ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่181 ครึ่งราคา
ตอนที่181 ครึ่งราคา
จ้าวเฉียนขอกว้านซื้อบ้านรวดเดียวเยอะขนาดนี้โดยตรง สิ่งนี้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวอย่างยิ่ง
เดิมทีจ้าวเฉียนจะหยิบแบล็คการ์ดออกมา แต่พอคำนึงถึงผู้คนจำนวนมากมายที่อยู่ตรงนี้ คงจะไม่สะดวกเท่าไหร่นัก แถมยังเกินความจำเป็นอีกด้วย
โลกนี้มีคนกล้าเสี่ยงชีวิตเพื่อเงินอยู่จริงๆ และเขาเองก็ไม่อยากตกเป็นเป้าหมายเรียกค่าไถ่
หวังซินซินปาดเหงื่อเล็กน้อยบนหน้าผากของเธอ ทันใดนั้นเธอก็แสยะยิ้มกล่าวว่า
“ทำไมนายถึงทำตัวไร้สาระแบบนี้! มันมีเงินไม่พอในบัตรอยู่แล้ว นายไม่มีปัญญาจ่ายแน่นอน ไม่กลัวว่าฉันจะกล้าขายจริงๆเหรอ? เลิกแสร้งทำเป็นอวดรวยได้แล้ว!”
“กรุณาหุบปากแล้วไปดำเนินการให้ผมได้แล้ว ถ้าเงินในบัตรไม่พอจริงเดี๋ยวก็รู้เอง”
หวังซินซินโดนด่าไปอีกชุดหนึ่ง เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเรียกผู้จัดการหมู่บ้านมาและเอ่ยถามขึ้นว่า
“บ้านห้าหลังราคาทั้งหมดเท่าไหร่ ไปรวดยอดมา! อ่อ…ถ้าไอ้หมอนี่มีปัญญาซื้อจริงๆนะ คิดราคาแค่ครึ่งเดียวพอ!”
“ได้ค่ะ ดิฉันจะรีบดำเนินการทันที!”
ผู้จัดการคนนั้นรีบวิ่งไปที่หลังเคาน์เตอร์เพื่อคำนวณยอดรวมทั้งหมด โดยมีผู้ช่วยอีกสองสามคนคอยช่วย
ประมาณ20นาทีต่อมา พวกเธอรีบวิ่งออกมาท่าทีตื่นตระหนกและรายงานให้ทราบว่า
“คุณหนูหวัง บ้านทั้งห้าหลังที่ชายคนนี้ต้องการ มีหลังหนึ่งเป็นอาคารคอนโด เป็นห้องสวีททั้งหมด40ห้อง รวมกับราคาบ้านเดี่ยวอีกสี่หลัง ราคารวมโดยมีส่วนลด50%อยู่ที่318ล้าน”
หวังซินซินแสยะขึ้นบนมุมปากทันที ราคามากกว่า300ล้าน เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จ้าวเฉียนจะมีเงินขนาดนั้น
“จ้าวเฉียน นายได้ยินไหม? ส่วนที่นายอยากได้ทั้งหมดห้าหลัง หนึ่งในนั้นเป็นคอนโดห้องชุดอีด40ห้อง และอีกสี่หลังเป็นบ้านเดี่ยว ฉันลดให้เหลือแค่318ล้าน ทีนี้ยังกล้าเอาบัตรให้ฉันรูดอยู่ไหม? ฉันแนะนำให้นายหยุดเล่นละครดีกว่า ถ้ามากกว่านี้ฉันว่ามันขายหน้าเปล่าๆ”
หวังซินซินกล่าวขึ้นด้วยท่าทีเย้ยหยัน
จ้าวเฉียนโยนบัตรใบนั้นให้กับหวังซินซินโดยไม่ลังเลและกล่าวว่า
“รูดเลย ผมซื้อ”
ทันทีที่คำพูดนี้เปล่งออกมา ฝูงชนโดยรอบถึงกับระเบิดความโกลาหลในทันใด
“พระเจ้า! นี่จริงเหรอเนี่ย! ราคาตั้ง300กว่าล้าน เขาตัดสินใจซื้อแทบไม่คิดเลยด้วยซ้ำ!”
“เจ้าหนุ่มคนนี้ดูไม่น่ารวยเลยนะ ทำยังกับ300ล้านเป็นแค่เศษเงิน?”
“อืม…ผมคิดว่าเขาจงใจมาป่วนที่นี่จริงๆแหละ ไม่มีใครจะบ้าซื้อขนาดนั้นหรอก”
“มีความเป็นไปได้…”
หวังซินซินมั่นใจอย่างมากว่า จ้าวเฉียนไม่มีปัญญาซื้อบ้านได้แน่นอน นี่ก็แค่การเสแสร้งเท่านั้น
“นี่ฉันต้องตามน้ำด้วยจริงๆเหรอ?”
หวังซินซินหัวเราะเยาะใส่
จ้าวเฉียนเองก็หัวเราะเยาะตอบสวนกลับไป ทั้งยังกล่าวเสริมด้วยว่า
“ทำไม? กลัวเหรอ? บัตรก็ให้ไปแล้ว หรือไม่กล้ารูด?”
หวังซินซินคลี่ยิ้มกว้างตอบไปว่า
“ทำไมฉันจะไม่กล้า? นายซื้อบ้านของฉัน ฉันก็ได้เงิน เอาบัตรไปรูดให้คุณจ้าวเลย พร้อมสัญญาโอนกรรมสิทธิ์ให้เซ็นทันที!”
ผู้จัดการนำบัตรใบนั้นไปทันทีและสั่งให้ลูกน้องไปเตรียมสัญญามา
จ้าวเฉียนคลี่ยิ้มกล่าว และหันมากล่าวกับทุกคนว่า
“ทุกท่านอย่าเพิ่งกลับไปไหนนะครับ อีกไม่นานผมจะมีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบแน่นอน”
“ข่าวอะไรกัน?”
“หรือเขาจะแจกบ้านให้เราไปอยู่ฟรีๆ ฮ่าฮ่า…”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง! เขาไม่ใช่พ่อพระสักหน่อย!”
“ตลกดีจริงๆ ถ้าอย่างนั้นผมขออยู่ดูต่ออีกหน่อยเถอะ ข่าวดีที่วึคืออะไรกันแน่?”
“อย่างน้อยก็ไม่เสียเวลาโดยเปล่า ได้มาดูละครฉากใหญ่ในวันนี้ คุ้มแล้ว!”
ทุกคนเห็นด้วยกับจ้าวเฉียนกันหมด ส่วนหวังซินซินก็เดินไปที่หลังเคาน์เตอร์เพื่อรอสัญญา
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ผู้จัดการก็ตรงมามอบสัญญาให้จ้าวเฉียนเซ็น
ผู้จัดการลงนามพร้อมตราประทับพร้อม หลังจากที่จ้าวเฉียนเซ็นเรียบร้อย สัญญาฉบับนี้จึงมีผลบังคับใช้โดยสมบูรณ์
ตอนนี้ถึงช่วงเวลาไฉไลท์แล้ว ได้เวลาชำระเงินด้วยบัตรใบนี้
“คุณคิดว่าบัตรใบนั้นจะจ่าย300ล้านได้ไหม?”
“ผมว่าน่าจะได้นะ มีคนเฝ้าดูเยอะขนาดนี้ ถ้าภายในบัตรไม่มีเงินขึ้นมา เป็นคุณคุณจะไม่อายเหรอ?”
“อืม มีเหตุผลครับ! แต่ภูมิหลังของชายคนนี้มันยังไงกันแน่? ถ้าเป็นพวกลูกทายาทเศรษฐีของเมืองตงไห่ ผมมั่นใจว่ารู้จัดเกือบหมด แต่ผมกลับไม่เคยเห็นเขาคนนี้เลย!”
“คนรวยจริงๆมักทำตัวติดดินครับ ไม่แปลกเลยที่จะไม่รู้จักเขา”
…….
ทุกคนเริ่มจับกลุ่มสนทนากันอีกครั้ง ไม่เพียงว่าพวกเขาโดยส่วนใหญ่ล้วนเชื่อว่าจ้าวเฉียนจ่ายเงินจำนวน300ล้านได้เท่านั้น แต่ยิ่งดูพวกเขาก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ว่า แท้จริงแล้วจ้าวเฉียนเป็นใครกันแน่?
“รบกวนคุณจ้าวช่วยป้อนรหัสผ่านบัตรด้วยค่ะ”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและตรงเข้าไปป้อนรหัสผ่านอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นบนจอเครื่องรูดก็ขึ้นว่า ‘สำเร็จ’ ในพริบตา
ผู้จัดการหันควับจับจ้องจ้าวเฉียนด้วยความเหลื่อเชื่อ เธอหันไปพยักหน้าให้หวังซินซินทันทีพร้อมกล่าวว่า
“รูดบัตรสำเร็จแล้วค่ะ เงินเข้าบัญชีหมู่บ้านมาแล้ว318ล้าน!”
หวังซินซินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง และรีบวิ่งไปดูจำนวนเงินในบัญชีหลังเคาน์เตอร์ในทันใด ปรากฏว่าเงินเข้าแล้ว318ล้ายจริงๆ!
“สุดยอด! รูดผ่านด้วย! เขาต้องเป็นมหาเศรษฐีจากที่ไหนสักแห่งแน่ๆ!”
“โอ้พระเจ้า! ต้องรวยขนาดไหนถึงจ่ายเงิน300ล้านเล่นได้ชิวขนาดนี้!”
“เขานี่แหละลูกทายาทเศรษฐีตัวจริงเสียงจริง! อย่างที่คนเขากล่าวว่า ย่อมมีคนรวยซ่อนในหมู่ฝูงชน! ผมต้องหาโอกาสทำความรู้จักกับเขาบ้างแล้ว”
พวกเขาที่มาดูบ้านหรูที่นี่ล้วนมีเงินมีทองทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจน้อยใหญ่ เป็นธรรมดาที่พวกเขาอยากทำความรู้จักกับจ้าวเฉียน หากมีสายสัมพันธ์กับคนระดับนี้ มันเท่ากับเปิดโอกาสให้ธุรกิจตัวเองทะยานไปสู่มั่งคั่งได้ไม่ยาก
ซึ่งแน่นอนว่ามีนักธุรกิจชายก็ย่อมมีนักธุรกิจสาว ความคิดของพวกเธอเรียบง่ายและตรงกว่ามาก จะดีแค่ไหนหากพวกเธอแต่งงานมีครอบครัวกับจ้าวเฉียน?
ซูลี่ที่เห็นภาพฉากดังกล่าวถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอร้องไห้ออกมาด้วยความตื่นเต้นและไม่คาดหวังแม้สักนิดว่า ตัวเองจะบังเอิญชนเข้ากับทายาทมหาเศรษฐีระดับนี้จริงๆ มีเส้นสายในแวดวงบังเทิงงั้นเหรอ? ไม่สิ…เขาอาจเป็นถึงลูกเจ้าของบริษัทภาพยนตร์ค่ายยักษ์ใหญ่เลยด้วยซ้ำ!
ถึงเธอจะไม่สามารถเป็นดาราได้ แต่ถ้ารู้จักกับคนระดับนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ต้องกังวลกับการใช้ชีวิตในอนาคตข้างหน้าแล้ว
คนที่ไม่สามารถยอมรับความจริงตรงหน้าได้เลยก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวังซินซิน ใครจะไปคิดว่าคนว่างงานจะสามารถหาเงินได้มากมายขนาดนี้ เขาต้องขโมยบัตรใครมารูดแน่นอน! ใช่! มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอน!!
“รีบโทรแจ้งตำรวจเร็ว! โทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย! ไอ้หมอนี่ต้องขโมยบัตรคนอื่นมาแน่นอน ชายคนนี้อยู่ในช่วงว่างงาน จะมีเงินเยอะขนาดนี้ได้ยังไง!”
หวังซินซินแหกปากตะโกนลั่น
แต่ผู้จัดการรีบเข้ามาเตือนทันทีว่า
“คุณหนูหวัง บัตรใบนี้น่าจะเป็นของเขาจริงๆ ไม่อย่างนั้นจะสามารถกดรหัสบัตรผ่านได้ยังไง?”
บรรดาฝูงชนแทบจะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน ทุกคนต่างยืนนิ่งรอจ้าวเฉียนประกาศข่าวดี แน่นอนคนน่าเชื่อถือขนาดนี้ออกมาพูดอะไรสักอย่าง จะต้องเป็นเรื่องดีมากๆแน่นอน
“ผู้หญิงคนนี้นี่มันอะไรกัน? ทั้งๆที่ขายคนนี้จ่ายเงินไปแล้วแท้ๆ ยังจะกล่าวหาดูถูกกันแบบนี้อีกเหรอ? ทั้งๆที่ขายบ้านออกแท้ๆ เธอควรมีความสุขไม่ใช่เหรอไง?”
“ผมก็ไม่เข้าใจเลยว่า ผู้หญิงอะไรมีทัศนคติแย่ขนาดนี้? หรือเธอเป็นพวกชอบดูถูกคนอื่น? น่ารังเกียจจริงๆ”
“รู้สึกว่าจะเป็นลูกสาวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หวังใช่ไหม? ถ้าเธอนิสัยแบบนี้ ก็คงเป็นเหมือนกันทั้งครอบครัว ผมคงต้องกลับไปคิดอีกรอบแล้วแหละว่า สมควรซื้อบ้านที่นี่ดีไหม? เอาเข้าจริงนะ ถึงจะต้องจ่ายแพงกว่าหน่อย แต่หมู่บ้านของจิ้งไห่ก็ไม่เลวเลย อย่างน้อยก็ไม่โดนคนอื่นดูถูกเป็นขี้ปากเล่น”
“ผู้หญิงคนนี้ความคิดทุเรสเกินไป ผมคงไม่ซื้อบ้านของเธอหรอก”
หวังซินซินตกใจอย่างยิ่งกับความคิดเห็นของทุกคนจนต้องปิดปากเงียบไม่กล้ากล่าวอันใดต่อ แม้จะสงสัยแต่ก็จำต้องเก็บไว้ภายในใจ ซึ่งสิ่งที่เธอกำลังสงสัยอยู่ในขณะนี้คือ จ้าวเฉียนจะซื้อบ้านมากมายขนาดนั้นไปทำไม?
“เอ่อ…จ้าวเฉียน แล้วนายจะซื้อเยอะขนาดนี้ไปทำไม เก็บไว้เล่นเหรอ?”
หวังซินซินเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
แต่จู่ๆจ้าวเฉียนก็ป่าวประกาศเสียงดังฟังชัดขึ้นทันทีว่า
“เอาล่ะทุกท่าน ถึงเวลาที่ผมต้องบอกกล่าวสิ่งดีๆให้ทุกคนทราบ! ใครต้องการซื้อบ้านบ้างนะครับ? กรุณายกมือขึ้นหน่อย! ตอนนี้ผมมีบ้านเดี่ยวสี่หลัง กับคอนโดอีก40ห้อง! ผมขายในราคาครึ่งหนึ่งจากราคาเต็มหมู่บ้าน อย่างเธอคนนี้ไม่มีทางใจปล้ำขนาดนี้แน่นอน! แต่นั่นไม่ใช่สำหรับผม โอกาสทองแบบนี้ คิดช้าอดนะครับ!”
ทันทีที่จ้าวเฉียนประกาศแบบนี้ออกมา ทั่วทั้งโถงกว้างพลันระเบิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ดั่งคลืนลูกยักษ์ซัดเข้าใส่ หั่นครึ่งหนึ่งจากราคาเต็ม เท่ากับว่าจ้าวเฉียนคืนทุนในพริบตาเดียว แถมพวกเขายังได้ผลประโยชน์อีกด้วย!
จะมีก็แต่หวังซินซินอยู่ฝ่ายเดียวที่มีแต่เสียกับเสีย เพราะเธอพลาดขายบ้านให้จ้าวเฉียนในราคาเพียงครึ่งเดียว พอจ้าวเฉียนมาขายต่อแบบนี้ ก็เท่ากับว่าบังคับเธอต้องขายราคาครึ่งเดียวให้กับทุกคนที่สนใจ ขนาดส่วนลด5%เธอยังคิดแล้วคิดอีกกว่าจะป่าวประกาศออกมา แต่นี่ต้องมาขายแบบลด50%ให้กับทุกคน?
“ผมต้องการครับ! ผมต้องการ…”
บรรดาลูกค้าทั้งหมดแหไปรุมล้อมจ้าวเฉียนทันที โอกาสดีๆแบบนี้ใครจะโง่พลาดไป?
“ทุกคนอย่าเบียดครับ อย่าเบียด! คอนโด40ห้อง บวกกับบ้านเดี่ยวสี่หลัง เท่ากับมีทั้งหมด45สิทธิ์ มีเพียง45คนเท่านั้นที่โชคดี! กรุณาเข้าแถวและเขียนชื่อลงในมือถือผมนะครับ เดี๋ยวผมจะทำการสุ่มด้วยโปรแกรมจากในนี้เพื่อหาผู้โชคดี!”
หลังจากพูดจบจ้าวเฉียนก็ยื่นมือถือให้ทุกคนพิมพ์ชื่อลงไป
หวังซินซินโมโหอย่างมากจนเครื่องสำอางชั้นหนาบนหน้าเกิดรอยปริแตก จากนั้นเธอก็รับสั่งให้พวกรปภ.เข้ามาแยกทุกคนออกจากจ้าวเฉียน เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนได้ลงทะเบียน
หวังซินซินรู้ดีว่า เมื่อคนเหล่านี้ซื้อขายกับจ้าวเฉียนได้สำเร็จ ไม่เพียงเธอจะเสียเปรียบในเรื่องฟันกำไร แต่ยังกระทบไปถึงราคากลางของหมู่บ้านที่จะเพี้ยนแน่นอนในอนาคต และจะกลายเป็นเรื่องยากทันทีที่จะขายบ้านในราคาเดิมได้