ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม - ตอนที่ 100 สู้ไม่ไหวหรอก
ตอนที่ 100 สู้ไม่ไหวหรอก
มู่น่อนน่อนเร่งฝีเท้า รอเขาโทรศัพท์เสร็จ
ผ่านไปสองนาที“เฉินเจียฉิน”วางโทรศัพท์หันไปมองเธอ เขามองเธอตอบด้วยสายตาเย็นชา
มู่น่อนน่อนโดนเขาจ้องจนขนลุกซู่ เธอยื่นบัตรกับเงินสดคืนเขา“ตกลงกันแล้วไงว่าฉันเลี้ยง ก็ต้องให้ฉันเช็คบิลสิ”
“เฉินเจียฉิน”รับบัตรคืน แต่ไม่ได้รับเงินสด
มู่น่อนน่อนยังคงยัดเงินใส่มือเขา“นี่ เงินให้คุณ!”
สายตาของ“เฉินเจียฉิน”ตกทอดลงไปบนมือขาวๆของเธอ เขายื่นมือออกไป มู่น่อนน่อนคิดว่าเขาจะรับเงิน คิดไม่ถึงว่าเขาจะกุมมือเธอ
สีหน้ามู่น่อนน่อนเปลี่ยนเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูด “เฉินเจียฉิน”ออกแรงที่มือ แล้วโอบเธอเข้ามากอด เขาทอดตาลง ลูกตาดำขลับดุจหมึกกลอกไปมา น้ำเสียงนุ่มเหมือนเหล้าที่หมักมาหลายปี หอมละมุน
แต่สิ่งที่พูดออกมาช่างน่าละอาย“คุณจะเอาเงินคืนผมให้ได้ ก็จูบผมสิ คุณจูบแล้ว ผมจะรับเงิน”
“????” ประสาท!
นี่บนถนนทางเท้านะ มู่น่อนน่อนตื่นเต้นจนหัวใจแทบเต้นออกมา พอตื่นเต้นก็กระทุ้งเข่า……
“แควก……”
เฉินถิงเซียวต้องการแค่สังเกตสีหน้าของมู่น่อนน่อน คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาไม้นี้ ไม่งั้นเขา จะระมัดระวังตัว จะโดนได้ไงเล่า
แต่ว่า รอบนี้มู่น่อนน่อนแรงจริง กระทุ้งไปที่จุดสำคัญของเขา เจ็บจนจุก
ทำให้เฉินถิงเซียวรู้สึกว่า การระวังต่อหน้ามู่น่อนน่อนแทบเป็นศูนย์
“คุณ……คุณไม่เป็นไรนะ”มู่น่อนน่อนได้ยินเขาคำรามอย่างเย็นชา แม้ว่าเสียหน้าไม่เปลี่ยน แต่ดูสีหน้าตึงๆก็สัมผัสได้ว่าเขาเจ็บ
แม้ว่าเธอจะเป็นห่วงเขา แต่เธอก็ไม่รู้สึกผิด สำหรับผู้ชายหน้าด้านแบบนี้ ถ้าต้องอัดก็
ต้องอัด!
“เฉินเจียฉิน”ไม่ได้คลายมือจากเธอ ได้แต่พูดขึ้น“ผมไม่เป็นไร คุณนั่นแหละจะเป็นอะไร”
ถ้าเตะจนเขาเป็นหมัน ชาตินี้เธอคงจบ
มู่น่อนน่อนไม่ได้รู้สึกถึงความหมายอะไรในคำพูดเขา คิดว่าทำให้เขาโกรธ แล้วเขาจะ เอาคืน ไม่รู้ว่าตอนนี้วิ่งหนีทันไหม
ตอนที่ชักขาเตรียมวิ่ง เธอถึงได้รู้ว่ามือเธอยังโดน“เฉินเจียฉิน”จับอยู่
รู้ว่าตัวเองกำลังจะซวย เธอจึงเงยหน้ามอง“เฉินเจียฉิน” ส่วนเขาก็ก้มหน้าจูบเธอ
มู่น่อนน่อนโกรธในใจ ยังคิดเอาคืน แต่“เฉินเจียฉิน”เตรียมตัวไว้แล้ว มู่น่อนน่อนเลยรับมือไม่ได้ อีกอย่างเขาดุจะแย่ จูบก็แรง ไม่เว้นจังหวะให้มู่น่อนน่อนเลย
เวลาเขาจะรุนแรง มู่น่อนน่อนไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย เธอหายใจไม่ออก เลยผลักเขาออก
ตอนนี้เธออ่อนยวบไปทั้งตัว แทบจะไม่มีเรี่ยวแรง
เฉินถิงเซียวหายใจหอบถี่ กัดริมฝีปากเธอราวกับเป็นการลงโทษ จากนั้นจึงปล่อยเธอ
ออก ก้าวถอยหลังแล้วมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก
มู่น่อนน่อนผลักเขาออกอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอพยายามยืนให้มั่น
เธอเจ็บริมฝีปากนิดหน่อย เธอยื่นมือไปจับ เห็นบนมือมีคราบเลือด ถึงรู้ว่าเมื่อกี้“เฉินเจียฉิน”กัดปากเธอ
มู่น่อนน่อนไม่รู้จะรับมือกับ“เฉินเจียฉิน”ยังไง ด่าเขาไปก็ไม่มีประโยชน์ เขามันหน้าด้าน สู้ไม่ไหวหรอก
เธอจ้องเขม็ง หมุนตัวจากไป
“น่อนน่อน!”
เธอกำลังจะไป ก็ได้ยินเสียงมีคนเรียก
น้ำเสียงที่คุ้นเคย ทำให้มู่น่อนน่อนอารมณ์เสีย
มู่หวั่นขีออกจากร้านอาหาร เห็นมู่น่อนน่อนยืนจูบกับ“เฉินเจียฉิน”อยู่ริมถนน แต่ครั้งนี้ เธอไม่ถ่ายรูป
รูปที่เธอถ่ายคราวที่แล้วทำให้เกิดเรื่อง แต่สุดท้ายก็โดนตระกูลเฉินข่ม เรื่องก็จบไป
“ฉันมองเงาหลังรู้สึกเหมือน คิดไม่ถึงว่าเป็นเธอจริงๆ”มู่หวั่นขีเห็นมู่น่อนน่อนจึงเข้ามาหาอย่างเป็นมิตร จากนั้นก็ทำเป็นประหลาดใจที่เจอ“เฉินเจียฉิน”:“บังเอิญจัง คุณเฉินก็ยังอยู่นี่ด้วย”
เฉินถิงเซียวยังไม่ทันได้เห็นเธอ จึงนั่งยองๆ ก้มลงเก็บเงินที่มู่น่อนน่อนทิ้งเกลื่อนกลาด
เอาไว้
แม้ว่ามู่น่อนน่อนยังโกรธ“เฉินเจียฉิน” แต่ก็ต้องยอมรับ ผู้ชายคนนี้ไฮโซ ท่าทีเขาก้มเก็บเงินมันดูตลก
พอรู้สึกตัวว่าโดน“เฉินเจียฉิน”ทำซาดิสต์ มู่น่อนน่อนจึงแอบกัดริมฝีปาก
ตื่นหน่อย หล่อแค่ไหนน่าหลงใหลแค่ไหน ก็รับความโรคจิตไม่ได้!
“เฉินเจียฉิน”เก็บเงินขึ้นมา ค่อยๆปัดฝุ่นที่มองไม่เห็น จากนั้นจึงเก็บเงินใส่กระเป๋า
มู่น่อนน่อน “……”
เธอรู้สึกว่าเธอไม่เข้าใจ“เฉินเจียฉิน”มากขึ้น อยากเกลียดก็เกลียดไม่ลง อย่างอยู่ร่วมกันอย่างสงบ เขาก็หน้าด้าน……
มู่หวั่นขีที่อยู่ข้างๆเห็นท่าทางของ“เฉินเจียฉิน” ก็ตกตะลึง
“เฉินเจียฉิน”คนนี้ มานั่งก้มเก็บเงินไม่กี่ร้อยนี่นะ
เธอไม่รู้หรอกว่าเงินไม่กี่ร้อยนี่เป็นมายังไง เธอรู้แค่ว่าตัวเองไม่ต้องคืนบัตรดำให้มู่น่อนน่อน และก็ช่วยกู้วิกฤตบริษัทมู่ซื่อได้ด้วย
เธอจะไปยั่ว“เฉินเจียฉิน” “เฉินเจียฉิน”อยู่บ้านเดียวกับเฉินถิงเซียว เห็นได้ชัดว่าเป็นญาติที่พูดคุยอะไรด้วยกันก็ได้
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ดีจริงๆ
คิดว่าตัวเองจะได้“เฉินเจียฉิน” มู่หวั่นขีก็ยิ้มอย่างลำพอง
เธอจงใจดึงเสื้อ จนเห็นหน้าอก ส่งสายตาหวานฉ่ำให้“เฉินเจียฉิน”
เพียงแต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก“เฉินเจียฉิน”ก็พูดใส่มู่น่อนน่อนอย่างค่อนแคะ“เลิกงานแล้วมารับคุณ”
จากนั้นก็จากไป
มู่น่อนน่อนมองอย่างเย็นชา เขาจงใจยั่วโมโหเธอ!
ลมเย็นพัดมา มู่หวั่นขีหนาวจนตัวสั่น เธอกระชับเสื้อหนาว หันไปมองมู่น่อนน่อนเหมือน
จะยิ้มให้
สีหน้ามู่หวั่นขีอึมครึม:“หึ!บริษัทมู่ซื่ออยู่ในอันตราย เธอไม่ช่วยคิดให้เฉินถิงเซียวมาช่วยพวกเราหน่อยเหรอ ยังมายั่วผู้ชายอยู่ได้ ช่างกล้านะ!”
“ฉันแค่ทำงานธุรการอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อ ไม่ได้เก่งแบบพี่ ช่วยอะไรไม่ได้ฉันก็ละอาย”มู่น่อนน่อนยิ้ม โดยที่ไม่รู้สึกละอาย
เธอค่อยๆเดินไปตรงหน้ามู่หวั่นขี พูดต่อ“ฉันทำบัตรดำหาย จะกล้าไปเจอเฉินถิงเซียวได้ไง อารมณ์เขาร้ายจะตาย ไม่แน่โกรธขึ้นมา อาจจะทำให้บริษัทมู่ซื่อวอดวายก็ได้”
“ไร้ประโยชน์!”มู่หวั่นขีหัวเราะเย็นชา แล้วจู่ๆสังเกตเห็นแผลแดงสดที่ปากมู่น่อนน่อน