครั้งที่หนึ่ง… 2,200 ล้านครั้งที่สอง…” มือที่กำรอบที่วางแขนของฉินเย่กำแน่นกว่าเดิม จ้องมองผู้ชมด้านล่างเขม็ง ใครก็ได้… ใครก็ได้ช่วยยกป้ายขึ้นที ! ถึงแม้ว่าเขาจะได้กำไรจากการขายนี้แล้ว แต่มันยังไม่พอ ! ราคาเพียงเท่านี้จะทำให้ความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมดของเขาสูญเปล่า !
ทันใดนั้นเอง เสียงสูงวัยก็ดังขึ้น “2,500 ล้าน !”
เยี่ยมมาก !
ฉินเย่หลับตาลงและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปมองทางต้นเสียง แต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้ง
อวี๋เชียน
เป็นอวี๋เชียนนั่นเองที่เอ่ยออกมา !
บัดซบ !
ฉินเย่สบถในใจ เขาลืมนึกถึงอวี๋เชียนและหยางจีเย่ไปโดยสนิท ทั้งสองนั้นซื่อสัตย์มากจนไม่มีทางยอมให้สินค้าพวกนี้หลุดไปอยู่ในมือของบุคคลภายนอก ! และมันก็สายเกินไปแล้วที่จะบอกแผนการของเขากับทั้งคู่ !
ตอนนี้เขาคงทำได้เพียงหวังว่าทั้งคู่จะไม่สามารถหาเงินมาได้มากเท่าข้าราชการศักดินาคนอื่นและถูกตัดออกจากการแข่งขันในครั้งนี้เสีย ไม่เช่นนั้น… มันก็คงไม่ต่างอะไรกับการย้ายเงินจากกระเป๋าข้างซ้ายไปยังกระเป๋าข้างขวา
“ไร้สาระ” โชคดีที่การเสนอราคาของอวี๋เชียนนั้นทำหน้าที่เหมือนกับตัวเร่งปฏิกิริยา เกาฉางกงแค่นหัวเราะ “องค์จ้าวนรกทรงให้คำมั่นแล้วว่าพระองค์จะปฏิบัติกับพวกเราในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากเดิม ! เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าได้มันไปอย่างนั้นหรือ ?! 2,600 ล้าน !!”
“2,650 ล้าน” ชากันเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ชุดเกราะนี้จะมีประโยชน์กับข้ามาก มันถูกสร้างมาเพื่อกองกำลังสถูปเหล็กของข้าโดยเฉพาะ ทุกท่าน ขออภัย แต่ข้าไม่สามารถพลาดโอกาสในค่ำคืนนี้ไปได้จริง ๆ”
ไม่มีผู้ใดเอ่ยอะไรออกมา
มีเพียงเปลวไฟนรกที่ลุกโชนสูงขึ้นภายในแววตาเท่านั้น
คนทั้งหมดเริ่มคำนวณภายในใจ มันคุ้มค่าหรือไม่ ? พวกเขาจะสามารถจ่ายเพื่อสมบัติชาติพวกนี้ได้มากเท่าใด ? ยมโลกแห่งใหม่ยังมีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นอื่น ๆ ซ่อนอยู่อีกหรือไม่ ? แล้วมันจะส่งผลกระทบกับพวกเขามากเท่าใด ? ไหนจะโครงการที่พวกเขากำลังดำเนินอยู่อีกเล่า ?
หลี่ซุ่นไจ๋กระแอมออกมาเบา ๆ “2,650 ล้านครั้งที่หนึ่ง”
“2,650 ล้านครั้งที่สอง”
กึก…ข้าราชการศักดินาหลายคนกำมือแน่นกว่าเดิม ภายในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ควบคู่ไปกับท่วงทำนองที่เร้าใจ ทั้งหมดที่กำลังประสบทำให้แก้วหูของพวกเขาเจ็บปวดไปหมด
หลี่ซุ่นไจ๋เตรียมทุบค้อนลงเป็นครั้งที่สาม “2,650 ล้านครั้งที่สะ—…”
“2,700 ล้าน !!” เสียงสามเสียงดังขึ้นพร้อมกันก่อนที่ค้อนจะทันได้ทุบลงไป
เจ้าของเสียงทั้งสามคือหม่าฝูโปว หลิวอวี้ และฮั่นฉินหู
ตุ้บ!
บนชั้นที่สอง ฉินเย่ทุบมือของตนลงกับที่วางแขนอย่างแรง เขาเลียริมฝีปากของตัวเอง
ในขณะเดียวกัน ชายทั้งสามที่ตะโกนออกมาพร้อมกันก็หันไปสบตากันเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาพร้อมกันอีกครั้ง “2,800 ล้าน !”
นั่นแหละ !
ฉินเย่หลับตาลงและสูดหายใจเข้าช้า ๆ หินจิตวิญญาณ 2,800 ล้านก้อน… ในที่สุดก็ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ครึ่งปีที่ผ่านมาไม่ได้สูญเปล่าเลยสักนิด !
แต่… มันจะต้องพุ่งสูงขึ้นอีกอย่างแน่นอน !
ข้าราชการศักดินาพวกนี้ร่ำรวยตั้งขนาดไหน ?! นี่เรากำลังพูดถึงหินวิญญาณ 2,800 ล้านก้อน ! ขนหน้าแข้งของพวกเขาไม่ร่วงด้วยซ้ำ ! นอกจากนี้ มันยังมีข้าราชการศักดินาถึงสามคนที่กำลังแข่งขันกัน การประมูลนี้… ราคาอาจจะพุ่งทะลุ 3 พันล้านก็เป็นได้ !