ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี - ตอนที่295 มากินลมชมวิวทะเล
ตอนที่295 มากินลมชมวิวทะเล
เหล่าพี่น้องทุกคนที่ได้รับเชิญมาจากตระกูลหัวต่างประกาศเอ่ยนามกันไปหมดแล้ว โดยพื้นฐานถ้าระดับหัวหน้าของแต่ละเขตเมืองมารวมตัวขนาดนี้ คงไม่มีทางยอมถอยง่ายๆ และคงต้องสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ
หลังจากได้ยินชื่อว่าเป็นรุ่นใหญ่ พวกคนงานที่อยากจะลาออกก่อนหน้านี้ก็เริ่มหวาดกลัวทันที พวกเขารีบร่นถอยกลับมายังอาณาเขตของตระกูลหัวอีกครั้ง
หนึ่งในจุดประสงค์ที่หัวเซินซวนสั่งให้เชิญคนพวกนี้มาก็เพื่อ ข่มขู่ให้คนงานพวกนี้กลัวและบีบบังคับไม่ให้ลาออก และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขาจะทำสำเร็จตามเป้าแล้ว คนงานยพวกนี้กำลังหวาดกลัวอยู่จริงๆ
เมื่อเห็นพวกคนงานเดินทยอยกลับไปทีละคนสองคน เหล่าสมาชิกตระกูลหัวก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หัวฉีเฉินยิ้มถามหวางอวี่จุนด้วยท่าทีที่พึงพอใจยิ่งว่า
“จะรีบไสหัวไปซะหรือต้องโดนกระทืบก่อนสักทีถึงจะไป?”
หวางอวี่จุนจู่ๆ ก็หัวเราะและตอบกลับไปว่า
“รองประธานหัว อย่าเพิ่งรีบร้อนสิครับ! จะแน่ใจได้ยังไงว่าคนพวกนี้จะอยู่ช่วยคุณจริงๆ? คุณมากกว่าครับที่ผมต้องถาม จะรับไสหัวไปได้รึยัง?”
“ฮ่าฮ่า…ตลกชะมัด! พวกฉันจ่ายเงินเลี้ยงดูคนเหล่านี้ไปไม่รู้เท่าไหร่ แล้วแกยังกล้าตั้งคำถามอีกเหรอว่า พวกเขาจะอยู่ช่วยจริงๆ? คงมาที่นี่เพื่อดูวิวทะเลหรอกมั้ง!”
หวางอวี่จุนระเบิดหัวเราะอีกครั้ง ตรงเข้าประจันหน้าอย่างไม่มีเกรงกลัว แล้วตอบกลับไปว่า
“อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ พวกเขาอาจจะมาที่นี่เพราะอยากรับลมชมวิวทะเลอย่างที่ว่าไป พวกพี่ใหญ่ว่ายังไงครับ?”
พวกที่หวางอวี่จุนเรียกว่าพี่ใหญ่ต่างระเบิดหัวเราะเยาะกันในทันใด
หวั่นหลิวฉี หนึ่งใจเจ็ดเสาหลักแห่งทงโจว สวนตอบกลับไปทันทีด้วยวาจาแสนหยาบคายว่า
“ถุย! มึงโง่หรือปัญญาอ่อนวะ! พวกกูคงมาที่นี่เพราะอยากชมวิวทะเลมั้ง! รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!”
ทันทีที่สิ้นเสียงสบถด่า จู่ๆ ก็มีสายปริศนาโทรเข้ามาหาหวั่นหลิวฉี พอเขาหยิบออกมาดูก็พลันเห็นเป็นเบอร์ไม่คุ้นเคย ก็กดตัดสายทิ้งไป
แต่ไม่นานสายนี้ก็โทรเข้ามาหาอีกครั้ง และครั้งนี้หวั่นหลิวฉีก็คงปล่อยผ่านไปไม่ได้แล้ว จึงรีบสายและคำรามใส่ทันทีอย่างสุดจะทนว่า
“ใครวะเห้ย! ถ้ามึงกล้าโทรมาหาอีกครั้ง มึงตาย!”
“หวั่นหลิวฉี! เดี๋ยวนี้แกกล้าขนาดนั้นเชียว! เพิ่งเชิญฉันไปดื่มชาได้ไม่นาน จำเสียงกันไม่ได้แล้วใช่ไหม?!”
หลินเซียะ ผู้ว่าเมืองหวานจิ้งสวนตอบกลับไปทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หวั่นหลิวฉีใจแทบขวัญหาย รีบจับมือถือด้วยมือทั้งสองข้างแน่นและเอ่ยเสียงอ่อนกระซิบตอบไปว่า
“ผะ-ผะ-ผู้ว่าหลิน! ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณ! ผมต้องขอโทษจริงๆ ครับ! แล้วทำไมผู้สว่าหลินถึงใช้เบอร์แปลกโทรมาหาแบบนี้ล่ะครับ? ผมขอโทษจริงๆ ครับ โปรดยกโทษให้ผมด้วย โปรดยกโทษให้ผมด้วยครับ…”
หลินเซียะแสยะยิ้มเยาะเอ่ยถามกลับไปว่า
“เข้าเรื่องเลยนะ นี่แกยกพวกมาเมืองหวานจิ้งของฉันงั้นเหรอ?”
หวั่นหลิวฉีรีบส่ายหัวทันควัน พลันเหลือบไปเห็นหวางอวี่จุนก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า เขาพาลูกน้องมารับลมชมวิวทะเลที่เมืองหวานจิ้งเฉยๆ ไม่ได้มายกพวกตีกับใครที่ไหนเลยจริงๆ
หวั่นหลิวฉีกล่าวเสริมต่อไปว่า
“ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ ครับ…”
“อ่อ เข้าใจผิดงั้นเหรอ? ตอนนี้ฉันมาดื่มชากับผู้ว่าเมืองทงโจวพอดี แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรจริงๆ?”
หวั่นหลิวฉีเค้นหัวเราะแห้งรีบตอบกลับไปว่า
“แน่นอนครับ ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ผมเห็นว่าแถวท่าเรือเมืองหวานจิ้งทะเลส๊วยสวย เลยอยากพาลูกน้องมาพักผ่อน กินลมชมวิวที่นี่น่ะครับ คงไม่ผิดอะไรใช่ไหมครับ?”
หลินเซียะระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น พยักหน้าพลางตอบเห็นด้วย
“แน่นอน แน่นอน ทะเลแถวท่าเรือหวานจิ้ง วิวสวยอย่างบอกใคร ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรหรอก ตามสบายเถอะ อ่อ…แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะ อย่าทำในสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นบัญชีพับบาร์ของแกที่ปลอมขึ้นมาอาจถูกรื้อขึ้นมาตรวจสอบได้นะ ถ้าโดนภาษีย้อนหลังกลับไป ฉันบอกเลยว่าแกแทบอ้วกแน่นอน เงินเก็บตั้งหลายปีคงต้องมาใช้จ่ายกับค่าภาษีในส่วนนี้แน่ แถมคดีความของพวกลูกน้องแกที่ฉันเคยช่วยไว้อาจเป็นข่าวขึ้นมาก็ได้นะ ดังนั้นก่อนจะลงมือทำอะไรหัดใช้สมองคิดก่อน เข้าใจสิ่งที่ฉันกำลังหมายถึงใช่ไหม?”
หวั่นหลิวฉีถึงกับปาดเหงื่อที่รินไหลบนหน้าผากทันที เขารีบตอบกลับทันทีอย่างสั่นกลัวว่า
“ครับ ครับ ผมเข้าใจดี…”
หลินเซียะฮัมเพลงอย่างพึงพอใจและวางสายทิ้งไปทันที
ต่อหน้าผู้คนมากมาย เขาไม่กล้าเอ่ยปากสารภาพไปตามตรงว่า หลินเซียะโทรมาตักเตือนเขา จึงทำได้เพียงคลี่ยิ้มแห้งกล่าวตอบไปแค่ว่า
“อืม…ดูเหมือนว่าจะเกิดปัญหาขึ้นที่ทงโจว ฉันต้องรีบกลับไปดู ทุกท่าน ยังไงก็ฝากที่เหลือต่อด้วย คุณหัวเงินที่เคยให้ไป เดี๋ยวผมจ่ายคืนทั้งหมด! พวกเรากลับ!”
ทุกคนที่ได้ยินแบบนั้นพลันตกตะลึงอย่างยิ่ง หัวฉีเฉินรีบยตรงเข้าไปถามหวั่นหลิวฉีทันทีว่า
“พี่หวั่นนี่หมายความว่ายังไงกันครับ? ใครโทรมาหาพี่กันแน่? แล้วจะกลับทั้งแบบนี้ได้ยังไง?!”
หวั่นหลิวฉียิ้มตอบไปว่า
“อย่าเข้าใจผิดกันเลยนะครับ ผมต้องกลับไปทำธุระที่ทงโจวโดยด่วนจริงๆ”
หลังจากพูดจบ หวั่นหลิวฉีก็หันกลับกลับและพาพวกลูกน้องจากไปทันที โดยไม่คำนึงถึงใบหน้าของหัวฉีเฉินที่อุตส่าห์เชิญมาแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกับ โทรศัพท์ของเจี้ยนต้าฟา พี่ใหญ่แห่งเขตห้วยโหรวก็ดังขึ้นมา เขารับสายทันทีและเอ่ยถามขึ้นว่า
“ใคร?”
หลินเซียะเจ้าเก่าไม่พูดพล่ำ เข้าเรื่องทันทีว่า
“ต้าฟา ฉันได้ยินจากผู้ว่าเขตห้วยโหรวว่า โรงแรมที่แกเปิดในเมือง ระบบป้องกันอัคคีภัยไม่ผ่านการทดสอบอย่างงั้นเหรอ? แถมยังมีคนไปเจอกล้องรูเข็มในห้องน้ำโรงแรมอีก นี่มีเจตนาอะไรอยู่รึเปล่า? แถมคลิปผู้หญิงแก้ผ้าอาบน้ำที่กำลังดังในโลกโซเซียล มันดูคุ้นๆนะ เหมือนจะเป็นห้องน้ำโรงแรมของแกเลย นี่ฉันกำลังคุยกับผู้ว่าห้วยโหรวอยู่ว่าจะเอายังไงดีกับเรื่องพวกนี้ แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ?”
เจี้ยนต้าฟาหน้าถอดสีซีดเซียวในบัดดล รีบก้าวออกไปหลบมุมเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วขึ้นว่า
“ผู้ว่าหลิน นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ? พวกผมไม่เคยรบกวนอะไรผู้ว่ามาก่อนเลยนะ”
“อืม…ฉันได้รับรายงานมาว่า มีการรวมกลุ่มเพื่อก่อจราจรกันชุดใหญ่ที่ท่าเรือในเมืองฉัน ว่าแต่ไปทำอะไรที่นั้นงั้นเหรอ? กินลมชมวิวทะเล?”
เจี้ยนต้าฟาเป็นคนฉลาดหัวไวพอสำหรับเรื่องอะไรพวกนี้ เขาเข้าใจในทันใดว่าหลินเซียะกำลังหมายความว่าอย่างไร ดังนั้นเขาจึงรีบตอบเสียงดังฟังชัดทันทีว่า
“อ๊ะ!…ใช่แล้วครับ! ใช่แล้ว! ได้ยินมาว่าทะเลของหวานจิ้งวิวสวยอย่างบอกใคร! ผมเลยพาพวกลูกน้องมากินลมชมวิวเล่นกันน่ะครับ แต่ที่นี่ลมทะเลแรงเหลือเกิน ผมล่ะรู้สึกหนาวแปลกๆ ฮ่าฮ่า… ดะ-เดี๋ยว…เดี๋ยวพวกผมก็จะกลับกันแล้วครับ”
“โอ้? งั้นเหรอ งั้นเหรอ ก็ดี งั้นก็รีบกลับได้แล้วล่ะ เข้าใจไหม?”
หลินเซียะเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม
มีหรือที่เจี้ยงต้าฟาจะไม่เข้าใจ การที่เขาขึ้นเป็นพี่ใหญ่แห่งเขตห้วยโหรวได้ไม่ใช่ว่าจับฉลากเป็น เขาคนนี้เริ่มต้นเส้นทางใต้ดินจากนักเลงหัวไม้ตัวเล็กๆ ไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ จนเป็นใหญ่อย่างในวันนี้ และเขาทราบดีว่าสิ่งใดควรแตะต้องหรือไม่ควร
“เข้าใจครับ เข้าใจดีเลย! เดี๋ยวผมจะรีบพาทุกคนกลับเดี๋ยวนี้ทันทีเลยครับ! ที่นี่ลมทะเลเย็นเกินไปจริงๆ คงอยู่นานไม่ไหว ฮ่าฮ่า…ถ้าวันไหนว่าง ผมจะไปเยี่ยมเยือนผู้ว่าหลินสักรอบนะครับ!”
หลินเซียะหัวเราะตอบกลับไปเป็นมารยาทและวางสายไป
เจี้ยงต้าฟาไม่มีลังเลใดๆ อีกต่อไป เขารับตะโกนทักทามบรรดาลูกน้องที่อยู่ข้างหลังทันทีว่า
“ไปเว้ยพวกเรากลับ! ลมทะเลแรงที่นี่ชิบหาย กลับบ้านไปพักผ่อนซะนะ เดี๋ยวเป็นหวัดขึ้นมาจะแย่เอา! คุณหัว…เดี๋ยวผมโอนเงินคือให้ทีหลังนะครับ ขอตัวก่อน!”
ทุกคนจับจ้องภาพฉากดังกล่าวด้วยความตกตะลึงยิ่ง และเฝ้ามองเจี้ยงต้าฟารับจากออกไปทันทีราวกับกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ทั้งเขาและหวั่นหลิวฉีใบหน้าซีดเผือกไม่ต่างกันเลยหลังจากรับโทรศัพท์ ควรรู้ไว้ว่า พวกเขาสองคนนี้เป็นถึงพี่ใหญ่แห่งวงการโลกใต้ดิน แล้วใครกันที่สามารถทำให้ทั้งสองหวาดกลัวจนขี้หดตดหายได้ขนาดนี้กัน!